Wednesday, 9 July 2025
NewsFeed

'เอกนัฏ' ส่ง 'ทีมสุดซอย' ตรวจโรงงานใน อ.ศรีมหาโพธิ สั่งเพิกถอนใบอนุญาต แถมพบขยะอิเล็กทรอนิกส์อื้อ

'เอกนัฏ' ส่ง 'ทีมสุดซอย' ตรวจ รง.ใน อ.ศรีมหาโพธิ หลังพบฝ่าฝืนคำสั่งลักลอบประกอบกิจการ เคลื่อนย้ายของกลาง สั่งเพิกถอนใบอนุญาต พร้อมแจ้งทุกหน่วยงานดำเนินคดีถึงที่สุด แถมตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศอีกกว่า 3 พันตัน ขยายผลหาต้นตอ

(13 ธ.ค.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ส่ง ทีมตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม, นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, กรมควบคุมมลพิษ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และนายอำเภอศรีมหาโพธิ เข้าตรวจสอบบริษัท ที แอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด ที่ตั้งอยู่ใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งบริษัทแห่งนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี และกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีคำสั่งห้ามประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของ วัสดุ เครื่องจักรที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งอายัดไว้ตั้งแต่เดือน ก.ย.67 เป็นต้นมา แต่กลับพบว่าบริษัทแห่งนี้มีการฝ่าฝืนคำสั่งอย่างต่อเนื่อง

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบการลักลอบประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและพบการลักลอบขนย้ายวัสดุ สิ่งของ เครื่องจักร และสิ่งอื่น ๆ ที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ยึดอายัดไว้ นอกจากนี้ยังพบพยานหลักฐานการลักลอบทิ้งสารเคมีและกากอุตสาหกรรมในพื้นที่บ่อน้ำที่ใกล้เคียงกับบริษัทด้วย ด้วยพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนไม่เคารพกฎหมาย ประกอบกับคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาจากหลักฐานพฤติกรรมของบริษัทแล้ว จึงมีข้อเสนอไม่รับอุทธรณ์บริษัทดังกล่าว และออกแนวทางปฏิบัติเสนอมายังรัฐมนตรี โดยได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมทำหนังสือแจ้งคำสั่งปิดโรงงานไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร, กรมสรรพากร, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และนายอำเภอศรีมหาโพธิ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัทที่กระทำผิดตามอำนาจหน้าที่ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป 

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการเข้าตรวจค้นเพิ่มครั้งนี้ทีมตรวจการสุดซอยยังตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศอีกกว่า 3,000 ตัน และพบการกระทำผิดเพิ่มเติม จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท และจะขยายผลขอความร่วมมือจากกรมศุลกากรตรวจหาที่มาของขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป”

ซัคเคอร์เบิร์ก บริจาค 1 ล้านดอลลาร์ สมทบกองทุนพิธีรับตำแหน่งโดนัลด์ ทรัมป์

(13 ธ.ค.67) เมตา (Meta) ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับกองทุนพิธีสาบานรับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการยืนยันจากบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย

การบริจาคนี้เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา ได้ไปพบปะกับทรัมป์ที่บ้านพักส่วนตัวของเขาที่มาร์อาลาโก โดยวอลล์สตรีทเจอร์นัลด์รายงานข่าวการบริจาคครั้งนี้ก่อน และซีเอ็นเอ็นได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว

ซัคเคอร์เบิร์กคาดหวังที่จะมีบทบาทมากขึ้นในนโยบายด้านเทคโนโลยีของรัฐบาลใหม่ ซึ่งถือเป็นการกลับลำอย่างชัดเจนจากเหตุการณ์เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว เมื่อเมตาได้ระงับบัญชีของทรัมป์จากแพลตฟอร์มหลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

ทรัมป์เคยใช้งานแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างกว้างขวางในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก ก่อนที่จะถูกระงับบัญชี เนื่องจากความกังวลว่าเขาอาจก่อให้เกิดความรุนแรงต่อไปและปฏิเสธผลการเลือกตั้งของโจ ไบเดน

แม้ว่าบัญชีของทรัมป์จะถูกคืนสถานะในปี 2023 แต่เขาก็ยังคงแสดงความผิดหวังต่อซัคเคอร์เบิร์ก โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กล่าวหาว่าเมตาเป็น "ศัตรูของประชาชน" และยังบอกว่าเจ้าพ่อเทคโนโลยีควรถูกจำคุกฐานแทรกแซงการเลือกตั้ง

ในความพยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ ซัคเคอร์เบิร์กได้ยกย่องทรัมป์ในที่สาธารณะ เกี่ยวกับปฏิกิริยาตอบสนองของทรัมป์หลังจากที่เขาถูกยิงเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยกล่าวว่า "การได้เห็นโดนัลด์ ทรัมป์ ลุกขึ้นหลังจากถูกยิง และชูกำปั้นขึ้นไปบนอากาศ พร้อมกับธงชาติสหรัฐฯ คือหนึ่งในสิ่งที่เจ๋งที่สุดที่ผมเคยพบเห็นในชีวิต"

นอกจากนี้ ซัคเคอร์เบิร์กยังได้ขอโทษทรัมป์ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพถ่ายที่ผิดพลาด พร้อมขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่

ชัยวุฒิ ชู ลุงป้อมสุภาพบุรุษ มีเมตตา เปรียบผัวเมียไม่รัก ก็หย่ากัน จบด้วยดี

(13 ธ.ค.67) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีลงมติขับ 20 สส.กลุ่ม 'ธรรมนัส' ว่า  พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณท่านเป็นสุภาพบุรุษ ท่านเข้าใจการเมือง เข้าใจทุกคน ท่านก็ให้เกียรติทุกคน วันนี้ถ้าเทียบเราก็เหมือนกับผัว เมียอยู่ด้วยกัน วันนี้เมียไปอยู่กับคนอื่นแล้ว ไม่รักกันแล้ว เราก็หย่ากันให้เรียบร้อยถูกกฎหมายเท่านั้นเอง แบบสุภาพบุรุษแมน ๆ แต่หลังจากนี้ต่อไปคนที่อยู่ก็อยู่กัน ตั้งใจทำงานต่อไปไม่ได้มีปัญหาอะไร

ส่วนพรรคของเราพลังประชารัฐจะทำงานต่อไป ไม่แตกยังไม่ไปไหนทุกคนก็ยังอยู่เหมือนเดิม ที่สำคัญผมว่าวันนี่ประเทศชาติเราต้องการเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เข้มแข็งตรวจสอบรัฐบาลในทุก ๆ เรื่องที่เราทำอยู่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ส่วนคนที่แยกออกไปคือยังไงเขาก็ไม่อยู่กับเราอยู่แล้วก็ทำให้ถูกต้องตามระบบก็จบจะได้สบายใจไม่มีความขัดแย้งกันในพรรค

'เผ่าภูมิ' เผย 'ธนารักษ์' ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ ช่วยน้ำท่วมใต้ เสียหายบางส่วน 1 ปี ทั้งหลัง 2 ปี 

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ เล็งเห็นว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สิน กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนเป็นอย่างมาก จึงออกมาตรการเร่งด่วน “ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ประสบอุทกภัย” ดังนี้

1. ผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย หากอาคารที่พักอาศัยเสียหายบางส่วนให้ยกเว้นค่าเช่า 1 ปี หากเสียหายทั้งหลัง ให้ยกเว้นค่าเช่า 2 ปี โดยความเสียหายทั้งหลังพิจารณาจากสภาพอาคารที่พักอาศัยที่ไม่สามารถเข้าอยู่ได้โดยสิ้นเชิง เนื่องจากตัวบ้านได้รับความเสียหายหรือโครงสร้างของบ้านเสียหายจนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้

2. ผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบการเกษตร หากพืชหรือผลผลิตได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่า 1 ปี

3. ผู้เช่าอาคารราชพัสดุและผู้เช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าตามข้อเท็จจริงว่า ไม่สามารถดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ในที่เช่าได้ โดยให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนตามข้อเท็จจริง (กรณีผู้เช่าอาคารราชพัสดุ ต้องไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติเป็นเวลาเกิน 3 วัน)   

พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดของท่าน เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากกรมธนารักษ์ครับ

ตำรวจภูธรภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' รุกคืบทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับเพิ่ม 4 สมาชิกแก๊ง รับบทนอมินีเปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์ รถหรู 152 ล้านบาท

(13 ธ.ค. 67) ที่ตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รรท.ผบช.ภ.2) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 (ผบก.สส.ภ.2) แถลงผลการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริมเปิดออฟฟิศในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ซึ่งจับกุมได้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 โดยล่าสุดกองบังคับการสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มเติม 5 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 2 ราย ยึดทรัพย์รวมมูลค่า 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่าตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. ให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นหลังจากทลายจับกุมแก๊งมังกรเทาดำ ที่ลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จว.ชลบุรี ได้แล้ว จึงขยายผลยึดทรัพย์ต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน  2.กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี,ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3.กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 21 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 14 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม

จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายนี้แปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลคริปโทเคอเรนซี (Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่าง ๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการ ซึ่งเป็นชาวจีนนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงประกอบกิจการในนามบริษัทนอมินี โดยใช้บริษัทนอมินีที่เปิดขึ้นมาซื้อ และถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง. ) ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย” รรท. ผบช.ภ.2 กล่าว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2567 ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำ เพิ่มเติม 5 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย คนจีน 2 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญดังนี้  
1. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตรว. ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท
2. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตรว. ม.10 ต.หนองหรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท
3. รถยนต์ LEXUS สีขาว มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
4. รถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท
5. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท
และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งหมดมูลค่ากว่า 152 ล้านบาท
 
พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า ได้เร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้คนไทยที่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น รับจ้างเปิดบัญชีเป็นธุระจัดหาซิมผีบัญชีม้า รวมถึงการเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือถือครองทรัพย์สินซึ่งอาจเข้าข่ายนอมินี จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากความผิดเรื่องคอลเซ็นเตอร์แล้วยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 ด้วย
         
ทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูล เบาะแส ชาวต่างชาติ หรือคนไทยต้องสงสัยเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ที่เพจ เฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรภาค 2

ซาอุดิอาระเบีย เผยโฉมสนามแข่ง FIFA World Cup 2034 หลังถูกเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก จุผู้ชมได้ 92,000 ที่นั่ง

(13 ธ.ค.67) สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้มีมติประกาศเลือกประเทศ ซาอุดิอาระเบีย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเป็นชาติจากตะวันออกกลางชาติที่สองต่อจากกาตาร์ที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 2022

จากข้อมูลที่ทางการซาอุดิฯ ยื่นต่อฟีฟ่า ระบุว่าหากได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซาอุดิอาระเบียจะมีการสร้างสนามใหม่ 11 แห่งเพื่อรองรับการจัดงานในปี 2034 พร้อมทั้งปรับปรุงสนามกีฬาอีก 4 แห่ง รวมเป็น 15 สนามใน 5 เมืองสำคัญทั่วประเทศ ได้แก่ ริยาด (8 แห่ง), เจดดาห์ (4 แห่ง), อัล โคบาร์ (1 แห่ง), อับฮา (1 แห่ง) และนีออม (1 แห่ง) 

โดยในบรรดาสนามแข่งทั้ง 15 แห่ง จะมีสนามที่ใช้สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันและสำหรับจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศคือ สนาม King Salman International Stadium

สนามกีฬาแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Populous และตั้งอยู่ในกรุงริยาด มีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในปี 2029 ด้วยความจุ 92,000 ที่นั่ง การออกแบบได้รับอิทธิพลมาจากภูเขาและมีการใช้แผงภูมิทัศน์ล้อมรอบโครงสร้าง หลังจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 สนามกีฬาแห่งนี้จะกลายเป็นสนามกีฬาแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ด้วยความจุที่นั่งสูงสุดในประเทศ ซึ่งสามารถรองรับงานสำคัญระดับชาติได้หลากหลาย รวมถึงคอนเสิร์ตและงานกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

สนามกีฬาแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านกีฬาและบ้านของทีมชาติซาอุฯ ทั้งยังจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเมือง Green Riyadh ที่มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคตด้วย

รมว.สุดาวรรณ เร่งให้วธ.ขึ้นบัญชี 10 มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมของชาติ ปี 67 เตรียมเสนอ 'ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย' ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

วธ.โดยบอร์ด ICH ประกาศขึ้นบัญชี 10 มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมของชาติ ปี 67 อาทิ ผ้าเกาะโส้ ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก ตำนานเขานางหงส์ เรือมอันเร บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม เสื่อกกจันทบูร และผ้าหม้อห้อม พร้อมเตรียมเสนอ 'ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย' ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 3/2567 พิจารณาเห็นชอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำเนินการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 จำนวน 10 รายการ ได้แก่ ตำนานสุบินกุมาร เพลงทรงเครื่อง ผ้าเกาะโส้ ยิงคันกระสุน ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก ตำนานเขานางหงส์ เรือมอันเร บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม เสื่อกกจันทบูร และ ผ้าหม้อห้อม ที่ผ่านมา วธ. ได้ประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมของชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบันรวมทั้งหมด 396 รายการ ทั้งนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมรายการที่ประกาศขึ้นบัญชีได้ที่ www.culture.go.th  

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า นอกจากรายการที่ขึ้นบัญชีในประเทศแล้ว คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบรายงานข้อมูลสถานะมรดกภูมิปัญญาที่ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ได้แก่ โขน นวดไทย โนรา และสงกรานต์ ตามมาตรา 29 ของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และคณะทำงานผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ศึกษาวิเคราะห์ตัวอย่างการรายงานของประเทศต่าง ๆ พร้อมทั้งเข้าร่วมการฝึกอบรมการจัดทำรายงานซึ่งจัดโดยยูเนสโก ณ เมืองเจินจู สาธารณรัฐเกาหลี ประสานขอข้อมูลจากหน่วยงาน องค์กร และชุมชนที่เกี่ยวข้อง ประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับองค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ เพื่อจัดทำรายงานดังกล่าว ส่งให้ยูเนสโก ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2567

“นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบเอกสารรายการ 'ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย' เพื่อเสนอเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง พิจารณารายละเอียด ความถูกต้องสมบูรณ์ของเอกสาร ภาพนิ่ง และวีดิทัศน์ ให้สมบูรณ์ และมอบกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบ ก่อนนำเสนอยูเนสโก ภายในเดือนมีนาคม 2568 ต่อไป” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 ณ สวนลุมพินี

เมื่อวันที่ (11 ธ.ค. 67) เวลา17.00 น. ณ พลับพลาพิธีหน้าห้องสมุดประชาชน สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดีสิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราช ดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี2567 ภายใต้แนวคิด 'ทศมราชา 72 พรรษา ถวาย พระพร' (ทด-สะ-มะ-รา-ชา-เจ็ด-สิบ-สอง- พัน-สา-ถะ-หวาย-พระ-พร) โดยมี นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี2567 คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสภากาชาดไทย และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาด เฝ้าฯ รับเสด็จ

ในโอกาสนี้ ทรงทอดพระเนตรการแสดงพิธีเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 การแสดงขับเสภาประกอบการแสดง โขนเฉลิมพระเกียรติฯ ชุด 'ทศมราชา 72 พรรษา มหามงคลสมโภช' บทเสภาที่ร้อยเรียงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อสภากาชาดไทยและปวงชนชาวไทย และการแสดงโขนตามแบบฉบับ นาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ในปีมหามงคล 72 พรรษา ตามด้วยการแสดงรำกิ่งไม้เงิน กิ่งไม้ทอง ปิดท้ายด้วยการบรรเลงบทเพลงเฉลิมพระเกียรติประกอบการแสดงระบำน้ำพุโดยวงดุริยางค์ราชนาวี กองดุริยางค์ ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ในบทเพลง '72 พรรษา มหามงคล' จากนั้นทอดพระเนตรโคมถวายพระพร จุดแสดง ประดับไฟ 'แสงแห่งพระบารมี' กิจกรรมบนแพลตฟอร์มงานกาชาดออนไลน์ www.iredcross.org (เวิล์ด-ไวด์-เว็บ-ดอท-ไอ-เรด-คอส-ดอท-โอ-อาร์-จี) จากนั้นเสด็จ ฯ ไปเยี่ยมร้านค้าต่าง ๆ ที่มาร่วมออกร้านในงานกาชาดประจำปี 2567

การจัดงานกาชาดประจำปี 2567 กำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'ทศมราชา ๗๒ พรรษา ถวายพระพร' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00-22.00 น. ณ สวนลุมพินี และงานกาชาดออนไลน์ www.iredcross.org โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจขององค์พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และองค์อุปนายิกาผู้อํานวยการสภากาชาดไทย รวมถึงเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยและสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ 

ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิสมาคม สโมสร ผู้มีอุปการคุณ และประชาชนทั่วไป และเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบํารุงสภากาชาดไทย ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัยแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติ

กิจกรรมภายในงานจัดให้มีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อสภากาชาดไทยและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า อาทิ การแสดงประดับไฟ 'แสงแห่งพระบารมี', จัดแสดงว่าวเฉลิมพระเกียรติโคมถวายพระพร, การแสดงน้ำพุประกอบดนตรีเฉลิมพระเกียรติ, การประกวดร้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทหน่วยงานราชการ ได้แก่ ร้านกองทัพอากาศ และรางวัลชนะเลิศ ประเภทหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ เอกชน ได้แก่ ร้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกิจกรรมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2567เวลา 19.00 น. ณ เวทีอาคารบันเทิง สวนลุมพินี

ด้านกิจกรรมรื่นเริงเปี่ยมสุข ณ สวนลุมพินีทั้งการเสี่ยงโชคชิงรางวัลในรูปแบบต่างๆ ตักไข่ สอยดาว กว่า 49 หน่วยงาน และลุ้นรางวัลกับสลากบำรุงสภากาชาดไทยกว่า 42 หน่วยงาน การจำหน่ายสินค้าจากโครงการส่วนพระองค์ สินค้าจากเหล่ากาชาดจังหวัด การจำหน่ายเสื้อและกางเกงงานกาชาด กระเป๋าผ้าที่ระลึกสภากาชาดไทย รวมถึงสินค้าคุณภาพดีราคาประหยัด จากหน่วยงานที่มาร่วมออกร้านกว่า100 ร้านค้าการบริการรับปรึกษาสุขภาพฟรี การรับบริจาคโลหิตด้วยบริการรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ตั้งแต่วันที่ 12-22 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00-21.30 น. รับบริจาคดวงตาและอวัยวะ การจำหน่ายยาจุฬาโอสถ 

การจำหน่ายอาหารเมนูดังจากร้านค้าต่าง ๆ ที่ร่วมออกร้านในงานกาชาดกว่า 100 ร้านค้า ตลอดการจัดงานในทุกวัน เวลา 17.00-21.30 น. พบกับความบันเทิงที่หลากหลาย ชมการแสดงแสงสีเสียงจากศิลปิน ดารา นักแสดง การแสดงศิลปวัฒนธรรม อาทิ การแสดงละครใน เรื่องอิเหนา ตอนอิเหนาตัดดอกไม้ฉายกริช การแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอนนางลอย ตอนขับภิเภก พิเภกสวามิภักดิ์ พุ่งหอกกบิลพัสดุ์การแสดงละครดึกดำบรรพ์ เรื่องอิเหนา ตอนชมดง ณ เวทีกลาง และกิจกรรมที่บริเวณหน้าห้องสมุดประชาชน เวทีเปิดหมวกชมการแสดงดนตรีจากนักเรียนนักศึกษาเยาวชนคนรุ่นใหม่ และเฉพาะวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น. ชมแฟชั่นโชว์ผ้าไทยในสวนจากดีไซเนอร์รุ่นเยาว์ ภายใต้คอนเซ็ปต์“สืบสานผ้าไทยร่วมสมัย ยุคศิวิไลซ์ ในรัชกาลที่ 10 ยกระดับสู่สากล” นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดครื้นเครงในแต่ละวันอีกมากมายให้รอติดตาม 

ด้านกิจกรรมงานกาชาดออนไลน์ www.iredcross.org พบกับ Map งานกาชาดในรูปแบบ Fantasy art Style กับ 3 กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติบนเกาะลอยฟ้า และ 13 กิจกรรมสุดแสนหรรษาบนเกาะงานกาชาดออนไลน์ อาทิ โดรน–โคม ถวายพระพร ม่านน้ำพุ ขบวนพาเหรดน้องไอจังสุดน่ารัก กิจกรรมแข่งว่าวกาชาดที่ทุกคนรอคอย กิจกรรมบ้านผีสิงสุดหลอนร่วมกับ The Ghost Radio และเอาใจสายมูด้วยบริการทำนายดวงชะตาออนไลน์กับนักพยากรณ์ตัวจริง ตามด้วยการซื้อสลากบำรุงสภากาชาดไทยออนไลน์ และเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษจากร้านค้ามากมายได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมผุดกิจกรรมใหม่สุดเพลิดเพลินเลี้ยงน้องไอจังใน iJung wonderland

มาร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์อัตลักษณ์งานกาชาดมหรสพรื่นเริงการกุศลแห่งปีระหว่างวันที่ 11–22 ธันวาคม 2567 ตลอด 12 วัน 12 คืน เวลา 11.00–22.00 น. วันสุดท้ายปิดงานเวลา 23.00 น. ณ สวนลุมพินี เข้างานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยในปีนี้ยังคงขอความร่วมมือให้ทุกท่านที่มาเที่ยวงาน เดินทางโดยรถสาธารณะเพื่อความสะดวก และใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกคัดแยกขยะไม่เทรวม และร่วมสนุกแบบไร้ขีดจำกัดที่งานกาชาดออนไลน์ www.iredcross.org ตลอด 24 ชั่วโมง

'รัดเกล้า' นำผู้ปกครองหารือกระทรวงศึกษา เหตุโรงเรียนในเขตบางพลัดปิดตัวกะทันหัน

เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.67) นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้นำตัวแทนผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวอย่างกะทันหันของโรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชา แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด เข้าพบนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงศึกษาธิการ โดยมีประเด็นการหารือมี 4 ข้อ คือ 1. บทบาทและหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในการช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ 2. ปัญหาค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องแบกรับ เช่น ค่าแรกเข้าโรงเรียนใหม่ เป็นต้น 3. ความเป็นธรรมในการรับเอกสารของบุตรหลาน เพื่อนำไปสมัครที่โรงเรียนใหม่ ในขณะที่ผู้ปกครองยังมีสภาพเป็นหนี้ค่าเทอมของโรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชา และ 4. เรียกร้องการแก้กฎหมาย เพื่อบังคับให้การปิดกิจการโรงเรียน ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าและแจ้งผู้ปกครองให้ทราบเรื่องนานกว่านี้

ในประเด็นแรก นางรัดเกล้าเป็นผู้แทนผู้ปกครองที่เดือดร้อน แจ้งว่าการประกาศปิดกิจการของโรงเรียนดังกล่าวส่งผลกระทบให้ผู้ปกครองอีกทั้งก่อให้เกิดข้อกังวลใจและข้อสงสัยในบทบาทการทำงานของหน่วยงาน สช. ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยนายสิริพงศ์ ได้แจ้งระเบียบการปิดกิจการของโรงเรียนเอกชนให้กลุ่มผู้ปกครองได้รับทราบว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เช่น โรงเรียนแจ้งปิดกิจการในวันที่ 18 พ.ย. ก่อนจะปิดภาคเรียนที่ 1 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการขออนุญาตเลิกกิจการโรงเรียนเอกชนในระบบที่กำหนดให้แจ้งการปิดกิจการก่อนล่วงหน้าประมาณ 120 วันก่อนปิดภาคเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองได้เตรียมตัว อีกทั้งตอกย้ำว่า การทำงานของ สช. ยึดเกณฑ์ของกฎและระเบียบเป็นหลักเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

อย่างไรก็ดี นางรัดเกล้าเป็นตัวแทนบอกเล่าเสียงสะท้อนจากกลุ่มผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ ที่มองว่าการแจ้งปิดกิจการล่วงหน้า 120 วัน อาจเป็นระยะเวลาที่น้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง แม้ในครั้งนี้โรงเรียนได้ดำเนินการภายใต้ระเบียบ แต่ผู้ปกครองเรียกร้องขอให้มีการปรับแก้ไขระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เกิดขึ้นอีก โดยเสนอให้มีการยืดระยะเวลาออกไปให้มากกว่า 120 วัน เป็น 1 ปีการศึกษาแทน อีกทั้ง ผู้ปกครองที่มาร่วมหารือด้วย เสริมว่าควรมีระเบียบบังคับให้โรงเรียนที่จะทำการปิดตัวต้องจัดทำแผนรองรับการปิดกิจการของโรงเรียนเอกชน โดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น คณะผู้สอน ผู้ปกครอง ฯลฯ มีส่วนร่วมในการออกความเห็นในการวางแผน  ซึ่งในประเด็นนี้ นายสิริพงศ์ เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ดี พร้อมรับไปศึกษาความเป็นไปได้เพื่อปรับแก้ระเบียบดังกล่าวให้ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่เยาวชนที่เป็นนักเรียน 

นอกจากนี้ นางรัดเกล้าและคณะยังหารือในประเด็นการจัดหาสถานศึกษาใหม่ให้แก่นักเรียน ซึ่งขณะนี้ผู้บริหารโรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชาได้เสนอโรงเรียน 33 แห่งที่สามารถรองรับนักเรียนได้ แต่บางแห่งรับได้จำนวนจำกัด และบางแห่งมีค่าใช้จ่ายแรกเข้าสูง จึงสร้างความกังวลและภาระทางการเงินให้ผู้ปกครอง นายสิริพงศ์ ได้กำชับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ให้ไปชี้แจงกับโรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชาว่าจะต้องจัดหาโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนเพิ่มเติมจากในจำนวน 33 แห่งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่ผู้ปกครอง โดยให้ดูแลติดตามว่าโรงเรียนต่าง ๆ ที่ได้คัดเลือกมา สามารถรองรับนักเรียนจากโรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชาได้ครบถ้วน เด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบได้เข้าเรียนอย่างแน่นอน 100%

นายสิริพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นเรื่องการออกใบรายงานผลการศึกษา หรือใบเกรดของนักเรียนนั้น เนื่องจากกลุ่มผู้ปกครองมีความกังวลว่า หากมีกรณีที่ผู้ปกครองยังไม่ได้ชำระค่าเล่าเรียนอาจทำให้ถูกยึดใบเกรด ซึ่งขอยืนยันว่าใบเกรดไม่สามารถเป็นหลักประกันสร้างเงื่อนไขให้จ่ายค่าเล่าเรียน แต่ในฐานะที่ ศธ.เป็นคนกลางยังยืนยันว่าเป็นหนี้ก็ต้องชำระ ดังนั้นจึงมีแนวทางร่วมกันว่าให้มีการเจรจาระหว่างผู้ปกครองและโรงเรียนในการรับสภาพหนี้ เพื่อหาทางออกให้แก่กลุ่มผู้ปกครองในการแบ่งจ่ายชำระหนี้ แต่จะไม่มีกรณีว่าต้องชำระค่าเล่าเรียนเป็นเงินก้อนถึงจะได้ใบเกรด ซึ่งกรณีแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

นางรัดเกล้าปิดท้ายการหารือด้วยการขอบคุณนายสิริพงศ์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และยืนยันว่าตนพร้อมช่วยติดตาม และช่วยเหลือผู้ปกครองจนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย ในฐานะของคนที่มีลูกเช่นเดียวกัน ตนเข้าใจในความหนักใจของผู้ปกครอง สิ่งสำคัญที่สุดคือ 'นักเรียนต้องมาก่อน' เยาวชนที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการดูแลให้มีโอกาสศึกษาต่ออย่างต่อเนื่อง

'ขัตติยา' สวน 'เท้ง' มีผลงานอะไร หลังหน.พรรคส้มตัดเกรดผลงานนายกอิ๊งค์ 'ไม่ผ่าน'

เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค. 67) นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X (เอ็กซ์) ถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน วิจารณ์นโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากแถลงผลงานครบ 90 วัน ภายใต้แคมเปญ '2568 โอกาสไทย ทำได้จริง : 2025 Empowering Thais: A Real Possibility'

โดยว่า ผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ พร้อมกล่าวว่า ทุกนโยบายที่นายกรัฐมนตรีแพทองธารประกาศในวันนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 ดังนั้น ในขณะที่ประชาชนมีความหวัง พรรคฝ่ายค้านบางพรรคควรหยุดสร้างวาทกรรมที่ไม่สร้างสรรค์บ้าง

นางสาวขัตติยากล่าวต่อว่า หากหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านชอบประเมินผลงานของผู้อื่น ขอแนะนำให้เริ่มจากการประเมินตัวเองก่อน ว่าผลงานของท่านในฐานะหัวหน้าพรรค 125 วันที่ผ่านมาเป็นอย่างไร คะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นหรือลดลง? ท่านสามารถเริ่มต้นจากการถามสมาชิกภายในพรรคได้ว่า การทำงานของท่านผ่านเกณฑ์หรือไม่?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top