Monday, 17 June 2024
News

"ทหารจิตอาสา” เข้าดำเนินการรื้อถอน และขนย้ายสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย จากผลกระทบจากพายุลมกระโชกแรง ในพื้นที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่

เมื่อ 28 ก.ค. 64 พ.อ.ธนพล นุ้ยสุข ผบ.ร.15 พัน.1/ผอ.ศบภ.ร.15 พัน.1 จัดกำลังพลชุดจิตอาสาพระราชทานของหน่วย ลงพื้นที่เข้าดำเนินการช่วยเหลือและขนย้ายสิ่งของ รวมถึงรื้อต้นไม้ที่ล้มทับใส่บ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ทำให้มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวน 25 หลังคาเรือน โดยหน่วยได้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่และได้เข้าดำเนินการรื้อถอนและขนย้ายสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

"IWRM" นำน้ำดื่ม 2,400 ขวด พร้อมกับจิตอาสาทำดี นำต้นกล้า "ฟ้าทะลายโจร" ถวาย "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564  ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์  เป็นผู้แทน รับมอบน้ำดื่มจำนวน 2,400 ขวด จาก "นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์" กรรมการผู้จัดการ บ.อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) / นายวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้ประสานงานพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีชี), พร้อมด้วย สะพานบุญ นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการบริหาร นสพ.สยามโฟกัสไทม์ ที่ปรึกษา สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม/ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร ผอ.จังหวัดสมุทรปราการ (นสพ.สยามโฟกัสไทม์)เพื่อนำไปมอบส่งต่อยัง "นางสาวรุ่งนภา แก้วธรรม" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เนื่องด้วยในปัจจุบันมีประชาชนที่ต้องกักตัว และผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 เป็นจำนวนมากที่ขาดแคลนน้ำดื่มบริโภค และเครื่องอุปโภค เพราะไม่สามารถออกนอกบ้านไปทำงานประกอบอาชีพได้ตามปกติ 

การได้รับน้ำดื่มในครั้งนี้ยังเป็นขวัญกำลังใจให้บุคลากรทุกภาคส่วน นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส หน่วยงานของรัฐ และแรงงานต่างด้าว ที่มีความจำเป็นต้องการน้ำดื่มบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์ เชื้อไวรัส covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

ในท้ายนี้ "นางสาวรุ่งนภา แก้วธรรม" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ได้กล่าว สำนึกในพระเมตตากรุณา ของ "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" ที่ทรงห่วงใยพสกนิกร ทรงเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นแก่พสกนิกรชุมชนเล็ก ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งนี้ได้กล่าวขอบคุณคณะผู้ประกอบการ และสะพานบุญทุกท่าน ที่เล็งเห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในเรื่อง "น้ำดื่ม" เพื่อการบริโภค ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบัน "น้ำดื่ม" ถือเป็นสิ่งสำคัญและหัวใจหลักในการดำรงชีวิตที่จะขาดมิได้ และจะนำ "น้ำดื่ม" ที่รับมอบมานี้ นำไปจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ต่อไป

หลังจากนั้น "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ เป็นผู้แทน รับมอบถวาย "ต้นกล้าฟ้าทะลายโจร" จาก "อ.นลินรัตน์ ไตรยศ" เพาะปลูกใน"ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง" โครงการในอุปถัมภ์ฯสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เพื่อขยายพันธุ์ต่อยอด และ มอบให้กับพสกนิกรนำไปใช้เป็นยารักษาโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปในภายหน้า

นักแสดงช่อง 3 สนับสนุนโครงการ “BLOOD CHALLENGE” ของสภากาชาดไทย ร่วมแชร์ผ่านโซเชียล และชวนคนไทยบริจาคโลหิต

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องไปทุกภาคส่วน ล่าสุดทำให้การบริจาคโลหิตของประชาชนมีจำนวนลดน้อยลง ในขณะที่ปัจจุบันจำนวนโลหิตที่จำเป็นต้องใช้รักษาผู้ป่วยมีจำนวนไม่เพียงพอจนเข้าขั้นวิกฤต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงได้จัดทำโครงการภายใต้ชื่อ Blood Challenge “ได้เวลากลับมาช่วยเพื่อน บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤติ COVID-19” ชวนคนไทยส่งต่อบุญผ่านสังคมออนไลน์ และเชิญชวนเหล่าศิลปินนักแสดงทั่วประเทศร่วมกัน Challenge ส่งความตั้งใจดี ๆ สู่กัน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ให้การสนับสนุนโครงการ Blood Challenge ครั้งนี้

โดยเชิญชวนนักแสดงร่วมประชาสัมพันธ์สร้างกระแสให้คนไทยร่วมบริจาคโลหิตมากขึ้น โดยการถ่ายภาพถือป้ายรณรงค์ เขียนข้อความเชิญชวนสั้น ๆ โพสต์ลง Social Media ส่วนตัว ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok พร้อมติด #BloodChallenge ซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่านักแสดงช่อง 3 เป็นอย่างดี รวมถึงนักแสดงหลายท่านยังได้เดินทางไปบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยด้วยตัวเอง อาทิ แอน ทองประสม, หมาก ปริญ สุภารัตน์, คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส, อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ, ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์, เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์, หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ, อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์, เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ, พรีม รณิดา เตชสิทธิ์, เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์, โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม, เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข, มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง และ น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ นอกจากนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ของช่อง 3 และ รายการข่าวของสถานีข่าวช่อง 3 ยังได้ร่วมประชาสัมพันธ์ให้กับโครงการเช่นกัน

 

สำหรับกิจกรรม Blood Challenge “ได้เวลากลับมาช่วยเพื่อน บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤติ COVID-19” ครั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน โดยนอกจากการร่วมบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริหารโลหิตแห่งชาติ และศูนย์บริจาคทั่วประเทศแล้ว ยังสามารถช่วยโดยการโพสต์ข้อความเชิญชวนลง Social Media ส่วนตัว ติด #BloodChallenge และตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อม Tag ไปชวนครอบครัว เพื่อน หรือคนรู้จัก ร่วมแคมเปญต่ออีก 3 คน เป็นการกระตุ้นการร่วมบริจาคโลหิตในสภาวะวิกฤต เพื่อให้โรงพยาบาลทั่วประเทศจะได้มีโลหิตสำรองที่เพียงพอที่จะใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยต่อไป ติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 0 2256 4300

 

 

 

ส.ส.ประชาธิปัตย์ เสนอจ่ายเยียวยา ‘ฟรุ้ทบอร์ด’ พิจารณาเสนอ ‘จุรินทร์-เฉลิมชัย’ เคาะเข้าครม. คิกออฟโครงการใหม่ “เกษตรแฮปปี้” ช่วยชาวสวนฝ่าวิกฤติโควิด-19 ‘อลงกรณ์’ เผยราคามังคุดดีขึ้นหลังฟื้นระบบไปรษณีย์ และล้งเพิ่มขึ้น 146 แห่ง ทำให้ตลาดคึกคัก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ (30 ก.ค.) ว่า ตามที่ ส.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เสนอให้รัฐบาลเยียวยาชาวสวนมังคุดที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ราคาตกต่ำในฤดูกาลผลิตปี 2564 ระหว่างการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยมีนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานและมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และตนร่วมประชุมพร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐภาคเอกชนและภาคเกษตรกรเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

โดยตนได้ชี้แจงว่าคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board) ยินดีรับข้อเสนอไปพิจารณาโดยระหว่างนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการของฟรุ้ทบอร์ด(กรมส่งเสริมการเกษตร) ศึกษาและรวบรวมข้อมูลตลอดจนมาตรการเยียวยาโดยให้ยึดแนวทางการเยียวยาชาวสวนลำไยฤดูกาลผลิตปี 2563 จากนั้นให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ.ในครั้งต่อไปโดยเร็วหากจากนั้นจะเสนอต่อดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้นายอลงกรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า จากการที่ตนลงพื้นที่เพื่อติดตามเร่งรัดการแก้ไขปัญหามังคุดและผลไม้ภาคใต้ 3จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช) ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้ 7 มาตรการเพิ่มเติมล่าสุดของฟรุ้ทบอร์ดระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคมร่วมกับนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยเฉพาะมังคุดมีราคาตกต่ำพบว่าระบบการขนส่งผลไม้แบบบริการส่งถึงที่รวมทั้งระบบการค้าออนไลน์เกือบเป็นอัมพาตโดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้ามังคุดใหญ่ที่สุดของภาคใต้เพราะผู้ให้บริการรายใหญ่เช่นบริษัทไปรษณีย์ไทย บริษัทเคอร์รี เป็นต้นได้หยุดให้บริการโดยสิ้นเชิง

ตนจึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และนายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทยในวันที่28กรกฎาคมและภายใน 24 ชั่วโมง บริษัทไปรษณีย์ไทยได้เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษเร่งด่วนอีกครั้งพร้อมกัน 105 สาขาใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม เป็นต้นไปทำให้ระบบการขนส่ง ระบบไปรษณีย์และการค้าออนไลน์กลับมาเปิดบริการอีกครั้งหนึ่งและวันนี้ได้ประสานกับบริษัทไปรษณีย์ไทยให้พร้อมนำส่งผู้รับปลายทางที่อยู่ในพื้นที่สีแดงทุกพื้นที่ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะเร่งกำชับไปรษณีย์ทุกสาขาให้ดำเนินการตามข้อเสนอและการจัดส่งอาจช้าไป 1 วัน เพราะต้องใช้สาขาปลายทางที่อยู่นอกพื้นที่สีแดงผลัดเวรกันส่งเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานของสาขาในพื้นที่สีแดงติดโควิด โดยไปรษณีย์ไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อข่วยชาวสวนซึ่งตนได้ขอบคุณบริษัทไปรษณีย์ไทยและนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิตอลฯ.ที่ให้ความร่วมมือกับฟรุ้ทบอร์ดด้วยดีตลอดมาเพราะ ระบบขนส่งเป็นกลไกสำคัญในการค้าขายและระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตทั้งการค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์

นอกจากนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทเคอรรี่ตกลงที่จะเปิดบริการอีกครั้งเช่นกันทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามประสานงานกับรัฐมนตรีเกษตรฯ.อย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยต่อเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ฟรุ้ทบอร์ดได้คิกออฟโครงการ ”เกษตรกรแฮปปี้” โดยรณรงค์ภายใต้กลยุทธ์เพิ่มการขายภายในประเทศทดแทนการส่งออกซึ่งเป็น 1 ใน 7 มาตรการใหม่ของฟรุ้ทบอร์ดตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา และขอความร่วมมือพี่น้องชาวไทยทุกคน รวมทั้งชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย ช่วยกันสร้างรอยยิ้มให้กับเกษตรกรด้วยการซื้อผลไม้ไทย

“ช่วงนี้ต้องเร่งช่วยระบายมังคุดคละที่สดอร่อยพร้อมจำหน่ายสู่ผู้บริโภคภายในประเทศทั้งรูปแบบการขายออนไลน์และออฟไลน์ซึ่งมีปริมาณมากและราคายังไม่น่าพอใจแม้แนวโน้มราคาเริ่มปรับตัวดีขึ้นจึงได้ออกแคมเปญ”เกษตรกรแฮปปี้โดยทันทีวันนี้”

ส่วนการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าผลไม้(ล้ง) ทั้งค้าภายในและส่งออกให้ลงมาซื้อมังคุดด้วยมาตรการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องทำให้สถานการณ์เริ่มกระเตื้องขึ้น โดยล่าสุดนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่า มีล้งเข้ามาซื้อขายมังคุดและผลไม้เพิ่มขึ้นจาก 40 กว่าล้ง เป็น146 ล้ง นอกจากนี้สมาคมผู้ส่งออกทุเรียนมังคุดแจ้งว่าสามารถจองตู้คอนเทนเนอร์ที่จะส่งออกผลไม้ทางเรือได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งจะทำให้ลดการขนส่งทางรถไปประเทศจีนที่แออัดติดขัดที่ด่านโหยวอี้กวนและด่านโมฮ่าน มีผลทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หมุนกลับมาภาคใต้ไม่ทัน เชื่อว่าตู้คอนเทนเนอร์จะทยอยกลับมาขนมังคุดได้มากขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้าจะทำให้การซื้อขายเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อราคาที่จะขยับตัวสูงขึ้น

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวในที่ประชุมว่าจากการรับฟังปัญหาอุปสรรคและการนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ ส่วนใหญ่ปัญหาหลัก ๆ ที่พบ มาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อโรคของประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกมังคุดและผลไม้อื่น ๆ ของไทย ที่เกิดจากปัญหาการขนส่งล่าช้า การขาดแคลนตู้คอนเทรนเนอร์และตะกร้าใส่ผลไม้ รวมทั้งปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่ที่ทำได้ยาก การขาดแคลนแรงงาน และตะกร้ามีไม่พอเช่นกัน ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งระดับนโยบายและระดับพื้นที่ เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็วขึ้นในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีแนวทางมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยกระจายมังคุดในประเทศช่วงที่การส่งออกมีปัญหาดังนี้

1. เชื่อมโยงและกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิตโดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิตกิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งกรมการค้าภายในโอนเงินให้จังหวัดดำเนินการจำนวน 50,850,000 บาท ตามที่ฟรุ้มบอร์ดอนุมัติเพื่อกระจายมังคุดจำนวน 16,950 ตัน ออกนอกแหล่งผลิตอย่างเร่งด่วน

2. สนับสนุนค่าขนส่งสำหรับผลไม้ที่ส่งผ่านไปรษณีย์กรมการค้าภายในร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทยสนับสนุนกล่องไปรษณีย์และสติกเกอร์ส่งฟรีผลไม้ทั่วประเทศส่งเสริมการขายผ่านออนไลน์แก่เกษตรกรรายย่อยจำนวน 20,000 กล่องกล่องละ 10 กิโลกรัม เพื่อช่วยกระจายผลไม้ 2000 ตัน โดยได้จัดส่งกล่องพร้อมสติกเกอร์ให้จังหวัดต่าง ๆ แล้ว

3. เชื่อมโยงผู้รับซื้อของกรมการค้าภายในให้ช่วยเร่งระบายมังคุดเกรดรองหรือตกเกรดออกจากแหล่งผลิตโดยเร่งด่วนกรณีเกิดปัญหาระบายมังคุดไม่ทันในบางพื้นที่

ภายหลังการประชุมที่ศาลากลางจังหวัด รมช.สินิตย์ เลิศไกร นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร ส.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและนายวิเชียร สุขพันธุ์ รอง ผอ.blue house  พรรคประชาธิปัตย์และชาวสวนมังคุดได้ร่วมกันเปิดบริการส่งมังคุด ณ สำนักงานไปรษณีย์ไทยสาขาพรหมคีรีก่อนเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์รับซื้อมังคุดชนิดคละ กิโลกรัมละ 20 บาทที่อำเภอพรหมคีรีซึ่งเป็นโมเดลใหม่ภายใต้ความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการล้ง เกษตรกรในพื้นที่และศูนย์บลูเฮ้าส์ พรรคประชาธิปัตย์ในการนำล้งมาซื้อตรงจากเกษตรกรด้วยราคานำตลาด โดยจะให้ขยายโมเดลนี้ในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย จากนั้นคณะได้ไปเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนมังคุดแปลงใหญ่ และศูนย์กระจายสินค้าบริษัทไปรษณีย์ไทยอำเภอลานสกา

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ปลูกมังคุดทั้งหมด 96,159 ไร่ กระจายอยู่ใน 21 อำเภอ มีพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 90,016 ไร่ ปี 2564 นี้ คาดว่าจะให้ผลผลิตประมาณ 57,245 ตัน ก่อนหน้านี้ในวันที่ 28 ก.ค.นายนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์และนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดชุมพร โดยมีนายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายไพฑูรย์ หลิมวัฒนา สมาชิกวุฒิสภา นายสราวุธ อ่อนละมัย และนายสุพล จุลใส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร นายวีรวัฒน์ จีรวงศ์ นายกสมาคมชาวสวนผลไม้จังหวัดชุมพร นายสมพงษ์ จินาบุญ ประธานเครือข่ายมังคุดคุณภาพจังหวัดชุมพร นายภานุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ส่งออกมังคุด ทุเรียน จันทบุรี-ชุมพร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ภาคเอกชนและผู้ประกอบการ ให้การต้อนรับ พร้อมร่วมลงพื้นที่ตลาดกระจายสินค้าเกษตร ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ติดตามสถานการณ์ผลไม้ในพื้นที่ และประชุมหารือกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมังคุด ตลอดจนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อนำผลผลิตออกสู่ตลาด

ทั้งนี้จังหวัดชุมพร มีปริมาณผลผลิตรวม 51,587 ตัน ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2564 จะปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 26,985 ตัน จนถึง ปลายเดือนสิงหาคม 2564 ปริมาณ 16,141 ตัน และราคาผลผลิตมังคุด ตลาดทั่วไปกิโลกรัมละ 8 – 10 บาท ราคา หน้าล้ง 33 บาท (รับซื้อเฉพาะลูกค้าประจำ) ตลาดประมูลจากกลุ่มผลิตมังคุดคุณภาพในพื้นที่จังหวัดชุมพร จำนวน 26 กลุ่ม เปิดประมูลผลผลิตมังคุด เพียง 11 กลุ่ม ในพื้นที่ อำเภอหลังสวน พะโต๊ะ ละแม ราคาผลผลิตมังคุดตลาดประมูล 12 - 33 บาท (เฉลี่ยทุกเบอร์ ราคา 16.77 บาท) ปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะมีปัญหา 30,735 ตัน

จากนั้นทางคณะได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลไม้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาววชิราภรณ์ กาญจนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานีส่วนราชการ นายสุพจน์ เพชรศรี ผู้อำนวยการศูนย์ชั่งตวงวัดภาคใต้ นางกัลยารัตน์ เทพเลื่อน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี นายสุขสันต์ ภู่วัฒนา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร นางพูลสิน เพชรสวัสดิ์ ผู้แทนเกษตรกรแปลงใหญ่มังคุด และนายสุวิทย์ คงปาน ผู้ประธานเกษตรกรแปลงใหญ่เงาะ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการรวบรวมผลไม้ (ล้ง) และเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมหารือในการแก้ไขปัญหาการกระจายผลไม้ ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายผลผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งเงาะ ที่กำลังออกสู่ตลาดในขณะนี้ พร้อมทั้งลงพื้นที่ตลาดสหกรณ์การเกษตร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุเรียนมีปริมาณผลผลิต 46,957 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วร้อยละ 50 ราคากิโลกรัมละ 110 บาท มังคุดมีปริมาณผลผลิต 7,294 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วร้อยละ 50 ราคากิโลกรัมละ 23 บาท เงาะมีปริมาณผลผลิต 38,936 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วร้อยละ 32 ราคากิโลกรัมละ 25 บาท ลองกองมีปริมาณผลผลิต 4,842 ตัน เริ่มเก็บเกี่ยวไปเพียงร้อยละ 0.66 ราคากิโลกรัมละ 50 บาท

สภากาชาดไทย ขอเชิญร่วมบริจาคสนับสนุนการจัดหาวัคซีน COVID-19 เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน

สภากาชาดไทย องค์กรสาธารณกุศลสงเคราะห์มีภารกิจ 4 ด้านในการช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ 
1.การบริการทางการแพทย์ โดยมีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จ.ชลบุรี สถานีกาชาด 13 แห่ง 
2. การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติคุกคามสุขอนามัยของประชาชน
3. การบริการโลหิต 
4. การส่งเสริมคุณภาพชีวิต ให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ทั้งเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ไร้ที่พึ่ง

ทั้งนี้ สภากาชาดไทย อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาวัคซีนกับบริษัทผู้ผลิตโดยตรง เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมากขึ้น 
จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนหน่วยงานหรือผู้มีความพร้อมตามกำลังร่วมสนับสนุน “กองทุนกาชาดเพื่อจัดหาวัคซีนและยาโควิด-19 สำหรับประชาชน” 


???? บริจาคเงินผ่าน QR code E-donation รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีโดยไม่ต้องขอรับใบเสร็จ โดยท่านสามารถเช็คประวัติการบริจาคผ่านระบบ E-donation ของกรมสรรพากร ได้ที่ https://bit.ly/redcross-edonation (หลังการบริจาค 3-5 วันทำการ)


???? หรือบริจาคเงินผ่านบัญชี
ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย กองทุนกาชาดเพื่อจัดหาวัคซีนและยาโควิด-19 สำหรับประชาชน" 
ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 623-1-00096-6

???????????????? กรณีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุณาแจ้งความประสงค์รับใบเสร็จดังนี้
✔️ ชื่อ-นามสกุล
✔️ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
✔️ ที่อยู่จัดส่งใบเสร็จ และเบอร์โทรศัพท์
✔️ แนบหลักฐานการโอนเงิน
✔️ ระบุ "กองทุนกาชาดเพื่อจัดหาวัคซีนและยาโควิด-19"
???? ส่งมาที่ อีเมล [email protected]


.
#DonationHubรับเพื่อให้ #TRConlineDonation

‘บิ๊กแจ๊ส’ เผย ชาวปทุมธานีได้ฉีดซิโนฟาร์มต่อเนื่อง เชื่อมั่นโควิด-19 ปทุมควบคุมได้ !

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 เวลา 10:00 น. ที่โซนอะไลท์พาร์คฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงาน อบจ.ปทุมธานีได้ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนซีโนฟาร์ม ให้ชาวจังหวัดปทุมธานี หลังจากที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาจากสถาบันราชวิยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 55,000 โดส จากยอดจอง 500,000 โดส คาดว่าล็อตต่อไปจะได้รับการจัดสรรเพิ่มเติมอีก 60,000 โดส

เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี มีจำนวนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตมากสุดวันละ 17 ราย จากสถิติการติดเชื้อในจังหวัดปทุมธานีมีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 19,221 ราย เสียชีวิตไปแล้วจำนวน 186 ราย จากสถานการณ์ดังกล่าว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้เล็งเห็นว่าการฉีดวัคซีนคือความหวังสุดท้าย หากทุกคนได้รับวัคซีนก็จะสามารถลดการแพร่ระบาดและลดความสูญเสียได้ เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่เกิดขึ้นทุกวันไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นชีวิตและคนสำคัญในครอบครัวชาวจังหวัดปทุมธานี

ในส่วนของการจองฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มและตรวจคดกรองด้วยแรปบิทแอนติเจนเทส สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี” ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ทาง อบจ.ปทุมธานีได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 55,000 โดส จากที่เราได้จองไป 500,000 โดส โดยเริ่มฉีดให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีวันละ 4,600 คน ฉีดไปจนถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เราจะได้รับการจัดสรรวัคซีนซีโนฟาร์มมาอีก 60,000 โดส เมื่อเราได้รับมาแบบนี้แล้วคาดว่าจะทำให้ อบจ.ปทุมธานีจะสามารถฉีดวัคซีนได้ติดต่อกันทุกวัน หวังว่าพี่น้องชาวปทุมธานีจะรอดปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 เนื่องจากวัคซีนถือว่าเป็นความหวังตัวสุดท้ายแล้ว

ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยแรปบิทแอนติเจนเทสก็ยังมีอยู่ เมื่อพบว่าเป็นผลบวกให้กลับไปกักตัวที่บ้าน จากนั้นเราได้นำยาที่เรามีอยู่มอบให้ไปทานที่บ้าน พบว่ามีหลายรายที่ตรวจแล้วได้ผลบวกจากนั้นรับยาไปทานที่บ้าน ผ่านไป 5 วันกลับมาตรวจซ้ำพบว่าได้ผลลบแล้ว ขณะนี้การระบาดภายในจังหวัดปทุมธานี น้อยลงเป็นสิ่งที่เราพอใจ และเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะ อบจ.ปทุมธานีจริงจังในการป้องกันมีทั้งตรวจคัดกรอง อย่างต่อเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อของจังหวัดปทุมธานีที่เคยขึ้นไปถึงอับดับ 2 ของประเทศ และวันนี้เราอยู่ในอันดับที่ 9 ของประเทศ เพราะจากการที่ได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจคัดกรองให้กลุ่มเสี่ยง และ ทำงานรวมกับ ท้องถิ่นต่าง ๆ ทั้งเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล เจ้าหน้าที่ อสม. ในการทำงาน ทั้งกักตัวของผู้ติดเชื้อ รวมถึงการจัดตั้ง รพ.สนามและศูนย์พักคอย ผมคิดว่าจังหวัดปทุมธานีจะคุมได้ ฝากพี่น้องชาวจังหวัดปทุมธานี เมื่อฉีดวัคซีนไปแล้วให้สังเกตอาการตัวเอง หากเกิดอาการข้างเคียงให้พบแพทย์ที่ รพ.แพทย์รังสิตได้เลย นอกจากนี้เมื่อฉีดวัคซีนไปแล้วก็ยังต้องป้องกันตัวเองเหมือนเดิมให้ดีทีสุด อย่าการ์ดตก อยู่บ้านพยายามป้องกันตัวเอง


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน

"ผู้นำคนพิการ ด้ามขวานไทย" ผนึกกำลังภาครัฐ และมูลนิธิฯ บรรเทาทุกข์ช่วงโควิด-19

วันที่ 1 สิงหาคม 2564 คุณสือนะ ดีสะเอะ อุปนายก "สมาคมคนพิการภาคใต้" ร่วมภารกิจเยี่ยมเยือน มอบขวัญกำลังใจให้แก่ กลุ่มเปราะบาง / คนยากไร้ / คนพิการ และ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิค-19 ใน จ.นราธิวาส ดังนี้

>> 1. พื้นที่บ.ยานิง ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "จ.ส.อ.รอซะ บือราหง" ชป.กร.ร้อย.ทพ.4803 และ "นายนิจิ นิเยะ" ผญบ.ม.2ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

>> 2. พื้นที่บ.โต๊ะเล็ง ม.3 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "นายอับดุลมูฮี สะอิ" ผญบ.ม.3ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

ในการนี้ "คุณสือนะ ดีสะเอะ" อุปนายกสมาคมคนพิการภาคใต้ ขอขอบพระคุณ "พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร" รอง ผอ.กิจการพิเศษ ศูนย์สันติวิธีฯ(สล.3) และ "มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ที่เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ และประสบปัญหา การดำรงชีวิตในช่วงสถานการณ์ covid-19 ที่ส่งผลกระทบในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบสัมมาอาชีพ โดยไม่สะดวก แต่ด้วยน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงได้รับความอนุเคราะห์ และให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในครั้งนี้

ฉงน!! ‘ข้าราชการสีเทา’ ฉายแสงซ้ำซาก ฤๅฤทธิ์แรงโหมจาก ‘เงา’ หลังฉาก ที่ให้ท้ายจนเคยตัว

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายในสังคม ‘ข้าราชการสีเทา’ ก็เน่าออกมาอีกเป็นระลอกคลื่น 

เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว กรณีข้าราชการสีเทา สุดงามไส้ ที่ทำเอา ‘ท็อป’ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ยังต๊กกะใจ และตามหลอกหลอนอยู่นั้น สาเหตุมันก็มาจากความละโมบส่วนบุคคล ที่ไม่รู้มีใครหนุนหลังให้หาญกล้าลงมือกิน

แต่ก็อย่างว่า คดีนี้ก็จบลงเมื่อผู้ถูกกระทำเกินทน จนเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แท็กมือกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) บุกเข้าจับกุม ‘รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา’ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นผลสำเร็จ 

เป็นเหตุเซอร์ไพรซ์ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในห้องประชุม และกำลังรออวยพรปีใหม่ ‘ทั่นอธิบดี’ ซึ่งถูกแจ้งข้อหา ‘เรียกรับผลประโยชน์’ เรียกเก็บค่าวิ่งเต้นตำแหน่ง-รีดลูกน้อง โดยจากการตรวจค้นห้องทำงาน พบเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท ใส่ซองจำนวนหลายต่อหลายซองเป็นของกลาง แม้เจ้าตัวจะให้การปฏิเสธ ว่าไม่รู้เงินอะไร ก็มิเป็นผล 

ถัดมาวันนี้ (2 ก.พ.66) ก็ได้ข่าวทำนองว่า ผอ.โรงเรียนดังในเมืองกรุง รีดเงินเอกชน 3.2 แสนบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุจริตเกี่ยวกับอาหารนักเรียน จนโดนเจ้าเดิมอย่าง บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท., เปิดปฏิบัติการ ‘ไข่นกกระทา’

ผู้ต้องหา รอบนี้ มีชื่อว่า นายไพฑูรย์ ภูมิช่อ ผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) อายุ 58 ปี ถูกรวบในข้อหา เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ภายในห้องทำงานโรงเรียน แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

โดยสืบเนื่องจากก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนและก่อนเข้าทำการจับกุมนั้นสายข่าวแจ้งว่าว่า นายไพฑูรย์ มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เป็นเงิน 329,000 บาท อ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และ เรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท ซึ่งเงินส่วนหลังนี้อ้างว่าเป็นค่าดูแลเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารของนักเรียน จำนวน 5 คน

เมื่อจับได้ ก็เข้าสูตร อ้างว่าไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าก่อนหน้าจะถูกจับกุมได้มีการเชิญตัวผู้ประกอบการมาเข้าพบจริง แต่เป็นการเรียกมาพบเพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ประกอบการคนดังกล่าววางลืมไว้หรือไม่ แต่ไม่ใช่ของตนอย่างแน่นอน เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป

‘น้าเน็ก’ สอน!! เงินมีความสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ขอคนยุคนี้ อย่าให้ ‘วัตถุ-เงินทอง’ มีค่าเหนือชีวิต

(6 ต.ค.66) สายสัมภาษณ์หนึ่งที่โทรเข้ามาในรายการอย่าหาว่าน้าสอน ได้สอบถามถึงคุณค่าของเงินในโลกทุนนิยม โดยน้าเน็กได้ให้ข้อคิดส่วนหนึ่งสะท้อนผ่านมุมคิด ‘ความฝันแบบทุนนิยม’ ไว้ในรายการว่า...

“พี่รู้จักคนที่มีมากกว่าหมื่นล้านอีก แต่เขายังต้องทำงานหนัก พี่ก็ได้แต่สงสัยว่าตัวเลขเท่าไหร่ถึงจะพอ เพราะไปถึงตรงนั้นเขาไม่ได้ต้องการอิสระแล้วครับ เขาต้องใช้ชีวิตทั้งหมดเพื่อดูแลธุรกิจระดับหมื่นล้านของเขาครับ แล้วสิ่งของรอบกายของเขาไม่ว่าจะเป็น แต่ความรับผิดชอบ หรืออะไรบางอย่างที่มันใหญ่โตตามตัว มันก็ไม่ได้ทำให้เขามีอิสระทางการเงินหรอกครับ

“ในความเชื่อของพี่นะครับ พี่มีความรู้สึกว่า พี่ไม่เคยเอาสิ่งของภายนอกมายืนยันตัวตนภายใน สมมุติว่าเราเห็นใครสักคน ไอ้นี่ใครไม่รู้ แต่แม่งใส่นาฬิกาปาเต๊ะด้วย แปลว่าอะไร นาฬิกาใหญ่กว่าคน พี่ไม่มีวันยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิตครับ แปลว่าคนต้องใหญ่กว่าของ แต่ในโลกทุนนิยมมันเป็นการยากที่มันจะยืนยันตัวตนภายใน ผู้คนก็เลยใช้วิธีการใช้ของภายนอก ยืนยันตัวตนภายใน

“แล้วคนจำนวนไม่น้อยก็ยึดถือซะด้วย กูไม่รู้หละ ว่ามึงเป็นใคร แต่มึงมีกระเป๋าแบรนด์เนมแปลว่ามึงเจ๋ง มึงดูรวยมึงดูฟู่ฟ่า มึงลงไอจีกินแต่อาหารแพง แปลว่ามึงเป็นคนเจ๋งแน่ โดยไม่มีใครสนว่ามึงรวยมาจากอะไร มึงอาจจะเทาๆ ก็ได้ แต่คนไม่สนขอแค่มึงรวยก็พอ … เต้ (ผู้โทรเข้าสาย) เป็นเด็กอายุ 20 อย่าติดกับดักของทุนนิยม พี่ไม่เถียงว่าเงินก็มีความสำคัญในการมีชีวิต แน่นอนพี่ไม่ได้โลกสวยขนาดนั้น ไม่มีตังกูจะเอาอะไรมาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ จ้างลูกน้อง แต่ อย่าให้มันเป็นทั้งหมดในชีวิตครับ...”

‘นพ.ประชา’ โพสต์คลิป ‘คนไข้ขอยังไม่ผ่าสมอง’ อ้าง ‘ราหูย้าย’ ด้านหมอแนะ!! ‘โหราศาสตร์ก็มีประโยชน์ แต่อย่าลืมกฎแห่งกรรม’

(20 ต.ค. 66) นายแพทย์ประชา กัญญาประสิทธิ์ เจ้าของเพจหมอประชาผ่าตัดสมอง ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ได้ออกมาโพสต์คลิปแชร์เคสคนไข้ ที่มีอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ต้องทำการรักษาผ่าตัด แต่คนไข้ขอยังไม่ผ่า โดยให้เหตุผลกับหมอว่า ‘ราหูย้าย’

โดย นพ.ประชา ได้เล่าผ่านคลิปวิดีโอว่า...

ขอยังไม่ผ่าเพราะราหูย้าย ผู้ป่วยชายอายุ 55 ปี 2 เดือนก่อนล้มหัวฟาด เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ผ่าตัดเอาเลือดออกและเปิดกะโหลกไว้ เพราะปิดไม่ได้สมองบวมมาก วันนี้นัดผ่าตัดปิดกะโหลกคืน...เนื่องจากเป็นวันที่ราหูย้าย คนไข้ไม่อยากให้ผ่าตัด

ทำไมคนเราชอบดูดวง ดูเรื่องเงินกับเรื่องงาน เรื่องบ้านกับเรื่องรถ เรื่องความรัก ครอบครัว สุดท้ายคือดูเรื่องสุขภาพ ว่าเป็นเรื่องร้ายแล้วจะหายไหม จริง ๆ ดูพฤติกรรมตอนนี้ดีกว่า ดูการกระทำของคุณ ดูแลหรือปล่อยปะปละเลย มันคือกฎแห่งกรรมครับ อยู่ที่พฤติกรรมของคุณล้วนๆครับ ดูดวงเรื่องสุขภาพ ดูว่าวันนี้คุณกินอะไร วันนี้คุณออกกำลังกายไหม วันนี้คุณคุมความดันได้ไหม คุมเบาหวานได้ไหม คุมไขมันได้ไหม ถ้าคุมไม่ได้ ก็อาจจะพิการจากโรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหลอดเลือดสมองตัน หรือเสียชีวิตฉับพลันจากเส้นเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

รู้พฤติกรรมของคุณเองนะครับ ว่าคุณออกกำลังกายไหม คุณน้ำหนักเยอะไหม แทนที่คุณจะตรวจดวงสุขภาพ คุณไปตรวจไขมัน ตรวจเบาหวาน ตรวจความดันจะดีกว่า ถ้าหมอบอกว่าคุณดูดีแล้ว คุณนอนตีพุงอยู่ที่บ้าน พุงหลาม ผมว่าเชื่อของกฎแห่งกรรมดีกว่าครับ คุณทำยังไงกับร่างกายคุณ คุณก็จะเป็นอย่างงั้นครับ

ถ้าคุณเอาใจใส่อาหารการกิน เอาใจใส่สุขภาพ คุณก็ไม่เป็นอัมพาตจากหลอดเลือดสมองครับ คุณก็ไม่เป็นมะเร็ง คุณก็ไม่เป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ โหราศาสตร์ก็มีประโยชน์ แต่อย่าลืมกฎแห่งกรรม ขอให้เชื่อในกรรมดีที่คุณได้ทำกับสุขภาพ ถ้าคุณทำกรรมชั่วกับสุขภาพ สุดท้ายก็จะเสียชีวิตจากมะเร็ง หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ ก่อนวัยอันควร

สุดท้ายราหูย้าย ถ้าถูกทายว่าสุขภาพยังดีอยู่ ก็อย่าประมาทครับ ออกกำลังกายกันด้วย และยิ่งถูกทายว่าสุขภาพกำลังแย่ ยิ่งต้องเร่งแก้ไข ให้ออกกำลังกาย ให้คุมปัจจัยเสี่ยง เบาหวาน ความดัน ไขมันให้ดี ลดเหล้า ลดบุหรี่ ลดความอ้วน ลดความเครียดให้ดี ป้องกันก่อนที่มันจะเป็นอัมพาต และขอให้ทุกคนสุขภาพดี และยินดีกับราหูย้าย...


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top