Saturday, 4 May 2024
อนุทิน

'อนุทิน' ร่วมหารือเครือข่ายธุรกิจเอกชน หนุนไทยเป็นเจ้าภาพ 'Expo 2028 Phuket Thailand'

(20 ก.พ. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand โดยมีนางอรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) หรือ TCEB และผู้บริหารภาคเอกชนเข้าร่วม ณ ห้อง Plenary Hall 1 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อหาแนวทางความร่วมมือกับเครือข่ายทางธุรกิจของเอกชนในการสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ Bureau International des Expositions (BIE) ตลอดจนสมาชิก BIE ทั้ง 171 ช่วยให้ประเทศไทยได้รับชัยชนะเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 Phuket Thailand ซึ่งไทยแข่งขันการเป็นเจ้าภาพกับอีก 4 ประเทศจากทวีปอเมริกา และยุโรป ประกอบด้วยสหรัฐฯ (รัฐมินนิโซตา), อาร์เจนตินา (เมืองซาน คาร์ลอส เดอ บาริโลเช่), เซอร์เบีย (เมืองเบลเกรด) และสเปน (เมืองมาลาก้า)

ระหว่างการประชุม นายอนุทิน ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย สำหรับการเป็นตัวแทนภูมิภาคเอเชีย เพื่อเข้าแข่งขันเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) ว่า ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต, สสปน. และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันเตรียมการในเรื่องนี้อย่างเป็นเอกภาพ

โดย BIE เข้ามาตรวจสอบสถานที่จัดงานและความพร้อมของไทย และมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ ไทยอยู่ในขั้นตอนการหาเสียงให้ประเทศสมาชิกของ BIE ทั้ง 171 ประเทศ ให้ลงคะแนนเสียงโหวตให้ประเทศไทย ซึ่งการตัดสินจะมีขึ้นในเดือน มิ.ย. 66 นี้

นายอนุทิน ได้กล่าวถึงศักยภาพในมิติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าภาพของไทย โดยเฉพาะเป็นโอกาสเสนอทางออกให้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกโลกในปัจจุบัน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ และเรื่องโลกร้อน ด้วยการดึงผู้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการ นำเสนอแนวคิดครอบคลุมมิติในด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการแบ่งปัน ภายใต้ธีม 'Future of Life : Living in Harmony, Sharing Prosperity'

‘อนุทิน’ เมิน ‘ชูวิทย์’ จ่อแฉพรรคร่วม เหน็บ!! คนชี้นิ้วใส่คนอื่น อีก 4 นิ้วหันเข้าตัว

‘อนุทิน’ เมิน ‘ชูวิทย์’ จ่อแฉพรรคร่วม เหน็บ คนชี้นิ้วใส่คนอื่น อีก 4 นิ้วหันเข้าตัว ย้ำ สัมพันธ์พรรคร่วมไร้ปัญหา ขอแค่หัวไม่ทะเลาะกันพอ

(23 ก.พ.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นหนังสือต่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตหลายโครงการของพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของกระทรวงคมนาคม ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภท.ว่า ไม่กังวล ที่นายชูวิทย์ออกมาแฉ นายศักดิ์สยามได้ชี้แจงไปแล้ว การจะกล่าวหาใครจะต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน การคาดคะเนหรือวิเคราะห์ ไม่สามารถใช้ในกระบวนการยุติธรรมได้ ต้องมีหลักฐาน ถ้ามีหลักฐานก็ฟาดไม่เลี้ยง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาแฉในช่วงนี้ที่ใกล้เลือกตั้ง จะมีผลกระทบในการหาเสียงของพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เชื่อว่าประชาชนรับทราบกันดี โดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้งตั้ง จะมีการสาดโคลนใส่กันได้ และที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นตลอด เป็นปกติ แต่คนสาดต้องระมัดระวัง โดยจะพูดเป็นตัวย่อ หรือพูดอ้อมไปมา และเรื่องเหล่านี้หาสาระไม่ได้

‘ศุภชัย’ ชู ผลงาน ‘3 กระทรวงหลัก’ พิสูจน์แล้ว 'ภท.' พูดแล้วทำ หนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ ฟื้นประเทศ

(24 ก.พ. 66) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยได้เข้าไปบริหารกระทรวงหลัก 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นกระทรวงหลักที่ทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างให้ประเทศไทยของเราดีขึ้น

"ผมมั่นใจว่า ถ้าพี่น้องประชาชนให้โอกาสกับพรรคการเมืองที่ชื่อ 'ภูมิใจไทย' ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เราจะสามารถทำให้ประเทศพลิกฟื้นและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยคำมั่นสัญญาของพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ" นายศุภชัย กล่าว

‘เสี่ยหนู’ ลั่น!! ไม่สนใจ ‘ชูวิทย์’ ตามบี้ ‘ภูมิใจไทย’ ชี้ มีคนหนุนหลัง เผย ไม่หวั่น หากร่วมงานในอนาคต

(27 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จองกฐินพรรคภูมิใจไทย โดยจะติดตามการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ยังไม่ทราบ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดหรือทำอะไร เราต้องรับฟัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินหรือไม่ว่า ทำไมนายชูวิทย์ ถึงพุ่งเป้ามาที่พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ได้ประเมิน เราก็ทํางานของเรา ทุกคนมีสิทธิที่จะทําอะไรตามที่รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายเปิดทางให้

เมื่อถามว่า มองว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของพรรค ภท. เพราะเรามีนโยบายที่ชัดเจน และผลงานชัดเจน ไม่เคยไปลอกเลียนผลงานของคนอื่นมา เรามีผลงานเป็นของตัวเอง ทำอะไรเรารู้ ประชาชนก็รู้

เมื่อถามว่า พอรู้หรือไม่ว่ากลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์คือ กลุ่มใด นายอนุทิน กล่าวว่า ทราบหมดแหละ แต่ทําไมจะต้องมาพูดกัน เราก็ทำงานของเราไป และเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพียงแต่เราไม่ทำแบบนี้

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ ว่าทำไมถึงมารับเรื่องจากนายชูวิทย์ด้วยตัวเอง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องคุย คุยไปก็ไม่มีประโยชน์ พอเลือกตั้งเสร็จใครมี ส.ส.เท่าไหร่ ถึงจะเป็นตัวชี้ว่าใครจะต้องคุยยังไงกับใคร มีเงื่อนไขอะไร ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ แต่ละคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อถ้าได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พรรค ภท.คิดอยู่แค่นี้ ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่

เมื่อถามว่า บรรยากาศเป็นแบบนี้จะมองหน้ากันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หรือ นายอนุทินกล่าวว่า ก็มองกันอีกแค่ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ไม่เป็นไร ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ ครม.ต้องแยกออกจากัน และไม่ได้อึดอัดอะไร เพราะเราทํางาน การมาประชุม ครม.คือการทำงาน ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ถ้าไม่ทำงาน คนก็หาว่าละเลยละเว้น

เมื่อถามว่า จะไม่ส่งผลต่อการร่วมรัฐบาลในอนาคตใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละพรรค พูดถึงก็ดีเหมือนกัน ก่อนเลือกตั้งคนจะได้ไปทำงานอย่างเต็มที่ ปลดแอกปลดพันธนาการทั้งหลาย ทําให้เราอยากเป็นตัวของเราเองอย่างเต็มที่ จะได้คิดอะไรของเราเอง โดยไม่ต้องมีความเกรงอกเกรงใจหรือวิตกกังวลอะไร เพราะบางที เราต้องนึกถึงตัวเราเอง มัวแต่ไปคิดถึงคนอื่นมาก ๆ ก็จะเป็นสิ่งที่ไม่ดีกับตัวเรา

‘เสี่ยหนู’ ตอบปมพิพาท ‘ชูวิทย์’ เชื่อ ปชช.แยกแยะได้ เผย รู้ตัวคนอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่พูด ลั่น!! ทำงานดีกว่า

(28 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพิพาทกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ว่า…

“ทำงานดีกว่า ไม่ให้ราคา ก็คือไม่ให้ราคา”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนของนายชูวิทย์ นายอนุทิน ตอบว่า รู้ แต่ไม่พูด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วจะจัดการนายชูวิทย์อย่างไร นายอนุทินตอบว่า เห็นคนจะปองร้าย ก็ต้องหลบ ไม่ปะทะ

“มาถึงจุดนี้ ผมเชื่อว่าประชาชนมองออกว่าอะไรเป็นอะไร”

เมื่อถามถึงเรื่องที่นายชูวิทย์พาดพิงนายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทินตอบว่า ท่านก็ยังตกใจ เพราะก็อยู่บ้านดี ๆ เอาเข้าจริงพวกเราไม่เคยสู้กับใคร ทำงานอย่างเดียว

ไม่ยุ่งกับจิ๊กโก๋!! ‘เสี่ยหนู’ เมิน ‘ชูวิทย์’ ดิสเครดิต-ขู่เผารังหนู มั่นใจ พรรคมีผลงานชัดเจน เชื่อ ปชช.รับรู้

(1 มี.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่รณรงค์เลือกตั้งเพื่อชิงเก้าอี้ในกรุงเทพมหานคร ว่า เราไม่ได้บอกว่าจะไปชิงเก้าอี้กับใคร แต่เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าพรรค ภท.สามารถทำนโยบายได้สำเร็จ และเป็นประโยชน์กับประชาชน ถ้าประชาชนเห็นแล้วพวกท่านก็จะเลือกตนและพรรค ภท.

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร เดิมที พรรค ภท.เกิดประหม่ามาก ตอนนี้มีความมั่นใจขึ้นบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เวลาเราเจอคนเยอะ ๆ เราก็ประหม่าทุกครั้ง แต่การทำงานของเราในช่วงนี้ต้องรณรงค์หาเสียง ตนในฐานะหัวหน้าพรรค จึงมอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่ถ้ามีกรณีเร่งด่วนก็พร้อมทำงานเต็มที่

“เรื่องการเมืองปล่อยผมไปตามยถากรรม” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามถึงพื้นที่ที่พรรค ภท.จะเจาะเป็นพิเศษ นายอนุทินกล่าวว่า เรานำเสนอนโยบายผ่านผู้แทนราษฎร งานด้านการเมืองสำคัญหมด เพราะประชาชนอยู่ทุกอำเภอ ทุกที่มีโอกาสหมด พรรค ภท.เราเปิดตัวเมื่อสิบปีที่แล้ว ก็มีสมาชิกเข้ามาเพิ่ม และตนเชื่อว่างานของตนใน สธ. ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้

เมื่อถามถึงนโยบายที่จะเปิดตัวเพิ่ม นายอนุทินกล่าวว่า เราเปิดไปหมดแล้วตั้งแต่ 3 เดือนก่อน ไม่มีเพิ่มมากกว่านี้แล้ว เท่าที่มีอยู่ก็ขอให้ได้ทำอย่างเต็มที่ ในการทำประโยชน์ให้ประชาชนและบ้านเมือง

ถามย้ำว่า มีความมั่นใจว่านโยบายตอนนี้จะทำให้ได้เป็นรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะโอเค

บุกกรุงเก่า!! ‘เสี่ยหนู’ อ้อน ‘ชาวอยุธยา’ เลือก ‘ภูมิใจไทย’ ยกจังหวัด ชู ‘คอนแทรค ฟาร์มมิ่ง’ แก้จนการเกษตร เพื่อชาวนาอยู่ดี กินดี

(5 มี.ค. 66) ที่วัดบางเพลิง อำเภอบางประหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ นายนพ ชีวานันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หาเสียง ซึ่งในกิจกรรมดังกล่าว มีผู้สมัครเขตอื่นลงพื้นที่ด้วย เช่น นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 1 และนายประดิษฐ์ สังขจาย ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 5 โดยมีประชาชน ต้อนรับกว่า 2,000 คน

อนุทินประกาศพร้อมจับมือบิ๊กแจ๊ส ลั่นตอกเสาเข็มปทุมธานี

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 15.00 น. ที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าท์ จังหวัดปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหารพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ช่วยนางสาว ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย แนะนำนโยบาย มีประชาชนกว่า 1,500 คน ต้อนรับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ประเทศไทย เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่มาฟังตนวันนี้ ก็มีผู้สูงวัยไม่น้อย พรรคภูมิใจไทยไม่ลืมพวกท่าน เรามีนโยบายผู้สูงอายุ คือ เมื่อท่านอายุ 60 ปีขึ้นไป เราให้สิทธิ์ท่านเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ให้สิทธิ์กู้เงินดูแลตัวเอง และ ประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ “ท่านมีเงิน 20,000 บาทใช้ จากกรมธรรม์ของท่านเอง ไม่ต้องไปใช้ของลูกหลาน เมื่อท่านจากไป ท่านยังทิ้งมรดกให้ลูกหลานอีก 100,000 บาท”

สำหรับนโยบายขึ้นค่าตอบแทน อสม.เป็น 2,000 บาทต่อเดือน, นโยบายพักหนี้ 1,000,000 บาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย , นโยบายด้านการสาธารณสุข อาทิ การจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งมาติดตั้งไว้ทุกจังหวัด และการสร้างศูนย์ไตเทียมในทุกอำเภอ โดยนายอนุทิน ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย หาเสียง เฉพาะในสิ่งที่ทำได้ เพราะพรรคภูมิใจไทย พูดจริงทำจริง จากนั้น ได้มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ผมเจอท่าน และท่านฝากทีมของท่านไว้กับผม ซึ่งท่านแนะนำว่า ให้ประกาศไปเลยว่า หากภูมิใจไทยคว้า ส.ส.แบบยกจังหวัด จะสร้างโมโนเรลให้ชาวปทุมธานี ซึ่งทาง อบจ. พร้อมสนับสนุน ผมเลยบอกว่า จะได้กี่คน ผมก็จะประกาศนโยบายนี้ เพราะดูแล้วเป็นนโยบายที่ชาวปทุมฯ ต้องการ ผมขอบคุณท่านคำรณวิทย์ ท่านรู้ว่าพี่น้องต้องการอะไร และท่านก็อยากช่วยเหลือเต็มที่ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เราจะตอกเสาเข็มเพิ่ม ยิ่งท่านวางใจเรา เราก็ยิ่งมีพาวเวอร์ในการทำงานรับใช้ท่าน

ดองนานจนลืม!! ‘แพทย์ชนบท’ ทวง ‘เสี่ยหนู’ ปมโรคนอกสิทธิ์บัตรทอง ชี้ 4 เดือน ไร้ความคืบหน้า วอน รีบแก้ปัญหาก่อนยุบสภาฯ

(6 มี.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ชมรมแพทย์ชนบท’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

นานแล้วนะ ที่ปัญหาถูกดองไม่ถูกแก้

งบส่งเสริมป้องกันของกลุ่มประชากรที่ไม่ได้ใช้บัตรทอง เช่น กลุ่มสวัสดิการข้าราชการและครอบครัว กลุ่มประกันสังคม กลุ่มครูเอกชน กลุ่มรัฐวิสาหกิจ รวมแล้ว 20 ล้านคน ยังไม่ได้งบลงสู่พื้นที่ สธ. บอกให้โรงพยาบาลให้บริการไปก่อน แต่จริง ๆ ยังมีโรงพยาบาลนอก สธ.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ สธ. สั่งไม่ได้อีกด้วย

นี่ผ่านมากว่า 4 เดือน ไร้ความคืบหน้า ใกล้ยุบสภาฯ เป็นรัฐบาลรักษาการ จะส่งเรื่องให้ ครม.อนุมัติเห็นชอบทันไหม สงสัยจะไม่ทัน เพราะดองลืม ไม่ใส่ใจแก้ปัญหา สนใจแต่เดินสายหาคะแนนเสียง

ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยาต้านไวรัส วัคซีนพื้นฐาน ฝากท้อง แว่นสายตาผู้สูงอายุ งบกองทุนสุขภาพตำบล มากมายหลายรายการที่หน่วยบริการปวดหัวมาก เดิมให้ทุกคนทุกสิทธิ ตอนนี้ต้องมาอธิบายชาวบ้าน บ่อยครั้งชาวบ้านไม่เข้าใจ ไม่พอใจ เลยต้องบอกชาวบ้านว่า ให้ไปต่อว่าคนคนนั้นที่ดองงบแทน อย่ามาว่าพยาบาล
 

แล้วแต่จะเชื่อ!! ‘อนุทิน’ ตอกกลับ ‘พรรคเจ้าถิ่น’ หลังจ้องโจมตี ‘นโยบายกัญชา’ ลั่น!! ใครเชื่ออย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ให้ ปชช. ตัดสินใจ

(12 มี.ค. 66) ที่ จ.นราธิวาส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะทางพรรคเจ้าถิ่นอย่างพรรคประชาชาติ ได้หยิบยกนโยบายกัญชาเสรีมาโจมตี ว่าไม่มีเจ้าถิ่น มีแต่ประชาชน เจ้าถิ่นคือประชาชน ประชาชนแยกแยะได้ว่า อย่างไหนคือการโจมตี อย่างไหนคือประโยชน์ พรรคไหนทำงาน พรรคไหนไม่ทำงาน กัญชาทางการแพทย์และเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประเทศหลายหมื่นล้านบาทแล้ว ถ้ายังมาโจมตีอยู่ก็ถือว่าล้าหลัง ไม่ควรเสนอตัวเองมาเป็นผู้แทนของประชาชน เป็นผู้แทนประชาชนต้องทำเรื่องที่ยากให้กับประชาชนได้ เรื่องง่ายๆใครก็ทำได้ และพรรคภูมิใจไทยทำเรื่องที่ยากๆได้

เมื่อถามว่า การที่พรรคประชาชาติประกาศไม่เอานโยบายกัญชาเสรี ถือเป็นการเปิดหน้าชนกับพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียวเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคเราจะไปวิจารณ์ไม่ได้ ใครเชื่ออย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ประชาชนคือคนที่จะตัดสินใจ ตรงนี้ไม่มีความหมายใดๆกับพรรคภูมิใจไทย พรรคไหนไม่เชื่อก็ไปหาเสียงห้ามไม่ให้มีกัญชา แต่พรรคภูมิใจไทยก็จะหาเสียงบอกว่ากัญชาดีอย่างไร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top