Monday, 6 May 2024
ต่างชาติ

‘เสน่ห์เมืองไทย’ เหลือล้น!! มัดใจชาวต่างชาติ แห่ ‘พัก-เที่ยว-กิน-ดื่ม’ ทำคลิปอวดคนทั้งโลก

(3 พ.ย. 65) เพจ ‘Bangkok I Love You’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเสน่ห์ของประเทศไทย ที่ดูจะเข้าตาและถูกใจชาวต่างชาติมากๆ โดยระบุว่า…

ประเทศไทยในวันที่ชาวต่างชาติคลั่งไคล้ใหลหลงเป็นที่สุด

ความสุขของผม

เมื่อวานนี้ นั่ง ๆ นอน ๆ เหมือนกับทุกวัน แต่ที่ไม่เหมือนทุกวันคือเปิดยูทูบดูเกือบสามชั่วโมง ดูพวกยูทูปเบอร์ต่างชาติโหมกระหน่ำรีวิวการมาเที่ยวเมืองไทย เที่ยวกรุงเทพ เที่ยวพัทยา เที่ยวสมุย เที่ยวภูเก็ต เที่ยวเชียงใหม่ เที่ยวอยุธยา เที่ยวตลาดน้ำ จนได้ความรู้ใหม่ ๆ ที่ทำให้มีความสุขเพียบเลย เช่น

1. คนต่างชาติจำนวนมากหลากเชื้อชาติ หลายภาษาชอบเมืองไทย ชอบอาหารไทย ชอบคนไทย ชอบนวดไทย ชอบช้างไทย ชอบลิงไทย ชอบ 7-11 ไทย ฯลฯ จริงจัง

2. คนในข้อแรก เขาแข่งกันทำวิดีโออวดคนดูว่าเขามาเที่ยวที่ไหน กินอะไร สนุกยังไง ด้วยภาษาต่างกันมากมาย ทั้งภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น บาฮาซา ฮินดู ทามิลนาดู ตากาล๊อก รัสเซีย อาหรับ บางคลิปมีคนดูเป็นแสนคน บางคลิปเป็นแค่หลักร้อยคน แต่มั่นใจได้ว่าใครก็ตามที่ได้ดูต้องอยากมาเที่ยวบ้างแน่ ๆ

3. คนต่างชาติเขาสนใจ เขารีวิว สิ่งที่เราคนไทยเห็น กิน ใช้ กันทุก ๆ วัน อย่างเช่น รถบีทีเอส สวนจตุจักร เยาวราช ผัดกะเพรา ข้าวซอย การใส่ชุดไทย ขนมปังสังขยา ตลาดน้ำ ที่น่าทึ่งมากคือ ร้าน 7-11 ที่แทบทุกการรีวิวสรรเสริญเยินยอว่าเป็นสิ่งที่ทำให้การมาเที่ยวเมืองไทยของพวกเขาสะดวกสบายและประหยัดมาก รีวิวไปถึงแซนด์วิช กระทิงแดง มันฝรั่งเลย์หลากหลายรสชาติด้วย

4. คนต่างชาติในสามข้อแรก กว่าครึ่งเป็นขาประจำที่พูดภาษาไทยง่าย ๆ ได้ด้วย บางคน บางคู่ บางครอบครัว มากันทุกปี มากันครั้งละนานหลายเดือน บางคน บางคู่มาหนแรก ที่พิเศษคือบางคน บางคู่ เล่าว่า เขาเริ่มทำวิดีโอการเที่ยว เพราะมาเที่ยวบ้านเรา ได้เห็นสถานที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งทะเล ภูเขา ตลาด วัด เมืองเก่า แล้วเขาอยู่ได้นานเพราะอยู่สบาย ไม่แพงก็เลยลองทำดู แล้วเกิดประสบความสำเร็จ เลยทำเป็นอาชีพซะเลย บางคนมีคลิปเที่ยวเมืองไทยเกือบ 100 episodes แล้ว บางคนใช้เมืองไทยเป็นบ้านปีละสามสี่ห้าเดือน แล้วเดินทางไปทำวิดีโอในประเทศอื่นๆ

ครอบครัวชาวแคนาดา รับ!! หลงรักไทยเข้าให้แล้ว ยกประเทศนี้ เป็นมิตรที่สุดในโลก

“เมืองไทยมีดีเพราะมีคนไทยอยู่” ครอบครัวพ่อแม่ลูกชาวแคนาดา 5 คน เผยเรื่องราวสุดประทับใจหลังมาท่องเที่ยวที่เมืองไทย ที่รู้แล้วต้องใจฟู!

ถ้ามีใครบอกว่า “ประเทศไทย” เป็นประเทศที่เป็นมิตรที่สุดในโลก ผมก็คงบอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะเรื่องราวสุดประทับใจของครอบครัวชาวแคนาดา 5 ชีวิต ได้ยืนยันไว้หมดแล้ว กับเหตุผลว่าทำไมคนทั่วโลกถึงต่างหลงรักประเทศไทยกันขนาดนี้

ช่อง 'OUR CALL TO ADVENTURE' เป็นช่อง VLOG ครอบครัวหนึ่ง ที่ตัดสินใจแพ็กกระเป๋า หอบลูกเล็กไปท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อทิ้งชีวิตเคร่งเครียด และถ่ายชีวิตประจำวันของครอบครัวเขาเองเก็บไว้เป็นความทรงจำ ซึ่งครอบครัวของพวกเขาก็ประกอบไปด้วย พ่อ Dan แม่ Jessica ลูกชายคนโต 8 ขวบ Nolan คนรอง Everett และลูกสาวเล็กสุด 4 ขวบ น้อง Hannah

โดยจุดเริ่มต้นของครอบครัวนี้ พวกเขาเริ่มไปที่ประเทศอินโดนีเซียก่อน ต่อมาก็มาเลเซีย และบินไปต่อที่ฟิลิปปินส์ จนมาถึงจุดหมายต่อไปที่พวกเขาประทับใจนั่นก็คือ 'ประเทศไทย' นั่นเอง

เริ่มกันที่ วันแรกที่พวกเขามาถึง 'ประเทศไทย' เขาพูดเลยว่า ที่ไทยมีปัญหาการสื่อสารมากกว่าทุกประเทศ แต่คนไทยเป็นมิตรช่วยเหลือ พยายามสื่อสารตลอดเลยทำให้การใช้ชีวิตที่นี่ไม่ยากนัก นี่คือความประทับใจแรกของพวกเขา

ต่อมาพวกเขาก็ได้ลิ้มลองกับ 'อาหารสตรีทฟู้ด' ที่ทุกอย่างที่เค้าซื้อ มันช่างอร่อยไปหมด แถมถูกมาก จนคุณแม่เจสถามว่าเท่านี้จริงเหรอๆ ไปตลอดทาง เลยทีเดียว แถมในวันต่อมาพวกเขาย้ายที่พักไปอยู่โฮสเทล และต้องตะลึงกับสภาพห้องในราคา 650 บาท เพราะมันมีทุกอย่างครบครันยังกับโรงแรมเลยทีเดียว จนพวกเขาถ่ายวิดีโอแบบยิ้มไม่หุบเลย

ในตอนค่ำครอบครัวนี้ก็พากันไปเดินตลาดกลางคืน จนเจอสุภาพบุรษชายไทยท่านหนึ่ง ที่ขายน้ำอยู่แถวนั้น เอาน้ำมาให้พวกเราดื่มฟรีไม่คิดเงิน พอพวกเขาจะกลับไปอุดหนุน เขาก็ให้น้ำเราเพิ่มอีกรอบ และไม่ยอมรับเงิน จนลูกชายคนโตเข้ามาบอกเลยว่า “He is absolutely a LEGEND!”

‘สตม.’ รวบชาวจีนสวมรอยเป็นนักธุรกิจต่างประเทศ หลังหนีหมายจับคดีฉ้อโกง เสียหายกว่า 1,400 ลบ.

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ประกอบกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรร พูลศิริ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ  สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.

คดีที่ 1 'รวบหนุ่มแดนมังกรสวมรอยเป็นนักธุรกิจต่างประเทศชักชวนหลอกลงทุนความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท' เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม, กก.1 บก.สส.สตม. และ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR.Shangguan หรือ นายฉางกวน (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ในข้อหา 'เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต' 

พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามบุคคล ราย MR.Shangguan หรือ นายฉางกวน อายุ 44 ปี ซึ่งได้รับการขอร้องให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญจากสำนักงานกงสุล(ฝ่ายตำรวจ) ณ นครคุณหมิง โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว ได้ฉ้อโกงประชาชน มีมูลค่าความเสียหาย กว่า 1,400 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศและทำการชักชวนให้ประชาชนเข้าทำการลงทุน ซึ่งเป็นการหลอกลวง ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ พบบุคคลมีตำหนิรูปพรรณคล้าย MR.Shangguan จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ผู้ต้องหารับว่าตน คือ MR.Shangguan อายุ 44 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางจริง และรับว่าได้หลบหนีเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาที่ประเทศไทย  จึงได้ให้ดูหมายจับประเทศจีน รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันในหมายจับดังกล่าวจริง และจากการตรวจค้นตัว พบโทรศัพท์มือถือที่ติดตัวมาจากประเทศจีน,เอกสาร

‘แม่ค้าไทย’ โอด ต่างชาติยกโขยงค้าขายในไทย เปิดร้านอาหาร - ร้านน้ำผลไม้รถเข็น โกยเงินมหาศาล

(13 ม.ค. 66) จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า หม้อไฟ 梦想麻辣火锅 สาขาเยาวราช ออกมาโพสต์เรื่องราวถึงร้านอาหารที่เปิดแถวเยาวราชว่าขณะนี้ร้านคนไทยแท้ ๆ ถูกคนจีนแท้ ๆ มาเปิดร้านอาหารแข่ง แถมยังผุดขึ้นมาจำนวนมาก ทั้งที่คนไทยเสียภาษีมากกว่าคนจีน และยังตัดเพ้อถึงความยุติธรรมของกฎหมายในประเทศที่เอี้อต่างชาติมากเกินไปหรือไม่?

โดยข้อความระบุว่า "#whapshappenginthailand ก่อนอื่นเลยขอบคุณมากๆค่ะ และขอพูดในฐานะพลเมืองไทย แน่นอนว่ารู้สึกไม่ยุติธรรมกับกฎหมายประเทศ ที่เอื้อต่างชาติมาก ๆ ในฐานะคนที่เคยคลุกคลีกับประเทศจีน ไทยกับจีนเหมือนประเทศพี่น้อง ถือวีซ่าท่องเที่ยว (L) ก็เปิดร้านได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านนวด ร้านขายอุปกรณ์ ลองมาเดิน เยาวราช-สำเพ็ง ตอนนี้จากเดิมเคยเป็นร้านคนไทย (เชื้อสายจีน) ตอนนี้กลายเป็นร้านคนจีนแท้ๆ (ส่วนใหญ่วีซ่า L) ถึงจะวีซ่า L ก็เปิดบัญชีธนาคารได้ง่ายๆด้วย ธุรกิจร้านอาหารในจีน ไม่ต้องมีสูตรอะไรมากมายเพราะทุกอย่างมี suppliers ส่งให้เรียบร้อย มีเงินเฉยๆ ก็เปิดร้านได้แล้ว Shipping ไทย-จีน คือขนส่งง่ายมากด้วย อุปกรณ์ตกแต่งจากจีนก็มีแบบสำเร็จ ไม่ต้องการ ฝีมือช่างไทยทำ

การลงทุนมาเปิดร้านต่าง ๆ ในไทยเลยง่ายมาก ๆ แต่หาก หาถึงปลายทางเงินได้จากธุรกิจ แน่นอนว่าหลงเหลือ (หมุนเวียน) ในประเทศน้อย การจดบริษัทในไทยของคนจีนก็ง่าย Visa L ก็จดได้เพียงแค่ต้องมีคนไทยถือหุ้นเยอะกว่าคนจีน ไม่หนำซำ SME ไทยจะเจริญได้อย่างไรเพราะความเป็นพลเมืองต้องเสียภาษีเงินได้ภาษีธุรกิจให้ประเทศ แต่นักลงทุนต่างชาติแค่หา nominee ในการทำสัญญาเช่า ก็จบ ปลายทางเงินได้ส่วนใหญ่อยู่ประเทศของเขา

สื่อเวียดนาม ชี้ ‘ประเทศไทย’ ครองอันดับ 1 ‘ชาวต่างชาติ’ สนใจมาท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน

(17 ม.ค. 66) สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม เสนอข่าว Thailand most searched Asia-Pacific destination for Lunar New Year อ้างข้อมูลจาก Sojern แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวของจีน ซึ่งพบว่า ประเทศไทยครองสัดส่วนร้อยละ 27 ของการค้นหาข้อมูลเที่ยวบินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วงเทศกาลตรุษจีนครั้งนี้ โดยมาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่อันดับสองคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 19 และอันดับสามคือ สิงคโปร์ ร้อยละ 18 ซึ่งจุดเด่นของไทยอย่างหนึ่งคือมีนโยบายวีซ่าที่เปิดกว้าง

เช่นเดียวกับข้อมูลการค้นหาเที่ยวบินในระดับเมือง พบว่า ประเทศไทยติดอันดับมาถึง 2 แห่ง คือกรุงเทพฯ อยู่ในอันดับหนึ่ง ร้อยละ 22 และภูเก็ต อยู่ที่ร้อยละ 7 ครองอันดับสี่ร่วมกับกรุงไทเปของไต้หวัน ส่วนอันดับสองคือกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ร้อยละ 15 และอันดับสามคือกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ร้อยละ 9 โดยวันตรุษจีนซึ่งเป็นการนับปีใหม่ทางจันทรคติ ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 22 ม.ค. 2566  เช่นเดียวกับข้อมูลจาก Ctrip บริษัททัวร์สัญชาติจีน พบว่า ไทยเป็นเป้าหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงตรุษจีน ขณะที่เมื่อช่วงวันที่ 27 ธ.ค. 2565-1 ม.ค. 2566 มีการจองการเดินทางขาเข้าจากไทยไปจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 101

ททท. สำนักงานกระบี่ ร่วมต้อนรับเที่ยวบินจากสายการบิน Flydubai มุ่งให้จังหวัดกระบี่เป็นตลาดที่มีศักยภาพพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตะวันออกกลาง

20 มกราคม 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ ได้กำหนดจัดกิจกรรมต้อนรับเที่ยวบินจากสายการบิน Flydubai ในวันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 10.10 น. (เที่ยวบิน FZ1463) ณ บริเวณอาคารขาเข้าต่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ จังหวัดกระบี่ โดยมี นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกระบี่ คุณณรงค์ อรุณภาคมงคล รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานกระบี่ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ นายชัยภัทร วสุนธรา ผู้แทนนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ นางสาวมนพันธ์ นำชัยภิญโญพงศ์ ประธานนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดกระบี่ นายสมเกียรติ ขยันการ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวนาง และ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว ร่วมให้การต้อนรับเที่ยวบินของสายการบิน Flydubai เที่ยวบิน FZ 1463 ในเส้นทางดูไบ – กระบี่ เวลา 10.10 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบิน Regular flight ทำการบินทุกวัน โดยมีผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้จำนวน 180 คน 

นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า เที่ยวบิน FZ 1463 สายการบิน Flydubai Airline บินตรงจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  เดินทางถึงท่าอากาศยานกระบี่ จังหวัดกระบี่ จำนวน 180 คน นับเป็นการกลับมาเปิดเส้นทางบินอีกครั้งหลังจากที่หยุดทำการบินตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 อันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นโอกาสอันดีในการเชิญชวนและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากประเทศสหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่อีกครั้ง พร้อมกันนี้ ททท. สำนักงานกระบี่ได้จัดกิจกรรมต้อนรับเที่ยวบิน FZ 1463 ของสายการบิน Flydubai อาทิ ของที่ระลึก การแสดงทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดกระบี่ในครั้งนี้ ซึ่งจังหวัดกระบี่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตะวันออก กลาง เนื่องจากมีสถานประกอบการกว่า 49 แห่งที่ได้รับมาตรฐานฮาลาล กอปรกับในพื้นที่มีชมรมกระบี่ฮาลาลแอนด์มุสลิม  เฟรนด์ลี่ที่พร้อมจะช่วยเหลือและให้คำแนะนำสถานประกอบการที่ให้บริการนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางได้

เฉลย 'เทรนด์ชุดนักเรียน-นักศึกษา' ฮิตในหมู่ต่างชาติ เพราะ อิทธิพลความน่ารักที่โพสต์อวดกันในโซเชียล

หากใครตามโซเชียลบ่อยๆ ก็คงจะได้เห็นรูปนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสวมใส่ชุดนักเรียนไทยเดินท่องเที่ยวในไทยเป็นแน่ ไม่ว่าจะใส่คนเดียวแล้วถ่ายรูป หรือใส่กันเป็นกลุ่มแล้วถ่ายรูปเป็นแก๊ง คนไทยเราเห็นก็เอ่ยชมว่าน่ารักน่าเอ็นดู และภาคภูมิใจที่ได้เห็นชาวต่างชาติ นิยมชมชอบความเป็นไทยของเรา ที่นอกเหนือจากอาหารและสถานที่ท่องเที่ยว

เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีหนึ่งคลิปที่เป็นไวรัลและโด่งดังใน TikTok อย่างมา โดยเป็นคลิปที่ชาวตะวันตก ได้สัมภาษณ์คนสิงคโปร์และจีนที่ในชุดนักเรียนไทย ท่องเที่ยวในภูเก็ต โดยเจ้าของคลิปได้ถามคำถามนักท่องเที่ยวทั้งสองดังนี้

คำถาม: พวกคุณมากจากไหน
นักท่องเที่ยว: ฉันมาจากสิงคโปร์ค่ะ ส่วนเพื่อนมาจากประเทศจีน

คำถาม: พวกคุณใส่ชุดอะไรกันครับ ชุดนักเรียนใช่ไหม?
นักท่องเที่ยว: ใช่ค่ะ ชุดนักเรียนค่ะ

คำถาม: ทำไมถึงใส่ครับ?
นักท่องเที่ยว: เป็นเทรนด์ที่จีนค่ะ ที่นิยมใส่ชุดนักเรียนไทยกัน 

คำถาม: แล้วพวกคุณได้เทรนด์นี้มาจากไหนครับ?
นักท่องเที่ยว: นักแสดงชาวจีนที่มาเที่ยวไทย เขาใส่ชุดนี้แล้วก็ถ่ายรูป รู้สึกว่าน่ารักดี เราเลยไปซื้อมาใส่กัน นักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตและกรุงเทพแล้วใส่ชุดนักเรียนก็เยอะมากเช่นกัน

คำถาม: ใส่เพราะชอบใช่หรือไม่? หรือเพราะติ๊กต็อก?
นักท่องเที่ยว: ที่ใส่เพราะมันน่ารักค่ะ ถ่ายรูปกัน 

ต่างชาติประทับใจ ตม.ภูเก็ต รุกให้บริการต่อวีซ่าถึงโรงพยาบาล

จากกรณีเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว เกิดอุบัติเหตุชนเสาสัญญาณไฟกลางทะเล เหตุเกิดใกล้กับท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต  เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66  ส่งผลให้มีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย (เป็นชาวต่างชาติ 33 ราย และเป็นคนไทย 4 ราย)  โดยเข้ารับการรักษาอยู่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต , โรงพยาบาลฉลอง , โรงพยาบาลดีบุก , โรงพยาบาลสิริโรจน์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลมิชชั่น และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 

วันนี้ (19​ พ.ค.66) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6  โดย พ.ต.อ.ธเนศ​ สุขชัย​ ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต ​ได้มอบหมาย​ให้​ พ.ต.ต.หญิง​ ธนันณัฏฐ์​ ศรีสุวรรณ​ สว.ฯ​ ปฏิบัติ​ราชการ​ ตม.จว.ภูเก็ต​  เข้าเยี่ยมติดตามอาการชาวต่างชาติที่ประสบอุบัติเหตุ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการขออยู่ต่อในอาณาจักรกรณีที่ต้องรักษาตัวต่อเนื่อง  และได้แจ้งกับทุกโรงพยาบาลให้ทราบว่า หากมีต่างชาติท่านใดที่แพทย์ลงความเห็นแล้วว่าจะต้องรักษาตัวต่อเนื่อง และมีความประสงค์ที่จะขออยู่ต่อในราชอาณาจักร​ ให้ทางโรงพยาบาล ประสานมายัง​ ตม.จว.ภูเก็ต จากกรณีเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว เกิดอุบัติเหตุชนตอหม้อเสาสัญญาณไฟกลางทะเล ใกล้กับท่าเที่ยบเรืออ่าวฉลอง  เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66  ทำให้มีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย (เป็นชาวต่างชาติ 33 ราย และเป็นคนไทย 4 ราย)  โดยเข้ารับการรักษาอยู่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต , โรงพยาบาลฉลอง , โรงพยาบาลดีบุก , โรงพยาบาลสิริโรจน์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลมิชชั่น และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 

จุดหมายที่ใครก็อยากมา!! ไทย ติดอันดับ 6 ต่างชาติอยากย้ายมาทำงานมากสุด ชี้ ที่พักไม่แพง - อาหารถูกใจ แต่กังวลด้านสิ่งแวดล้อม

รายงาน Expat Insider 2023 จัดให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าอยู่และเหมาะให้ชาวต่างชาติมาทำงานมากที่สุดในโลก โดยประเทศไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 6 ขยับขึ้นมาจากปีที่แล้ว ที่อยู่ในอันดับ 8 จากทั้งหมด 53 ประเทศ

สำหรับ 10 จุดหมายปลายทางน่าอยู่และเหมาะทำงานมากที่สุดในโลก ในปี 2023 ได้แก่
1.เม็กซิโก
2.สเปน
3.ปานามา
4.มาเลเซีย
5.ไต้หวัน
6.ไทย
7.คอสตาริกา
8.ฟิลิปปินส์
9.บาห์เรน
10.โปรตุเกส

เกณฑ์การจัดลำดับของ Expat Insider 2023 จะพิจารณาจาก 5 ดัชนี ได้แก่ ดัชนีคุณภาพชีวิต ดัชนีความสะดวกในการย้ายถิ่นฐาน ดัชนีการทำงานในต่างประเทศ ดัชนีการเงินส่วนบุคคล และดัชนีสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การติดต่อราชการ ภาษา และชีวิตดิจิทัล

สำหรับประเทศไทย Expat Insider ระบุว่า ดัชนีคุณภาพชีวิตของไทยอยู่ลำดับที่ 37 ดัชนีความสะดวกสบายในการเข้าพักอยู่ลำดับที่ 11 ดัชนีการทำงานในต่างประเทศอยู่ลำดับที่ 39 ดัชนีการเงินส่วนบุคคลอยู่ลำดับที่ 4 และดัชนีสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวต่างชาติอยู่ลำดับที่ 18

2 วัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกันระหว่าง ‘คนไทย-คนยุโรป’

เป็นเรื่องธรรมดาที่วัฒนธรรมด้านต่าง ๆ ของแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน และทำให้คนที่เดินทางข้ามประเทศเกิดภาวะ ‘Culture Shock’ หรือ ‘ภาวะตื่นตระหนกทางวัฒนธรรม’ ซึ่งเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่อสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมเปลี่ยนไปจากวัฒนธรรมเดิมที่คุ้นชิน 

วันนี้ THE STATES TIMES ชวนมาดู 2 วัฒนธรรมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันระหว่างคนไทยและคนยุโรป จะต่างกันอย่างไร มาดูกัน!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top