Sunday, 28 April 2024
กองทัพอากาศ

ทัพเรือมะกัน เดินตามกองทัพอากาศ เตรียมปลดทหาร ดื้อฉีดวัคซีน

กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมปลดประจำการทหารที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่นานหลังจากกองทัพอากาศเพิ่งแถลงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่า จะไล่ออกกำลังพลที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

เมื่อวันพุธ (15 ธ.ค.) กองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุในอัปเดตคำแนะนำ ว่า ทหารเรือรายใดที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับฉีดวัคซีนจะถูกแยกตัวออกมา แต่กำลังพลรายใดที่เคยปฏิเสธฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ แต่เกิดเปลี่ยนใจจะสามารถประจำการในกองทัพได้ต่อไป

"เพื่อรับประกันฉีดวัคซีนเต็มรูปแบบ นโยบายของกองทัพเรือคือ ลำดับแรกเลยกองกำลังพลของกองทัพเรือทุกนายต้องฉีดวัคซีนตามคำสั่ง และกำลังพลรายใดก็ตามที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนจะถูกดำเนินการแยกตัวออกมาในโอกาสที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พล.ร.ท.จอห์น บี โนเวลล์ จูเนียร์ หัวหน้าฝ่ายบุคลากรของกองทัพระบุ

จนถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเรือยังมีกำลังพลที่ไม่ฉีดวัคซีน 5,731 นาย ในนั้น 2,705 นายได้ยื่นขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนา แต่กองทัพยังไม่ได้อนุมัติคำร้องขอทบทวนข้อเรียกร้องขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนาใด ๆ อย่างไรก็ตาม กำลังพลเหล่านี้จะยังไม่ถูกปลดประจำการระหว่างการยื่นคำร้อง

จากข้อมูลล่าสุด พบว่า กำลังพลของกองทัพเรือฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วหรือบางเข็มคิดเป็นสัดส่วนถึง 98% กองทัพเรืออนุมัติคำขอยกเว้นทางการแพทย์ไม่ฉีดวัคซีนแบบถาวรจำนวน 7 นาย ข้อยกเว้นทางการแพทย์แบบชั่วคราว 326 นาย และขอยกเว้นทางกฎหมาย 124 นาย

ทอ. ยันเครื่องบินเมียนมา ยังไม่ได้ล้ำแดนไทย เผยเขตเฝ้าระวัง 50 ไมล์ไม่ได้ตายตัวขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ เมียนมาร์-ไทย เป็นมิตรที่ดี /แจงดราม่าใช้เครื่องบินโปรยน้ำดับฝุ่นพีเอ็ม ยันพิจารณาทางเทคนิค อยุ่ในขั้นเตรียมพร้อมหากรัฐบาลสั่ง 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี  โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่การสู้รบบริเวณชายแดนเมียนมาร์ได้รับสัญญาณหรือการแจ้งเตือนการลุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยหรือไม่ว่า  ขณะนี้ยังไม่ได้พบว่ามีเครื่องบิน หรือ อากาศยานที่มีเจตนารมณ์หรือเป้าหมายเข้ามาในประเทศไทย ยังคงประสานงานกับหน่วยป้องกันเฝ้าระวังในพื้นที่ตามปกติ  ยืนยันว่า รายงานล่าสุดก็ยังไม่มีบินล้ำเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ ภารกิจทอ.มีภาระหน้าที่ในการตรวจระบบเฝ้าระวังภัยทางอากาศ ป้องกันภัยคุกคามทั้งหมดของปะเทศ มีสถานีเรด้าร์รายงาน11 แห่งทั่วประเทศ ในด้านตะวันตกนั้น ทอ.มีระบบเฝ้าตรวจ เฝ้าระวัง ค้นหาพิสูจน์ และดำเนินการตามกระบวนการตลอด 24 ชม.

“ระบบป้องกันภัยทางอากาศของประเทศไทย มีความพร้อม และเราเห็นภาพที่ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งการให้ข้อมูลในลักษณะที่เป็นภาพ ไม่สามารถให้ได้ เพราะจะเกิดผลกระทบทั้งสองฝ่าย จะเป็นการชี้เป้าไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับไทย เขาไม่มีเจตนาลุกล้ำเข้ามา  และเป็นเรื่องภายในประเทศเพื่อนของเรา เขาเป็นมิตรที่ดีกับเรา ทั้งนี้ได้มีการประสานงานกันตลอด ตัวเลขเขตเฝ้าระวังเข้มข้น50ไมล์นั้นก็ไม่ได้เป็นกฎตายตัว เป็นเรื่องลักษณะทางภูมิประเทศ การเฝ้าระวังทางอากาศต้องดูเจตนาว่าเราตั้งใจที่จะพุ่งเข้ามาสู่เป้าหมายอะไรหรือไม่อย่างไร เราก็พิสูจน์ฝ่าย หากเครื่องบินนั้นมีการส่งแผนการบินที่ชัดเจนเราก็เฝ้าระวังและเฝ้าดูไม่ให้กระทบต่อแนวชายแดยของไทย เขาก็ปฏิบัติภารกิจในแนวชายแดนของเขา”พล.อ.ต.ประภาส กล่าว 

ทอ.จัด UAV แบบ RTAF U1 บินสำรวจเส้นทางคมนาคม ร่วมตำรวจ จ.สระแก้ว เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของปชช. ช่วงเทศกาลปีใหม่ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว และใกล้เคียง 

พล.อ.ต.บุญเลิศ  อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้ กองบิน 3 จังหวัดสระแก้ว สนับสนุนเครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (UAV แบบ RTAF U1) ในการบินสำรวจเส้นทางคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตามที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วร้องขอ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 บริเวณทางหลวงหมายเลข 3395 (วัฒนานคร - โคคลาน) ทางหลวงหมายเลข 3486 (โคคลาน - บ้านใหม่ไทยถาวร) และทางหลวงหมายเลข 348 (เขาช่องตะโก) จังหวัดสระแก้ว

โดย กองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (RTAF U1) จากหน่วยบิน 3011 ฝูงบิน 301 กองบิน 3 สนับสนุนภารกิจดังกล่าว โดยเชื่อมสัญญาณ Video Downlink (VDL) ไปยังกองอำนวยการร่วม สำหรับบัญชาการและควบคุม (Command and Control Room) ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และห้องบัญชาการและควบคุมส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เพื่อประสานการปฏิบัติร่วมกันในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 

“ลุงป้อง” มุ่งหวังให้เด็กตั้งใจเรียน กตัญญู อ่อนน้อมถ่อมตนตามลักษณะนิสัยคนไทย คาดหวัง ครอบครัว-สังคม สร้างรากฐานให้เด็กมั่นคง เปรียบเหมือนต้นไม้ ต้องปลูกฝังดูแลให้รากฐานแข็กแรง ทอ.นำชมฝูงบิน-เครื่องบิน ออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรางานว่า กองทัพอากาศ ได้จัดกิจกรรมวันเด็กออนไลน์ ทอ.พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)  กล่าวทักทายเด็กและเยาวชน ว่า เด็ก และ เยาวชนนั้นเปรียบเสมือนต้นไม้ซึ่งจะเติบโตงดงามได้ก็ต้องมีรากที่แข็งแรงดังนั้นการสั่งสอนเลี้ยงดู ปลูกฝัง จากครอบครัวรวมถึงสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การช่วยกันสร้างรากฐานให้เด็กและเยาวชนในด้านต่างๆจะทำให้เขาเติบโตมีความรู้ความสามารถก้าวเดินไปสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง กองทัพอากาศได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนอย่างยิ่งจึงได้จัดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนการอบรม และการแข่งขันระดับวิชาการต่างๆมากมาย พร้อมทั้งมีสถานที่เสริมความรู้อีกหลายแห่งเช่นพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศการบินแห่งชาติและห้องสมุดกองทัพอากาศเป็นต้น

“ทอ. มุ่งสร้างให้เด็กและเยาวชนเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของชาติและบ้านเมืองในอนาคต ผมและข้าราชการกองทัพอากาศมุ่งหวังให้เยาวชนและเด็กตระหนักถึง ถึงความสำคัญของตนเองตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้วยความขยันหมั่นเพียรมีความกตัญญูและอ่อนน้อมถ่อมตน ตามลักษณะนิสัยของคนไทยตลอดจนช่วยทำกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติขอให้ขอให้เด็กทุกคนมีความสุขสุขภาพแข็งแรงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของชาติที่มีคุณภาพ เป็นคนดีสังคมและประสบความสำเร็จในชีวิตสมความปรารถนาตลอดไป” ผบ.ทอ.กล่าว 

เชียงใหม่ - เปิดปฏิบัติการฝนหลวง ยับยั้งความรุนแรงการเกิดพายุลูกเห็บ ภายใต้ความร่วมมือของกองทัพอากาศ ประจำปี 2565

เมื่อวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เดินทางมาเป็นประธาน เปิดปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงการเกิดพายุลูกเห็บ ในความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2565 โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นาวาอากาศเอก วงศ์วิวัติ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการกองบิน 41 และหัวหน้าส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41

โดยอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมคณะ ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่และให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ณ บริเวณลานจอดท่าอากาศยานทหารกองบิน 41

ทอ. ยืนยันความพร้อมอพยพคนไทยในยูเครนทันทีหากได้รับสั่งการจากรัฐบาล

พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยคนไทยในยูเครน และให้หน่วยเกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ล่าสุดรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมแผนอพยพคนไทยในยูเครนเรียบร้อยแล้ว หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต้องอพยพ จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ รับคนไทยกลับประเทศ

สำหรับในส่วนของกองทัพอากาศ ได้เตรียมความพร้อมแล้วเช่นกัน แม้ว่าหนทางปฏิบัติในขั้นต้นจะกำหนดให้ใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำก่อนตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากการอพยพในครั้งนี้ไม่ใช่การอพยพประชาชนจากพื้นที่ภัยพิบัติเหมือนที่เคยปฏิบัติ แต่เป็นการอพยพประชาชนจากพื้นที่ขัดแย้งทางทหาร ซึ่งมีความละเอียดอ่อน จึงต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในการใช้อากาศยานทหารเข้าไปในพื้นที่

ทอ.จัดอากาศยานร่วมปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง 

ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ  (ผบ.ทอ.) สั่งการให้หน่วยเกี่ยวข้องจัดอากาศยานของกองทัพอากาศ เข้าร่วมการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2565 โดยร่วมกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องเกษตรกรที่ขาดแคลนน้ำทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้งและลดผลกระทบที่เกิดจากพพายุลูกเห็บ 

โดยการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งในปี 2565 นี้ กองทัพอากาศได้จัดเครื่องบินพร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์สนับสนุนกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” จํานวน 3-5 เครื่อง ประกอบด้วย
    
เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ก (BT-67) จำนวน 2-3 เครื่อง ในการปฏิบัติการฝนหลวงด้านการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ
     
เครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet) จำนวน 1-2 เครื่อง ในการปฏิบัติการฝนหลวงด้านการยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ 

รวมถึงให้ทุกสนามบินมีความพร้อมในการสนับสนุนและเป็นฐานปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งในขั้นต้นกรมฝนหลวงและการบินเกษตรขอรับการสนับสนุนจำนวน 7 กองบิน ประกอบด้วย 
     
กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่ตั้งของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดนครราชสีมา
     
กองบิน2 จังหวัดลพบุรี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง
     
กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้
     
กองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ตอนล่าง)
     
 กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     
กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ
     
และ กองบิน 46จังหวัดพิษณุโลก เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ(ตอนล่าง)
 

“ทอ.“เผยความก้าวหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน (ครั้งที่ 1)

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่าตามที่กองทัพอากาศได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาและจัดทำความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตี โดยมี รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธาน มีผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศและเสนาธิการทหารอากาศ เป็นรองประธาน เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2565 คณะกรรมการฯ ได้จัดการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาภารกิจตามกฎหมาย ยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ข้อมูลและได้กำหนดความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีคุณภาพ (Quality Air Force) และมีเทคโนโลยีล้ำสมัย (Cutting-Edge Technology) 

โดยเครื่องบินขับไล่โจมตีที่ต้องการ ต้องมีขีดความสามารถของการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations) มีการบริหารจัดการข้อมูลอัตโนมัติ ร่วมกับระบบตรวจจับของกองทัพไทยและฝ่ายพลเรือนได้อย่างสมบูรณ์ มีขีดความสามารถโจมตี ต่อต้านทางอากาศ ปฏิบัติกิจเฉพาะพิเศษ ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ เพิ่มระยะการปฏิบัติการทางอากาศ และการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีสมรรถนะสูงยุคที่ 5 (The 5th Generation Fighter) มีคุณลักษณะ 5 ประการ ได้แก่ Stealth, Super Cruise, Sensor Fusion, Super Maneuverable และ Synergistic Integrated Avionics พร้อมกำหนดข้อพิจารณาประกอบการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน สรุปดังนี้

1. เป็นเครื่องบินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางทหาร (Military Standard) มาตรฐานจากองค์กรการบินสากล หรือองค์กรมาตรฐานของประเทศผู้ผลิต 
2. เครื่องบิน ระบบต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้งาน ต้องผลิตโดยใช้มาตรฐานทางทหาร และผ่านการพิสูจน์การใช้งานแล้ว มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วไป
3. สามารถผลิตและนำส่งให้แก่กองทัพอากาศในกรอบงบประมาณและตามห้วงระยะเวลาการจัดหา 
4. มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินขับไล่โจมตีและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากรของกองทัพอากาศ 
5. บุคลากรของกองทัพอากาศควรได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Offset Scholarship) เพื่อการพัฒนาด้านต่าง ๆ บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน 

โฆษก ทอ.เปิดเผย เครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศ ประสบอุบัติเหตุระหว่างฝึกบิน นักบินดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย

เมื่อวันที่ 8 มี.ค.พล.อ.ต.ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 13.40 น. มีรายงานเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ก (F-16A) หมายเลข 10331 สังกัดฝูงบิน 103 กองบิน 1 ประสบอุบัติเหตุบริเวณพื้นที่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ขณะฝึกบินในภารกิจการบินขับไล่ขั้นมูลฐาน โดยเป็นเครื่องบินหมายเลข 1 ของหมู่บิน 2 

จากการตรวจสอบเบื้องต้น นักบินสามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินอย่างปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ทีมค้นหาและช่วยชีวิตของกองทัพอากาศ เดินทางเข้าพื้นที่ที่ประสบอุบัติเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือนักบินแล้ว

ทั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องได้รายงานเหตุการณ์ให้ผู้บัญชาการทหารอากาศทราบแล้ว และได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุกองทัพอากาศ เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบความเสียหายและสาเหตุต่อไป

ทอ.ยกพรบ.กลาโหม จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทน เพิ่มศักยภาพป้องน่านฟ้าทัดเทียบประเทศเพื่อนบ้าน ทดแทนบินรบลำเก่าที่มีอายุใช้งานยาวนาน 

พล.อ.ต.ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยเหตุผลความจำเป็นที่ต้องจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนว่า ตาม พรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551  มาตรา 21 ระบุให้ กองทัพอากาศมีหน้าที่เตรียมกำลังกองทัพอากาศ การป้องกันราชอาณาจักรและดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพอากาศ ตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม มีผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ  

และตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาศักยภาพของประเทศด้านความมั่นคง ของกระทรวงกลาโหม และแผนปฏิบัติการด้านการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์แห่งชาติของกองทัพไทย ซึ่งกำหนดแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ระบุว่ากำลังทางอากาศต้องมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการเชิงรุกที่ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม และปฏิบัติการร่วมทั้งในและนอกประเทศ โดยใช้ระบบเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations) ทำให้กองทัพอากาศต้องเตรียมยุทโธปกรณ์ให้มีความพร้อม ทันสมัย มีศักยภาพทางทหารที่ทัดเทียมกับประเทศรอบบ้าน  

ปัจจุบันเครื่องบินรบส่วนใหญ่ของกองทัพอากาศ มีขีดความสามารถจำกัดในการปฏิบัติการทางอากาศมีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนาน และจะเริ่มทยอยปลดประจำการตั้งแต่ พ.ศ.2564 จนถึง พ.ศ.2574 โดยใน พ.ศ.2575 กองทัพอากาศจะคงเหลือเครื่องบินขับไล่โจมตีต่ำกว่าร้อยละ 50 ซึ่งจะทำให้ขีดความสามารถของกำลังรบทางอากาศลดลงจนไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ และยังต้องแบกรับภาระการส่งกำลังและซ่อมบำรุงกับเครื่องบินรบจำนวนมาก ที่มีอายุการใช้งานสูงถึง 28 - 54 ปี จึงต้องพัฒนาและจัดหายุทโธปกรณ์ที่จำเป็นและเพียงพอต่อหน้าที่ในการเตรียมการใช้กำลังทางอากาศ โดยคำนึงถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานภาพงบประมาณของกองทัพอากาศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ รองรับแผน ปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทย 

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top