Friday, 4 July 2025
NewsFeed

เปิดเมนูลับ!! ปลาสามน้ำ ทะเลสาบสงขลา มีเฉพาะช่วงสิ้นปี หากินได้เฉพาะที่ ‘สงขลา-พัทลุง’ เนื้อแน่น-หวาน-มัน-อร่อย

(9 พ.ย. 67) ช่วงหน้าฝนของภาคใต้เป็นช่วงเวลาที่ปล่อยท่องเที่ยวจะมีมากในทะเลสาบสงขลา และมีอยู่ที่เดียวเท่านั้น จะหากินได้ในจังหวัดสงขลา และพัทลุง

มารู้จักปลาท่องเที่ยวกัน เป็นปลาที่ฮอตที่สุดของจังหวัดสงขลาตอนนี้ 

‘ปลาท่องเที่ยว’ เป็นปลาตระกูลเดียวกับปลาตีน ลักษณะคล้ายปลาเขือ ปลาท่องเที่ยวอาศัยอยู่ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาเป็นปลาสามน้ำ #น้ำเค็ม#น้ำจืด#น้ำกร่อย รสชาติปลาแถวนี้จะขึ้นชื่อเรื่องความมันของเนื้อปลาเยอะกว่าที่ทะเลอื่น ๆ ชาวบ้านนิยมเอาปลาท่องเที่ยวมาทำได้หลายเมนู เช่น

-ต้มส้มมะขามสด 

-คลุกเกลือทอดขมิ้นกระเทียม

-เเกงส้ม(เเกงเหลือง)

-ต้มยำ

ปลาท่องเที่ยวยังทำได้อีกหลากหลายเมนูและเมนูที่น้องๆหนูๆชอบคือต้มปลาท่องเที่ยวมะขามสด รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ปลาเนื้อมัน ๆ ซดน้ำซุปร้อน ๆ โอ๊ย อย่อยยยยยย!

ปลาท่องเที่ยวเป็นปลาตามฤดูกาล(ฝนตกชุก) ปีนึงพบมากสุดแค่ฤดูกาลเดียวคือช่วงฝนตกชุกช่วงเดือน10-12 (เดือนตุลาคม -พฤศจิกายน-ธันวาคม)และสามารถจับปลาได้ฤดูกาลละเป็นตันๆ #ที่มาของคำว่าปลาท่องเที่ยวมาจาก การพบเจอของปลาซึ่งนาน ๆ จะเจอครั้งก็เจอครั้งละมาก ๆ ชาวบ้านเลยขนานนามว่า #ปลาท่องเที่ยว 

ปลาท่องเที่ยวมีลักษณะ มีหัวแหลม ๆ ลื่น ๆ ลำตัวมีเกล็ดเล็ก ๆ มีความยาวตัวโตสุดไม่เกิน1ฟุตหางเรียวยาวลักษณะคล้าย ๆ ปลาทรายเนื้อนุ่มหวานมัน

วันก่อนลงไปสงขลาแวะไปร้านมะม่วงเบา ใน อ.สิงหนคร ร้านออกแนวชนบท แต่บรรยากาศดี พูดได้ว่า #เป็นร้านรับแขก ของสิงหนคร เจ้าของร้าน 'พงศ์ศักดิ์ มากสุวรรณ์' ก็นำเสนอแกงปลาท่องเที่ยวมาด้วย 1 เมนู ชิมแล้ว เนื้อปลาแน่นมาก หวาน มัน อร่อย

เข้าใจว่าหน้าท่องเที่ยวของภาคใต้ ร้านอาหารย่านเกาะยอ ก็ต้องมีปลาท่องเที่ยวให้ได้รับประทานกับข้าว

พรุ่งนี้จะลงไปสงขลาอีกครั้ง วันที่ 10 พ.ย.ก็จะลงท่องทะเลสาบสงขลาไปกับ 'ทัวร์ทางไทย' ของวิชาญ ช่วยชูใจ เย็นคณะทัวร์ก็จะมาทานมื้อเย็นกันที่ร้านมะม่วงเบา นี้แหละ ผมขอฝากท้องไว้กับคณะทัวร์ด้วย

แหม…ว่าจะโทรไปบอกเจ้าของร้านว่า ขอเมนูต้มส้มปลาท่องเที่ยวกับส้มขาม ก็เองใจ แต่ถ้าไปถึงแล้ว ทัวร์ทางไทย ไม่มีเมนูต้มส้มปลาท่องเที่ยวกับส้มมะขาม จะขอสั่งต่างหากสักถ้วย 

ซดน้ำต้มส้มปลาท่องเที่ยวให้คล่องคอหน่อย…ได้แรงอกแหละ

เลขาอารีฯ พบเครือข่าย จป.ภาคใต้ รวมพลังสร้างความปลอดภัย ลดการประสบอันตรายในการทำงาน 

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.67) เวลา 15.00 น.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีปิดโครงการรวมพลังเครือข่าย เสริมสร้างศักยภาพให้ จป.กิจกรรม 'เครือข่าย จป. รวมใจ สร้างความปลอดภัย (วัน จป.)' โดยมี ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลออดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยภูมิภาค (ภาคใต้) หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลา ประธานชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานภาคใต้ (ตอนล่าง)

นายกสมาคมความปลอดภัยภาคใต้ คณะกรรมการชมรมฯ คณะกรรมการสมาคมฯ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรมเซาท์เทอร์นแอร์พอร์ท อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายอารี กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีปิดกิจกรรม 'เครือข่าย จป. รวมใจ สร้างความปลอดภัย (วัน จป.)' ภายใต้โครงการรวมพลังเครือข่าย เสริมสร้างศักยภาพให้ จป. ในวันนี้ ซึ่งจากการกล่าวรายงานของผู้จัดกิจกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ได้เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการในประเทศไทย มาเป็นระยะเวลา 39 ปีแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีบุคลากรผู้ดูแล รับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยในการทำงานโดยตรง แต่ต้องยอมรับว่าอุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน 

ซึ่งสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากระบบการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยที่ยังขาดประสิทธิภาพ บุคลากรขาดความรู้เกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันแก้ไข การประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุ ดังนั้น การดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) เป็นสิ่งสำคัญอันยิ่งใหญ่ของการพัฒนางานด้านความปลอดภัยในการทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืนการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีพฤติกรรมหรือจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในเชิงป้องกัน ให้ตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยตลอดทุกการกระทำและทุกสภาพแวดล้อมที่ดำรงอยู่ เพื่อก่อให้เกิดความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนในชาติ อันเป็นกำลังสำคัญ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของประเทศ ซึ่งความสำเร็จนี้ต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชนอย่างจริงจัง

นายอารี กล่าวต่อว่า ผมขอขอบคุณ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นรวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 9 สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสงขลา ชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานภาคใต้ (ตอนล่าง) สมาคมความปลอดภัยภาคใต้ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 สงขลา นายจ้าง ผู้บริหาร เจ้าของสถานประกอบกิจการ บุคลากรด้านความปลอดภัย เครือข่ายความปลอดภัย และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

‘ผู้กองเบนซ์’ โพสต์เฟซบุ๊ก ฟาดใส่ ‘ทนายเด’ กับเพื่อนทนาย ไลฟ์สด!! อย่างเมามัน เอาเรื่องเท็จมาใส่ความ ทำให้เสียหาย

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 67) ผู้กองเบนซ์ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยมีใจความว่า ...

4 ปีก่อน ผมเป็นคนนึงที่ได้รับผลกระทบจาก ‘ทนายเด’ กับทนายอีกคน เอาเรื่องเท็จมาใส่ความผมผ่าน live ของตัวเองอย่างเมามัน จนผมได้รับความเสียหาย ตอนนั้นผมเสียเปรียบทางสังคมอยู่ จึงไม่ได้ตอบโต้อะไร 

ตอนนี้กรรมตามทันมันแล้วครับ

เอวัง

‘เอกนัฏ’ ลุยกวาดล้าง!! โกดังโรงงานเถื่อน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา พบ!! ครอบครองวัตถุอันตราย เตรียมขยายผลรวบเจ้าของโรงงาน

(9 พ.ย. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งชุดตรวจการณ์สุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และ กรมควบคุมมลพิษ ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ตรวจค้นพื้นที่ของบริษัท เอวาย แอลพี จำกัด อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบธุรกิจให้เช่าโกดัง อาคารโรงงาน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบโรงงาน ภายในโกดังจำนวน 9 โกดัง ไม่มีชื่อ ไม่มีใบอนุญาต ลักลอบประกอบกิจการ และครอบครองวัตถุอันตราย 

นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบโรงงานบริษัท ฟู่อี้ อีเล็คทรอนิคส์ แอนด์ พลาสติก รีไซเคิล จำกัด ในบริเวณใกล้เคียงอีก 2 โรงงาน พบขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและฝ่าฝืนคำสั่งระงับการตั้งและประกอบกิจการโดยไม่รับอนุญาต

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ กรอ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.ได้อายัดเครื่องจักร และวัตถุดิบที่คาดว่าเป็นวัตถุอันตราย พร้อมดำเนินคดีกับชาวอินเดีย 1 ราย ที่เป็นผู้ดูแลโรงงาน และเจ้าของบริษัท เอวาย แอลพี จำกัด โดยจะมีการขยายผลดำเนินคดีไปยังเจ้าของโรงงานทั้งหมด

‘รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ’ ได้เน้นย้ำ กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยผ่านการขับเคลื่อนนโยบาย ‘สู้ เซฟ สร้าง’ สู้กับผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมายทำร้ายประชาชนและสร้างมลพิษ โดยปรับการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ เพื่อคืนสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประชาชนและชุมชน หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีฯ ฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘สว.นันทนา’ โพสต์เฟซ!! วอนสังคมให้มีสติ หลังโซเชียลขุดภาพคู่ ‘ทนายตั้ม’ มาดิสเครดิต

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 67) นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า 

ขอให้สังคมมีสติ และใช้วิจารณญาณ ต่อการขุดโพสต์ facebook เก่า มาดิสเครดิตกัน

ประการที่ 1 โพสต์เรื่องทนายตั้มรับโล่รางวัลนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีครึ่งมาแล้ว ตั้งแต่ 12 มีนาคม 2561 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะที่ดิฉันดำรงตำแหน่ง คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ไม่ได้ เป็นสว.

ประการที่ 2 การให้รางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของวิทยาลัยสื่อสารการเมือง เป็นการให้รางวัลทุกปี ปีละ 5-6 คน เป็นรางวัลที่มอบให้กับศิษย์เก่าที่มีผลงานดีเด่นในรอบปีนั้นๆ เช่นมีผลงานทางสังคม มีผลงานด้านวิชาชีพ เช่นได้รับรางวัลจากต่างปท. ช่วยเหลือส่วนรวมในด้านต่าง ๆ ฯลฯ

ซึ่งในปี2561 ทนายตั้ม ได้มีผลงานในเรื่องของการทำคดีหวย ช่วยให้เจ้าของหวยตัวจริงได้รับความเป็นธรรม ทางคณะกรรมการชมรมสื่อสารการเมืองเห็นว่า เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคม ก็มอบรางวัลให้พร้อมกับศิษย์เก่าอื่น ๆ อีก 5 คน

รางวัลของเรา คงไม่อาจจะรับประกันคุณภาพของผู้รับรางวัลว่า เขาจะรักษาคุณงามความดีไว้ตลอดไปตราบชีวิตจะหาไม่ แต่เราก็หวังว่า รางวัลจะช่วยเป็นเครื่องเตือนสติ ให้เค้ารักษาความดีงามนั้น แต่ถ้าเค้ารักษาไว้ไม่ได้ เราก็เสียใจ ผิดหวัง

อีกประการหนึ่ง ในขณะนี้ ดิฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริกแล้ว

จึงขอให้บรรดา ผู้ที่พยายามจะแชร์โพสต์นี้ ได้ใช้สติ ขณะเดียวกันประชาชนผู้รับสาร ก็ต้องมีวิจารณญาณ แยกแยะข้อมูล ว่าเรื่องการขุดโพสต์นี้ เป็นข่าวที่ควรค่าแก่การรับรู้ หรือเป็นเพียงข้อมูลที่ต้องการดิสเครดิตกัน

ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ดิฉันย่อมตั้งมั่นอยู่ในการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ย่อมไม่สนับสนุนคนที่ฉ้อฉล หลอกลวง และไม่เคารพกฎหมายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อปี 2561 ระบุว่า ‘ทนายตั้มเป็นผู้ที่นำเอา องค์ความรู้ด้านสื่อสารการเมือง ไปต่อยอด ความรู้ด้านกฎหมาย และได้นำเอาความรู้เหล่านั้น ไปใช้ต่อสู้เพื่อผู้บริสุทธิ์ โดยมิได้หวังผลตอบแทน นับเป็นบุคคลตัวอย่าง ที่สังคมไทยต้องการ’

‘หนูนา’ เดือดซัดใส่!! คนใจมืดบอด เอาความอยู่รอดของช้าง มาโจมตี ลั่น!! ฟ้องให้หมด พวกที่ชอบโจมตีว่าร้าย หยาบคายใส่ผู้อื่น

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 67) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ ‘หนูนา’ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า …

โพสต์นี้ดิฉันขอชี้แจงบางเรื่อง..ที่มีคนบางคนลงข้อมูล ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม

1. การนำสัตว์ป่าไปฝากเลี้ยงในสถานที่ของเอกชนทำได้..
ในเมื่อสัตว์นั้นอยู่ในสภาวะเสี่ยงถึงแก่เสียชีวิต และกรมอุทยานฯอาจไม่อยู่ในฐานะที่จะรองรับได้ ..

2. กรมอุทยานฯจะทำเป็นบันทึกข้อตกลงกับสถานที่ของเอกชน..
อย่างกรณีของกันยา กรมอุทยานฯก็ทำข้อตกลงกับภัทรฟาร์มในเรื่องการฝากเลี้ยงโดยสิทธิ์ของกันยายังเป็นของกรมอุทยานโดยสมบูรณ์

3. คนที่ลงเรื่องกันยาโดยไม่รู้จริง บอกว่าไม่เคยเห็นการนำสัตว์ป่าไปฝากให้กับเอกชนเลี้ยง..
ได้โปรดรับทราบด้วย กรณีของฟ้าใส ฟ้าแจ่ม กรมอุทยานฯก็ไปฝากสวนนงนุชเลี้ยงไปหาแม่รับที่นั่น

4. คุณรู้หรือไม่ว่าตอนกันยาอยู่ที่ภูวัว น้องท้องเสียเกือบทุกวันแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ทั้งที่เจ้าหน้าที่ที่นั่นก็ดูแลอย่างเต็มที่..
ถ้ากันยาไม่ได้มาที่ภัทรฟาร์มน้องคงตายตั้งแต่เดือนแรก

5. คนต้องใจมืดบอดขนาดไหนถึงเอาเรื่องโอกาสความอยู่รอดของกันยาในเวลานั้น มาโจมตีกัน

6. ที่ผ่านมาดิฉันไม่ให้ค่ากับคนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม…
แต่ ณ วันนี้ดิฉันพิจารณาแล้ว อาจจะฟ้องพวกที่ชอบเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่หยุดหย่อน ไม่สำนึก ฟ้องเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ให้พวกนี้ก่อให้เกิดความสับสนในสังคม ให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้องกับผู้คน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน

7. รวมทั้งพวกที่มีนิสัยโจมตีว่าร้ายหยาบคายผู้อื่น ถ้าฟ้องก็จะฟ้องหมด

8. และโปรดทราบว่าคนอย่างดิฉันเมื่อทำอะไรแล้วทำจริง ทำจนสุดทาง..

เชียงใหม่- เชียงใหม่- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและส่งต่อประสบการณ์ที่น่าประทับใจต่อผู้มาเยือน ภายใต้โครงการ 'Your Journey Our Priority' 
        
นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อแสดงออกถึงความพร้อมต้อนรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในฐานะประตูบานแรกที่จะเปิดรับผู้มาเยือน จึงได้จัดโครงการ 'Your Journey Our Priority' 

โดยการจัดจุดเช็กอิน จุดถ่ายภาพ ภายในอาคารผู้โดยสารหลายแห่ง โดยเฉพาะภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งการประดับตกแต่งได้ใช้วัสดุจากธรรมชาติและงานหัตถกรรมพื้นบ้านล้านนา อาทิ ร่มกระดาษสา โคมล้านนา เครื่องจักสาน ตลอดจนสีสันพรรณไม้ต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถสัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายล้านนาได้ตั้งแต่เดินทางมาถึง นอกจากนี้ยังได้จัดพื้นที่ Flower room บริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ สำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย และยังจัดพื้นที่ันันทนาการสำหรับเด็กในห้องโถงผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเพื่อให้ผู้โดยสารผ่อนคลายระหว่างรอเวลาขึ้นเครื่องด้วย

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ตกแต่งอาคารผู้โดยสาร ให้มีบรรยากาศแบบล้านนา พร้อมกับเปิดเพลงลอยกระทง เพื่อสร้างบรรยากาศสนุกสนาน และในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ยังได้จัดกิจกรรมการสอนทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ ณ บริเวณหน้าห้องขาเข้า อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และแจกกระทงให้ผู้โดยสารนำไปลอยตามสถานที่ต่าง ๆ อีกด้วย

‘แคนาดา’ สั่ง!! TikTok ให้หยุดดำเนินการ อ้าง!! เสี่ยงต่อความมั่นคง ของประเทศชาติ

(9 พ.ย. 67) รัฐบาลแคนาดาออกคำสั่งให้ TikTok ของบริษัท ByteDance ในจีน ยุติการดำเนินธุรกิจในประเทศ โดยมีการระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นผลจากการประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ การตรวจสอบดังกล่าวทำโดยชุมชนความมั่นคงและข่าวกรองของแคนาดา

โดยรัฐบาลได้ย้ำว่าจะไม่จำกัดการเข้าถึง TikTok สำหรับชาวแคนาดาทั่วไป แต่แนะนำให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้แอปโซเชียลมีเดีย 

นายฟรองซัวส์-ฟีลิป ชองปาญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมของแคนาดา ระบุว่า รัฐบาลต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงความเสี่ยงของการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในแง่ของการจัดการข้อมูลและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับประเทศต่างชาติ ซึ่ง TikTok นั้นได้ถูกห้ามใช้งานบนอุปกรณ์ของรัฐบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023

ในส่วนของ TikTok ได้ตอบโต้ว่า การปิดสำนักงานในแคนาดาจะส่งผลให้พนักงานหลายร้อยคนต้องถูกเลิกจ้างงานไป ทั้งนี้ บริษัทตั้งใจจะท้าทายคำสั่งนี้ในชั้นศาล  โดยในแถลงการณ์ บริษัท ByteDance ยืนยันว่าจะไม่มีการแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้กับรัฐบาลประเทศจีน แต่ความกังวลที่ว่า TikTok อาจถูกบังคับให้ส่งข้อมูลผู้ใช้ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯ ตั้งกฎหมายบังคับ ByteDance ขาย TikTok ภายในเดือนมกราคม 2025 มิฉะนั้นอาจถูกแบนในประเทศ

ปัจจุบัน TikTok ถูกแบนอย่างสมบูรณ์ในหลายประเทศ อาทิ อัฟกานิสถาน อินเดีย เนปาล และปากีสถาน และถูกห้ามใช้ในอุปกรณ์ที่ออกโดยรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลก

แม่ทัพภาคที่ 4 ให้การต้อนรับคณะ ส.ว. จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบแสดงความยินดี และร่วมหารือแก้ไขปัญหา ผลักดันการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.67) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล  หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะฯ ให้การต้อนรับสมาชิกวุฒิสภาจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้และคณะที่ปรึกษากรรมาธิการทหาร นำโดย นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา / นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภาจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล เข้าพบ พลโท ไพศาล หนูสังข์ เพื่อร่วมแสดงความยินดี ในการเข้ารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และร่วมพูดคุยหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นการใช้การศึกษาเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมไปถึงการสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

โอกาสนี้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวขอบคุณ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา / นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ และคณะฯ ที่ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี โดยตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับคณะ แต่ขณะเดียวกัน ตนต้องคิดให้มากขึ้นและทำให้มากขึ้น ให้สมกับที่ทุกท่านได้มาร่วมแสดงความยินดี และรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สำหรับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จากประสบการณ์การทำงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ทำให้เข้าใจและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา โดยใช้กระบวนการสร้างการรับรู้ 2 P คือ Perception (การรับรู้) และ Process (กระบวนการ) เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน ภาคประชาสังคม รวมไปถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นฐานนำไปสู่การสร้างสันติสุขในพื้นที่

นอกจากนี้ คณะสมาชิกวุฒิสภาจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะที่ปรึกษากรรมาธิการทหาร ยังได้ร่วมหารือและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเน้นการส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนกลุ่มเปราะบาง ทั้งในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรเร่งรัด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างคนดีสู่สังคมในอนาคต รวมทั้งเน้นการพูดคุยพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความเข้าใจอันดี ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

เปิดเส้นทางรัก ‘ทนายตั้ม - ปทิตตา’ รักกันมา 25 ปี สมัยจีบกัน คุยข้ามวัน 2 ทุ่ม ถึง ตี 2 ก่อนได้ครองคู่

(9 พ.ย. 67) ย้อนเรื่องราวเส้นทางความรัก 25 ปี ของ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด กับ ภรรยาคนสวย คุณเดือน ปทิตตา เบี้ยบังเกิด ในรายการ 'ที่รัก เสือสิงห์ กระทิงแซ่บ' กับชื่อตอน เปิดคดีรัก 25 ปี เป็นเมียทนายต้องอดทน!! ทำคดีมามากมาย แต่ ทนายตั้ม ษิทรา กลับแพ้ให้คดีของ เดือน ปทิตตา ภรรยาคนสวยสุดแซ่บนี่เอง แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ภรรยาคนนี้ต้องสู้และอดทนแค่ไหน?

ทนายตั้มเล่าว่า รักกันมา 25 ปี ช่วงแรกไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องครอบครัวให้ใครรู้เลย แต่ช่วงหลัง ๆ พอทนายตั้มเริ่มมี FC มากขึ้น คุณเดือนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ก็เลยต้องแสดงตัวว่า ทนายตั้มมีครอบครัวแล้วนะ

“เจอกันครั้งแรกในงานประกวดนางนพมาศ ตั้งใจจะไปจีบเพื่อนของคุณเดือน แต่เพื่อนเขามีแฟนแล้ว ก็เลยเบนเข็มไปจีบเขาแทน โดยโทรไปหาเขาหลายวันติดต่อกัน จนคุณเดือนเริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะเริ่มไม่ได้ถามเรื่องเพื่อนแล้ว แต่ถามเรื่องคุณเดือนอย่างเดียวเลย จนฝ่ายคุณเดือนต้องถามว่า ‘พี่ตั้มคิดอะไรกับหนูหรือเปล่า’ จะได้ทำตัวถูก ก็เลยบอกว่า คุยกันตั้งแต่ 2 ทุ่ม ถึง ตี 2 ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ” ทนายตั้มย้อนเล่า

แต่ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะคุณเดือนเป็นลูกหลานบ้านนายตำรวจใหญ่ของจังหวัด จะเข้าไปจีบก็เหมือนเข้าถ้ำเสือ จนต้องเข้าทางคุณย่าแทน มาถึงช่วงที่หัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังจะจบ ม.6 ที่บ้านจะส่งไปเรียนเมืองนอก แต่ทนายตั้มเชื่อว่าถ้าคุณเดือนไปเมืองนอกจะต้องเลิกกันแน่นอน ก็เลยตัดสินใจ ไปที่บ้านเข้าไปขอลูกสาวเขาเลย ตอนนั้นคุณเดือนเพิ่งจบ ม.6 ตัวเองก็เพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยปี 2

คุณเดือนบอกว่า ช่วงที่คบกับทนายตั้มแรกๆ ลำบากมาก ทนายตั้มเรียน ม.ราม ได้เงินวันละ 200 บาท บางวันได้ 50 บาท ลงเรือ เดินเท้า ทุกอย่างผ่านมาด้วยกันหมดแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ เรามั่นใจว่าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเขาเป็นคู่ชีวิต เรารู้ว่าเขาทำงานเสี่ยง ๆ เพื่อครอบครัวทุกอย่าง

คุณเดือนยังถูกถามคำถามในรายการว่า จริงหรือไม่ที่ เป็นเมียทนายตั้มต้องอดทน เพราะ ทนายตั้ม HOT เกินต้าน จนเมียหัวจะปวด ซึ่งคุณเดือนบอกว่า สำหรับสามีคนนี้ ช่วงแรก ๆ ต้องเช็กทุกอย่าง เพราะเขาชอบตีเนียน บอกว่าคุยเรื่องงาน พอทนายตั้มหลับ ก็จะต้องเอามือถือมาเช็ก เช้ามาถ้าหน้านิ่วคิ้วขมวด แปลว่าเจออะไรแปลก ๆ แน่นอนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแชตคุยที่ไม่เหมือนลูกความกับทนายคุยกัน เช่น “กินข้าวหรือยังคะ” อะไรแบบนี้

ทนายตั้มก็ตอบว่า จริง ๆ เป็นเรื่องงาน เป็นบรรดา FC ที่เขาติดตามเรา บางคนส่งอาหาร ส่งของมาให้กินที่สำนักงานเลยก็มี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top