Saturday, 4 May 2024
อนุทิน

'ซูเปอร์โพล' เผย ปชช. หนุนพรรคร่วม เป็น รบ. อีกสมัย ดัน 'ลุงหนู' นั่งนายกฯ เพราะมีเมตตา-ไม่ขัดแย้งกับใคร

26 มี.ค.2566-สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น เรื่อง โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 1 (ฉบับเต็ม) กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 53,094,778 คน ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,257 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 – 25 มี.ค.2566 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

ที่น่าสนใจคือ ความตั้งใจของประชาชนจะเลือกพรรคการเมือง แบ่งออกระหว่าง กลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล และ กลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบว่า ในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลรวมกันได้ร้อยละ 51.6 ในขณะที่ พรรคร่วมฝ่ายค้านตอนนี้รวมกันได้ร้อยละ 43.3 โดยในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล อันดับหนึ่งได้แก่ พรรคภูมิใจไทย ได้ร้อยละ 19.1 เพราะ เชื่อมั่นศรัทธานายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ต้องการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศ ต้องการคนมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์การเมือง มีผลงานเป็นที่ยอมรับนานาชาติช่วงวิกฤตโควิด ไม่ต้องการความขัดแย้ง ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ ผู้นำที่ไม่สร้างความขัดแย้ง ต้องการการพัฒนา ชอบนโยบายสุขภาพ และ อสม. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นคนจิตใจดี ช่วยเหลือชีวิตคนตัวเล็กตัวน้อย เป็นต้น

อันดับที่สองได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 13.4 เพราะ เชื่อมั่นศรัทธา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายชวน หลีกภัย และอดีตผู้นำพรรค เชื่อมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มีประสบการณ์ทางการเมือง ความเป็นสุภาพบุรุษ ความเป็นสถาบันพรรคการเมือง มีหลักการ อุดมการณ์การเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ มีผลงานประกันรายได้เกษตรกร การค้าระหว่างประเทศ ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ เป็นต้น

นอกจากนี้ อันดับที่สาม ได้แก่ พลังประชารัฐ ร้อยละ 10.1 เพราะ เชื่อมั่นใน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีผลงานแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ทำกิน บริหารจัดการน้ำ ความสงบความมั่นคงของบ้านเมือง เป็นต้น และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 7.3 เพราะ เชื่อมั่นศรัทธาใน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความซื่อสัตย์สุจริต มีผลงานแก้วิกฤตชาติ ความวุ่นวายของบ้านเมือง จริงจัง จริงใจ อดทน     ชอบโครงการ คนละครึ่ง เป๋าตังค์ ชอบนักการเมืองรุ่นเก่า อย่างนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ชอบคนรักชาติบ้านเมืองอย่าง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา เป็นต้น ที่เหลือเป็น พรรคชาติพัฒนา กล้า ร้อยละ 0.9 และพรรคชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 0.8 ตามลำดับ

ในขณะที่ ความตั้งใจของประชาชนจะเลือก ส.ส. ในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบว่า อันดับแรก พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 36.9 เพราะ ชอบอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ  ชินวัตร ต้องการคนรุ่นใหม่ ต้องการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศ เข้าถึงชาวบ้านและประชาชน ชอบนโยบาย ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ เป็นต้น รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล ร้อยละ 5.9 เพราะ ชอบหัวหน้าพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศ ต้องการคนรุ่นใหม่ อยากลอง ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ เป็นต้น และพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 0.5 เพราะ ชอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคตรงไปตรงมา เด็ดขาด ชัดเจน เป็นต้น

เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมของความตั้งใจของประชาชนจะเลือก ส.ส. พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 51.6 ระบุ จะเลือกพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 43.3 จะเลือกพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แก่ เพื่อไทย  ก้าวไกล เสรีรวมไทย เป็นต้น และร้อยละ 5.1 ระบุอื่น ๆ เช่น ไทยสร้างไทย และไทยภักดี เป็นต้น

ที่น่าพิจารณา คือ ความตั้งใจของประชาชนจะเลือก พรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล กับ พรรคร่วมฝ่ายค้าน แบ่งตามกลุ่มจุดยืนการเมือง พบว่า กลุ่มพลังเงียบส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.8 กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.3 และแม้แต่กลุ่มผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 15.6 ตั้งใจจะเลือก พรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น ในขณะที่ กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.7 กลุ่มพลังเงียบร้อยละ 34.6 และแม้แต่กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 21.4 ตั้งใจจะเลือกพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แก่ เพื่อไทย  ก้าวไกล เสรีรวมไทย เป็นต้น ตามลำดับ

นอกจากนี้ ที่น่าสนใจคือ คนที่ประชาชนอยากได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในกลุ่มแฟนคลับของพรรคร่วมรัฐบาล จำแนกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นขวัญใจมากสุดใน 4 กลุ่มอาชีพได้แก่ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐร้อยละ 20 พนักงานเอกชนร้อยละ 18.4 อาชีพอิสระค้าขายร้อยละ 19.8 และนักศึกษา ร้อยละ 23.2 เพราะเป็นคนมีความสามารถ มีผลงานเคยแก้วิกฤตชาติ เป็นผู้นำที่ไม่ก่อความขัดแย้งกับใคร จิตใจดี ช่วยเหลือชีวิตคน ไม่ด่างพร้อย ดูแลคนตัวเล็กตัวน้อย ชอบนโยบายสุขภาพ ดูแลใส่ใจคนทุกกลุ่ม เป็นต้น

‘อนุทิน’ แจง ขั้นตอนเดินหน้านโยบาย ‘พักหนี้ 3 ปี’ หยุดต้น-ปลอดดอก ลั่นไม่กระทบ ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

(28 มี.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายหาเสียงของพรรค ในประเด็นการให้ประชาชนได้สิทธิ์พักหนี้ 3 ปี วงเงิน ไม่เกิน 1 ล้านบาท ว่าตัวเลขที่อยู่ในนโยบายล้วนมีความหมายทั้งสิ้น เราให้เวลาพักหนี้ 3 ปี เท่ากับระยะเวลาที่โควิด - 19 ระบาด และกระทบกับการทำมาหากินของประชาชน ส่วนจำนวนเงินที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะเป็นจำนวนหนี้ ซึ่งสอดคล้องกับประชาชนคนไทยจำนวนมาก การพักหนี้คราวนี้ เราจะหยุดการจ่ายเงินต้น 3 ปี ดอกเบี้ยไม่ต้องคิดในระยะเวลา 3 ปี ขอย้ำว่า นโยบายนี้ใช้เฉพาะกับหนี้ที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

‘เสี่ยหนู’ นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ‘ภูมิใจไทย’ เผย รายชื่อว่าที่ ส.ส.คืบ 90% พบคนเด่น-ดังเพียบ!!

(29 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงการจัดทำไพรมารีโหวตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้ง ทั้งส.ส.แบบระบบเขต และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ว่าในส่วนของรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ทั้ง 400 เขต ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 90% ขั้นตอนต่อจากนี้จะส่งให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณา แล้วสรุปส่งต่อเสนอไปยังคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค.นี้

ส่วนรายชื่อผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ล่าสุดได้ครบ 100 คนแล้ว โดยลำดับที่ 1 คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ลำดับที่ 2 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ส่วนที่เหลืออีก 98 คน ใช้รูปแบบการเรียงลำดับตัวอักษร หลังจากนี้ก็จะเข้ากระบวนการส่งให้คณะกรรมการสรรหา และคณะกรรมการบริหารพรรคตามลำดับ เพื่อพิจารณาเรียงลำดับผู้สมัครตั้งแต่หมายเลข 3 -100 ต่อไป ซึ่งต้องเสร็จก่อนวันที่ 3 เม.ย.นี้

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า สำหรับวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย จะไปยื่นสมัครในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ส่วนวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะเป็นในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ซึ่งนายอนุทิน จะนำทีมไปสมัครด้วยตัวเอง และจับสลากหมายเลขผู้สมัคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้เสนอตัวเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย มีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม, นายศุภชัย ใจสมุทร, นายทรงศักดิ์ ทองศรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม, นายสวาป เผ่าประทาน, นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร, นายสุพล ฟองงาม, นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์, น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ, นายอารี ไกรนรา, นายภิญโญ นิโรจน์, นายนัจมุดดีน อูมา, นางนันทนา สงฆ์ประภา, นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล, นายสามารถ แก้วมีชัย, นายชลัฐ รัชกิจประการ, นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน, นายพิกิฎ ศรีชนะ, นายมารุต มัสยวาณิช, น.ส.เรวดี รัศมิทัต และนายวิรัช พันธุมะผล เป็นต้น

‘อนุทิน’ เมินหลากโพล ชี้ คะแนนพรรค ภท.ไม่กระเตื้อง เชื่อ ‘โพลอนุทิน’ ไม่เคยพลาด 2-3 ครั้งที่ผ่านมา

(29 มี.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การจัดลำดับรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิไทย ว่า เบอร์ 1 เบอร์  2 เสร็จแล้ว ส่วนตำแหน่งอื่นมีอยู่ในใจแล้ว รอให้ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายพรรคมีปัญหาผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ ไม่พอใจการจัดลำดับจนขอลาออก จะเกิดเหตุแบบนี้กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ยืนยันในพรรค ภท.ไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ เพราะเตรียมตัวมาเป็นปีและพูดคุยกับสมาชิกแล้ว ไม่เคยทะเลาะกัน และทะเลาะกันไม่ได้”

เมื่อถามว่า บัญชีรายชื่อลำดับ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ภท.เป็นคนเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “คนเดียวกัน แคนดิเดตนายกฯ มีคนเดียว ที่ผ่านมาก็เสนอคนเดียวมาตลอด ไม่จำเป็นต้องมีสำรอง คนเดียวเอาอยู่”

ผู้สื่อข่าวถามถึง การลาราชการได้ยื่นใบลากับนายกฯ แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า “จะยื่นลาเป็นวัน ๆ ไป วันไหนที่ต้องใช้เวลาราชการ จะลาตามช่วงที่ได้ใช้ไปจะได้ไม่มีปัญหา เพราะบางครั้งช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน และขณะนี้กำลังจัดเวลาอยู่ ใครขอคิวมาให้ ขอให้เสร็จในช่วงเวลา 16.00 น.”

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ลาติดต่อกันตลอดทั้งเดือนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “อุ๊ย!! ลาไม่ได้หรอก ลาเป็นเดือนก็ไม่กล้าเขียน เขียนไปถูกดุตายเลย”

เมื่อถามว่า จำนวน ส.ส.ที่พรรค ภท.ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ จะเพิ่มขึ้นหรือยัง เพราะพรรคพลังประชารัฐ ตั้งเป้าไว้ที่ 100 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า “ความจริงกระแสของพรรค ภท.ดีขึ้นเรื่อย ๆ อุปสรรคที่เกิดขึ้นมา ไม่ได้มีผลกระทบอะไรที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลง เราประเมินผลในทุกพื้นที่มาตลอด”

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค ภท.หวังว่าจะได้ ส.ส.เขต และปาร์ลิสต์เท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เก็บไว้ในใจ บอกไปไม่ได้”

‘อนุทิน’ เปิด 5 อันดับแรกปาร์ตี้ลิสต์ภูมิใจไทย 'น้องเพลง' นั่งเบอร์ 5 ในฐานะลูกสาว

(30 มี.ค.66) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยถึงลำดับผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 5 ลำดับแรกของพรรค คือ 1.นายอนุทิน 2.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค 3.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค 4.กลุ่มของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ซึ่งยังไม่ระบุตัวบุคคล และ 5.น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม หรือน้องเพลง ซึ่งนายอนุทิน ระบุว่า ต้องอยู่ในลำดับที่ 5 เพราะเป็นลูกสาว


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3900515

‘อนุทิน’ รุดเยี่ยม ‘เอ๋ ชนม์สวัสดิ์’ ที่ รพ. บุรีรัมย์ แพทย์ เผย อาการยังคงทรงตัว

(31 มี.ค.66) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือ เอ๋ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางไปที่สนามฟุตบอลช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ เพื่อแข่งรถ ต่อมาเกิดอาการฮีทสโตรก ไม่ได้สติ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งไปยัง รพ.บุรีรัมย์

ผู้สื่อข่าวเกาะติดสถานการณ์ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมาไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆ กระทั่งเวลา 21.00 น. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาถึงโรงพยาบาลแล้ว

นอกจากนี้ มีรายงานว่า น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย หรือ ตู่ ภรรยานายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาด้วย แต่ไม่พบตัว

'อนุทิน พิพัฒน์ นาที' ร่วม 'พิธีมุทิตาสักการะ' เจ้าพระคุณสมเด็จมหาวชิรมังคลาจารย์ จ.ตรัง

ที่สำนักสงฆ์พรหมประทาน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รักษาการ) นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดิน ( รักษาการ ) ดร.นาที  รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้พรรคภูมิใจไทย และคณะ ลงพื้นที่ เพื่อร่วมกิจกรรมวันกตัญญูผู้สูงวัยด้วยคุณธรรม ด้วยการร่วมพิธีถวายมุทิตาสักการะ เจ้าพระคุณสมเด็จมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์(พระอารามหลวง) ถวายโฉนดที่ดินและเสนาสนะ เพื่อสร้างวัดในพระพุทธศาสนาต่อไป และร่วมเดินพบปะกับประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับและร่วมพิธีจำนวนมากได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น 

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่มั่นของพรรคภูมิใจไทยคือทั่วประเทศ พรรคของเราเป็นของคนไทยทุกคน ซึ่งเรามีหน้าที่ต้องทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน เรามี ส.ส.ทุกภาคของประเทศไทย ภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ เราทำงานมา 4 ปี แล้ว มีผลงานอย่างชัดเจน เป็นพรรคที่ส่งมอบนโยบายที่เราได้สัญญากับประชาชนเมื่อปี 2562 ทำได้แทบจะครบทุกนโยบาย หวังว่าผลงานของพรรคภูมิใจไทยก็จะทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศเชื่อมั่นให้พรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งภายในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตอนนี้ยังขาดอยู่ประมาณ 7 เขต แต่ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนที่เป็นพื้นที่เป้าหมายส่งผู้สมัครครบแล้วทุกคนผ่านไพรมารีโหวตผ่านตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งทุกประการ

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่เราทำไว้ช่วงที่ผ่านมา ทำสะพานเชื่อมเกาะลันตา ทำสะพานที่เชื่อม จ.พัทลุง ผ่านไปยัง จ.สงขลา ได้ด้วยการร่นระยะเวลาการเดินทางกว่า 70 กม. และยังมีโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย โครงการคมนาคมขนส่ง ขยายสนามบินในหลายๆจังหวัดในภาคใต้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ประเทศไทยของเรากลับมาผงาดศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ หมายถึงอาเซียนและเอเชียด้วย จะทำให้เกิดสภาพทางเศรษฐกิจพื้นที่ทางเศรษฐกิจขยายตัวในพื้นที่ทางภาคใต้ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เป็นแหล่งดูแลสุขภาพ “เมดิคัล ฮับ ออฟ เดอะ เวิลด์” ที่จะอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ตรงนี้จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ของประชาชนทั้งสังคมที่จะทำให้ประชาชนมีความสงบสุข มีการมีงาน มีโอกาส มีฐานะที่ดี

‘อนุทิน’ โพสท่าชูเบอร์ 7 เผย ถูกโฉลกมาก!! ลั่น!! ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว 

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังจากจับฉลากหมายเลขพรรคได้เบอร์ 7 ว่า เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับตน  ส่วนเรื่องเอกสารที่บางพรรคอาจยื่นไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เลขถูกเลื่อนขึ้น กลายเป็นเลขไม่ถูกโฉลกนั้น ก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าดีทุกเบอร์ แต่ตอนนี้เราได้เลขตัวเดียว พรรคอื่นหากมีปัญหาเรื่องเอกสารเลื่อนขึ้นมาก็ยังเป็นเลขตัวเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว จากนั้นนายอนุทิน ได้โชว์สัญลักษณ์เลข 7

เมื่อถามว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ต่อหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เดินหน้าแน่นอน เพราะร่างกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เห็นชอบแล้ว มีมติเสียงข้างมากแล้ว เมื่อเรากลับเข้าสภาก็จะเสนอร่างนี้อีก ซึ่งบางคนไม่รู้ว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ ประเทศชาติ และประชาชน การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่พรรคภูมิใจไทยเข้ามาได้ส่วนหนึ่งก็เพราะนโยบายกัญชา ฉะนั้น สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเราก็จะเดินหน้าสร้างความเข้าใจ

ฟันธง!! 'อุ๊งอิ๊ง-อนุทิน-ลุงตู่' เต็งนายกฯ ส่วนพิธา 'ก้าวไกล' ตัดทิ้งไปได้เลย

(18 เม.ย.66) ส่วนหนึ่งจากคอลัมน์ 'เปลวสีเงิน' ได้นำเสนอบทความในหัวข้อ...นายกฯ 'รำไรๆ' ใต้ขนตา...ระบุความว่า...

ใครๆ ก็มองว่า ลุงป้อมจะไปตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย ที่เขาเอาตำแหน่งนายกฯ มาล่อ หวังแลกมือ ส.ว. สนับสนุนในรัฐสภา

เขาล่อน่ะ…ล่อจริง
แต่ผมเชื่อ ลุงป้อมไม่ยอมให้ล่อหรอก!

เพราะอะไรน่ะหรือ ในมุมมองผมนะ ผมเชื่อศักดิ์ศรีขุนทหารระดับ 'แม่ทัพ' กองทัพไทยของลุงป้อม

ถ้าโลภ จนหลง ยึดประโยชน์ตนเหนือประโยชน์ชาติ วิเคราะห์สถานการณ์ไม่ขาด อ่านเกมฝ่ายตรงข้ามไม่ออก

ทำเนียบกองทัพไทย...จะไม่มีคนชื่อ 'พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ' บรรจุอยู่ในตำแหน่ง 'ผู้บัญชาการทหารบก' ได้แน่นอน!

นั่นอย่างหนึ่ง...

และอีกอย่างหนึ่ง ระดับผู้บัญชาการกองทัพ ต้องเข้าพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงกล่าวนำมาแล้ว

ที่จะให้ 'พลเอกประวิตร' ไปตั้งรัฐบาลกับพรรคที่มีแนวทางอสัตย์ต่อ 'ชาติ-ศาสน์-พระมหากษัตริย์' เลิกมาตรา ๑๑๒ เมื่อได้เป็นรัฐบาล แบบนั้น

พลเอกประวิตร 'ไม่ทำ' แน่นอน!

อย่างสุดท้าย...คุณเคยได้ยินคำนี้มั้ย 'เพื่อนร่วมตาย' เหนือกว่า 'พี่น้องสายโลหิต'

คนเราน่ะ ต่างที่เกิด ต่างที่มา วันหนึ่ง มีวาสนาได้รู้จักกัน คบหากัน กินนอนด้วยกัน ร่วมเป็น-ร่วมตายด้วยกัน ใจผูกเป็นพี่-เป็นน้องกัน

อย่างพลเอกประวิตร-พี่ใหญ่, พลเอกอนุพงษ์-พี่รอง, พลเอกประยุทธ์-น้องเล็ก...ไม่ต่างเหล็กไหล ต่อให้ใช้แสงเลเซอร์ตัด ยืดปานจะหยด แต่ยังไงๆ ก็ตัดเหล็กไหลไม่ขาด!

ความผูกพันของ ๓ ป.เท่าที่ผมดู จะทะเลาะกันบ้าง ขัดใจกันบ้าง งอนกันบ้าง ถึงขั้น 'แตกพรรค-แตกขั้ว' ออกไปจากกันก็เถอะ แต่ก็นั่นแหละ ไหลยืดปานจะขาดจากกัน แต่มันก็ 'ตัด' กันไม่ขาด!

การแตกพรรค ที่ดูเหมือนแตกกัน นั่นมันแค่ 'ยุทธศาสตร์การเมือง' ที่มีแกนยึด จะไม่ 'แตกสามัคคี' จนนำไปสู่การกระทำให้ 'ชาติบ้านเมืองแตก'

เชื่อผมเถอะ ชั่ว, ดี, ถี่, ห่าง อย่างไร 'ทหารเสือนวมินทราชินี' คือ ผู้แก้ปัญหาให้ชาติบ้านเมือง ไม่ใช่ผู้สร้างปัญหาให้ชาติบ้านเมือง

ฉะนั้น ผมจึงอยากบอกลุงป้อมว่า ท่านน่ะ 'เลือดผู้นำ' ที่จะให้นั่งอยู่ในรู ปล่อยให้ลูกน้องออกไปสู้ตามลำพังน่ะ นั่นไม่ใช่วิสัยลุงป้อม

ใจบันดาลแรงท่านก็จริง แต่แดดมันแรง การเดินสายหาเสียง ตะกายขึ้นแต่ละเวที คนไม่เคย ไม่รู้หรอกว่า มันสาหัส-สากรรจ์ขนาดไหน?

ผมมองการณ์ข้างหน้า 'หลังเลือกตั้ง' อยากจะบอกว่า รัฐบาลข้างหน้า จะขาดลุงป้อมไม่ได้!

ฉะนั้น ลุงป้อมจะเป็นอะไรไปไม่ได้ ต้องถนอมตัวไว้ ยังไงๆ พรรคพลังประชารัฐก็ต้องร่วมเป็นรัฐบาลกับฝ่ายที่ 'ไม่ล้มเจ้า' อยู่แล้ว

แล้วมีพรรคไหนบ้างล่ะ ที่ไม่มีแนวทางล้มเจ้า? ก็มีพรรคภูมิใจไทย, รวมไทยสร้างชาติ, ประชาธิปัตย์, ชาติไทยพัฒนา, ไทยสร้างไทย, ไทยภักดี, ชาติพัฒนากล้า เป็นต้น

รัฐบาลหน้า ก็จะอยู่ในกลุ่มพรรคเหล่านี้ ส่วนพรรคไหนจะมี ส.ส.มากที่สุด ได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงจะเอาใครเป็นนายกฯ? นั่นมันเรื่องข้างหน้า 

ตราบใดที่ยังไม่เลือกตั้ง แต่ละพรรคยังไม่มีตัวเลขมาแบบนโต๊ะพูดจา การยกมาพูดตอนนี้ ไม่ต่างกับว่า..."ถ้าได้แต่งกับนางงามจักรวาล จะให้ลูกเรียนโรงเรียนไหนดี?"

มันเพ้อเจ้อข้ามขั้นตอนมากไป ไปหานางงามจักรวาลมาแต่งให้ได้ซะก่อนเหอะ แล้วค่อยมาคุยเรื่องมีลูก เรื่องโรงเรียน!

พรรคภูมิใจไทย ของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล โพลทุกสำนักฟันธงว่า จะได้ส.ส.มากเป็นอันดับ ๒ รองจากพรรคเพื่อไทย และเป็นพรรคเดียวในกลุ่มพรรคไม่ล้มเจ้า ที่จะได้ส.ส.ถึงหลักร้อย คือมากกว่า ๑๐๐ คนขึ้นไป!

ส่วน 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' ของนายกฯประยุทธ์ เขาประเมินกันแค่ ๔๐ กว่า ส.ส.เท่านั้น

ถ้าผลเลือกตั้งเป็นตามนี้ ภูมิใจไทยของคุณอนุทิน คือตัวชี้ว่า ฝ่ายไหนจะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล? ถ้าไปรวมกับเพื่อไทย เสียงกว่าค่อนสภา ตั้งรัฐบาลได้เลย

แต่ผมไม่เชื่อ เหมือนที่ไม่เชื่อว่าลุงป้อมจะไปตั้งรัฐบาลกับพรรคฝ่ายล้มเจ้า

‘อิทธิเดช’ ออกโรงปกป้อง ‘อนุทิน’ แนะ ควรฟังให้ครบถ้วน พร้อมร่าย ‘ซิโนแวค’ ช่วยลดการป่วยหนัก-นอนรพ.-ลดการใช้ไอซียู

(19 เม.ย.66) นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 15 ในฐานะโฆษกประจำตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์คำพูดบางตอนของนายอนุทิน ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการกรรมกรข่าวเปิดอกคุยว่า ตอนนี้คนลืมบุญคุณของซิโนแวคหมดแล้ว ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะถ้าฟังรายการให้ครบถ้วนจะเข้าใจทันทีว่า นายอนุทิน ต้องการปกป้องดูแลบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละเป็นด่านหน้ารับมือกับโควิด-19 โดยเร็วที่สุด จึงได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถต้านทานไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่นได้ เข้ามาใช้กับบุคลากรกลุ่มนี้ก่อน เพราะชีวิตคนรอไม่ได้ และต่อมาก็ได้สั่งซื้อวัคซีนชนิดอื่นที่ต้องรอนานกว่าอย่างเช่น แอสตร้าเซนเนก้าหรือไฟเซอร์ ด้วยเช่นกัน แต่วัคซีนซิโนแวคนั้น มักถูกมองว่ามีประสิทธิภาพต่ำ ทั้งๆที่สามารถลดการป่วยหนัก ลดการนอนโรงพยาบาล และลดการใช้ไอซียูได้ รวมทั้งเมื่อฉีดสูตรไขว้ก็ได้สรรพคุณที่ดีขึ้นอีก แต่หลายคนอาจลืมข้อดีนี้ไป ซึ่งนายอนุทิน ใช้คำว่าตอนนี้คนลืมบุญคุณของซิโนแวคหมดแล้ว ซึ่งที่จริงก็คือความหมายเดียวกัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top