(28 มี.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายหาเสียงของพรรค ในประเด็นการให้ประชาชนได้สิทธิ์พักหนี้ 3 ปี วงเงิน ไม่เกิน 1 ล้านบาท ว่าตัวเลขที่อยู่ในนโยบายล้วนมีความหมายทั้งสิ้น เราให้เวลาพักหนี้ 3 ปี เท่ากับระยะเวลาที่โควิด - 19 ระบาด และกระทบกับการทำมาหากินของประชาชน ส่วนจำนวนเงินที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะเป็นจำนวนหนี้ ซึ่งสอดคล้องกับประชาชนคนไทยจำนวนมาก การพักหนี้คราวนี้ เราจะหยุดการจ่ายเงินต้น 3 ปี ดอกเบี้ยไม่ต้องคิดในระยะเวลา 3 ปี ขอย้ำว่า นโยบายนี้ใช้เฉพาะกับหนี้ที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

เมื่อถามว่า จะกระทบกับเจ้าหนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยกัน ขอย้ำว่า เราไม่ได้ปลดหนี้ ไม่ได้ลดหนี้ หนี้ยังอยู่ ดอกยังอยู่ แต่ขอพักไว้ ยกตัวอย่างในภาคธุรกิจเกิดบริษัทไหนมีปัญหา แต่ถ้ามีศักยภาพ เขาก็จะให้เวลาได้หายใจ ได้คิด ได้หาทาง ซึ่งตนมั่นใจว่า ประชาชนมีศักยภาพ มีความสามารถ ก็ให้เวลาได้คิดได้ทำกัน 3 ปี ตามรายงานมันมีหนี้ที่เข้าเงื่อนไขประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่เรามีเงินฝากในระบบ ประมาณ 15 ล้านล้านบาท

“เราจะขายพันธบัตรดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 - 3 แล้วเอาเงินก้อนนี้ ไปคุยกับธนาคารหาทางออกร่วมกัน ที่สุดแล้ว เป็นการช่วยทั้ง 2 ฝ่าย ลูกหนี้มีเวลาได้ฟื้นตัว อย่างที่บอกขณะที่ฝ่ายเจ้าหนี้ จากที่เคยต้องตัดหนี้ศูนย์ เพราะลูกหนี้ไม่มีศักยภาพ คราวนี้ไม่ต้องตัดหนี้ศูนย์แล้ว ย้อนกลับไป ปี 40 คนกำไรเยอะ คือ คนไปซื้อหนี้ แต่ปี 62 รัฐจะเข้ามาบริหารจัดการแทน หากนโยบายเดินหน้า รับรองว่าประชาชนได้ประโยชน์ เจ้าหนี้ ได้ประโยชน์ และไม่มีใครเสียหายจากนโยบายนี้ เรื่องนี้ยากพอสมควรต้องตั้งหน่วยงานมาดำเนินการ แต่เราจะทำ เพราะดีมีประโยชน์ และไม่มีคนแย่งทำ” นายอนุทิน กล่าว