Tuesday, 14 May 2024
กองทัพอากาศ

'เที่ยวบิน RTAF 230' ของกองทัพอากาศ นำคนไทยผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกี กลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ

พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นายรุจ  ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกุงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนางอภิญญา ชมภูมาศ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมให้การต้อนรับ คนไทยที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐตุรกีด้วยเที่ยวบิน RTAF 230 ของกองทัพอากาศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.30 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เที่ยวบินดังกล่าวมีคนไทยเดินทางกลับมา จำนวน 36 คน (เป็นชาย 5 คน หญิง 24 คน เด็กชาย 4 คน และเด็กหญิง 3 คน) และผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย

เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 แล้ว คนไทยทั้ง 36 คน จะได้รับบริการตรวจสุขภาพขั้นต้น โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, การให้คำแนะนำเพื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ และชี้แจงสิทธิประโยชน์ของสมาชิกฯ เพื่อไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินค่าพาหนะและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งการบริการให้คำแนะนำปรึกษา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้ว จะเดินทางไปยังสถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติมและแยกย้ายกลับภูมิลำเนา โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดรถให้บริการรับ-ส่ง สำหรับร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย สภากาชาดไทยรับดำเนินการส่งกลับไปยังจังหวัดชัยภูมิต่อไป

สำหรับเที่ยวบิน RTAF 230 เป็นเที่ยวบินพิเศษที่กองทัพอากาศได้รับมอบภารกิจจากรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ในการบินนำส่งสิ่งของพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว และรับคนไทยจากสาธารณรัฐตุรกีกลับประเทศไทย

‘ธนเดช’ ชม ‘ทอ.’ เปิดพื้นที่ให้ทุกพรรคหาเสียง ชี้!! นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี พากองทัพเป็นกลางทางการเมือง

(16 มี.ค. 66) ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีที่ พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เตรียมเปิดพื้นที่สโมสรกองทัพอากาศ สนามกีฬากองทัพอากาศ และหอประชุมกองทัพอากาศ ให้พรรคการเมืองสามารถเข้ามาหาเสียงกับกำลังพลได้ ว่า ในกรณีนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่กองทัพอากาศออก มานำร่องก่อนเหล่าทัพอื่น ในการให้พื้นที่แก่พรรคการเมือง เป็นการแสดงบทบาทวางตัวอย่างเหมาะสมและเป็นกลาง

ร.ท.ธนเดช กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวยังเป็นนโยบายสำหรับเพียงกองทัพอากาศเท่านั้น ยังไม่ได้ครอบคลุมถึงเหล่าทัพอื่น ๆ ทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ซึ่งหากพูดถึงแต่เฉพาะกองทัพบก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้เพิ่งมีนโยบายออกมาจากผู้บัญชาการทหารบก ไม่ให้แม้กระทั่งใช้พื้นที่ของกองทัพเป็นหน่วยเลือกตั้งด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะเป็นสิ่งที่ย้อนแย้งกับคำกำชับของผู้บัญชาการทหารบกเอง ที่บอกว่ากองทัพต้องเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งสำหรับตนแล้ว ไม่มีอะไรที่จะแสดงออกถึงความเป็นกลางของกองทัพได้ดีไปกว่าการเปิดพื้นที่ให้ทุกพรรคการเมืองได้เข้าไปแสดงออกรณรงค์

‘ทอ.’ ส่ง ‘UAV’ วิเคราะห์แนวโน้มการลุกลามไฟป่า จ.นครนายก เพื่อส่งข้อมูลให้ จนท.วางแผน-เร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว

(31 มี.ค. 66) จากเหตุการณ์ไฟป่าบริเวณเขาแหลม อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้หน่วยทหารสนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์อย่างเต็มที่นั้น พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้คณะทำงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ เสริมกำลังเข้าสนับสนุนการควบคุมไฟป่า เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 66 คณะทำงานศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก, กอ.รมน.จังหวัดนครนายก และส่วนปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อหารือถึงการนำอากาศยานและขีดความสามารถของกองทัพอากาศ เข้าร่วมปฏิบัติการควบคุมไฟป่า ตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารอากาศ และร่วมดำเนินการ ดังนี้

เวลา 09.30 น.จัดเครื่องบิน DA-42 ฝูงบิน 604 กองบิน 6 ทำการบินลาดตระเวนด้วยสายตา ค้นพบพื้นที่ไฟป่าบริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อย จปร.

เวลา 11.00 น. จัดอากาศยานไร้คนขับ (UAV) แบบ Aerostar BP ฝูงบิน 302 กองบิน 3 ทำการบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า ค้นพบพื้นที่ไฟป่า 3 เป้าหมาย โดยอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อย จปร. 2 เป้าหมาย และพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขตจังหวัดสระบุรี 1 เป้าหมาย โดยได้ VDL (Video Down Link) ส่งข้อมูลให้กับส่วนปฏิบัติการส่วนหน้า

9 เมษายน ของทุกปี เป็นวัน ‘กองทัพอากาศ’ ยกฐานะกรมทหารอากาศขึ้นเป็นกองทัพอากาศ

วันนี้ เมื่อ 102 ปีก่อน กระทรวงกลาโหม ได้ยกฐานะ ‘กรมทหารอากาศ’ ขึ้นเป็น ‘กองทัพอากาศ’ จึงถือเอาวันที่ 9 เมษายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพอากาศ

ในปี พ.ศ.2464 กระทรวงกลาโหม ได้พิจารณาเห็นว่า กำลังทางอากาศ มิได้เป็นกำลังเฉพาะในด้าน ยุทธศาสตร์ทางทหารเท่านั้น แต่มีประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อกิจการด้านอื่น ๆ อีกด้วย จึงได้แก้ไขการเรียกชื่อจาก กรมอากาศยานทหารบกเป็น 'กรมอากาศยาน' และเป็น 'กรมทหารอากาศ' ในเวลาต่อมา โดยให้อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยตรง พร้อมทั้งได้มีการกำหนดยศทหาร และการเปลี่ยนแปลง เครื่องแบบจากสีเขียว มาเป็นสีเทา ดังเช่นในปัจจุบัน

‘กองทัพอากาศ’ พร้อมลุย!! อพยพคนไทย ในซูดาน พร้อมปฏิบัติทันที เมื่อได้รับคำสั่งจากรัฐบาล

กองทัพอากาศ พร้อมปฏิบัติภารกิจได้ทันที เมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล บินไป ‘ซูดาน’ อพยพคนไทยหนีไฟสงคราม


(21 เม.ย.66) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดาน จากการปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ Rapid Support Forces (RSF) ในกรุงคาร์ทูม และพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ

พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว และได้สั่งการให้จัดผู้แทนกองทัพอากาศ เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการ และหาหนทางปฏิบัติกรณีอพยพคนไทยกลับประเทศ

เบื้องต้นกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินแบบ Airbus A340-500 ซึ่งเป็นเครื่องเดียวกับที่เคยใช้ในการอพยพคนไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศตุรกีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเครื่องบินแบบ C-130

รวมถึงเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การพิจารณาความพร้อมของสนามบินปลายทาง การเตรียมขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าประเทศต่าง ๆ การเตรียมการลำเลียงทางอากาศสายแพทย์ การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น โดยพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ทันทีเมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล ทั้งนี้ จะติดตามสถานการณ์และประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7624333

‘ทอ.’ เตรียมส่งเครื่องบิน 3 ลำ อพยพคนไทยในซูดาน กำหนดออกเดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมืองคืนนี้

(25 เม.ย. 66) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือคนไทยในสาธารณรัฐซูดาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบว่า กองทัพอากาศได้รับอนุมัติจากรัฐบาล ให้จัดเครื่องบินสนับสนุนการอพยพคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ

โดยคืนนี้ (25 เม.ย. 66) กองทัพอากาศจัดเครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นจุดนัดหมาย ที่กระทรวงการต่างประเทศได้ทำการอพยพคนไทยจากสาธารณรัฐซูดาน โดยทางบกและทางเรือ เพื่อรอเครื่องบินของกองทัพอากาศเดินทางไปรับ

‘ผบ.ทอ.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง’ สรุปแผนปฏิบัติภารกิจ ‘อพยพคนไทย’ จากเหตุไม่สงบในซูดาน โดยส่งเครื่องบิน 3 ลำ-ชุดแพทย์ร่วมเดินทาง

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ พร้อมด้วย ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปแผนการบิน และแผนการปฏิบัติ ในการส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศ ได้แก่ เครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 เครื่อง เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่ออพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในสาธารณรัฐซูดานกลับประเทศ ภายใต้การประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ทำการอพยพคนไทยจากสาธารณรัฐซูดาน โดยทางบกและทางเรือไปยังจุดนัดหมายเพื่อรอเครื่องบินของกองทัพอากาศเดินทางไปรับ

สำหรับเครื่องบิน Airbus A340-500 ออกเดินทางเวลา 23.59 น. บินตรงไปยังท่าอากาศยาน คิง อับดุลาซิซ ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง

‘โฆษกกองทัพอากาศ’ เผย คนไทยในซูดานชุดแรก 78 คน เบื้องต้นได้รับการดูแลจากแพทย์แล้ว คาด!! ถึงไทย 4 ทุ่มนี้

(27 เม.ย.66) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ขณะนี้เครื่องบินของกองทัพอากาศทั้ง 3 เครื่อง ได้แก่ เครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 เครื่อง ได้เดินทางถึงเมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เรียบร้อยแล้ว โดยเครื่องบิน และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่

นาวาอากาศเอก อนุรักษ์ รมณารักษ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการในส่วนของกองทัพอากาศที่เดินทางไปรับคนไทยในครั้งนี้ ได้รายงานกลับมาว่า ได้พบกับคนไทยชุดแรกจำนวน 82 คน ที่เดินทางข้ามทะเลแดงมาถึงเมืองเจดดาห์แล้ว ในจำนวนนี้มีผู้ประสงค์จะเดินทางกลับพร้อมเครื่องบินของกองทัพอากาศในเที่ยวบินแรก จำนวน 78 คน ส่วนอีก 4 คน สมัครใจจะพักกับญาติที่ซาอุดีอาระเบียต่อไปก่อน โดยทั้ง 78 คนที่จะเดินทางกลับ ได้รับการดูแลสุขภาพและผ่านการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจากทีมแพทย์ของกองทัพอากาศเรียบร้อยแล้ว หลายคนมีอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่ทุกคนมีขวัญกำลังใจดี ขณะนี้อยู่ในความดูแลของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ที่ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กับทั้งคนไทย และเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่

‘นนอ.กฤตวัฒน์ สุอุทัย’ นร.ทุนกองทัพอากาศ จบการศึกษาจากสหรัฐฯ ได้รับเลือกเป็นนายทหารเกียรติศักดิ์ และหัวหน้ากองพันที่ 1 แห่ง ‘USAFA’

(3 มิ.ย. 66) รายงานข่าว จากกองทัพอากาศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา โรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐอเมริกา (United States Air Force Academy : USAFA) จัดพิธีจบการศึกษาของนักเรียนนายเรืออากาศสหรัฐอเมริกา รุ่นที่ 2023 โดยในปีนี้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เดินทางมาเป็นประธานในพิธีและร่วมแสดงความยินดีแก่ผู้สำเร็จการศึกษาด้วยตนเอง สำหรับการเดินทางมาเป็นประธานในพิธีจบการศึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นการหมุนเวียนกันในแต่ละปีระหว่างโรงเรียนนายร้อยทหารบกสหรัฐฯ (The United States Military Academy หรือ Westpoint) โรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ (United States Naval Acdemy) และโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐฯ (United States Air Force Academy)

ซึ่งในปีนี้ เป็นวงรอบการเป็นประธานในพิธีจบการศึกษาของโรงเรียนนายเรืออากาศฯ นอกจากประธานาธิบดี โจ ไบเดนแล้ว มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ มาร่วมเป็นเกียรติในการแสดงความยินดีกับผู้จบการศึกษาซึ่งประกอบด้วย นายแฟรง แคนดอล Secretary of the Air Force, พล.อ.อ.ชาร์ล บราวน์ จูเนียร์ Chief of Staff of the Air Force, พล.อ.อ.แชนซ์ ซอลท์แมน Chief of Space Force ถือว่าเป็นพิธีจบการศึกษาที่ได้รับเกียรติเป็นอย่างสูง

สำหรับผู้จบการศึกษาของโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐฯ ในปีนี้มีจำนวนทั้งหมด 921 คน ประกอบด้วยนักเรียนต่างชาติ 12 คน และหนึ่งในนั้นคือ นักเรียนนายเรืออากาศ กฤตวัฒน์ สุอุทัย ซึ่งเป็นนักเรียนทุนของกองทัพอากาศ

นักเรียนนายเรืออากาศ กฤตวัฒน์ สุอุทัย เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 58 และเป็นนักเรียนนายเรืออากาศรุ่นที่ 65 เกิดเมื่อ 10 พ.ค. 2542 อายุ 24 ปี นนอ.กฤตวัฒน์ฯ เข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี ณ United States Air Force Academy ในสาขา Computer Science and Cyber Science โดยมีเกียรติประวัติระหว่างการศึกษา นนอ.กฤตวัฒน์ฯ มีความสนใจในการบินและได้เข้าร่วมชมรมนักบินเครื่องร่อนของโรงเรียน จนมีความชำนาญและได้เป็นครูสอนการบินเครื่องร่อนให้กับนีกเรียนรุ่นต่อมา โดยทำการสอนศิษย์การบินเครื่องร่อนรวมทั้งสิ้น 117 เที่ยวบิน นอกจากนี้ นนอ.กฤตวัฒน์ฯ ยังได้รับเลือกเป็นนายทหารเกียรติศักดิ์ (Honor Officer) และหัวหน้ากองพันที่ 1 (Squadron 1 Commander) ขณะศึกษาในชั้นปีที่ 4 ถือเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่งของนักเรียนทุนจากกองทัพอากาศ

‘United States Air Force Academy’ ถือเป็นสถานบันผลิตนายทหารหลักของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เป็นสถาบันที่ผลิตผู้นำชั้นแนวหน้าอย่างเช่น พล.อ.อ.ชาร์ล บราวน์ จูเนียร์, Chief of Staff of the Air Force ผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้ดำรงตำแหน่ง ‘Chairman of the Joint Chiefs’ คนต่อไป ซึ่งนับเป็นตำแหน่งสูงสุดทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ ทั้งนี้กองทัพอากาศไทยได้คัดเลือกนักเรียนนายเรืออากาศเข้ารับการศึกษาในสถาบันแห่งนี้ทุกปี โดยสหรัฐฯ เสนอที่นั่งให้กับนักเรียนนายเรืออากาศของไทยปีละ 1 ที่นั่ง ซึ่งนักเรียนนายเรืออากาศที่ได้รับการคัดเลือกจากกองทัพอากาศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้สร้างชื่อเสียงและแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ ทั้งด้านการศึกษาและความเป็นทหารได้อย่างดีเยี่ยม ได้รับความไว้วางใจจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในการให้ที่นั่งศึกษาในทุกๆ ปี

‘นนอ.ไทย’ คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จากการแข่งขันอากาศยานไร้คนขับนานาชาติ

(21 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเรียนนายเรืออากาศ (นนอ.)ได้เข้าร่วมการแข่งขัน อากาศยานไร้คนขับนานาชาติ (AUVSI SUAS 2023) ณ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในชื่อ ‘ทีม Pegasus’ ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย และได้สร้างผลงานระดับโลก โดยได้ คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 71 ทีมทั่วโลก

โดยได้ประกาศผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ของนักเรียนนายเรืออากาศ ‘ทีม Pegasus’ ซึ่งสามารถคว้า รางวัลคะแนนรวมรองชนะเลิศอันดับที่ 1 และรางวัลชนะเลิศ Flight Readiness Review (VDO clip presentation) ในการแข่งขันอากาศยานไร้คนขับนานาชาติโครงการ ASSOCIATION FOR UNMANNED VEHICLE SYSTEMS INTERNATIONAL STUDENT UNMANNED AERIAL SYSTEMS COMPETIITIONS (AUVSI SUAS 2023) เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. พ.ศ.66

สำหรับ ผู้ที่ชนะเลิศ (อันดับ 1) จากประเทศตุรกี รองชนะเลิศ (อันดับ 2 ประเทศไทย) รองชนะเลิศ (อันดับ 3 ประเทศอินเดีย) อันดับ 4 ประเทศอังกฤษ และ อันดับ 5 ประเทศซาอุดีอาระเบีย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top