Saturday, 18 May 2024
ElectionTime

‘ชัยวุฒิ’ มั่นใจจะได้ฟังข่าวดี เผยเลือกตั้งรอบนี้สูสี  ย้ำ!! มองแค่กระแสพรรคไม่ได้ ต้องมองที่บุคคลด้วย

(14 พ.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย เดินทางมาถึงที่สำนักงานใหญ่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อเข้าร่วมการฟังผลการเลือกตั้งปี พ.ศ.2566 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สำนักงานใหญ่พรรคพลังประชารัฐเป็นจุดศูนย์รวมลูกพรรค และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะมารวมตัวกันเพื่อลุ้นคะแนนที่นี่ โดยหลังจากทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการจะมีการแถลงข่าวถึงทิศทางทางการเมือง แนวทางการทำงานในอนาคต คาดว่าเวลาประมาณ 20.00 น. - 21.00 น.

สำหรับตอนนี้ตนเองยังให้ข่าวอะไรไม่ได้ ต้องรอลุ้นคะแนนก่อน ซึ่งหากดูจากโพลแล้ว ก็พบว่าคะแนนค่อนข้างสูสีกัน แต่คงต้องรอดูผลในตอนท้ายก่อน 

ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนกระแสของพรรคพลังประชารัฐ ตนเองพบว่า จากการที่มีการส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่ และได้มีการทำโพลในพื้นที่นั้น ตนเองเชื่อว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จได้ผลตามเป้าหมาย และคิดว่าจะได้รับผลการเลือกตั้งที่ดี 

นายชัยวุฒิ ยอมรับว่า ในส่วนของคะแนนนั้นเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของกระแสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของบุคคลด้วย

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งรอบนี้มีการแข่งขันกันในพื้นที่ค่อนข้างหลายพรรค เนื่องจากไม่มีการแบ่งฝ่ายว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือว่าฝ่ายค้าน ทุกพรรค ทุกคนที่ลงพื้นที่มีการช่วยกันอย่างเต็มที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ตนเองคิดว่า โดยปกติมีการพูดคุยกันมาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งมีความคุ้นเคยกันดี คุยกันเป็นระยะอยู่แล้วตลอด 4 ปี แต่ก็ยังต้องรอลุ้นผลในคืนนี้กันต่อไป แต่ตนเองไม่สามารถบอกได้ว่าจะจับมือกันเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะการร่วมรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง และเหตุการณ์ทางการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเหมือนเดิมตลอดไป 

ทั้งนี้ หลังจากทราบผลอย่างไม่เป็นทางการตนเองคิดว่าคงไม่จบง่ายๆ ยังคงต้องมีการพูดคุยถึงแนวทางการทำงานร่วมกันและเรื่องของนโยบายต่างๆ แต่คืนนี้อาจได้เห็นเค้าลางว่าจะคุยกันอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถข้ามขั้วได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คงเป็นการคุยกันเรื่องของการทำงานและนโยบายมากกว่า ทุกคนพร้อมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนและร่วมกันเสนอนโยบายต่าง ๆ รวมถึงแนวทางที่ประชาชนฝากความหวังอยากให้ทำ

สุดท้ายนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการคุยเฉพาะเรื่องของตัวเลข ส.ส. เท่านั้น แต่ยังคงมีเรื่องของความพร้อมหรือความสามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ต่อไป 

ฝนถล่ม กทม.-นนท์ ปชช.ไม่หวั่น!! กางร่มเฝ้านับคะแนน ชาวกรุงเกาะรั้วเหล็กอย่างใกล้ชิด ตามติดผลลานคนเมือง

(14 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนในพื้นที่ต่างๆ โดยเมื่อเวลา 18.20 น. ฝนตกลงมาอย่างหนักที่หน่วยเลือกตั้งที่ 17-29 เขตเลือกตั้งที่ 8 (เฉพาะตำบลบางคูรัด ตำบลบางรักพัฒนา และตำบลบางรักใหญ่) บริเวณสระน้ำกลางหมู่บ้านพฤกษา 3 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ประชาชนบางส่วนทยอยกลับ ขณะที่บางส่วนกางร่มดูการนับคะแนนต่อไป

ด้านลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ฝนตกลงมาอย่างหนัก ประชาชนหลบฝนใต้ชายคาศาลาว่าการกทม. โดยที่การรับคะแนนยังคงดำเนินต่อไป กระทั่งเวลา 18.38 น. ฝนหยุดตก ประชาชนเฝ้ารอดูผลคะแนนโดยเกาะขอบรั้วหน้าป้าย LED

ปชช.ประท้วงสนั่นหน่วยเลือกตั้ง ปทุมธานี เขต 3 กาเลยขอบนิดเดียว ถือเป็น ‘บัตรเสีย’ ร้อง!! นับใหม่ทั้งหมด

(14 พ.ค. 66) โลกออนไลน์เดือดสนั่น!! กับไลฟ์การนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้งเขต 3 ปทุมธานี ที่บัตรเสีย คือ บัตรที่กากบาทเลยช่องออกไปเพียงนิดเดียว และไม่ได้เกินไปช่องของพรรคอื่น ท้วงขอให้นับใหม่ทั้งหมด

หลังจากที่มีการปิดคูหา-ปิดหีบเลือกตั้ง และเข้าสู่ช่วงการนับคะแนน และมีการไลฟ์สดการนับคะแนนจากหลายหน่วยทั่วไทย ทำเอาประชาชนชาวไทยลุ้นหนัก ว่าคนที่รักพรรคที่ชอบ จะได้เป็นอันดับหนึ่งหรือไม่?

แต่ก็ไม่วายเกิดดราม่าขึ้น หลังจากที่มีผู้ ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้ไลฟ์สดการนับคะแนนจาก ปทุมธานี เขต 3 ซึ่งระหว่างการนับคะแนนก็มีประชาชนเริ่มสังเกตว่ามีบัตรเสียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบัตรที่กลายเป็นบัตรเสียนั้น เป็นบัตรที่มีการกากบาทลงคะแนนเลยออกนอกกรอบเพียงนิดเดียว ไม่ได้เข้าช่องของพรรคอื่นแต่ก็ถูกนับเป็นบัตรเสีย

ทำให้มีประชาชนผู้สังเกตการณ์ ทั้งหน้าหน่วยเลือกตั้ง และที่กำลังชมอยู่ในไลฟ์ เริ่มมีการโต้แย้ง และถกเถียงกับเกี่ยวกับการวินิจฉัยของผู้นับคะแนนประจำหน่วย ก่อนที่จะเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ทั้งหมด เพราะถ้าหากเทียบกับตัวอย่างการลงคะแนน ที่ทางกกต.เคยออกมาพูดถึงบัตรดี-บัตรเสีย การกาในลักษณะเลยช่องก็ไม่ตรงกับลักษณะบัตรเสีย และอยู่ในตัวอย่างลักษณะบัตรดีเสียด้วยซ้ำ และเมื่อมีผู้ทักท้วง และเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่มากยิ่งขึ้น ล่าสุดทางหน่วย ปทุมธานี เขต 3 ก็โละคะแนนทั้งหมดที่นับเอาไว้ และเริ่มนับใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ใบแรก เป็นที่พอใจแก่ประชาชนที่สังเกตการณ์อยู่หน้าหน่วย และประชาชนที่สังเกตุการณ์จากไลฟ์สดเป็นจำนวนมาก

‘พท.’ คึกคัก!! ‘เศรษฐา’ เข้าพรรคฯ ร่วมลุ้นผลนับคะแนน เผย ขอบคุณ ปชช.ที่ไว้วางใจ พร้อมน้อมรับผลการเลือกตั้ง 

(14 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 17.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาถึงพรรคเพื่อไทย พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้ขับรถมาที่พรรคเองตั้งใจมาฟังผล ต้องขอบคุณทีมงานที่ร่วมทำงานกันมา และมีหลายกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื่องหลังการทำงานของพรรค ทุกคนช่วยเหลือกันดีมาก

เมื่อถามว่า โพลหลายสำนักออกมาตรงกันว่า เพื่อไทยจะได้เสียง 180-200 เสียง เพื่อไทยจะไม่แลนด์สไลด์ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบขอรอฟังผลอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่า หากไม่แลนด์สไลด์จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้เห็นรายละเอียดอะไร และไม่ว่าผลเลือกตั้งออกมาอย่างไรตนก็พร้อมน้อมรับ

ถามย้ำว่า หากได้ไม่ถึง 280 เสียงจะมีโอกาสตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้เกียรติกรรมการบริหารพรรคตั้งเป็นขั้นเป็นตอน ตอนนี้ต้องรอผลการนับคะแนนก่อน เวลาประมาณ 20.00 น. อาจเห็นอะไรได้บ้าง และ 22.00 น.จะเห็นผลชัดเจน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 อยู่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากประชาชนให้ความไว้วางใจและเราเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงส่วนมาก ก็จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และคณะกรรมการบริหารตัดสินใจว่าเสนอชื่อตน ก็มีความพร้อม และหากคะแนนไม่เป็นตามที่หวังไว้ ยังจะรับตำแหน่งนายกฯ หรือไม่นั้น ไม่ทราบต้องขอรอดูคะแนนก่อน แต่ถึงอย่างไรตนก็ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงเย็นบรรดาแกนนำพรรคต่างทยอยเดินทางมาร่วมลุ้นคะแนนเสียงที่พรรคเพื่อไทย

‘จุรินทร์’ ลาออกหัวหน้า ปชป. แสดงความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้ง 2566

เมื่อวานนี้ (14 พ.ค. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีข้อความระบุว่า

“ผมขอถือโอกาสนี้ แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทุกคน ขอขอบคุณท่านเลขาธิการพรรค ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค คณะทำงานทุกชุด เพื่อน ส.ส. กก.บริหารและสมาชิกพรรคทุก ๆ ท่าน ที่ช่วยกันทำหน้าที่สุดความสามารถด้วยความซาบซึ้งใจยิ่ง

พร้อมกันนี้ ผมขอแสดงความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้ง ด้วยการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และขอให้ทุกท่านช่วยกันทำหน้าที่เพื่อพรรคต่อไป สำหรับผมไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ผมพร้อมอยู่เคียงข้างพรรคเสมอ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมาตลอดชีวิตการเมืองของผมครับ”

กทม. เผย คนกรุงเทพฯ ใช้สิทธิเลือกตั้ง 66 มากถึง 74.28% ถือเป็นการออกมาใช้สิทธิมากที่สุดในประวัติศาสตร์

(15 พ.ค. 66) ที่ศูนย์การประมวลผลการเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการ กทม. นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ในฐานะที่กำกับดูแลการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แถลงภาพรวมการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อย่างไม่เป็นทางการ ว่า ขณะนี้ได้นับคะแนนเลือกตั้งแบบบัญชีแบบแบ่งเขตเสร็จครบแล้ว 6,360 หน่วย มีผู้มาใช้สิทธิ 74.28% จากผู้มีสิทธิ 4,479,155 คน บัตรดี 3,191,989 ใบ คิดเป็น 95.58% บัตรเสีย 48,694 ใบ คิดเป็น 1.46% บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 98,981 ใบ คิดเป็น 2.96%

ส่วนคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 10 อันดับ ประกอบด้วย 
1.พรรคก้าวไกล 1,596,653 คะแนน คิดเป็น 48.25% 
2.พรรครวมไทยสร้างชาติ 628,938 คะแนน คิดเป็น 19.01% 
3.พรรคเพื่อไทย 598,776 คะแนน คิดเป็น 18.09% 
4.พรรคประชาธิปัตย์ 85,769 คะแนน คิดเป็น 2.59%
5.พรรคไทยสร้างไทย 47,573 คะแนน คิดเป็น 1.44% 
6.พรรคชาติพัฒนากล้า 46,123 คะแนน คิดเป็น 1.39% 
7.พรรคเสรีรวมไทย 42,829 คะแนน คิดเป็น 1.29% 
8.พรรคภูมิใจไทย 28,451 คะแนน คิดเป็น 0.86% 
9.พรรคพลังประชารัฐ 22,033 คะแนน คิดเป็น 0.67% 
10.พรรคไทยภักดี 14,039 คะแนน คิดเป็น 0.42%

ด้านนายสำราญ กล่าวชี้แจงประเด็น ผลเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 20 ลาดกระบัง ผลคะแนนรวมสุดท้ายมีการพลิกจากก่อนหน้านี้ที่คะแนนมา ไม่กี่คะแนน เกิดความเคลือบแคลงขึ้นนั้น ตามระเบียบการเลือกตั้ง ให้ยื่นแบบ ส.ส.5/10 ทักท้วงในการนับคะแนน ผลคะแนน ได้ ยื่นพร้อมหลักฐานประกอบ ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขต ซึ่งจะเป็นดุลพินิจในการตัดสินว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องคัดค้าน ถ้ารับก็จะเข้าสู่กระบวนการต่อไป ถ้าไม่รับก็จะนำรายงานต่อไปยัง กกต. 

นายสำราญ กล่าวต่อว่า ขอบคุณปลัด กทม.และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ บุคลากรทุกระดับ ที่ให้การสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งกับ กกต.กทม. และ กกต. มาโดยตลอด ขณะเดียวกันขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์

‘บิ๊กตู่’ เคารพในวิถีประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ย้ำ ‘ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’

"...ผมเองนั้น ผมพยายามทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิตของผม และอุดมการณ์ของพรรคก็เช่นเดียวกัน ขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีความเจริญก้าวหน้า ผมเคารพในวิถีประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ขอบคุณครับ..." 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กล่าวเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566

‘องอาจ’ ขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้ประชาธิปัตย์ แม้ไม่มี ส.ส.กทม. ก็ยินดีทำเพื่อพี่น้องประชาชน

(15 พ.ค. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแล กทม. กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง ส.ส.ใน กทม. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้รับเลือกตั้งเลยแม้แต่คนเดียว ว่า ขอขอบคุณทุกคนและทุกคะแนนเสียงที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าท่านจะเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองใดก็ตาม ถือว่าท่านได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ เพื่อช่วยทำให้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเดินหน้าไปได้ต่อไป สำหรับท่านที่กรุณาลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์ ตนขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ท่านมอบให้ด้วยหัวใจจากใจจริง 

“ขอยืนยันว่าทุกคะแนนเสียงที่ท่านมอบให้พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่สูญเปล่าเราจะทำงานเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนต่อไปในทุกช่องทางเท่าที่เราสามารถทำได้ ขณะเดียวกัน ก็ขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล ที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 แบบแลนด์สไลด์อย่างท่วมท้นทั่ว กทม. และทั่วประเทศ และ ขอให้พรรคก้าวไกล เดินหน้าทำงานตามที่สัญญาไว้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมืองโดยรวมต่อไป” นายองอาจ กล่าว

‘สื่ออังกฤษ’ คาด!! เก้าอี้นายกฯ ‘พิธา’ อาจไม่ราบรื่น แม้ครองอันดับ 1 แต่คงต้องรวมเสียง ส.ส. สู้ 250 ส.ว.

(15 พ.ค. 66) Daily Mail นสพ.ของอังกฤษ เสนอข่าว Pita Limjaroenrat: leading Thailand's political earthquake รายงานผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้มีน้อยคนที่คิดว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (Pita Limjaroenrat) จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทย กระทั่งผลการเลือกตั้งชี้ว่า พรรคก้าวไกล ที่มุ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงราก มีคะแนนนำพรรคที่ตั้งมานานจนเป็นสถาบันอย่างพรรคเพื่อไทย

พิธา ชายวัย 42 ปี ได้ปรากฏตัวอย่างไม่หยุดนิ่งบนเส้นทางการหาเสียง โดยใช้ประโยชน์จากวัยหนุ่มและพลังของเขาเพื่อเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ท้อแท้และโหยหาการเปลี่ยนแปลงหลังจาก 8 ปีของรัฐบาลที่มีทหารหนุนหลัง ด้วยการประกาศว่า การลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลคือการเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ เป็นการทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องบอกว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่ต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่นำโดยเยาวชนปะทุขึ้นทั่วกรุงเทพฯ ในปี 2563 โดยมีข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้ามในสังคมไทยที่มีมาอย่างยาวนานในการตั้งคำถามต่อเรื่องนี้ ขณะที่ประเด็นมาตรา 112 ก็เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างมากและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งถูกมองว่าเป็นเรื่องที่แตะต้องไม่ได้ในการเมืองไทยมาช้านาน แม้แต่พรรคเพื่อไทยที่เป็นคู่แข่งในฝ่ายค้านก็กล่าวเพียงว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้เข้าสู่รัฐสภา ในขณะพรรคก้าวไกลประกาศว่าจะแก้ไขอย่างชัดเจน

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สำเร็จการศึกษาในนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา เขาศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยทุนการศึกษานานาชาติ ก่อนที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม หลังจากพ่อของเขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 25 ปี ก็กลับบ้านเพื่อทำธุรกิจ Agrifood ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวของครอบครัว ซึ่งทำให้โชคชะตาพลิกผัน ต่อมาเขาได้เป็นกรรมการบริหารของแอปขนส่ง Grab Thailand ในปี 2555 เขาแต่งงานกับชุติมา ทีปะนาถ (Chutima Teepanat) นักแสดงโทรทัศน์ชาวไทย และมีลูกสาวอายุ 7 ขวบ การแต่งงานพังลงในปี 2562 ลูกสาวของเขาได้ปรากฏตัวอย่างเด่นชัดในการหาเสียงโดยพิธาพาเธอขึ้นเวทีหลังการกล่าวปราศรัย สร้างความพึงพอใจให้กับฝูงชนอย่างมาก 

ขณะที่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เขาใช้บัญชีส่วนตัวแบบสาธารณะ ตามด้วยผู้ใช้เกือบหนึ่งล้านคน เพื่อแชร์ภาพของเขาและลูกสาวสวมเสื้อยืดที่เข้าชุดกันและกินไอศกรีมด้วยกัน แต่ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในช่องลงคะแนน ก็ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของพิธาจะตรงไปตรงมา ตอนนี้เขาต้องรวบรวมพันธมิตรเข้าด้วยกันเพื่อเอาชนะสมาชิกวุฒิสภาที่ฝ่ายรัฐบาลเดิมแต่งตั้ง ซึ่งจะมาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจากบรรดาผู้สมัครที่มีสิทธิ์

‘ชลน่าน’ ยินดี ปชช. ไว้วางใจ ‘ก้าวไกล’ อันดับ 1 รับ!! ยังไม่เห็นเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาล ปัดตอบเป็นฝ่ายค้าน

(15 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมประชุมกับแกนนำพรรคและกรรมการบริหารพรรค หลังจากผลคะแนนการเลือกตั้งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคพท.ได้คะแนนมาเป็นอับดับสอง โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้กรรมการบริหารพรรคจะมาคุยกันเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานหลังจากนี้ ว่าจะดำเนินต่ออย่างไร ส่วนเรื่องการจับมือจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีชัดว่ายอมรับเสียงของประชาชน ที่ไว้วางใจพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้มาเป็นอันดับหนึ่ง ก็ยินดีกับพรรคก้าวไกล และยินดีที่จะให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะร่วมมือกันอย่างไรนั้น ในฐานะพรรคอันดับรอง ก็ต้องฟังเสียงของพรรคอันดับหนึ่งว่าจะมีท่าที ทิศทางอย่างไร 

เมื่อถามถึงการลงนามเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลจะมีข้อไหนที่อาจร่วมกันไม่ได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่รู้ คือเป็นแนวทางที่พรรคก้าวไกลประกาศไว้ ซึ่งการลงนามชัดเจนถือเป็นเรื่องดี เพราะจะเป็นการเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วยว่าหากร่วมกับทำงานแล้ว จะทำอะไรได้บ้าง ต้องคุยกัน ถ้าร่วมกันไม่ได้ ข้อไหน จะผ่อนคลายหรือยอมกันได้แค่ไหน คงต้องดูตรงนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบเนื้อหาว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง อาจยังตอบไม่ได้ถึงการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นที่ทราบจะเน้นไปทางการทำงานตามนโยบาย 

เมื่อถามอีกว่าหากลงนามเอ็มโอยูไม่ได้ พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้านอีกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียด ตอนนี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เมื่อประชาชนมอบคะแนนให้กับฝ่ายประชาธิปไตยท่วมท้นแบบนี้ เจตจำนงคงต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาทำงานเป็นรัฐบาล สิ่งนี้สำคัญกว่า จะมาคิดว่าตัวเองจะต้องเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าพอไปด้วยกันไม่ได้ แล้วต้องมาเป็นฝ่ายค้าน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top