Friday, 4 July 2025
NewsFeed

‘ทนายนิด้า’ โพสต์!! ยินดีรับทนายที่ลาออกจาก ‘ษิทราลอว์เฟิร์ม’ ลั่น!! พร้อมถ่ายทอด ‘วิชาที่ถูกที่ควร’ ให้อย่างเต็มความสามารถ

(10 พ.ย. 67) จากกรณีตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมภรรยา ตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

ล่าสุดวันนี้ น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า 

ทนายความที่เคยทำงานกับบริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ที่ลาออกเพราะหัวเรือไม่อยู่แล้ว มาสมัครที่ บริษัท ทนายนิด้า จำกัดได้นะคะ ยินดีรับไว้แล้วถ่ายทอดวิชาที่ถูกที่ควรให้อย่างเต็มความสามารถ ที่สำคัญพี่นิด้าว่าความเอง สอนวิชาว่าความได้ค่ะ

อัยการ เผย!! ‘ทนายตั้ม’ โดน ‘ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ’ ชี้!! ข้อหานี้ หาดูได้ยาก เพราะอยู่ในกฎหมายฟอกเงิน

(10 พ.ย. 67) ความคืบหน้ากรณีที่มีการยื่นคำร้องฝากขัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกง, ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), มาตรา 5, มาตรา 9 วรรคสอง และมาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

โดยมีรายงานว่า ในคำร้องฝากขังทนายตั้มได้มีการบรรยายว่า การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1 (ทนายตั้ม) เป็นความผิดฐานฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 อยู่ด้วยนั้น

สำหรับ ‘ความผิดฐานฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ’ นั้นแหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า คดีของทนายตั้มถือเป็นคดีแรกเท่าที่ตนเคยพบ ซึ่งไม่ค่อยพบว่าที่ผ่านมามีคนเคยถูกแจ้งข้อหาดังกล่าว การดำเนินคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ ถือว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญของการนำกฎหมายทั้ง 2 ฉบับมาผสมผสานกัน กล่าวคือ ข้อหาฉ้อโกงเป็นความผิดที่อยู่ในกฎหมายอาญา โดยมีแต่เฉพาะการฉ้อโกงบุคคลทั่วไป มาตรา 341 กับการฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343

โดยคำว่า ‘การฉ้อโกงเป็นปกติธุระ’ จะอยู่ในกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งเป็นมาตรการในการดำเนินคดีกับผู้โอน รับโอน ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด และการยึดอายัดทรัพย์สิน

ทั้งนี้ คำว่า ‘เป็นปกติธุระ’ อาจมีความหมายความว่า เป็นบุคคลผู้มีหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้จัดการทรัพย์สิน แล้วกระทำการฉ้อโกง โดยหลอกลวง แล้วเอาไปซึ่งทรัพย์สินของบุคคลอื่น ไปจำนวนหลายครั้งหลายครา ‘เป็นอาจิณ’

กรณีที่เกิดขึ้นเป็นข่าวทางสื่อมวลชนในประเด็นที่ทนายความ ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลซึ่งลูกความให้ความไว้วางใจมอบหมายให้ทำหน้าที่ในทางกฎหมายเกี่ยวกับคดีความของตน แต่ทนายความดังกล่าวกลับกระทำการผิดหน้าที่ หลอกลวงเอาทรัพย์สินของลูกความไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำการดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมาย และเป็นการกระทำที่ผิดมรรยาททนายอีกด้วย

การดำเนินคดีกับทนายความในข้อหาดังกล่าวจึงถือว่าเป็นก้าวย่างสำคัญ เป็นปรากฏการณ์ทางกฎหมาย ด้วย ในอันที่จะตัดวงจรอาชญากรรม และบังคับใช้กฎหมาย เพื่อคุ้มครองและให้ความเป็นธรรมกับสุจริตชนด้วย

หลังจากนี้ก็จะต้องมีการยึดอายัดทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติการฟอกเงินต่อไปอีก

มัสก์ กลับคำพูด เลิกคิดผลิตEVราคาถูก ยอมรับไม่คุ้มแข่งรถไฟฟ้าจากจีน

(11 พ.ย.67) รอยเตอร์รายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท Tesla ดูเหมือนจะยอมรับกลายๆ ว่าบริษัทจะยกเลิกแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่ตั้งราคาประมาณ 25,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 8.5 แสนบาท) หลังจากที่ก่อนหน้านี้มัสก์ได้เปิดเผยในเดือนเมษายนว่าจะผลิตรถรุ่นดังกล่าวเพื่อเจาะตลาดในระดับล่าง

ในการประชุมประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม มัสก์กล่าวว่า การผลิตรถยนต์ EV ราคาประหยัดจะไม่มีประโยชน์ เว้นแต่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ โดยเขากล่าวว่า “ผมคิดว่าการมีรถยนต์รุ่นธรรมดาที่ราคา 25,000 ดอลลาร์นั้นไม่มีประโยชน์ มันเป็นเรื่องที่โง่เขลา”

ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มักส์ออกมาประกาศแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ราคาจับต้องได้ ซึ่งมัสก์ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของรถยนต์รุ่นใหม่ดังกล่าว การออกมาให้ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ ราคาหุ้นของบริษัทรถยนต์ เทสลา (Tesla) เพิ่มขึ้นมากกว่า 12% ท่ามกลางผลประกอบการของเทสลาในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะมีกำไรต่ำกว่าที่คาดไว้ และรายได้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปีก็ตาม

ที่ผ่านมา รถยนต์ Tesla ราคาประหยัดถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยผลักดันให้ Tesla กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก โดยมีเป้าหมายผลิตรถยนต์ถึง 20 ล้านคันต่อปีภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม Tesla ได้ลบเป้าหมายดังกล่าวออกจากรายงาน Impact Report ฉบับล่าสุดในเดือนพฤษภาคม

ช่วงต้นปี มัสก์ยังคงยืนยันแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2025 และมองว่าจะเป็น ‘คลื่นลูกที่ 2’ ของการเติบโตต่อจาก Model 3 และ Model Y ที่เปิดตัวในปี 2017 และ 2020

นักลงทุนและแฟนๆ ของ Tesla ได้ตั้งชื่อเล่นให้รถยนต์ราคาประหยัดรุ่นนี้ว่า Model 2 โดยคาดว่าจะมีราคาต่ำกว่า Model 3 ซึ่งเริ่มต้นที่ 42,490 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.45 ล้านบาท)

นักวิเคราะห์มองว่าการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Tesla ครั้งนี้อาจเป็นเพราะบริษัทตระหนักว่าล่าช้าในการผลิตรถยนต์ราคาประหยัดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในจีน จึงหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ แทนการลงทุนมหาศาลในการผลิตรถรุ่นใหม่

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รับตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รับตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญจาก นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ในโอกาส มาตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของกำลังพล การรับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง ของหน่วย และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มีต่อ กองทัพเรือ ในการดูแลรักษาทรัพยากรของประเทศไทย ณ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด

หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด มีภารกิจ ในการป้องกันการคุกคามทางทะเล และทางอากาศ คุ้มครองเรือประมงไทย สนับสนุนการปฏิบัติการของเรือและกำลังทางบก ปฏิบัติการจิตวิทยา และประชาสัมพันธ์กับส่วนราชการ และราษฎรในพื้นที่ เพื่อความสัมพันธ์อันดีและง่ายในการประสานการปฏิบัติงานร่วมกัน 

สมุทรปราการ-งานบุญกฐินวัดมหาวงษ์ ร่วม 2 ล้านบาท ครอบครัวรุ่งเสมอ ครอบครัวพาณิชย์พิศาล และพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีแห่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดมหาวงษ์ ปากน้ำ ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ ท่านพระปลัดสราวุธ โรจนธมฺโม (พระอาจารย์แดง) เจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ ปากน้ำ สมุทรปราการ พร้อมด้วย พระครูยุทธนา ภททญาโณ (พระอาจารย์ตุ๋ย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ ร่วมกับ คณะสงฆ์วัดมหาวงษ์ คณะกรรมการ ไวยาวัจกร อุบาสก อุบาสิกา

ประกอบพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 12  โดยมี นาวาเอก อนุศักดิ์ นาคทิม นายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง ได้รับเกียรติเชิญร่วมงานทอดกฐินในปีนี้ ซึ่งในปี 2567 นี้ วัดมหาวงษ์โดยทางกำนันตำบลบางเมือง นำโดย นางสาวขวัญเรือน นาคทิม พร้อมด้วย พันโท สมพงษ์ คุณรำพึง และครอบครัวรุ่งเสมอเป็นประธานอุปถัมภ์ 

พร้อมด้วยครอบครัวพาณิชย์พิศาล เศรษฐีผู้ใจบุญ นำโดย นายอัครนันท์ นางธัญยธรณ์ พาณิชย์พิศาล คุณจรูญ กระแชงขาว และครอบครัวคุณแม่เรณู งามสมุทร ผศ.แพทย์หญิงเกศริน นางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล เป็นประธานร่วมในปีนี้ อีกทั้งในปีนี้ยังได้รับเกียรติจากนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เดินทางมาเข้าร่วมในพิธีตลอดจนคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย พุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญ ชาวอำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียง ร่วมบุญกันอย่างคึกคัก

โดยในช่วงเช้าได้ประกอบพิธีทำขวัญกฐิน จากนั้นร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ก่อนจะแห่องค์กฐินรอบพระอุโบสถและร่วมถวายองค์กฐิน ซึ่งในปีนี้ทางวัดมหาวงษ์ได้ยอดเงินทอดกฐิน ร่วม 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม พิธีทอดกฐินในปี 2567 นี้ นับว่ามีพุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญเดินทางมาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีการจัดตั้งโรงทาน จำนวน 70 โรงทาน ให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมงานได้รับประทานกัน และในส่วนจำนวนเงินที่ได้จากการทอดกฐินสามัคคีในปีนี้ ทางวัดมหาวงษ์จะนำไปบูรณปฏิสังขรณ์พร้อมทั้งปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ต่อไป

ผู้บัญชาการทหารบก ต้อนรับ นายกสมาคม นายทหารนอกประจำการ และคณะ

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์​ ผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับพลเอกวินัย ภัททิยกุล นายกสมาคมนายทหารนอกประจำการ และคณะกรรมการฯ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพบก 

โดยได้แสดงความยินดี ในโอกาสที่มี พระบรมราชโองการโปรดเกล้า ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก

นอกจากนั้น ยังได้มีการหารือถึงความร่วมมือในการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของนายทหารนอกประจำการ โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสมาคมนายทหารนอกประจำการได้แก่
1.เป็นศูนย์กลางการติดต่อและประสานงาน เผยแพร่ข้อมูลและข่าวสารให้กับสมาชิกและนายทหารนอกประจำการ
2.ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติยศ และชื่อเสียง ของนายทหารนอกประจำการ
3.เพื่อจัดสวัสดิการ  กิจกรรมนันทนาการ การบริการด้านสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้แก่สมาชิกและครอบครัว
4.เพื่อแสวงหาและรักษาสิทธิประโยชน์ ให้แก่สมาชิกและนายทหารนอกประจำการ
5.เพื่ออนุเคราะห์สมาชิกที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิต
6.สนับสนุนกิจกรรมเพื่อการกุศล หรือเพื่อสาธารณประโยชน์
7.ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์กรอื่น ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประโยชน์ของนายทหารนอกประจำการ

ซักเคอร์เบิร์กรอดคดี!! ฐานทำเยาวชนเสพติดโซเชียลมีเดีย จ่อเอาผิดบริษัท Facebook-Instagram แทน

(11 พ.ย.67) ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้ปฏิเสธคำร้องอีกครั้งที่พยายามให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กต้องรับผิดชอบเป็นรายบุคคลในคดีความกว่า 20 คดี ซึ่งกล่าวหา Meta Platforms Inc. และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ว่ามีส่วนในการเสพติดสื่อของเด็กและเยาวชน

ผู้พิพากษาอีวอนน์ กอนซาเลซ โรเจอร์ส แห่งศาลแขวงสหรัฐ ซึ่งดูแลคดีนี้ได้ตัดสินให้ซีอีโอของ Meta อยู่ในข้างเดียว โดยเห็นว่าคำร้องที่แก้ไขยังไม่เพียงพอที่จะดำเนินคดีต่อไป โดยคำตัดสินนี้ยกเลิกการฟ้องร้องซักเคอร์เบิร์กในฐานะจำเลยโดยไม่กระทบต่อข้อกล่าวหาต่อ Meta ในฐานะบริษัท

คดีความที่ยื่นในนามของเยาวชนกล่าวหาว่า พนักงานของ Meta เคยเตือนซักเคอร์เบิร์กหลายครั้งว่า Instagram และ Facebook ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่เขาเพิกเฉยต่อคำเตือนดังกล่าวและเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ

การถือให้ซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่รับผิดชอบในทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากกฎหมายขององค์กรมีการคุ้มครองผู้บริหารจากความรับผิดชอบโดยตรง

"แม้ว่าในอนาคตการสืบพยานอาจเผยให้เห็นการมีส่วนร่วมและการสั่งการของซักเคอร์เบิร์กในเรื่องการปิดบังข้อมูลที่เป็นการหลอกลวงของ Meta แต่ข้อกล่าวหาที่มีอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อมาตรฐานการรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่บริษัท" โรเจอร์สกล่าวในคำสั่งของเธอ

คดีที่ระบุชื่อซักเคอร์เบิร์กเป็นเพียงส่วนน้อยในคดีฟ้องร้องกว่า 1,000 คดีในศาลรัฐบาลกลางและศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยครอบครัวและเขตการศึกษาได้ยื่นฟ้อง Meta และบริษัทอื่นๆ เช่น Google ของ Alphabet, TikTok ของ ByteDance และ Snap เจ้าของแพลตฟอร์ม Snapchat โดยโรเจอร์สและผู้พิพากษาแห่งรัฐลอสแอนเจลิสได้อนุญาตให้บางข้อกล่าวหาดำเนินการได้ ขณะที่ปฏิเสธบางข้อกล่าวหาไป

‘วิรไท’ ย้ำ อย่าให้การเมืองครอบงำแบงก์ชาติ หวั่นส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย

'ดร.วิรไท' อดีตผู้ว่าการ ธปท. เตือนอย่าให้การเมืองแทรกแซง ครอบงำแบงก์ชาติ หวั่นเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอ ชี้ไม่ใช่แค่แบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ

(11 พ.ย.67) จะมีการประชุมคัดเลือกประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ หลังจากที่เลื่อนมาจากเมื่อวันที่ 4 พ.ย. โดยมีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อคัดเลือก 1 ใน 3 รายที่เป็นแคนดิเดต

สำหรับรายชื่อแคนดิเดตประธานกรรมการแบงก์ชาติมี 3 ราย ประกอบด้วย ‘นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง’ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เสนอโดยกระทรวงการคลัง ‘นายกุลิศ สมบัติศิริ’ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เสนอโดยแบงก์ชาติ และ ‘นายสุรพล นิติไกรพจน์’ ศาสตราจารย์ประจำสาขากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอโดยแบงก์ชาติ

ด้านดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Veerathai Santiprabhob ระบุว่า ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ

candidate ชื่ออะไรไม่สำคัญ แต่ถ้ามีประวัติเป็นคนการเมืองแบบแนบแน่น มีทัศนคติและวิธีคิดที่อยากแทรกแซงการทำงานของธนาคารกลางเพื่อตอบโจทย์การเมือง ก็ไม่สมควรครับ

ถ้าเรายอมให้ฝ่ายการเมืองส่งคนการเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย จะเป็นอันตรายยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอจนไม่เหลือสักหน่วยงานเดียวที่จะทัดทานนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ถูกไม่ควรได้

ต่อไปเราคงเห็นนโยบายประชานิยมแบบปลายเปิดเต็มไปหมด ไม่มีใครสนใจวินัยการเงินการคลัง มีแต่นโยบายที่หวังผลประโยชน์ระยะสั้นเพื่อตอบโจทย์การเมืองเป็นหลัก ในอนาคตนโยบายการเงิน และนโยบายสถาบันการเงินก็อาจจะถูกทำให้กลายพันธุ์เป็นนโยบายประชานิยมไปด้วยก็ได้ครับ

“11.11 ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันอย่าให้การเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่ายครับ”

‘ภาวะเศรษฐกิจไทย’ เร่งไม่ขึ้น รอลุ้นโค้งสุดท้ายปลายปี หลังพายุหมุนทางเศรษฐกิจยังไม่ก่อตัว แม้อัดฉีดแล้ว 1.4 แสนล้าน

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (RSI) เดือนตุลาคม ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน และอยู่สูงกว่าระดับ 50 ทั้งความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) การใช้จ่ายต่อใบเสร็จ (Spending per bill) และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) รวมทั้งความเชื่อมั่นฯ ปรับดีขึ้นในทุกประเภทร้านค้าและทุกภูมิภาค โดยส่วนหนึ่งจากผลงานของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ปี 2567) 10,000 บาท สำหรับความเชื่อมั่นฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเป็นสำคัญ 

ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้สำรวจ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจผลของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ปี 2567) 10,000 บาท ราว 60% ของธุรกิจค้าปลีก ประเมินว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ นี้ ส่งผลให้ยอดขายปรับเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นไม่เกิน 5% เมื่อเทียบกับช่วงปกติที่ไม่มีมาตรการ และมีถึง 41% ที่ตอบแบบสำรวจว่า ยอดขายใกล้เคียงเดิม

ยอดสะสมของการโอนเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 25-30 กันยายน 2567 สั่งจ่ายเงิน 14.44 ล้านคน โอนสำเร็จแล้วรวมทั้งสิ้น 14.05 ล้านคน และการโอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 381,287 คน โดยจะมีรอบการโอนเงินซ้ำให้กลุ่มที่โอนไม่สำเร็จ 22 ตุลาคม , 22 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม 2567

หากเทียบเม็ดเงินที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการนี้ เบิกจ่ายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 140,500 ล้านบาท แต่ผลสำรวจร้านค้าปลีก ยอดขายปรับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5% !!!!

พายุหมุนทางเศรษฐกิจ จะเริ่มเมื่อไหร่? คงรอกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงท้ายปี จากผู้ค้าปลีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง การจำหน่ายวัสดุก่อสร้างก็ลดลงเป็นเงาตามตัว ซึ่งส่วนสำคัญคือ สินเชื่อบ้านในทุกระดับราคา ยังคงถูกสถาบันการเงินปฏิเสธการให้สินเชื่อ 

ภาวะเศรษฐกิจไทย คงยังเร่งไม่ขึ้น ได้กระแสข่าวทางหน้าสื่อส่วนใหญ่ ไปกับข่าวทนายตั้ม กลบประเด็นทางเศรษฐกิจไปหมด ทั้งข่าวโรงงานผลิตรถยนต์ทยอยลดเวลางาน เพื่อลดต้นทุนค่าจ้าง ลามไปถึงโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังเป็นกระแส ผู้คนสนใจรถประหยัดพลังงาน ยังเร่งยอดขายไม่ขึ้น เลิกจ้างพนักงานไปอีก 600 คน ที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 

มารอดูกันว่า ปลายปีนี้ รัฐบาลจะงัดใช้มาตรการอะไร มาส่งท้ายในการใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่คงไม่กระเตื้องมากขึ้นนัก กับเวลาที่เหลือไม่ถึง 2 เดือน ลุ้นกันดีกว่า ว่า ภาคเอกชน จะมีโปรโมชั่นอะไรมาจูงใจให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งท้าย...ปี มังกรทอง

Reference : ธนาคารแห่งประเทศไทย :
https://www.facebook.com/share/p/1DGYmhUHxK/

KTC จัดโปรใหญ่ส่งท้ายปี 2024 จับมือพาร์ทเนอร์ 40 ราย เอาใจสายเที่ยวไทย-เที่ยวนอก

(11 พ.ย.67) เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับพันธมิตรท่องเที่ยวชั้นนำกว่า 40 ราย เปิดตัวแคมเปญ 'KTC Super Travel Deal ส่งท้ายปี 2024' พร้อมสิทธิพิเศษที่คุ้มค่า 3 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2567 - 31 ธันวาคม 2567 ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชื่นชอบการวางแผนการเดินทางด้วยตนเองและมองหาสิทธิพิเศษผ่านช่องทางออนไลน์

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต 'เคทีซี' หรือ บริษัท บัตร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ถือเป็นช่วงไฮซีซั่น สมาชิกจะเริ่มมองหาจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อพักผ่อนเคทีซีจึงได้ออกแคมเปญ 'KTC Travel Super Deal ส่งท้ายปี 2024 รับคุ้ม 3 ต่อ เอาใจนักเดินทาง'

คุ้มที่ 1: รับส่วนลดสูงสุด 50 % และโปรโมชั่นสุดพิเศษ (Exclusive promotion) จากพันธมิตรที่ร่วมรายการกว่า 40 ราย สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีจองผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวกับพันธมิตรที่ร่วมรายการ เช่น เว็บไซต์จองท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยม เช่น อโกด้า (Agoda) / ทริปดอทคอม (Trip.com) / ทราเวลโลก้า(Traveloka) / แอร์เอเชีย มูฟ (AirAsia Move) / สกายฟัน ทราเวล (Skyfun Travel)

จองโดยตรงกับโรงแรม เช่น วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์ โฮเทลส์  (VALA Hua Hin - Nu Chapter Hotels) / อนันตรา หัวหิน รีสอร์ท (Anantara Hua Hin Resort) / อินเตอร์คอนติเนนตัล พัทยา รีสอร์ท (InterContinental Pattaya Resort) จองตั๋วโดยสารสายการบิน เช่น ไทยเวียตเจ็ท แอร์ (Thai Vietjet Air) / อีวีเอ แอร์ (EVA Air) / กาตาร์ แอร์เวย์ส (Qatar Airways)

ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว เช่น เคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส (KTC World Travel Service) / มัลดีฟส์ เอ็กซ์เพิร์ทส (Maldives Experts) รถเช่า บัดเจ็ท คาร์ เรนทัล (Budget Car Rental) / ชิค คาร์ เรนทัล (Chic Car Rental) สถานที่เที่ยว สยามอะเมซิ่งพาร์ค (Siam Amazing Park) จองสถานที่เที่ยวอื่น เคเคเดย์ (KKday)  

คุ้มที่ 2: แลกคะแนนสะสมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้คะแนนสะสมตามกำหนด จำกัดการแลกคะแนนไม่เกินยอดชำระเงินต่อเซลส์สลิป และลงทะเบียนทุกครั้งภายในวันที่ทำรายการใช้จ่าย ผ่านบัตรฯ เมื่อต้องการใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืน

คุ้มที่ 3: ฟรี บัตรกำนัลห้องพักจากโรงแรมชั้นนำ เช่น แพ็กเกจรีสอร์ท Hurawalhi Maldives จาก มัลดีฟส์ เอ็กซ์เพิร์ทส / แพ็กเกจท่องเที่ยวดานัง เวียดนาม จาก สกายฟัน ทราเวล / โรงแรมวาลา หัวหิน / โรงแรมเดอะสแตนดาร์ด /บัตรกำนัลล่องเรือยอร์ช ที่ Oce Yachting / บัตรกำนัลรับประทานอาหารแหลมเจริญซีฟู้ด / บัตรชมภาพยนตร์เฟิร์สคลาส ที่ เอส เอฟ ซีเนม่า รวมมูลค่ากว่า 350,000 บาท สำหรับสมาชิกที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงสุด 50 ราย ณ พันธมิตรที่ร่วมรายการ และลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญ ตามรอบระยะเวลาที่กำหนด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top