Saturday, 27 April 2024
PoliticQuiz

'ต้องไม่ระบาด!' "บิ๊กตู่" เน้นคุมเข้มชายแดนป้องกันโควิด19

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ คงความต่อเนื่องในการคุมเข้มการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนภาคตะวันตกจากประเทศเมียนมาที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่สามารถจำกัดการควบคุม ให้เพิ่มความเข้มข้นงานข่าวเครือข่ายขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเพิ่มความถี่การลาดตระเวนสกัดกั้นตามช่องทางธรรมชาติมากขึ้น

สำหรับพื้นที่ชั้นในให้ประสานการทำงานร่วมกับ กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แรงงานจังหวัดและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่

คุมเข้มการผ่านแดนและมาตรการทางสาธารณสุขควบคู่กับการทำลายเครือข่ายขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ที่มาจากบุคคลลักลอบผ่านแดน ทั้งนี้ ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ เปิดศึก (การเมือง) บนทวิตเตอร์

จากกรณีที่นักแสดงหนุ่ม “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบนทวิตเตอร์บัญชี Petchkaroonpon@petchy66 ในประเด็นที่มีการตรวจพบข้าราชการทำเนียบฯ มีความเสี่ยงเป็นโรคโควิด-19 จำนวน 6 ราย

 

โดยระบุว่า... “ข้าราชการทำเนียบติดโควิด 6 คน...สาธุ ขอให้ได้ให้โดนทีเถอะจะทานมังให้ปีนึงเลย”

 

และหลังจากนั้นก็มีการเข้าไปต่อความในทวิตเตอร์ของนักแสดงหนุ่มอีกมากมาย อาทิ

 

"โอ้โห นี้ความคิดคนเหรอนี่?"

"พยายามจะเป็นควายละครับ พอดีฉลาดไปหน่อยเลยต้องยอมเป็นคนนี่ยังแอบเสียใจอยู่เลย"

“ต้องใจร้ายแค่ไหนถึงได้อยากให้คนติดโรคนี้ คุณไม่ชอบการเมืองได้ แต่มวลมนุษย์ชาติไม่ใช้ของที่จะมาสะใจที่เห็นพวกเขาเหล่านั้นต้องมาติดโรคนี้ กรรมมันไวกว่าโรคร้ายน่ะจิตคุณไม่ดีระวังคุณจะได้สัมผัสด้วยตัวคุณเอง แต่ก็ขออย่าให้เป็นน่ะงัยคุณก็คือเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย”

 

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง กระทั่งภายหลังกลุ่มข้าราชการทำเนียบฯ ดังกล่าวก็มีผลตรวจซ้ำว่าเป็นลบ แจ้งผลยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แน่นอน นายเพชรก็มีโพสต์ทวิตเตอร์ออกมาอีกครั้ง

 

“สำหรับข้อความที่สื่อให้เข้าใจผิดว่าผมดีใจที่มีคนป่วยในทำเนียบ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ใจเร็วเขียนไปแบบนั้น ตั้งใจเขียนระบายแหละ ไม่ใช่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำผิดก็ขอยอมรับและขอโทษสำหรับอคติที่ไม่ดีครับ ทวิตเก่าจะยังไม่ลบนะครับใครอยากตำหนิสั่งสอนอบรมเต็มที่ครับ”

 

ทั้งนี้มีคอมเม้นทั้งชื่นชมที่ออกมายอมรับผิด และบางส่วนบอกว่า เจ้าตัวรู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำมาตลอด

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (11 มกราคม พ.ศ. 2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 249 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 10,547 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 67 ราย รักษาหายเพิ่ม 138 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 6,566 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,914 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 205 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากสหราชอาณาจักร 2 ราย ,สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย ,สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ,ตุรกี 1 ราย ,ฮังการี 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 1 ราย ,บาห์เรน 1 ราย ,เดนมาร์ก 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย

เดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านเส้นทางธรรมชาติเป็นคนไทย 13 ราย สัญชาติเมียนมา 1 ราย จากเมียนมา เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.แม่สอด

ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 176 ราย

ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 48 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 173 ราย รักษาหายแล้ว 153 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 391 ราย รักษาหายแล้ว 374 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 8.28 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.81 แสน เสียชีวิต 24,129 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.36 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.08 แสน ราย เสียชีวิต 551 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.31 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.14 แสน ราย เสียชีวิต 2,846 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.88 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.58 แสน ราย เสียชีวิต 9,405 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,907 ราย รักษาหายแล้ว 58,636 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมติดเชื้อ 1,514 ราย รักษาหายแล้ว 1,361 ราย เสียชีวิต 35 ราย

สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละฮ์ ชะฮ์ ของมาเลเซีย ทรงใช้พระราชอำนาจประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด -19

โดยสถานการณ์ฉุกเฉินจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม หรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสถานะของการติดเชื้อโคโรนาไวรัส สำนักพระราชวังกล่าวในแถลงการณ์

“อัล-สุลต่านอับดุลละฮ์ทรงมีความเห็นว่าการแพร่ระบาดของโควิด -19 อยู่ในขั้นวิกฤตและมีความจำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน” สำนักพระราชวังกล่าว

นายกรัฐมนตรีมุฮ์ยิดดิน ยัซซิน ขอให้สมเด็จพระราชาธิบดีทรงประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อเป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ

ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มุฮ์ยิดดิน ยัซซินได้ประกาศห้ามการเดินทางทั่วประเทศและการล็อคดาวน์ 14 วันในเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์และใน 5 รัฐโดยกล่าวว่า ระบบการรักษาพยาบาลของประเทศอยู่ในจุดที่แบกรับไม่ไหวแล้ว หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในมาเลเซียพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งทะลุ 3,000 รายเป็นครั้งแรก ผู้ติดเชื้อทั้งหมดทะลุ 138,000 รายในวันจันทร์โดยมีผู้เสียชีวิต 555 ราย

แม่ทัพภาคที่ 3 แจงปมทหารรู้เห็น เจ้าของบ่อน ”สกายคอมเพล็กซ์” ฝั่งเมียนมาร์ รับคนไทยกลับมารักษาแม่สอด เร่งเช็คกล้องวงจรปิดหาจุดลักลอบข้ามช่วงปีใหม่ ติดตามพฤติกรรมเชิงลึกเจ้าหน้าที่ ลั่น พบผิดจริง ไม่เอาไว้

พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลนให้ข้อมูลเรื่องเจ้าของบ่อนการพนันฝั่งจ.เมียววดี ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นคนไทยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยรับลูกจ้างในบ่อนที่ติดเชื้อโควิด-19 กลับไปรักษาฝั่งอ.แม่สอด จ.ตากของไทย ว่า อาจจะเป็นข้อมูลที่คาดเดากัน เพราะว่ามีรถยนต์ของส่วนราชการไปนำคนเหล่านั้นกลับมา ทั้งนี้ขอพูดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งใช้แนวทางนำคนไทยกลับโดยผ่านทางคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก หรือ ทีบีซี โดยมีทหารเป็นผู้ประสาน แต่ครั้งนั้นเกิดข้อครหา ทำให้เมื่อเกิดเหตุที่อ.แม่สอด ทหารจึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง แต่ได้บอกกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ซึ่งท่านก็มีสายตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดเมียววดี ดำเนินการไป เป็นการประสานงานของฝ่ายปกครอง ทหารเป็นส่วนสนับสนุนในการรับกลับเท่านั้น

เมื่อถามย้ำว่า ภาพชาวบ้านที่เห็นมีรถทหารไปรับคนกลับจากบ่อนสกายคอมเพล็กซ์เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ว่าฯ สองฝ่ายและมาขอให้ทหารไปรับคนกลับเท่านั้นใช่หรือไม่ พล.ท.อภิเชษฐ์ กล่าวว่า ใช่ โดยทางนั้นร้องขอรถจาก ท่านผู้ว่าฯ ให้มาขนส่งคนกลุ่มนี้กลับเข้ามาใน Local Quarantine ส่วนกรณีที่มีการวิพากย์วิจารณ์ว่าการรับคนจำนวนมากมากองไว้แต่ไม่ประสานโรงพยาบาลก่อนทำให้บุคคลากรการแพทย์รับมือไม่ไหวนั้น ตนยอมรับว่า ตรงนี้อาจจะเกิดจากการประสานงานกันไม่ดีของทางทหาร ปกครอง และสาธารณสุข เราก็จะพยายามแก้ไข ตนคุยกับผู้ว่าฯ ว่ากังวลเรื่องความวิตกกังวลของประชาชนในพื้นที่ ที่เราอาจจะบอกได้ไม่ทั่วถึง ก็จะพยายามแก้ไขในเรื่องการประสานกันอยู่

เมื่อถามว่า ยังมีการมองว่าที่มีคนข้ามไป ข้ามมาได้ ช่วงที่โควิดกำลังระบาดอยู่เพราะมีเจ้าหน้าที่รับส่วย รับเงินกันอยู่ ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ พล.ท.อภิเชษฐ์ กล่าวว่า ในเรื่องการตรวจสอบนั้นก็ได้ดำเนินการกันหลายหน่วย ทั้งทหาร และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงหน่วยราชการของฝ่ายปกครองได้มีการตรวจสอบ และติดตามพฤติกรรมเชิงลึกของแต่ละราย ขณะนี้ไม่ปรากฏการดำเนินการ แต่เมื่อก่อนอาจจะมี อย่างไรก็ตาม ยังได้เน้นย้ำและยังพูดอยู่ว่าถ้ามีข้อมูล ตนไม่เอาไว้ จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือว่าทำลายความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง เพราะเกี่ยวกับโรคระบาดที่เราต้องร่วมมือกัน

ส่วนกรณีที่บ่อนพนันยังเปิดต่อเนื่องแม้จะมีการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่แล้ว ถูกมองว่าคนไทยข้ามไปเล่นบ่อนเมียวดีได้อย่างไรเพราะปิดด่าน แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ในกรณีนี้ยังไล่ตรวจสอบกันอยู่ ซึ่งมีกล้องวงจรปิด รวมถึงเครื่องมือที่เรามีอยู่ ขณะนี้ยังหาหลักฐานไม่พบ ก็ยังดำเนินกันไล่สอบสวนกันรวมถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามย้ำว่าช่วงปีใหม่ได้พบข้อมูลการข้ามไปหรือไม่นั้น พล.ท.อภิเชษฐ์ กล่าวว่า ช่วงปีใหม่ เมื่อวันที่ 31 ธค. ตนได้ลงมาในพื้นที่เอง ประเมินว่ามีคนลักลอบอยู่แล้ว แต่ไม่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม ตนก็จะรับข้อมูลตรงนี้และสืบสวน สอบสวนต่อ

ส่วนกรณีที่ทางการไทยต้องรับคนกลับมาอีกประมาฯ 300 กว่าคน ทางโรงพยาบาลในพื้นที่แม่สอดมีความพร้อมหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ขณะนี้ทั้ง แอลเค และ รพ.ใน 4 อำเภอชายแดน สามารถรับผู้ป่วยได้ 120 คน คิดว่าคนข้ามกลับมาและอยู่ในจำนวน 120 คน คิดว่าเรารับไหว และสามารถสร้าง รพ.สนามได้อีกส่วนหนึ่ง โดย รพ.ค่ายวชิรปราการ ก็เดินทางไปรับทราบข้อมูล เตรียมสนับสนุนถ้าต้องสร้าง รพ.สนาม ในพื้นที่อ.แม่สอด

รมช.สธ.คาด คนไทยจะติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มวันละเกิน 100 คนไปอีก 2-3 เดือน เหตุมาตรการควบคุมไม่เข้มงวดเท่ารอบแรก เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบเศรษฐกิจ ยืนยันรัฐบาลเยียวยาผลกระทบแน่นอน ลุ้นได้เล่นน้ำช่วงสงกรานต์

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย ประเทศไทยจะยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มวันละเกิน 100 ราย ไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน แต่ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปล่อยปละละเลยและได้รับความร่วมมืออย่างจริงจังจากประชาชน ประชาชนก็น่าจะได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนานในเทศกาลสงกรานต์

นายสาธิต กล่าวอีกว่า มาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกนี้ ไม่ได้เข้มข้นเท่ากับช่วงการระบาดรอบแรก เพราะได้ให้น้ำหนักกับการรักษาเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อหลักร้อยต่อวันเป็นเวลานาน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

นายสาธิต กล่าวถึงแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนว่า เบื้องต้นจะให้ประชาชนราว 30 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประเทศเข้าถึงวัคซีนคนละ 2 โดส ส่วนการจะฉีดให้ครบทุกคนอาจต้องใช้เวลาเพราะมีปัจจัยเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนของบริษัทยาด้วย และการฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนก็ไม่จำเป็นนัก ขณะที่วัคซีนก็เป็นเพียงการชะลอการแพร่ระบาด

ทั้งนี้ การผลิตวัคซีนตามปกติต้องใช้เวลาทดลอง 1 ปี แต่ขณะนี้เป็นการนำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และรัฐบาลมีการเร่งรัดให้องค์การอาหารและยา(อย.) อนุมัติวัคซีนให้นำมาใช้ได้โดยเร็วที่สุด แต่ก็ต้องพิจารณาจากความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนการที่โรงพยาบาลจะนำเข้าวัคซีนมาเองนั้น รัฐบาลไม่ได้ห้าม ถ้าโรงพยาบาลจะนำมาให้ผู้ที่มีกำลังซื้อได้ฉีดก่อนก็ทำได้ แต่ต้องผ่านการอนุมัติจาก อย.ก่อน

รัฐบาลญี่ปุ่น จะประกาศภาวะฉุกเฉินสกัดการระบาดของไวรัสโควิดเพิ่มเติมอีก 7 จังหวัด นอกเหนือจากกรุงโตเกียวและรอบข้าง หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุบสถิติเป็นเกือบ 8,000 คนต่อวัน

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่าเขาจะขยายการประกาศภาวะฉุกเฉินให้ครอบคลุมจังหวัดโอซากา เกียวโต เฮียวโงะ ไอจิ กิฟุ ฟูกูโอกะ และโทชิงิ ในวันนี้ (13 ม.ค.) เพื่อหยุดยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับกรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดติดกัน คือ ไซตามะ คานางาวะ และชิบะ แต่ในพื้นที่จังหวัดใหญ่อื่น ๆ ก็มีจำนวนการติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรดาผู้ว่าการจังหวัดต่างร้องขอให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการเยียวยาธุรกิจต่าง ๆ ที่ถูกขอให้ลดเวลาทำการลง

นายซูงะกล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการโดยพุ่งเน้นเป้าหมายจำเพาะเจาะจงไปที่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาด และพื้นที่มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูง จึงไม่มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และขอให้โรงเรียนและธุรกิจต่าง ๆ ปิดทำการแบบถ้วนหน้าเหมือนเมื่อเดือนเมษายน ปีที่แล้ว

ผู้นำญี่ปุ่นต้องการหยุดยั้งการติดเชื้อด้วยมาตรการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ ขอให้บาร์และร้านอาหารปิดภายในเวลา 20.00 น., ให้บริษัททั้งหลายสนับสนุนให้พนักงานทำงานทางไกล โดยลดจำนวนพนักงานในสำนักงานของตนลงร้อยละ 70, ให้ประชาชนงดออกจากบ้านหลัง 20.00 น. และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ลงครึ่งหนึ่ง

นายฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าการจังหวัดโอซากา ระบุว่า ขณะนี้จังหวัดโอซากาขอให้ร้านอาหาร และบาร์ปิดร้านในเวลา 21.00 น. แต่หากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน เขาจะให้ร้านต่าง ๆ ปิดร้านเร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมง คือ 20.00 น. เช่นเดียวกับในพื้นที่กรุงโตเกียวและรอบข้าง

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ม.ค. ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด 7,900 คน โดยจังหวัดโอซากา เกียวโต เฮียวโงะ ที่อยู่ในรายชื่อภาวะฉุกเฉินครั้งใหม่นี้ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงเป็นประวัติการณ์

มาตรการฉุกเฉินของญี่ปุ่นเป็นเพียงการ “ขอความร่วมมือ” ไม่ใช่การ “บังคับ” แต่รัฐบาลกำลังจะเสนอแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้ใช้มาตรการลงโทษกับธุรกิจและผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือตามมาตรการฉุกเฉินได้ โดยจะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายต่อรัฐสภาในวันจันทร์หน้า และจะประกาศใช้ให้เร็วที่สุด


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000003235

‘หมอเอก ก้าวไกล’ ชี้ไม่ใช่หน้าที่ภาระท้องถิ่น ปมจัดหาวัคซีนเอง ซัดรัฐต้องจัดวัคซีนฟรีสำหรับทุกคน เเนะใช้กลไกท้องถิ่นกระจายวัคซีน เพื่อความทั่วถึง เท่าเทียมทุกคน

นายเเพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต1 พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีการจัดหาวัคซีน เพื่อยับยั้งการระบาดไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ประเด็น “วัคซีนโควิด” เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่พูดคุยกันของทุกคนเพราะในหลายประเทศได้ให้การรับรอง และเริ่มกระจายฉีดให้กับประชาชนของตนเองแล้ว เพื่อหวังที่จะยับยั้งการระบาดของโคโรน่าไวรัส 2019 ให้เราสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติแบบที่เคยเป็นกันมา เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด

ดังนั้น “การบริหารจัดการวัคซีนแบบมีประสิทธิภาพ” จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ในวันที่ทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนพร้อมๆ กัน และมีการเร่งผลิตวัคซีนออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรโลก โดยวัคซีนที่ผลิตออกมามีหลายเทคโนโลยีที่ใช้ผลิต มีผลการศึกษาทดลองที่ให้ผลในการป้องกันโควิดที่แตกต่างกันแม้จะมีการให้การรับรองในหลายประเทศแล้ว แต่ก็เป็นการรับรองในกรณีพิเศษ-ฉุกเฉิน เพื่อยับยั้งการระบาดเท่านั้น แต่เรายังไม่ทราบระยะเวลาการคงอยู่ของภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน รวมทั้งผลข้างเคียงในระยะยาวที่อาจจะพบได้เพิ่มเติมจากที่พบในขั้นตอนการวิจัย

และวัคซีนที่มีหลายชนิดจะมีการแบ่งการจัดซื้อและแบ่งการฉีดอย่างไร ในส่วนวัคซีนของ Sinovac ที่ยังไม่มีการรายงานผลการทดลองในชั้นคลินิกเฟส 3 เลย และล่าสุดมีข่าวว่าบางประเทศไม่พอใจผลของการทดลองวัคซีนนี้เพราะมีประสิทธิภาพเพียง 50.4% เท่านั้น (อ้างอิง https://www.bbc.com/news/world-latin-america-55642648 ) แต่จะมีการนำเข้ามาใช้ในเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เราจะมีระบบการอนุมัติแบบพิเศษจาก อย. อย่างไร? ประเด็นนี้ทางรัฐบาลไทยจะต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างชัดเจนเพื่อให้สาธารณชนได้วางใจได้ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่ารัฐบาลสอบตกในประเด็นนี้

ส่วนกรณีที่มีข่าวองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง เปิดเผยว่า สนใจจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับคนในพื้นที่ได้นั้น ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องดีและอยู่ในวิสัยของกรอบระเบียบกฎหมายที่จะทำได้ แต่มีประเด็นที่ต้องคำนึงถึงอยู่บ้าง คือการจัดซื้อวัคซีนแบบแยกซื้อย่อมจะส่งผลต่อราคาวัคซีนที่จะแพงกว่าการจัดซื้อรวม ในขณะที่วัคซีนชนิดอื่นรัฐได้รวบการจัดซื้อโดยข้ออ้างในเรื่องราคา แล้วทำไมวัคซีนโควิดถึงไม่ได้มีการพูดถึงเหตุผลข้อนี้ (และการจัดซื้อโดย อปท. ที่มีความพร้อมด้านงบประมาณนั้นแน่นอนว่าจะไม่ได้มีทุก อปท. ที่มีความพร้อม จะส่งผลต่อการวางแผนการกระจายของวัคซีนในภาวะที่ต้องการวัคซีนเพื่อหยุดการระบาด ไม่ได้ต้องการวัคซีนเพื่อป้องกันโรคเท่านั้น)

โดยรัฐบาลควรต้องตั้งเป้าหมายการจัดหา และฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบ 100% โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดหา โดยมีจุดประสงค์เพื่อยับยั้งการระบาดในวงกว้าง และป้องกันปัจเจกบุคคลจากการติดเชื้อ โดยยุทธศาสตร์ที่ทางรัฐบาลและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศควรทำงานร่วมกัน คือ

1.ให้ผู้จัดหาวัคซีนยังคงเป็นรัฐบาลอยู่ แต่ต้องกระจายความเสี่ยงของวัคซีนให้มีหลายเจ้ามากขึ้น และมุ่งเน้นเจ้าที่มีประสิทธิภาพสูง และจะต้องมีจำนวนโดสครอบคลุมการฉีดให้ประชากรทั้งประเทศ 100%

2.ส่วนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจะเข้ามามีบทบาทร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ผ่านทางโรงพยาบาลและ รพ.สต. ในการกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชน เนื่องจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีความใกล้ชิดประชาชนมากกว่า เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ที่อาจจะต้องได้รับวัคซีนก่อนในลำดับแรกๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีข้อมูลของกลุ่มนี้อยู่แล้ว

3.สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือ “ความโปร่งใส” ในการบริหารจัดการ ดังนั้นรัฐบาลต้องเปิดเผยรายละเอียด ตัวเลข หลักเกณฑ์ วิธีการ และเหตุผลในการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน ให้ไว้วางใจการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนคนไทยกลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยได้ตามปกติอีกครั้งโดยเร็วที่สุด

กองสลากฯ ยืนยัน ไม่เลื่อนวันออกหวย งวด 17 ม.ค. 64 และงวด 1 ก.พ. 64 พร้อมให้เปิดขายได้ตามปกติ แต่ยกเลิกหวยสัญจรเหตุโควิด-19 ระบาดหลายพื้นที่

นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติจะไม่มีการเลื่อนจำหน่าย หรือออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกไปตามข้อเสนอของบางฝ่าย โดยทุกงวดจะยังเปิดให้ซื้อจองและออกรางวัลได้ตามปกติ รวมถึงงวดวันที่ 17 ม.ค. 64 และงวดวันที่ 1 ก.พ. 64 โดยได้กำชับให้ผู้ค้าสลากต้องปฏิบัติตัวตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

ส่วนขั้นตอนออกรางวัลจะมีการจำกัดจำนวนผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ออกรางวัล พร้อมกับทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ออกรางวัลด้วยน้ำยาทำความสะอาดและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อตลอดจนการจัดสถานที่เว้นระยะห่างทางสังคม

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ยกเลิกออกรางวัลสลากสัญจรประจำปี 64 ซึ่งมีการจัดใน 3 จังหวัด ได้แก่ งวดวันที่ 1 ก.พ. 64 ที่จังหวัดชุมพร งวดวันที่ 2 พ.ค. 64 ที่จังหวัดมหาสารคาม และงวดวันที่ 1 ส.ค.64 ที่จังหวัดลำปาง โดยทุกงวดให้กลับมาออกรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรีแทน

โฆษกกองทัพเรือ เผย ผลการสอบสวนและควบคุมโรคของกำลังพลเรือหลวงจักรีนฤเบศรจำนวน 270 นาย มีผลตรวจเป็นลบ หลังพบกำลังพลจำนวน 2 นาย ติดเชื้อ COVID - 19 ทำให้ต้องมีการกักตัว

พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏว่ากำลังพลเรือหลวงจักรีนฤเบศร จำนวน 2 นาย ติดเชื้อ COVID - 19 ทำให้ ต้องมีการกักตัว และทำการตรวจหาเชื้อกำลังพลเรือหลวงจักรีนฤเบศรจำนวน 270 นาย นั้น ล่าสุด กรมแพทย์ทหารเรือ ได้ส่งผลการตรวจการสอบสวนและควบคุมโรค ของกำลังพลเรือจักรีนฤเบศวร ที่กักตัวควบคุมโรคครบแล้วทุกนาย ซึ่งกำลังพลทั้ง 3 กลุ่ม คือ

1. ผู้ที่กักตัวที่อาคารรับรองสัตหีบ จำนวน 210 นาย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

  1.1 กำลังพลกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง จำนวน 9 นาย กักตัวสังเกตอาการระหว่าง 10-24 ม.ค.64 ได้ทำการตรวจหาเชื้อ COVID – 19 ผลตรวจไม่พบเชื้อ

  1.2 กำลังพลกลุ่มที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จำนวน 201 นาย กักตัวที่อาคารรับรอง ฐานทัพเรือสัตหีบ สังเกตอาการระหว่าง 11 - 25 ม.ค.64 ได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID – 19 ในวันที่ 11 ม.ค.64 ผลตรวจไม่พบเชื้อ

2. ผู้ที่กักตัวที่เรือ ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่เตรียมความพร้อมอยู่บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร เช่น การดูแลรักษาอุปกรณ์ ป้องกันเพลิงไหม้ และเข้ายามรักษาการณ์ จำนวน 60 นาย ได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID – 19 ในวันที่ 11 ม.ค.64 เรียบร้อย ผลตรวจไม่พบเชื้อ ทุกคนยังคงแข็งแรงและปฏิบัติงานได้ตามปกติ

3. ผู้ที่กักตัวที่บ้าน (ผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานที่เรือในห้วงเวลาเดียวกับผู้ติดเชื้อ และผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ก่อนหน้านี้) จำนวน 17 นาย ผลตรวจไม่พบเชื้อ

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ขอขอบคุณ บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ที่ช่วยดูแลกำลังพลของเรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นอย่างดี ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่ส่งกำลังใจมาตลอดตามสื่อต่างๆ โดยกองทัพเรือขอให้คำมั่นว่า จะยังคงปฏิบัติงานตามหน้าที่อย่างเข้มแข็งต่อไป และคงทำกำลังให้พร้อมสำหรับทุกภารกิจอยู่เสมอ เพื่อให้สมดังเจตนารมณ์ในการเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจตลอดไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top