Friday, 4 July 2025
NewsFeed

มักส์ชู #EndtheFed หนุนทรัมป์แทรกแซง'แบงก์ชาติ' ให้ปธน.คุมธนาคารกลางสหรัฐด้วยตัวเอง

อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla, X และ SpaceX ได้แสดงการสนับสนุนให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทในการกำกับดูแลธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเป็นอิสระขององค์กรนี้ได้

เมื่อวันที่ (8 พ.ย.67) ที่ผ่านมา มัสก์ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X โดยให้การสนับสนุนต่อข้อความของ ไมค์ ลี วุฒิสมาชิกจากรัฐยูทาห์ ที่กล่าวว่า “องค์กรสำคัญต่าง ๆ ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดี เพื่อสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ตัวอย่างที่เบี่ยงเบนไปจากแนวทางนี้” พร้อมติดแฮชแท็ก #EndTheFed เพื่อเสนอให้ยกเลิกหรือปรับปรุงการทำงานของธนาคารกลาง

ด้าน เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed เคยกล่าวเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ว่าตนจะไม่ลาออกจากตำแหน่งแม้ทรัมป์จะเรียกร้อง ซึ่งเป็นท่าทีชัดเจนที่อาจสร้างแรงกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประธาน Fed กับประธานาธิบดีที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่

การเผชิญหน้าครั้งนี้อาจเป็นประเด็นใหญ่ของทรัมป์ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของเขา หากย้อนกลับไปในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก ทรัมป์ได้แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 ทรัมป์และพาวเวลมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการผ่อนปรนค่าเงินดอลลาร์

นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินนโยบายการเงินที่ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งช่วยคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือในการควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ แต่หากเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ก็มีความเป็นไปได้ที่นโยบายการลดอัตราดอกเบี้ยอาจถูกชะลอ

ก่อนหน้านี้ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ทรัมป์มักกล่าวถึงความต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของ Fed หากเขากลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง โดยเขากล่าวเมื่อเดือนสิงหาคมว่า “ผมเชื่อว่าประธานาธิบดีควรมีบทบาทในการกำหนดทิศทาง ผมเองก็มีประสบการณ์ในการสร้างผลกำไรและความสำเร็จ และผมคิดว่าผมมีวิจารณญาณที่ดีกว่าในบางเรื่องมากกว่าธนาคารกลาง”

สรรพสามิต ต้อนรับ กมธ.ฯ เห็นพ้องเดินหน้าเพิ่มโอกาส ลดข้อจำกัด สุราพื้นบ้าน-สุราชุมชน ดันสู่ Soft Power ไทย

กรมสรรพาสามิต นำโดย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหาร ให้การต้อนรับคณะกรรมธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานกรรมาธิการ ซึ่งมีสาระสำคัญเพื่อกำหนดกรอบการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตผลิตสุรา จะต้องมีการส่งเสริมการประกอบอาชีพของผู้ประกอบการรายย่อย ให้นำสินค้าเกษตรในท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นสุราพื้นบ้านที่มีมูลค่าสูงขึ้น สร้างรายได้ให้ชุมชน และสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม

ดร. เผ่าภูมิ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและคณะกรรมาธิการฯ เห็นพ้องในการสนับสนุนการลดข้อจำกัดต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้นำผลผลิตทางการเกษตรในท้องถิ่น มาแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นสุราพื้นที่บ้าน-สุราชุมชน ซึ่งนอกจากสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาสุราชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ให้เป็น Soft Power ของไทยได้ ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้พิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการผลิตสุราที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้มีการแก้ไขปลดล็อค เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็กที่มีศักยภาพสามารถขยายกำลังการผลิตเป็นขนาดกลางได้ รวมถึงได้มีการยกเลิกเงื่อนไขการกำหนดขนาดกำลังการผลิตขั้นต่ำและยกเลิกการกำหนดทุนจดทะเบียนสำหรับเบียร์ ทำให้มีโรงอุตสาหกรรมสุราพื้นบ้านขนาดกลาง และโรงอุตสาหกรรมเบียร์ ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) ที่มีมาตรฐานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตกำลังจะปรับปรุงเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขอใบอนุญาตผลิตสุราได้สะดวกขึ้นมากขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้ในอีก 3 ประเด็น โดยยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการในการควบคุมคุณภาพของสุราเพื่อมิให้มีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกมาสู่ผู้บริโภค รวมถึงการสร้างสมดุลเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย

ด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ กล่าวว่า กรรมาธิการในคณะนี้ประกอบด้วยผู้แทนทั้งจากภาคการเมือง ราชการ นักวิชาการ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันพิจารณากฎหมาย และที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนผู้ประกอบการสุราชุมชน ที่จังหวัดชัยภูมิและนครราชสีมา จึงได้รับนำปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนที่อยากจะประกอบอาชีพให้ถูกต้อง มาใช้ปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัย และเหมาะสมกับบริบทของการส่งเสริมสุราชุมชนในปัจจุบันตามนโยบายของรัฐบาลมากขึ้น โดยการแก้พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ จะเป็นเหมือนหลักประกันทางโอกาสของกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ว่าจะสามารถเข้าถึงสิทธิในการเป็นผู้ผลิตสุราได้ เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่แค่การสร้างอาชีพเท่านั้น แต่จะเป็นการยกระดับการแปรรูปสินค้าเกษตร ให้ครัวเรือนเกษตรกรมีทางเลือกในการสร้างรายได้ที่มากขึ้น และการส่งเสริมวัฒนธรรมสุราชุมชนที่อยู่กับสังคมมายาวนานนี้ จะสร้างเอกลักษณ์ให้แต่ละพื้นที่ ส่งต่อการสร้างเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอาหารต่อไป

คนจีนแห่ซื้อ ผงาดสินค้าขายดี งานโชว์นานาชาติ CIIE ที่เซี่ยงไฮ้

(11 พ.ย.67) ทุเรียนสดรสชาติหวานละมุนกองพะเนินถูกส่งตรงจากไทยสู่งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 7 ในมหานครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน โดยกลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ได้ดึงดูดผู้บริโภคและผู้ค้าเข้าเยี่ยมชมบูธผลไม้กันอย่างคึกคัก

ไทยนั้นเป็นประเทศแรกที่ได้รับอนุญาตส่งออกทุเรียนตรงสู่จีนภายใต้ความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศ ทำให้ทุเรียนไทยครองส่วนแบ่งตลาดจีนเป็นอันดับหนึ่ง และปีนี้ 'ราชาแห่งผลไม้' เป็นดาวเด่นของงานมหกรรมฯ อีกครั้งด้วยสารพัดผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ทุเรียนสดจนถึงของหวานหลายเมนู

เฝิงจี้เฉิงจากบริษัทค้าขายทุเรียนสดแห่งหนึ่งเผยว่าทุเรียนที่จัดแสดงมาจากฐานการผลิตหลักในไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งมาจากไทย พร้อมเสริมว่าบริษัทเพิ่มความร่วมมือกับหุ้นส่วนในไทย เพื่อตอบสนองอุปสงค์ของตลาดทุเรียนในจีน ซึ่งเติบโตที่อัตราร้อยละ 20-30 ในปัจจุบัน

ด้านเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ทุเรียนสดหลายสายพันธุ์ภายใต้แบรนด์ซีพี เฟรช ซีเล็คชัน (CPFresh Selection) ทั้งหมอนทอง หนามดำ แมวภูเขา ชะนี ก้านยาว และพวงมณี เพื่อผู้บริโภคชาวจีนได้มีตัวเลือกหลากหลาย ท่ามกลางโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในตลาดจีน

เฉาจงหย่ง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ทุเรียนของบริษัทค้าขายผลไม้แห่งหนึ่ง ซึ่งเข้าร่วมงานมหกรรมฯ ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 เผยว่างานนี้ช่วยให้บริษัทได้เจรจาหารือกับบรรดาหุ้นส่วนจากไทยและประเทศอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดความร่วมมือตามมาและการพัฒนาบริษัทอย่างต่อเนื่อง

บริษัทของเฉาได้ร่วมมือกับบริษัท ไทย มงกุฎ กรุ๊ป จำกัด ในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานแปรรูปทุเรียนขนาดใหญ่ที่สุด นำสู่การจ้างงานและพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยมีการจ้างงานคนท้องถิ่นมากกว่า 200 คน ส่งออกทุเรียนและผลไม้อื่น ๆ ราว 5,000 ตู้คอนเทนเนอร์ และจ่ายภาษีกว่า 40 ล้านบาท ในปี 2023

อนึ่ง แม้งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 5-10 พ.ย. ได้ปิดฉากลงแล้ว แต่กลิ่นทุเรียนไทยยังคงหอมฟุ้งดึงดูดใจผู้บริโภค และความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างสวยงาม

‘ลิซ่า' ร่วมแสดง 'The White Lotus' ซีซั่น 3 เผยโฉมในซีรีส์ระดับโลกพร้อมสถานที่ถ่ายทำในไทย

(11 พ.ย.67) HBO และ Max เปิดตัวซีซั่นใหม่ของ The White Lotus พร้อมเผยภาพแรกจากสถานที่ถ่ายทำในไทย และภาพแรกของ 'ลิซ่า' ที่ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

ซีรีส์ Anthology ที่โด่งดังที่สุดของ HBO และ Max The White Lotus กลับมาพร้อมกับซีซั่น 3 กับภาพแรกจากสถานที่ใหม่ในประเทศไทย

ในคลิปรวมผลงานของ HBO และ Max ที่โชว์ผลงานดัง ๆ ที่จะฉายในปี 2024 นอกจาก The White Lotus แล้วก็ยังมีทั้ง Peacemaker Season 2 และ Dune: Prophecy และ The Righteous Gemstones ด้วย

The White Lotus คว้ารางวัล Emmy ถึง 15 รางวัล สร้างโดย ไมค์ ไวท์ โดยทุกซีซั่นจะเล่าเรื่องเหตุฆาตกรรมในโรงแรมหรูหราที่เป็นชื่อของซีรีส์ แต่ละปีจะเปลี่ยนสถานที่, เปลี่ยนเหตุการณ์ และตัวละคร แต่จะมีนักแสดง และบางตัวละคร ที่ร่วมแสดงในหลาย ๆ ซีซัน โดย The White Lotus จะเน้นที่ปัญหาครอบครัว, ความขัดแย้งในหมู่เครือญาติ และคดีฆาตกรรม

The White Lotus ปีนี้จะมี วอลตัน กอกกินส์ รับบทนำ รวมด้วย มิเชล มอนาแฮน, แครี่ คูน, เจสัน ไอแซคส์, เลสลี่ บิบบ์, พาร์คเกอร์ โพซีย์, สก็อตต์ กลินน์, แพทริค ชวาร์ซเน็กเกอร์ และอีกมากมาย โดย นาตาชา รอธเวลล์ จะกลับมารับบทเดิมจากซีซั่น 1

นอกจากนักแสดงหลักแล้ว ซีซั่น 3 ของ The White Lotus ยังจะได้เห็นการแสดงของ ลิซ่า จากวง BLACKPINK ซึ่งเป็นการปรากฏตัวในงานแสดงครั้งแรกของเธอในซีรีส์ระดับโลกนี้ด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบรางวัลนิสิตนักศึกษา ในการประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน'

วันนี้ (11 พ.ย.67) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัลการประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน' โดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นพวัฒน์ อารยางกูร รองจเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน' เพื่อคัดเลือกแนวความคิดในการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมในการให้บริการประชาชน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่มีความสามารถด้านสถาปัตยกรรม เข้าร่วมประกวดเสนอแนวความคิดในการออกแบบ โดยมีเอกลักษณ์และความยั่งยืน ในระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 20 กันยายน 2567 และได้ประสานความร่วมมือกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการคัดเลือกผลงานที่ได้รับรางวัล โดยมีผู้ที่ได้รับรางวัล ดังนี้

- รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ นายสิวรัฐ ขวัญจันทร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ นายวัฒนา พรมเสน , นายณัฐปคัลป์ ศรีทรัพย์ , นายคมสัน กลั่นเกษร ,นายชลัมพล ทองแย้ม และนางสาวปวริศา พรมใต้ร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย
- รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ นางสาวพฤกษฌา ทองอ่วมใหญ่ , นางสาวบัณฑิตา ศิรินิคม , นายอนันดา วัฒนา , นางสาวทิพจุฑา ทวิชศรี และ นายทวีศักดิ์ดา หงอเทียด จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
- รางวัล POPULAR VOTE เงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ นายวัชรศักดิ์ แรมประชา , นายวรภพ ผิวนวล , นายยุทธพิชัย อ่องลออ และ นายสุรพงษ์ บัวประดิษฐ์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย

ทั้งนี้ การประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน' นั้น นับเป็นก้าวแรกในการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการออกแบบสถานีตำรวจเพื่อให้บริการแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งผลงานดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นต้นแบบในการก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศต่อไป

จีนเกินดุลการค้า 170 ประเทศ!! มูลค่าพุ่ง 7.85 แสนล้านดอลล์ จ่อแตะ 1 ล้านล้านสิ้นปีนี้ จับตาทรัมป์ตอบโต้แน่

(11 พ.ย.67) บลูมเบิร์กรายงานว่าดุลการค้าของจีนกำลังจะทำลายสถิติใหม่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักมากขึ้น โดยความไม่สมดุลทางการค้านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับโดนัลด์ ทรัมป์  

รายงานระบุว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2024 จีนมียอดเกินดุลการค้ากว่า 785,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26.9 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าจีนอาจเกินดุลแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.32 ล้านล้านบาท) หากแนวโน้มยังคงเติบโตไปจนถึงสิ้นปีนี้

แบรด เซ็ตเซอร์ นักวิชาการอาวุโสจากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้ความเห็นว่า แม้ว่าราคาสินค้าส่งออกของจีนจะลดลง แต่ปริมาณการส่งออกกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จีนจึงสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการส่งออกอย่างแข็งแกร่ง

ภาวะเกินดุลการค้าของจีนที่เพิ่มขึ้นนี้ก่อให้เกิดแรงกดดันจากนานาประเทศ เช่น สหรัฐภายใต้รัฐบาลทรัมป์ที่อาจขึ้นกำแพงภาษีเพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากจีน นอกจากนี้ หลายประเทศทั้งในอเมริกาใต้และยุโรปยังเริ่มกำหนดภาษีสินค้าจีน เช่น เหล็กและรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) แล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทต่างชาติต่างถอนการลงทุนจากจีนตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนลดลงต่อเนื่องในช่วง 9 เดือนแรกของปี และหากยังคงลดลงเรื่อย ๆ ก็จะนับเป็นปีแรกที่เงินทุนไหลออกมากกว่าทุกปีนับตั้งแต่มีการบันทึกในปี 1990

รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่บริษัทต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน คณะมนตรีรัฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประกาศแผนสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน รวมถึงการส่งเสริมการค้า

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา บริษัทจีนได้เพิ่มศักยภาพในการส่งออก แม้ภายในประเทศเศรษฐกิจจะชะลอตัว และมีการใช้สินค้าภายในประเทศทดแทนการนำเข้ามากขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้อุปสงค์ต่อการนำเข้าลดลง

ดุลการค้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถือเป็นการเกินดุลมากเป็นอันดับสาม โดยดุลการค้าสูงสุดเคยเกิดขึ้นในปี 2015 และเมื่อคำนวณในสกุลเงินหยวน จีนมีดุลการค้าเกินดุลที่ 5.2% ของ GDP ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

ตั้งแต่ต้นปี 2024 จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.4% จากปีก่อนหน้า เกินดุลกับสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มขึ้น 9.6% และเกินดุลกับชาติอาเซียนเพิ่มขึ้นเกือบ 36% 

ปัจจุบัน จีนเกินดุลการค้ากับประเทศเกือบ 170 ประเทศ ซึ่งสูงสุดตั้งแต่ปี 2021 และแนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สงครามสกุลเงินอาจปะทุขึ้นได้ ธนาคารกลางอินเดียเผยว่าจะพร้อมอ่อนค่าเงินรูปีหากจีนเลือกตอบโต้สหรัฐด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลง

หากเงินหยวนอ่อนลงต่อไปจะทำให้สินค้าส่งออกของจีนมีราคาถูกลง ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างจีนกับอินเดียอาจเกินดุลเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยปีนี้จีนเกินดุลการค้ากับอินเดียกว่า 85,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.92 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า และมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว

ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊ก 10 พ.ย. 67 ถึงเหตุการณ์เมื่อ 16 ปีก่อน

เมื่อวันที่ (10 พ.ย.67) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า นายกฯแพทองธารกำลังจะออกเดินทางไปประชุมเอเปกที่เปรูคืนนี้ ทำให้ผมนึกย้อนหลังเหตุการณ์ไป 16 ปี

20 พ.ย. 2551 นายกฯสมชาย วงสวัสดิ์ มีกำหนดออกเดินทางไปประชุมเอเปกที่เปรู ผมเป็นโฆษกรัฐบาลต้องร่วมคณะไปด้วย เตรียมตัวพร้อม จัดกระเป๋าใบใหญ่สำหรับ 7 วัน ออกจากบ้านมุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ

รถจอดหน้าอาคารรับรอง มีตำรวจยืนอยู่ เห็นผมก็รีบพาไปข้างใน ขอเอากระเป๋าลงก่อนก็ไม่ได้ บอกว่าท่านนายกฯรอ

ห้องรับรองมีนายกฯสมชาย อ.ชูศักดิ์ เลขาธิการนายกฯ และอีก 2-3 คน

ตอนนั้นกลุ่มพันธมิตรฯกำลังชุมนุมใหญ่ ยึดทำเนียบรัฐบาล ทำให้เราเป็นรัฐบาลชุดแรกที่ไม่ได้เข้าทำเนียบแม้นาทีเดียว

นายกฯสมชายให้ผมวิเคราะห์สถานการณ์ ผมก็ร่ายเป็นฉากๆ จนถึงใจความสำคัญคือ ท่านบอกว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียด อยากให้ผมอยู่ช่วยรับมือการชุมนุม ในที่สุดผมก็ได้แค่ไปส่ง กระเป๋าก็ไม่ต้องเอาลง ตรงกลับนนทบุรี

นอกจากเป็นโฆษกนอกทำเนียบ ยังแถมเป็นโฆษกตกเครื่องบินด้วย

รุ่งขึ้นก็เดินสายให้สัมภาษณ์เรื่องม็อบ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักโฆษกเกือบ 80 ชีวิต หอบหิ้วตามกันมาอยู่ทำเนียบชั่วคราวที่สนามบินดอนเมือง ไม่มีอุปกรณ์ครุภัณฑ์ใดๆ มีแต่ตัวกับหัวใจและโต๊ะเก้าอี้ ผมไปซื้อตู้เย็น หม้อหุงข้าว และข้าวสารมาไว้ให้ เพราะเป็นการย้ายฉุกเฉิน ดอนเมืองตอนนั้นปิดทำการ ไม่มีอาหารขาย

จัดเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ทุลักทุเลบนเส้นทางการเมือง เห็นนายกฯแพทองธารกำลังจะเดินทางในวาระเดียวกันเลยนึกถึง เอามาเล่าสู่กันฟัง 

เหลือเชื่อ 16 ปีผ่านไป คนกลุ่มเดียวกันยังใช้ประเด็นเรื่องเขตแดนไทย - กัมพูชา โจมตีรัฐบาลอยู่เหมือนเดิม

ไบเดนอัดงบช่วยยูเครน ก่อนหน้าทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

(12 พ.ย.67) นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า ทำเนียบขาวจะเร่งใช้เงิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 205,920 ล้านบาท ที่เหลืออยู่เพื่อสนับสนุนยูเครน ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนมกราคมปีหน้า พร้อมกับเตือนถึงความเสี่ยงที่สหรัฐอาจจะยุติการให้การสนับสนุนยูเครน

ซัลลิแวนกล่าวว่า คาดว่าประธานาธิบดีไบเดนจะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับประเด็นนโยบายต่างประเทศที่สำคัญเมื่อเขาพบกับทรัมป์ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เพื่ออธิบายให้ประธานาธิบดีทรัมป์ทราบว่าเขามองสิ่งต่าง ๆ อย่างไร และประธานาธิบดีทรัมป์คิดอย่างไรเกี่ยวกับการจัดการประเด็นเหล่านี้เมื่อเข้ารับตำแหน่ง

ซัลลิแวนยังกล่าวอีกว่า เขาคาดหวังถึงความคืบหน้าในความพยายามในการยุติการสู้รบในฉนวนกาซาและเลบานอนตอนใต้ และปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไว้

“ในบางจุด รัฐบาลอิสราเอลต้องการทำข้อตกลงเพื่อให้พลเมืองของตนกลับบ้าน” เขากล่าว “ผมไม่คิดว่าอิสราเอลจะทำข้อตกลงนั้นเพื่อตอบสนองต่อการเมืองของอเมริกัน แต่เป็นไปเพื่อพยายามรักษาความปลอดภัยให้กับอิสราเอล และผมคาดหวังว่าเราจะเห็นความคืบหน้าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”

เมื่อถูกถามถึงการตอบสนองของอิสราเอลต่อจดหมายร่วมของรัฐมนตรีต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของสหรัฐที่เรียกร้องให้อิสราเอลปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซัลลิแวนกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ เราจะตัดสินใจว่าพวกเขาทำความคืบหน้าไปมากเพียงใด และเราจะตอบสนองต่อสิ่งนี้อย่างไร

ทรัมป์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งกล่าวว่าชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันเป็น “ชัยชนะครั้งใหญ่” และกล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับทรัมป์ 3 ครั้ง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

การสร้างจุดสมดุลระหว่างการควบคุมและการห้าม: บทเรียนจากนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลก

อังกฤษเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ทั่วโลกที่มีมาตรการควบคุมการใช้และการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศต้นแบบที่สนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนการสูบบุหรี่ หรือเพื่อลดหรือเลิกการสูบบุหรี่ ทั้งนี้ นโยบายนี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ทำให้อัตราผู้สูบบุหรี่ลดลงอย่างมาก จาก 17% เหลือเพียง 11% ในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปี อย่างไรก็ตาม การใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นได้นำมาสู่ความกังวลในเรื่องการติดบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษพิจารณามาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น

รายงานของ The Times ประเทศอังกฤษเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณานโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบตามมาโดยไม่ตั้งใจ เช่น เกิดการซื้อขายกันในตลาดมืดหรือตลาดใต้ดินเพิ่มขึ้น Caitlin Notley จากมหาวิทยาลัย East Anglia เตือนว่ามาตรการที่เข้มงวดเกินไปอาจทำให้ผู้สูบบุหรี่สับสน และไม่สามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพให้กับตนเองได้ ขณะที่ Christopher Snowdon จากสถาบัน Institute for Economic Affairs ชี้ว่าการเพิ่มภาษีและการจำกัดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจนำไปสู่การค้าใต้ดินที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียก็เป็นได้

ในอีกด้านหนึ่ง การควบคุมในระดับที่สมดุลระหว่างการส่งเสริมการเลิกบุหรี่และการป้องกันเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้ายังถือเป็นแนวทางที่เหมาะสม อาทิ สหรัฐอเมริกาที่มีแนวทางการควบคุมแบบสมดุล โดยข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจเยาวชนแห่งชาติ (National Youth Tobacco Survey) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ปี 2024 พบว่าอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินในกลุ่มนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยการสูบบุหรี่แบบเดิมลดลงอย่างมากจนแทบไม่มีแล้ว ขณะที่การใช้บุหรี่ไฟฟ้าลดลงกว่า 70% จากจุดสูงสุดในปี 2019 แสดงให้เห็นว่ามาตรการควบคุมที่รอบคอบสามารถลดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนได้

ในขณะที่ประเทศไทยซึ่งใช้นโยบายห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด ส่งผลให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายทั้งที่สามารถควบคุมได้ด้วย พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ทำให้มาตรการควบคุมที่ใช้อยู่กับบุหรี่แบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้ได้กับบุหรี่ไฟฟ้าเลย ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดภาพและข้อความเตือน การห้ามโฆษณา หรือการเก็บภาษี ซึ่งเป็นมาตรการที่ธนาคารโลก หรือ World Bank ระบุว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดในการควบคุมการบริโภคยาสูบ ตามกรอบยุทธศาสตร์ MPOWER นอกจากนี้ การห้ามนี้ยังทำให้เกิดตลาดมืดในประเทศ เกิดปัญหาการลักลอบซื้อขายที่ทำให้รายได้รัฐสูญหายจำนวนมากจากจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นเกือบถึง 1 ล้านคนในปัจจุบัน

ในหลายประเทศ การเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มถูกนำมาใช้เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ยกตัวอย่างประเทศจีน ซึ่งจากรายงานล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2022 เผยว่ารัฐบาลจีนกำลังพิจารณาการเก็บภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า โดยมีการกำหนดอัตราภาษีการบริโภคที่ 36% สำหรับการผลิตและนำเข้า และอัตราขายส่งที่ 11% เพื่อเพิ่มรายได้รัฐในขณะที่ยังคงควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ เช่นเดียวกับสาธารณรัฐมอลตา ประเทศที่เล็กที่สุดในสหภาพยุโรป หนังสือพิมพ์มอลตาทูเดีย์รายงานว่ารัฐบาลจะเริ่มเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะมีผลให้ราคาของน้ำยานิโคตินราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 1.30 ยูโรหรือ 26% และจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 ยูโรจากภาษีนี้ในปีแรก ขณะที่มาเลเซียเองก็กำลังดำเนินการในลักษณะเดียวกัน โดยมีแผนดึงภาษีบุหรี่ไฟฟ้ามาใช้สนับสนุนการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน

การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างสมดุลและรอบคอบ แทนที่จะห้ามโดยสิ้นเชิง จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการปกป้องเยาวชน ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันยังช่วยควบคุมการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้น

จีนปล่อยจรวด 'ลี่เจี้ยน-1 วาย5' ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในครั้งเดียว

(12 พ.ย.67) จีนปล่อยจรวดขนส่งเชิงพาณิชย์ลี่เจี้ยน-1 วาย5 (Lijian-1 Y5) ตอน 12.03 น. ของวันจันทร์ (11 พ.ย.) ตามเวลาปักกิ่ง จากเขตนำร่องนวัตกรรมการบินและอวกาศเชิงพาณิชย์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน พร้อมส่งดาวเทียม 15 ดวง อาทิ ดาวเทียมจากตระกูลจี๋หลิน-1 เกาเฟิน (Jilin-1 Gaofen) ตระกูลอวิ๋นเหยา-1 (Yunyao-1) และตระกูลซีกวง-1 (Xiguang-1) รวมทั้งดาวเทียมสำรวจระยะไกลสำหรับโอมาน ขึ้นสู่วงโคจรที่กำหนดไว้

ซีเอเอส สเปซ (CAS Space) บริษัทการบินอวกาศเชิงพาณิชย์ที่จัดตั้งโดยสถาบันเครื่องกล สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ได้พัฒนาจรวดขนส่งลี่เจี้ยน-1 โดยจรวดรุ่นนี้ขึ้นบินเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2022 และปัจจุบันปล่อยดาวเทียมรวม 57 ดวงในภารกิจการบิน 5 ครั้ง

จรวดลี่เจี้ยน-1 มีความยาว 30 เมตร มีน้ำหนักตอนออกตัว 135 ตัน และมีแรงขับขณะออกตัว 200 ตัน สามารถขนส่งอุปกรณ์บรรทุก (payload) หนัก 1.5 ตันไปยังวงโคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ระยะทาง 500 กิโลเมตร หรือขนส่งอุปกรณ์บรรทุก 2 ตันสู่วงโคจรต่ำของโลกได้

จรวดขนส่งลี่เจี้ยน-1 วาย5 ใช้เพย์โหลด แฟริง (payload fairing) หรือฝาครอบส่วนปลายแหลมด้านหน้าจรวดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.35 เมตร เพื่อใช้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับรองรับดาวเทียม อีกทั้งสามารถปรับการกำหนดค่าเพย์โหลด แฟริงได้ตามความจุอุปกรณ์บรรทุก และข้อกำหนดด้านพื้นที่ของดาวเทียมในภารกิจในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top