Friday, 17 May 2024
พงศ์พรหม_ยามะรัต

พงศ์พรหม' ติง 2 อาจารย์ มธ. แซะเจ้า-ชมคนบ้าแก้ผ้า ฝันโม้ได้ทุกเรื่อง แต่ไม่เคยทำ

จากกรณีที่ ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์รูปภาพยืนคู่กับนางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า พร้อมเขียนข้อความบนเฟซบุ๊กกล่าวถึงกิจกรรม 6 ตุลาที่ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ว่า กับป้าเป้า With Auntie Pao (Lady Godaiva of new Thailand) ได้พบท่านหญิงโกไดว่า แห่งสยามประเทศไทยใหม่ ตัวจริงหน้าตาดีกว่ารูปถ่าย

ล่าสุด นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ว่า

เป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ที่รุ่นผมได้มีโอกาสเรียนด้วย

ดีแต่ฝัน ฉาบฉวย ไม่เคยลงมือทำ คือสิ่งที่เด็กธรรมศาสตร์รุ่นเรามองอาจารย์ type นี้มาโดยตลอด
คงเพราะคนรุ่นผมโดนสอนให้ศึกษา และพิสูจน์คนจากการลงมือทำ
อาจารย์แบบนี้ในรุ่นผมถึงไม่ได้รับความนิยม

โม้มันได้ทุกเรื่อง
แต่ อ่อ ไม่เคยทำหรอก

เหมือนอาจารย์สมศักดิ์ เจียม ที่วันๆ อยู่กับหมา เพื่อนไม่มี ทำงานกับคนอื่นก็ไม่ทำ เพราะอีโก้แม่งสูง 

'พงศ์พรหม' แนะ!! ปั้นหัวลำโพง ต้องสร้างสรรค์ อย่าฉาบฉวยและประเคนที่ดินสวยๆ ให้นายทุน

นายพงศ์พรหม ยามะรัต ได้โพสต์ข้อความลงเพจส่วนตน Pongprom Yamarat สะท้อนมุมมองการพัฒนาสถานีรถไฟหัวลำโพง ว่า 

เช้านี้ขอเสนอแนวทางการพัฒนา “หัวลำโพง” สู่การเป็น 
“ASEAN new Iconic Destination”

ต่อ รมว.คมนาคม คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ (ขออภัยที่ไม่เรียกว่าท่านนะครับ ผมว่าเราควรยุติการใช้สรรพนามว่า “ท่าน” กับนักการเมือง และข้าราชการได้แล้ว แต่ขอใช้คำว่า “คุณ” บนความเคารพแทน)

ยาวนิดนะครับ แต่เปลี่ยนประเทศได้เลย ผมยืนยัน

ผมมานั่งอ่านรายละเอียดแผนการพัฒนาหัวลำโพงฉบับกระทรวงคมนาคม ผมไม่รู้สึกผิดหวังอะไรเลย เพราะเจอมาตั้งแต่แนวทางการพัฒนามักกะสันสมัยนายกยิ่งลักษณ์ ที่จะเอามักกะสันไปทำศูนย์ประชุมเชย ๆ

เกือบ 10 ปี แนวคิดกระทรวงเมืองไทยก็ยังเป็นแบบเดิม คือ “ตัดป่าสัก ไปปลูกพืชมูลค่าต่ำเช่นข้าวโพด” อยู่เสมอ 

เช้านี้ผมขอเสนอบ้างนะครับ

1.) ท่านต้องเก็บการเดินรถไฟบางสาย โดยเฉพาะสายชานเมืองที่วิ่งเข้าหัวลำโพงครับ แค่ตัดรถไฟสายหลักออกไปอยู่บางซื่อ เส้นที่เก็บไว้ก็เหลือไม่ถึง 10% ของทั้งหมดแล้ว ไม่กระทบการจราจรมากมายเหมือนที่ท่านพูดหรอก

แต่จะช่วยค่าครองชีพให้คนได้อีก 5,000-10,000 คน ทีเดียว คนเหล่านี้หากมีค่าเดินทางเพิ่มขึ้นอีกวันละเป็นร้อยบาท มันเยอะครับท่าน ชีวิตล่มสลายเลยนะ ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจห่วยแบบนี้ 

2.) ผมเสนอพัฒนาหัวลำโพงทั้งผืนภายใต้คอนเซปต์
“Gateway to ASEAN”

ท่านเห็นมั้ยครับว่าหัวลำโพงอยู่ “กึ่งกลาง” ระหว่างเมืองเก่า และเมืองใหม่พอดี

หัวลำโพงควรเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่สามารถเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในอาเซียน และเป็นแหล่งบ่มเพาะ Creative Economy ให้คนไทยได้

ใครพูดว่า Soft power ผมด่าหัวแตกเลยนะครับ

จำไว้นะครับ Soft power คือของสำเร็จรูป คือ Event base คือ Service base

แต่การจะทำให้ครบ ต้องสร้าง “Ecosystem” เราเรียกเศรษฐกิจแบบนั้นว่า “Creative Economy” ครับ ช่วยอย่าโง่ใช้คำว่า “Soft power” จนพร่ำเพรื่อแบบนี้

แล้วสังเกตมั้ยครับ ทำไมผมจึงใช้คำว่า “ASEAN” แทนคำว่า “Bangkok”?

จุดนี้สำคัญ

นี่คือสิ่งที่กระทรวงคมนาคม ไม่ได้ทำการบ้าน

นอกจากการเดินทางโดยเรือแล้ว หัวลำโพงนี่แหละครับ เคยเป็น “ชุมทาง” การเดินทางของพี่น้องชาวไทย ชาวจีน ชาวมลายู ชาวพม่า ชาวลาว ชาวเขมร ชาวเวียดนาม ไปสู่ทั่วภูมิภาค

นี่แหละครับ “Super Soft power hub of ASEAN”!! ที่มีองค์กรร่วมสร้าง Creative Economy มาอยู่ด้วย

นักการเมือง-ข้าราชการ ต้องคิดแบบนี้ให้เป็นครับ อย่าเอาแต่จะทำอะไรฉาบฉวย พวกคุณกินเงินภาษีประชาชนอยู่นะครับ

'พงศ์พรหม' ชวนเหลียวคุณภาพชีวิตคนไทย คนรวยปลอดภัยในรถยุโรป สวนทางคนจน

นายพงศ์พรหม ยามะรัต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ว่า วันนี้เอาเหตุการณ์เปรียบเทียบกับกรณีเบนซ์ CLS ชน Brio 3 ศพมาแชร์นะครับ

กรณีนี้เกิดในต่างประเทศ
Volvo XC40 จอดติดอยู่เฉยๆ
ส่วน Toyota Corolla Cross วิ่งเข้ามาชนแบบไม่ได้เบรก
ความเสียหาย 2 คันก็ตามรูป

มาดูสิ่งที่ต่างจากกรณี CLS ชน Brio ในไทยคืออะไร?

กรณี CLS ไทยนั้น รถพึ่งออกจากด่านไม่นาน กำลังทำความเร็วขึ้นสูง แต่ยังไม่สูงมาก และก่อนชน ใครเห็น “ไฟกะพริบ” นั่นคือระบบช่วยเบรกอัตโนมัติในรถเบนซ์

แปลว่า “ความเร็วก่อนชน” จะลดลงมามาก โดยเฉพาะเบรกที่สังเกตว่าเป็นสเปกพิเศษ แม้จะไม่ใช่ AMG เต็มตัว แต่ก็เป็นรุ่นสูงกว่ามาตรฐาน ทำให้มีกำลังเบรกที่สูงมาก

สังเกตดีๆ คือ CLS ไม่ได้เสียหายหนัก รถยุบตัวถึงแค่คานล้อหน้า
ส่วน Brio ก็ตามที่เราๆ เห็นกัน
(ตรงนี้ RIP ให้ผู้เสียชีวิตอีกครั้งครับ)

ส่วนกรณี Corolla Cross ที่ชน XC40 ในต่างประเทศนั้น

Corolla Cross มีความเร็วก่อนชนต่ำกว่ากรณี CLS เล็กน้อย แต่ชนโดย “ไม่มีการเบรก” เลย สังเกตง่ายๆ ว่าไฟเบรกไม่ขึ้น

สภาพที่เห็นคือ Corolla Cross ที่ไปชนเค้า “เสียหายหนัก” คือพังถึงเสา A 

ส่วน XC40 ที่โดนชนท้ายก็เสียหายหนัก แต่ยังคงรูปรถอยู่ได้ และไม่มีผู้เสียชีวิตในรถ

เดาแรงปะทะคร่าวๆ

กรณี Corolla Cross ชน XC40 “อาจจะ” หนักกว่ากรณี CLS ชน Brio ซะด้วย

Corolla Cross จึงพังยับ ส่วน XC40 ก็หนัก

'พงศ์พรหม' ชี้!!! ผลเลือกตั้ง กทม.หนนี้ไม่พลิก เหตุคนหลากรุ่น 'เบื่อทหาร - เบื่อขวาที่เก่งแต่ปาก'

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ 'ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ครั้งนี้ สะท้อนอะไร?'

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เอาตรง ๆ ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่ได้หักปากกาเซียน

เหตุเพราะ “คนเบื่อทหาร” “เบื่อขวาที่เก่งแต่ปาก” ครับ

>> ส่วนตัว
ผู้ว่าอัศวินมีผลงานดีกว่าผู้ว่าสุขุมพันธุ์เป็นร้อยเท่า
แต่...

>> ในโลกที่เชื่อมกันหมดแล้ว
...ประชาชนต้องการคนที่เป็นคนนำทางสู่อนาคตได้ดีกว่า
...ประชาชนอยากรู้ว่าอะไรคือแนวทางเศรษฐกิจ การศึกษา นวัตกรรม การเดินทางใหม่

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ใช่เป็นการป้องกันตำแหน่งของผู้ว่าอัศวิน ต่อผู้ท้าชิง

แต่เป็นการบอกว่าคนกรุงเทพต้องการการปฏิรูป!!!

การปฏิรูปที่ทหารละเลยมาตั้งแต่วันทำรัฐประหาร

การไม่พูด ไม่ทำ ไม่ให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปการศึกษา เกษตร นวัตกรรม ปากท้อง

วัน ๆ มีแต่ข่าวทหารตีกัน ข่าวกลุ่มผู้นำรัฐบาลที่ไม่สามารถแสดงถึงการมีความรู้ ความเข้าใจต่อโลกใบใหม่ได้

วัน ๆ มีแต่อำนาจ ใหญ่โต พิธีเยอะ

>> คนรุ่นใหม่เค้าจึงไม่เอาท่าน!!

แล้วเมื่อหลาย ๆ ปีผ่านไป

คนรุ่นเก่าก็ไม่เอาท่านด้วยเช่นกัน!!

'สร้างอนาคตไทย' ชี้!! 'สมคิด' เหมาะแคนดิเดตนายกฯ ไม่แคร์!! แม้ 'ทักษิณ' บลัฟเป็นได้แค่ขุนคลังยุคทรท.

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้มีการกล่าวพาดพิงถึง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่าเคยเป็นคนติดตามตนมาตลอด และหวังจะเคลมผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรค อีกทั้งเคยถูกทักโหวงเฮ้งจะได้เป็นนายกฯ พอพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล ก็ได้เป็นแค่รัฐมนตรีคลังนั้น

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า หลายนโยบายของพรรคไทยรักไทย ถือเป็นนโยบายที่ดี และมีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ จากหลากหลายวิชาชีพ ได้เข้ามาช่วยกันระดมสมอง จนเกิดเป็นนโยบายต่างๆ ขึ้นมาได้ และคุณทักษิณก็เป็นผู้นำในการนำเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อนำมาเปลี่ยนแปลงประเทศในขณะนั้นได้จริง 

ดร.สมคิด ยังเคารพนับถือคุณทักษิณไม่เปลี่ยนแปลง และการที่ ดร.สมคิด ได้เข้าไปช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เป็นเพราะมองเห็นปัญหาของบ้านเมืองที่กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต จึงได้เข้าไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งโครงสร้างทางการเมืองและแนวทางในการทำงานร่วมกันเปลี่ยนไป ดร.สมคิด จึงต้องขอถอยออกมา

'พงศ์พรหม' ห่วง!! 'ช่องว่าง' คุณภาพคนไทย VS ชาวโลก เริ่มห่าง!! พายุศก.ลูกใหม่ที่ต้องรีบแก้ ก่อนต่างชาติเทใจไปประเทศอื่น

(13 ก.ย. 65) พงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

เมื่อคืนแชร์เรื่องสัมภาษณ์เด็กเวียดนามไป

ที่ห่วงมาก ๆ คือตอนนี้เด็กเวียดนามสามารถเกาะกลุ่มความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไฝ่รู้ กล้าล้ม กล้าลุกแบบเด็กอเมริกัน, สิงคโปร์, จีน, ญี่ปุ่น, เยอรมันได้แล้ว

แต่ที่ผมห่วงเด็กไทยรุ่นใหม่ คือ 'ช่องว่าง' ความเก่งระหว่าง 'เด็กไทย' กับ 'เด็กโลก' มันห่างกันกว่าเดิม

ผมไม่เถียงเลย เด็กไทยรุ่นใหม่กลุ่มนึง ที่เก่ง ๆ เค้าเก่งกว่าคนรุ่นผมมาก

แต่ที่ด้อยกว่า ก็มีจำนวนมากจนน่าตกใจเช่นกัน

>> ทำงานไม่ Productive แต่ท้อเก่ง!!

เจ้าของกิจการทั้งไทย-เทศบ่นเรื่องเดียวกัน

ต่างชาติก็ทะยอยไปประเทศอื่น เหตุนึงก็เพราะหาพนักงานคุณภาพดียาก

>> การทำงานไม่ Productive

ตัวเองก็จะรู้สึกไปเองว่างานเยอะ ทั้งที่ไม่เยอะ เพียงแต่งานไม่จบ 

ต้องทำงานเล็ก ๆ ที่คนอื่นทำ 2 วันจบ โดยใช้เวลา 2 อาทิตย์

Research บอกชัดว่าคนทำงาน Productive จะมี Work Life Balance ดีกว่าคนอื่น ๆ
 
*** แต่เด็กไทยจำนวนมาก...ไม่ ***

ไม่ Focus ไม่พยายาม งานไม่จบ ก็บ่นว่าเหนื่อย

ต่างชาติเบื่อ เค้าก็ไปลงทุนประเทศอื่น

>> เทียบคนรุ่นผม

ผมเองเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง ผมจบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ด้วย GPA 2.41 แต่ในวันที่ออกจากรั้วมหาลัยแล้ว คนรุ่นเรา 'สู้' ทุกคน

ผมเข้าทำงานครั้งแรกที่ IBM ตอนนั้นนายผม Assign งานให้ทำด้วยโปรแกรม Excel ที่ผมไม่เคยรู้จัก

สิ่งที่ผมทำ คือ ผมอยู่ที่ IBM เพื่อทำความรู้จักโปรแกรม Excel เองถึง 3 ทุ่มแทบทุกคืน พอเริ่มจับอะไรได้ที ก็จะรวบรวมคำถามไปถามพี่กุ้ง กับพี่แหม่ม ฝ่ายบัญชีที

เรียนเองโดยไม่กวนเงินพ่อแม่ จนสามารถใช้ทำงานเพื่อส่งงานได้

ผมไม่เคยมองว่าการต้องกลับบ้านดึกเพื่อเรียน Excel เอง เป็นความเหนื่อย ไม่เคยโทษนายที่ให้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ

>> ในวันนั้นผมสมัครมาทำงานที่ IBM 

IBM ไม่ได้ง้อให้ผมมาทำงานซะหน่อย ผมก็ต้องทำให้เต็มที่ และคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดมันก็ผม

>> เข้า IBM ปีนั้นได้รู้จัก 'แนน'

แนนจบหอการค้าปีเดียวกัน แนนน่ารัก นิสัยดี สวยด้วย แต่ลุยงานเก่งกว่าผมอีก ผมอยู่ 3 ทุ่ม แนนมันลุยยัน 4-5 ทุ่ม

ปีนั้นน้ำท่วมอยุธยา คน IBM เราก็แห่ไปช่วยน้ำท่วมกัน

งานหนักเอา งานเบาสู้
งานเสร็จ ค่อยแดกเหล้า

>> ตอนจะต่อโท

ผมสอบ TOEFL ได้ห่วยมาก ถ้าจำไม่ผิด ผมสอบครั้งแรกได้ 430 หรืออะไรซักอย่าง ก็เลยต้องวางแผนพัฒนาตัวเอง

อย่าลืมว่าสมัยนั้นไม่มี Google หรือ YouTube ทุกคนต้องสู้เอง

ผมใช้วิธีเข้าร้านหนังสือ 'ดวงกมล' วันไหนมีเงิน ก็ซื้อหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์มาอ่าน และเก็บทุกฉบับไว้ที่บ้าน เพื่อนำมาอ่านให้ครบทุกข่าว จะได้ไม่เปลืองเงินที่ซื้อมา

วันไหนไม่มีเงิน ก็แอบไปยืนอ่านนิตยสารภาษาอังกฤษที่แผง หลบ ๆ คนขาย

‘พงศ์พรหม ยามะรัต’ ห่วงอนาคตการศึกษาไทยใกล้ถึงจุดพัง เหตุสภาพแวดล้อมทางการศึกษาไม่เอื้อเด็กใฝ่เรียน แถมเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่รักสบาย อยากได้แต่สินค้าแบรนด์เนม

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ระบุว่า..

คุยกับหลายๆคนเรื่องเด็กไทยจำนวนไม่น้อยอยากไปเรียนต่างประเทศ

หลายคนสอบชิงทุนกันไปได้ หลายคนเร่งพัฒนาทักษะภาษาจีน อังกฤษ เยอรมันเองจนไปเรียนต่อได้ดี

นอกจากเหตุเรื่องระบบการศึกษาไทยถอยหลังลงคลองมา 20 ปีแล้ว

มันมีอีก “ปัญหาซ้อนปัญหา” ครับ

ผมจะสรุปเป็นข้อๆเพื่อให้กระชับ

1. เด็กรุ่นนี้ ก็เหมือนเด็กรุ่นก่อนๆ หรือรุ่นผม คือมีเด็กชอบเรียนรู้ผสมกับเด็กรักสบาย อันนี้เป็น basic เด็กทั่วโลก

2. ปัญหาแรกที่เจอ คือ “ความอึดอัด” ในเด็กรุ่นเดียวกันครับ

3. ผมมีหลานจบ Ivy League อยากพัฒนาประเทศไทย เลยกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง สิ่งที่พบคือเด็กไทยสนแต่การพูดคุยเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนม ที่เที่ยวสวยๆ ชีวิตสบายๆ ไม่ได้เรียนด้วย passion อะไร กะให้สอบๆเพื่อได้ใบปริญญา หลานผมสอนได้ปีเดียวก็กลับอเมริกา เพราะบอกว่าเด็กรุ่นเขาในไทย มันต่างจากเด็กรุ่นเขาในอเมริกามาก เด็กไทยในไทยรักสบาย และเปราะบางเหลือเกิน

4. ผมเจอเด็กอีกหลายเคสที่กระตือรือร้นไปต่างประเทศ เพราะเบื่อคนรุ่นเดียวกัน เด็กๆเหล่านี้มีความเห็นตรงกัน 3 อย่าง

4.1 การศึกษาไทยในโรงเรียนดีๆเช่นสาธิต ไม่แย่ 

4.2 แต่สิ่งแวดล้อมในกรุงเทพ ไม่มีแหล่งเรียนรู้ เช่นมิวเซียม หอศิลป์ ศูนย์นวัตกรรมเพียงพอ เพราะมีแต่ห้าง และพื้นที่จัดคอนเสิร์ต

4.3 เด็กรุ่นเดียวกันสนใจแต่บันเทิง แฟชั่น แบบตามกระแส สนการกิน การใช้ชีวิตตามโซเชียล แต่ไม่มีใครสนใจที่จะเข้าใจที่มา เช่นแห่ซื้อกระเป๋าดัง แต่ไม่รู้หรอกว่ามันดัง มันดี เพราะอะไร เหตุเพราะไม่ศึกษา ไม่มีวัฒนาการชอบเรียนรู้ แต่เอาเวลาไปถ่ายรูปกันหมด5. ลูกของคนรู้จักกำลังเรียน Ivy League แห่งนึง แล้วกลับมาฝึกงานในไทย สิ่งที่เจอคือคุยกับเพื่อนๆฝึกงานจาก มหาลัยในไทยไม่รู้เรื่อง เพราะขณะที่ฝึกงาน เรียนรู้งานอย่างแข็งขัน เด็กเรียนไทยคุยกันแต่เรื่องที่เที่ยว เปิด IG นัดกันทำ workshop ก็มาสาย แต่พอจะปาร์ตี้ ก็ปาร์ตี้ไม่สุด สรุปคือ work ก็ไม่ hard พอจะ play ก็ไม่ hard อีก กลายเป็นว่าน้อง ๆ Ivy League เหล่านี้ต้องมาคุยกับคนรุ่นผมแทน เพราะเด็กไทยในไทย “ไม่มีพลังพอ”

'พงศ์พรหม' เผยภาพประทับใจใน 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'  ทรงร่วมงานต่อยอด 'ร.๙-ร.๑๐' ท่ามกลางฝูงชนโดยไม่ถือพระองค์

(4 ก.ย. 66) นายพงศ์พรหม ยามะรัต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Pongprom Yamarat' ระบุว่า...

เช้านี้มีนัดคุยงานที่ EmQuartier พึ่งเห็นว่ามีงาน 'เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลียภัทรพัฒน์' ที่ 'สมเด็จพระเทพ' เสด็จมาดูงานพอดี

ที่ประทับใจมาก วันนี้ท่านมาขบวนใหญ่กว่าปกติครับ เหตุเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ในโครงการของท่าน ผมเห็นนักวิชาการเดินมาด้วยเยอะ และแน่นอน ก็ต้องมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาด้วย แต่…

ก็ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เดินไปมาในงานตามปกติ

เห็นลูกเล็กของนักท่องเที่ยววิ่งเข้ากลางงาน

พี่ทหารที่ผู้ใหญ่หน่อย ก็มาเล่นด้วยอย่างเป็นกันเอง พี่ Rider เดินผ่าน

ก็ไม่มีการชี้นิ้ว ให้หลบออกจากทางเสด็จแต่อย่างใด

ตอนพระเทพเสด็จ คนก็ไปยืนรอบ ๆ ผมก็ยืนห่างท่านราว ๆ 5 เมตรเอง นักท่องเที่ยวที่ไม่ทราบ เดินดูงานอยู่ก็ยังให้อยู่ในงานได้

พระเทพท่านน่ารักสม่ำเสมอจริง ๆ
เหมือนที่คนชอบเจอท่านระยะประชิด
เดิน ๆ อยู่สยาม มองหันมา เฮ้ย!! พระเทพอยู่ข้าง ๆ 5555

ขอแถมนิดนึงครับ
โครงการเหล่านี้ของพระเทพท่านเป็นโครงการ 'ต่อยอด' จากในหลวง ร.9 อีกที
เหมือนที่ ร.10 ท่านก็กำลังเร่งทำ

คือ พัฒนาสินค้า ด้วยการพัฒนาชุมชนรายได้น้อย หรือเกษตรกรให้ยั่งยืน

ท่านเหล่านี้ ยืนสู้กับนักการเมืองท้องถิ่น และทุนผูกขาดแบบหลังชนฝามาหลายสิบปี แบบไม่พูดอะไร ไม่ด่าใคร

แต่ช่วยประชาชน ด้วยการลงมือทำ

ยิ่งเห็น ก็ยิ่งรัก
รักเพราะเห็น รักเพราะเข้าใจ

‘พงศ์พรหม’ ห่วง!! อนาคตต่างชาติครอง ‘งานสายการเงิน-เทคฯ’ ในไทย เหตุเพราะ ‘ความสามารถ-ทัศนคติ’ นำหน้าเด็กไทยรุ่นใหม่มากโข

(20 ธ.ค. 66) นายพงศ์พรหม ยามะรัต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pongprom Yamarat’ ระบุว่า...

มาเจอ Trend การจ้างงานที่น่าสนใจ แต่น่าเป็นห่วง

เด็กไทยรุ่นใหม่ถูกคนจีน สิงคโปร์ อินเดีย แย่งงานตำแหน่งงานการเงิน นวัตกรรม ธุรกิจองค์กรกลาง-ใหญ่ เงินเดือน 75,000+ ถึง 300,000 บาท เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความสามารถเด็กไทย หมายถึงความสามารถ ความขยัน passion และทัศนคติไม่ผ่าน

หรือที่เข้าไปได้ ก็ไม่ผ่านโปรเยอะ

เราจึงเริ่มเห็นคนจีน คนอินเดียเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น ๆ เพราะธุรกิจไม่มีทางเลือกแล้ว ให้โอกาสเด็กไทยแล้ว

สรุปว่างานระดับบริหาร นวัตกรรม ไปถึงสายเทค เด็กไทยกำลังโดนต่างชาติแย่งงานในไทยเอง เพราะความสามารถไม่ถึง ส่วนงานบริการระดับกลาง เช่นผู้จัดการร้านอาหาร รวมถึงคนเสิร์ฟที่เงินเดือนสูงหน่อยตามโรงแรม 4-6 ดาวในกรุงเทพ ภูเก็ต เด็กไทยสอบไม่ผ่าน รวมถึงไม่ผ่านโปรเยอะมาก

ตอนนี้ร้านอาหารดี ๆ โรงแรมดี ๆ จึงต้องเร่งจ้างงานคนฟิลิปปินส์ อินเดีย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย เข้ามา fill ตำแหน่งเหล่านี้

เมื่อวานผมมีคุยงานในโรงแรม 5 ดาวกลางกรุงเทพ เด็กเสิร์ฟ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 5 เป็นต่างชาติแล้ว เพราะภาษาอังกฤษดี ยิ้มแย้ม บริการดีมาก

ที่น่าห่วงคือ ภาคธุรกิจไทยมากมาย ไม่ได้ underpaid แต่เด็กไทยความสามารถไม่พอจริง ๆ

และเมื่อเปิดรับต่างชาติมาในเงินเดือนเท่ากัน ต่างชาติกลับทำงานนั้นได้ดีกว่า ภาษาอังกฤษคล่องกว่า งอแงน้อยกว่า ขยันกว่า เรียนรู้ไวกว่า

เรากำลังเข้าสู่ยุคภาครัฐไร้ทิศทาง เด็กรุ่นใหม่อยากได้เงินเยอะ ๆ แต่ไร้ความสามารถ อนาคตเศรษฐกิจไทย อันตรายยิ่ง 

กาแฟ Piccolo ในรูปนี่เป็นกาแฟแก้วที่ 2 ของวันแล้ว ผมตื่นมาทำงานตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง กิน Espresso แก้วแรก ทำเสร็จ ไปวิ่ง วิ่งเสร็จ มาทำงานต่อ แบบนี้ต่างชาติถึงเคารพเรา

ปล. ที่น่าสนใจ คือเด็กรุ่นใหม่ที่เก่ง คือเก่งโดดออกมาเลย ไม่ต้องจบนอกก็เก่งสุด ๆ รู้ว่าจะเรียนรู้จากไหน ไป take online course สั้น ๆ จาก MIT บ้าง Harvard บ้าง ในขณะที่เด็กรุ่นเขาส่วนใหญ่นั่งชิลล์ รักสบายกันอยู่

'พงศ์พรหม' วอน!! หยุดหนุนวัฒนธรรม VIP หลังพบเคสรถหรู ไปจอดในที่คนพิการ

(13 มี.ค.67) นายพงศ์พรหม ยามะรัต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Pongprom Yamarat' ระบุว่า...

คงต้องขอฝากหละครับ

การจอดรถไม่ว่าในกรณีใดๆ เราต้องไม่ละเมิดคนป่วย คนพิการ คนสูงอายุ เพราะพวกเขาไม่สะดวกอย่างเรา

ไม่ใช่เอา Ferrari และ Porsche ไปจอดในที่คนพิการแบบนี้

หรือแม้แต่หากรู้ว่าจอดผิด เข้าไปละเมิดคนพิการ ก็อย่าถ่ายรูปให้สาธารณะเค้าดู เพราะมันคือการสนับสนุนการกระทำที่ผิด

ผมเองสมัยทำการเมือง นั่งรถตู้ยุโรป ไปตามงานฝ่ายการเมืองตามโรงแรม หรือศูนย์ประชุม

มักมี รปภ.อำนวยความสะดวกให้ไปจอดตามที่จอดคนพิการ

ผมกับคนขับรถจะปฏิเสธ 100% ครับ

เรายอมไม่จอด และเราจะยอมเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมงวนหาที่จอดรถ

ดีกว่าคิดเข้าข้างตัวเองว่า “อ้าว ก็รปภ.อนุญาตหนิ” แล้วก็จอดแบบละเมิดสิทธิคนพิการอย่างสบายใจ

ผิดคือผิด

ไม่ใช่สนับสนุนวัฒนธรรม VIP อยู่เหนือกฎหมาย และคนที่ชนชั้นต่ำกว่าไปกันหมด

ฝากด้วยครับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top