Thursday, 2 May 2024
ลงพื้นที่

'ลุงป้อม' ลงพื้นที่ตรวจโครงการน้ำ 'หนองคาย-เลย' เสริมความเชื่อมั่น 'ไม่ท่วม-ไม่แล้ง-น้ำสะอาดทั่วถึง'

(24 ก.พ. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ผอ.กอนช. พร้อมด้วย รมช.คลัง และคณะ ได้ปฏิบัติงานต่อเนื่องจากช่วงเช้า (จ.อุดรธานี) โดยในช่วงบ่ายได้ลงพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.เลย ตามลำดับ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและผลการดำเนินงานการบริหารจัดการน้ำ โดยเมื่อเดินทางถึง ลานวัฒนธรรมเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มี ผวจ.หนองคาย ให้การต้อนรับ และรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการบริหารจัดการน้ำ จากเลขาฯ สทนช., กรมชลประทาน และตรวจติดตามโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปา เทศบาลเมืองท่าบ่อ จากนั้นได้พบปะผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ประมาณ 5,000 คน อย่างใกล้ชิด เป็นกันเอง พร้อมรับเรื่องแก้ปัญหาน้ำประปาเพื่อการอุปโภค บริโภค จากตัวแทนชาวบ้าน

ต่อมา พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงคาน จ.เลย โดยมี ผวจ.เลยให้การต้อนรับ และรับฟังการบรรยายสรุป สถานการณ์น้ำ และการพัฒนาแหล่งน้ำ อาทิ การดำเนินงาน งบบูรณาการปี 66 จำนวน 20 โครงการ วงเงิน 840 ล้านบาท ซึ่งจะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 8,180 ไร่  5,411 ครัวเรือน  ได้แก่โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมชุมชนเมืองเลย และโครงการน้ำบาดาล เพื่อการเกษตรด้วยพลังแสงอาทิตย์ เป็นต้น

‘เพื่อไทย’ นำทีมผู้สมัคร บุกห้วยขวาง รับฟังปัญหา พร้อมปลุก ปชช. เลือก ‘พท.’ ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

(25 ก.พ. 66) แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคพท., นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม., นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม., นายวิชาญ มีนชัยนันท์, นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พร้อมด้วยนายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตห้วยขวางและวังทองหลาง และนายภัทร ภมรมนตรี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตดินแดง ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน และพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดห้วยขวาง โดยได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของอย่างมาก

ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้าได้ฝากพรรค พท.แก้ไขปัญหาเรื่องหาบเร่แผงลอยที่ถูกจัดระเบียบอยู่ในขณะนี้ พร้อมขอให้พรรค พท.เข้ามาทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีกำลังมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วย

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า วันนี้ทีมงานของพรรค พท.พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่ดูปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องในเรื่องของราคาสินค้า ซึ่งก็ได้รับทราบว่า วันนี้ราคาสินค้าเท่าเดิม แต่ต้นทุนของแม่ค้านั้นสูงขึ้น ทำให้กำไรของผู้ค้าขายน้อยลงอย่างมาก ซึ่งพรรค พท.มีนโยบายที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า วันนี้เขตดินแดง ห้วยขวางมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครของพรรค ซึ่งผู้สมัครของพรรค พท. จะต้องชิงชัยกับผู้สมัครคนเก่าของพรรค ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เรารอการแบ่งเขตของ กกต.อยู่ แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครคนใด เขตใดของพรรค เราเชื่อว่าจะสามารถทำหน้าที่เพื่อเป็นตัวแทน และเป็นปากเสียงให้พี่น้องประชาชนได้ โดยพรรค พท.เป็นพรรคที่ทำทุกนโยบายให้เกิดขึ้นได้จริง ตนคิดว่าผู้สมัครคือคนที่จะเข้ามาช่วยกันผลักดันนโยบายเหล่านั้นเพื่อพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ ว่าที่ผู้สมัครของพรรค พท.ทุกคนลงพื้นที่ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ตนอยากให้ทุกคนเลือกผู้สมัครที่ตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนเบื่อกับการบริหารงานของรัฐบาลเก่า ๆ อยากเรียนว่าพรรค พท.สามารถเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ขอให้เลือกพรรค พท.ทั้งคนทั้งพรรค เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เข้ามาแก้ไขวิกฤติของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่นี้

‘บิ๊กป้อม’ ล่องใต้ นั่งหัวโต๊ะประชุม กพต. หนุนเด็ก-สตรีมีส่วนร่วมพัฒนา ยกระดับชีวิตชาวใต้

(27 ก.พ. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสตูล และจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนา จชต. (กพต.) ครั้งที่ 1/66  ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาวิทยาเขตสตูล อำเภอระงู จังหวัดสตูล โดยมี เลขา ศอ.บต. และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ

ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องสำคัญ ๆ หลายเรื่อง ประกอบด้วย

1.) โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสตูล ปี 66-72

2.) กรอบแนวทางยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยว จ.สตูล ให้เป็นการท่องเที่ยวระดับโลก ภายใต้แนวคิด ‘ริเวียร่าสตูล’ โดยเฉพาะการยกระดับเกาะอาดัง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกเชิงสุขภาพฮาลาลสากล โดยมีเกาะลังกาวี เป็นเกาะคูพัฒนา

3.) การก่อสร้างถนน เชื่อมต่อ ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซีย รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา

4.) กำหนดให้วันสารท เดือนสิบ เป็นวันหยุดราชการประจำปี เฉพาะพื้นที่ จชต.

5.) ร่างระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนา จชต. ว่าด้วยการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

6.) ร่างแผนส่งเสริมและพัฒนาเด็ก เยาวชน สตรีและกลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่ จชต. ปี 66-70

7.) กรอบแนวทางการยกระดับการจัดการศึกษาในสถาบันการศึกษาปอเนาะและ รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ จชต. ที่ให้ความสำคัญ ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาที่หลากหลาย การเรียนรู้ทางศาสนาและการศึกษาสมัยใหม่

8.) หลักการขอรับเงินสวัสดิการ สำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ ให้กับผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมเป็นธรรมแก่ผู้ปฏิบัติงาน

9.) โครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่แบบครบวงจร ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำการทำงานร่วมกัน โดยให้ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก นำไปสู่การเกิดสันติสุขในใจของประชาชน และได้สั่งการ ให้ทุกฝ่ายเร่งจัดตั้ง ม.สตูลให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาศักยภาพประชาชน เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา รวมทั้งพื้นที่ จชต. โดยเน้นการเรียนการสอนที่ตอบสนองการพัฒนาเชิงพื้นที่และการจัดการศึกษาสมัยใหม่ ตรงความต้องการประชาชนและแผนพัฒนาพื้นที่

ทั้งนี้ ขอให้ทุกส่วนราชการเร่งเดินหน้าการทำงานที่ กพต.ให้ความเห็นชอบร่วมกันให้เป็นรูปธรรม โดยขอให้ทำงานร่วมกับมาเลเซียอย่างใกล้ชิด สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ขอให้ ศอ.บต.ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พิจารณาจัดโครงสร้างการทำงานให้เป็นอิสระ เพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพการทำงาน

'ลุงป้อม' ลงพื้นที่ จว. สตูล เพื่อประชุมหารือพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้นอกสถานที่ หนุน 10 โครงการฯ พัฒนาชายแดนใต้ ผ่าน ศอ.บต. เสนอยกระดับพัฒนาพื้นที่ทุกมิติ

(27 ก.พ. 66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และคณะ ลงพื้นที่ จ.สตูล โดยมี พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ เพื่อประชุมหารือพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้นอกสถานที่ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตสตูล โดยก่อนการประชุมรองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะเครือข่ายมวลชนจังหวัดสตูล ที่มารอต้อนรับและให้กำลังใจ ในการดำเนินงาน กว่า 2,500 คน ประกอบด้วย มวลชนสภาสันติสุขตำบล ในพื้นที่จังหวัดสตูล ผู้แทนเด็กและเยาวชน ผู้แทนสตรี สถาบันการศึกษา และประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังมีผู้แทนประมงที่ร่วมให้การต้อนรับและขอบคุณ รองนายกรัฐมนตรีในการผลักดันโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ 

จากนั้นในเวลา 10.30 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม กพต. สัญจร โดยมีการพิจารณาโครงการสำคัญ 10 โครงการ ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนา 5 จชต. อาทิ เสนอพิจารณาโครงการก่อสร้างศูนย์บริหารจัดการศาสนาอิสลาม จ.สตูล โดย ศอ.บต. เสนอให้ กพต. พิจารณารับในหลักการฯ สืบเนื่องจากอาคารสำนักงานเดิมมีอายุการใช้งานมามากกว่า 30 ปี และมีสภาพทรุดโทรม โดยการปรับปรุงและก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ฯจะสามารถใช้บริหารกิจการทางศาสนา และให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก โดยขออนุมัติกรอบวงเงินก่อสร้าง 67 ล้านบาท อีกทั้งได้เสนอให้กพต. พิจารณา กรอบแนวทางการพัฒนายกระดับการจัดการศึกษาในพื้นที่ จชต. โดยเสนอพิจารณา ให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการสอบบรรจุข้าราชการครูในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา สนับสนุนให้ครูได้รับสิทธิการกู้ยืมเรียน และเสนอเพิ่มค่าตอบแทนให้กับครูสอนศาสนา จาก 2,000 บาท เป็น 2,500 บาท พร้อมเพิ่มค่าตอบแทนอื่นๆ ค่าบริหารจัดการ ที่เป็นประโยชน์ในการยกระดับการศึกษาในพื้นที่

‘บิ๊กตู่’ เยือนอุดรฯ พบปะข้าราชการท้องถิ่น จับตา!! ประกาศขึ้นเงินเดือนก่อนการเลือกตั้ง

(2 มี.ค. 66) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี และหนองบัวลำภู พร้อมพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

ที่จุดแรกเวลา 09.57 น. ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ตำบลสามพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา ‘บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน’ พร้อมกล่าวปาฐกถา ‘ท้องถิ่นต้องไปต่อ’ และทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา ‘บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน’ โดยทันทีที่นายกฯ มาถึงประชาชนให้กำลังใจ “ลุงตู่สู้ๆ” โดยนายกฯ ได้ตอบกลับไป “ก็ขอให้ช่วยกันสู้เช่นเดียวกันขอให้สู้เพื่อประเทศชาติ”

ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด มีการตั้งด่านจุดตรวจสกัดและตรวจค้นบุคคนที่จะเข้ามา 2 ด่านโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบและสแกนเพื่อป้องกันไม่ให้มีกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรฯ เข้ามาเคลื่อนไหวหรือต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรับเรื่องร้องเรียนไว้ด้านหน้า ก่อนถึงหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าในทางการข่าวขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแดงอุดรฯ มีแต่กลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนที่เดินทางมายื่นเรื่องและจดหมายร้องเรียน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับหนังสือ โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มเหมืองโปรแตสประมาณ 20 คนที่จะเข้ามาร้องเรียน

อย่าเกลียดทหาร!! ‘บิ๊กตู่’ ลง ‘หนองบัวลำภู’ ยัน!! ไม่ได้มาหาเสียง  อ้อน!! อย่าเกลียดทหาร มีปัญหาพวกเขาช่วยเสมอ

(2 มี.ค.66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางถึงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดหนองบัวลำภู ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน (หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด) 

ต่อมานายกฯ ร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาส ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก. 4-31 ก.) สำหรับใช้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์แห่งใหม่ ให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ 

จากนั้นก่อนนายกฯ กล่าวพบปะประชาชน โดยเหมือนเช่นเคยมีการฉายวีดีทัศน์ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาเยือนอีกครั้งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2565 เป็นความสูญเสีย สะเทือนใจของคนไทยทุกคน เราได้ประจักษ์แล้วว่ายาเสพติดเป็นต้นตอสำคัญในเรื่องความรุนแรง นอกจากสุขภาพแล้ว และครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนนึกถึงพระเมตตาพระมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่มอบขวัญกำลังใจให้ทุกคนวันนี้สถานการณ์ผ่านมาแล้ว 3 เดือน ตนได้สั่งการชัดเจนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาบูรณาการจะทำอย่างไร ช่วยแก้ปัญหา รวมถึงทำอย่างไรให้เกิดการประสานงานบูรณาการกันไปสู่เป้าหมาย เป็นจังหวัดที่ปลอดยาเสพติด มันจะเป็นแม่แบบต้นแบบต่อไป ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าวันนี้ปัญหายาเสพติดเรามีมากพอสมควร ทั้งนี้เกิดจากปริมาณมากขึ้น ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อะไรหลายอย่างทั้งกดดันและอยากลองไม่มีความสุข ไม่สบายใจ ความขัดแย้งอะไรก็แล้วแต่ เมื่อไม่มีความสุข ก็หาทางออก ไม่รู้อะไรก็ต้องลองเสพยา 

“พอเสร็จก็ติดอย่างที่เรียกว่าดีมานด์ คือความต้องการเกิดขึ้น ย่อมมีซัพพลายแหล่งผลิต แหล่งจำหน่ายก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำหน่ายวันนี้ เราได้มีการจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก ตนได้กำชับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะแนวชายแดน จับได้หลายสิบล้าน จะเห็นว่ายังมีความต้องการสูงในประเทศไทย ทำอย่างไรจะลดปริมาณความต้องการนี้ให้ได้ ต้องนึกถึงยาจะมาถึงเรามาอย่างไรสกปรกหรือไม่ ต้องสร้างการรับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้โสโครก หลายอย่างเกิดเหตุการณ์ เราคาดไม่ถึงหรืออาจจะระวังน้อยเกินไป” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้น 3 ระดับด้วยกันคือการป้องปราม ป้องกันและปราบปราม อันสุดท้ายคือการบำบัดฟื้นฟู สิ่งสำคัญต้องแยกเป้าหมายให้เจอเป้าหมายสีเขียว สีส้ม และสีแดงจะต้องมีมาตรการเฉพาะจะทำอย่างไรหลายอย่างใช้หน่วยงานตามกฎหมายและใช้สังคมชุมชนช่วยกันดูแล การบำบัด ต้องช่วยกันดู ช่วยกันแจ้ง มีหลายช่องทาง แต่ถ้าแจ้งแล้วไม่มีใครมาดูมาแก้ไขให้แจ้งมาที่นายกรัฐมนตรี ฉะนั้นการใช้งบประมาณจึงมีความสำคัญรัฐบาลมุ่งเน้นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่าและประหยัด มีหลายอย่างที่จะต้องทำงบประมาณที่ใช้ตรงนี้ นายกรัฐมนตรีคิดตรงนี้ เพราะทุกคนคือชีวิต คือ คนไทย มีลูกหลาน พ่อ แม่ ปู่ ย่าตา ยายทุกคน ต้องรักครอบครัว อย่าลืมสังคมไทยครอบครัวไทยสังคมอันอบอุ่นใกล้ชิด ทั้งนี้ วันนี้เรามีความขัดแย้ง มีปัญหา มีอุปสรรคมากมาย แม้เราพยายามแก้ไขมาเรื่อยๆ เป็นระยะ แต่ทุกอย่างก็เกิด ขึ้นใหม่ๆ บางเรื่องไม่เคยเกิดก็เกิด ฉะนั้นนี่คือโลกในปัจจุบันโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง โลกแห่งการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัล โลกโซเชียล

นายกฯ กล่าวต่อว่า สารตั้งต้นยาเสพติดกำลังไล่อยู่ว่ามาตรงไหน ต้องลงโทษทั้งหมด ซึ่งมีกลวิธีหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือเจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนลงโทษเด็ดขาด ถ้าทำดีสนับสนุนต่อไป ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของประชาชนเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาสไม่ใช่นายกฯ พูดโครมครามก็ยังมีอยู่ ตนไม่ได้พูดถึงท่าน แต่พูดถึงคนเลว สังคมโลกเรามีทั้งคนดี คนเลวคนชั่ว ทำอย่างไรจะมีคนดีให้มากที่สุด มีคนชั่วให้น้อยที่สุด หรือไม่มีเลย เพราะอย่างนั้นเราถึงต้องร่วมมือกันทำต่อในเรื่องเหล่านี้ให้ได้ หลายเรื่องที่เราเผชิญปัญหา นอกจากยาเสพติดคือเรื่องการทุจริต พนันออนไลน์ การถูกหลอกลวงอะไรก็แล้วแต่ฉะนั้นอย่าไปเปิดมากโทรศัพท์ เล่นเกมนู่นนี่นั่นแล้วก็เสร็จเรียบร้อย ถ้ามีเบอร์โทรศัพท์ไม่รู้จัก ไม่ต้องรับ ไม่มีการลงทุนใดๆ ที่ทำให้มีรายได้สูงเป็นร้อยเท่า พันเท่า ไม่มีจริงๆ

ทั้งนี้ อย่าไปเชื่อในโลกออนไลน์เรื่องนี้เหมือนกันให้แจ้งมาจะได้ทำลายกระบวนการเครือข่าย เพราะเป็นอันตรายของประเทศไทย เราต้องสร้างการเรียนรู้ของเราให้มากยิ่งขึ้น ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทันกับคนชั่วพวกนี้เรื่องการทุจริตถ้าเราต่างคนต่างนิ่งเฉย ไม่คิด ของใครของมัน ไม่มีทางที่ประเทศใสสะอาด ตนพยายามทำด้วยตัวตนเองอยู่แล้ว ไม่ทุจริต เพราะตนเป็นผู้นำรัฐบาลฉะนั้นอยากให้ทุกคนช่วยกัน ทำตามแล้วสิ่งที่ท่านต้องการ ขาดเหลือรัฐบาล และตนรับจะต้องดูแลสิ่งที่รัฐบาล เพื่อพัฒนาประเทศ

“ขอบคุณที่อุตส่าห์มารับในวันนี้ ตั้งแต่เช้าพูดมากท้องขึ้นแล้ว เป็นนายกฯ พูดเยอะ ไม่พูดก็ไม่ได้ปัญหายาเสพติดมีความซับซ้อนบางทีมีใต้โต๊ะ ใต้อะไรอีกเยอะแยะ เขาเรียกว่าซับซ้อน ฉะนั้นวันนี้เราต้องแก้ไขปัญหาภายในประเทศของเรา สิ่งที่คาดหวังตอนนี้คือความร่วมมือ ร่วมใจในชุมชน ในหมู่บ้าน รักลูก อย่ารักในทางที่ผิด ผมให้เวลาไปแล้ว 3 เดือน เหลืออีก 1 เดือนจะต้องทำเป็นรูปธรรมให้เห็น ผมชอบพูดคำว่านะจ๊ะ เพราะมันรู้สึกใกล้ชิดกันดี ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ วันนี้ต้องทำต่อให้สำเร็จ ความสำเร็จวัดผมด้วยคนเหล่านี้ ต้องไม่มีในสังคม แต่ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จ ก็อย่าทำ กลับบ้านดีกว่าเสียเวลา อย่างไรก็ตาม ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ดูแลในเรื่องของงบประมาณปราบปรามยาเสพติดด้วย” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่าให้ใครมาทำลายสถาบันครอบครัว โดยเด็ดขาด ใครจะทำลายไม่ได้ ตนยอมไม่ได้ สังคมไทย สังคมพ่อแม่ ถ้าทำลายประเทศไทยจะไม่เหลืออะไรทั้งสิ้น เราจะอยู่แบบไร้กฎเกณฑ์กติกากันไม่ได้รามีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์นี่คือแกนนำของประเทศไทย ที่มีมายาวนานกว่าจะเป็นหนองบัวลำภูวันนี้ รู้หรือไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาในบ้านเรา กว่าจะสร้างพื้นแผ่นดินดีขึ้นมาแม้จะลำบากร้อน แต่เราก็ต้องมีที่ยืนเรื่องที่ดินทำกิน ทั้งนี้ รัฐบาลจะดูแลให้วันนี้ได้ทำทยอยมาหลายจังหวัด ซึ่งปัญหามีความซับซ้อนเยอะมากแต่ขอให้เข้าใจว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ เราต้องรู้จักว่าถ้าจะพัฒนาตัวเองเพื่อประเทศ ตนทำหน้าที่ของรัฐบาล ทุกรัฐบาลต้องทำหน้าที่สร้างความเท่าเทียมในทุกโอกาสให้กับทุกคน ตนต้องทำหน้าที่ของตนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบในการทำงานทุกอย่าง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สำเร็จวันข้างหน้าจะได้มีคนมาทำต่อทำให้ดีก็แล้วกัน ใครจะมา จะไปก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวเขาหาว่ามาหาเสียงอีก ตนไม่ได้มาหาเสียงอันนี้เป็นเรื่องของท่าน

แก้ปัญหาตรงจุด!! ‘กรณ์’ ลุยบางคอแหลม ‘พูดคุย-รับฟัง’ ปัญหาชาวบ้าน ปลื้ม!! ส่วนใหญ่ขานรับนโยบาย ‘ยกเลิกแบล็กลิสต์’ แก้หนี้ทั้งระบบ

(4 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายปรัชญา อึ้งรังษี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในเขตบางคอแหลม ถนนเจริญกรุง โดยนายกรณ์ แนะนำตัวผู้สมัครและสอบถามความเป็นอยู่ของพี่ประชาชน ซึ่งมีร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อยเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนให้ความสนใจนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ของพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะหลายคนก็พบเจอปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะไม่สามารถกู้เงินในระบบได้

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบายการหาเสียงที่ชัดเจนว่า มุ่งเน้นไปที่ต้นตอของปัญหา ไม่เน้นประชานิยม เนื่องจากมองว่านโยบายประชานิยม เช่น พักหนี้ ไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการผลักปัญหาออกไปโดยที่ไม่ได้ช่วยอะไร เราจึงเลือกที่จะนำเสนอนโยบายที่สร้างโอกาสให้ประชาชนปลดหนี้ ลดหนี้ โดยยกตัวอย่างในช่วงวิกฤตโควิด พรรคได้ทำโครงการกล้าปลดหนี้ มีประชาชนมาขอคำปรึกษาว่าเขามีหนี้นอกระบบอยู่ 50,000 และไม่สามารถกู้เงินในระบบได้ เราจึงช่วยหาสถาบันการเงินมาปล่อยกู้ให้ 100,000 บาท เพื่อปลดหนี้นอกระบบที่มี และอีก 50,000 บาทเขานำไปวางเงินดาวน์เปิดร้านหมูกระทะ จนปัจจุบันกิจการรุ่งเรือง สามารถปลดหนี้ได้ และหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ๆ เพราะเขาได้โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญให้เขาเดินต่อได้

นายกรณ์ กล่าวว่า วันก่อนได้มีโอกาสได้คุยกับคนรุ่นใหม่แถวสามย่าน เขาเป็นเอเย่นต์ขายบ้าน เขาบอกว่า บ้านที่คนส่วนใหญ่บ้านคนสนใจราคาอยู่ประมาณ 2 ล้าน และถ้าคนเจตนาจะมีบ้าน 10 คน แบงก์จะสามารถปล่อยกู้ได้เพียง 2 คนเท่านั้น ในขณะที่อีก 8 คน ก็ยังต้องเช่าบ้านที่ราคาแพงกว่าเงินที่ใช้ผ่อนบ้าน แทนที่จะให้เขากู้เงินแล้ว เอาเงินค่าเช่ามาเป็นเงินผ่อน ที่ต้องจ่ายไปโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมา โอกาสการในการกู้ยืมเงินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเมื่อเทียบกับออสเตรเลีย ที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ที่ 4% ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน 5% ส่วนต่าง 1% เช่นเดียวกับมาเลเซีย ถ้าอัตราส่วนต่างไม่เกิน 2% ในขณะที่ประเทศไทย ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1% และดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน 6% ทำไมส่วนต่างเราสูงกว่ากันมาก แต่บ้านเราไม่มีใครตั้งคำถามแบบนี้ ไม่มีคนคิดเชิงโครงสร้าง ที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

“ชีวิตผมเอง 20 ปี ผมทำธุรกิจมา เหมือนกับคุณปรัชญา ก็ทำธุรกิจ และไม่ว่าอาชีพอะไรก็ตามในทุกประสบการณ์ก็เป็นประโยชน์ที่จะเข้ามาทำงานการเมือง แต่ความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจ มีความสำคัญ ที่จะเป็นเส้นแบ่งสำคัญของนักธุรกิจกับนักการเมืองคือ จิตสาธารณะ ความเสียสละ ที่เราต้องปรับตัว เพราะเรามีหน้าที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกคน ไม่ใช่กลุ่มลูกค้า หรือคนที่เลือกเรา ความเข้าใจตรงนี้ นักธุรกิจมองข้ามไม่ได้ และต้องปรับตัวให้ได้” นายกรณ์ กล่าว

ทัพเรือภาคที่ 3/ศรชล.ภาค 3 ร่วมหารือการแก้ไขปัญหา การกระทำผิดกฎหมาย และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่จังหวัดสตูล

พลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 พร้อมด้วย พลเรือตรี สุชาติ เปรมประเสริฐ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดสตูล ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดสตูล ณ ศาลากลางจังหวัดสตูล

ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 เข้ารับฟังการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่จังหวัดสตูล ได้รับทราบปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้อง และร่วมกันหารือแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการทำประมง

‘บิ๊กป้อม’ แจ้งชาวนา “ปีนี้ทำนาได้ น้ำไม่ท่วม” ด้านชาวบ้านเฮสนั่น!! ตะโกนเชียร์นั่งนายกฯ

(8 มี.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้า แผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ้มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างและแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดสะตือพุทธไสยาสน์ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาของ พปชร.ทั้ง 3 เขต นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พปชร. รวมถึงนางสมทรง เจริญพันธุ์วรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา มาคอยให้การต้อนรับ

โดย พล.อ.ประวิตร ได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปแผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง และแผนการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จากนั้น ได้นั่งรถกอล์ฟเพื่อจะไปไหว้พร้อมกับปิดทองพระพุทธไสยาสน์ แต่ปรากฎว่าระหว่างรถกอล์ฟไฟฟ้าออกตัว ได้ออกตัวแรงทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับตกใจ ซึ่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่นั่งอยู่ด้านหลังว่า รถไม่เสถียร แต่คนเสถียร ภายหลังไหว้พระเสร็จแล้ว พล.อ.ประวิตร ได้เข้าไปกราบนมัสการ และถวายดอกไม้และปัจจัยต่อเจ้าอาวาสวัดสะตือ ขณะที่เจ้าอาวาสได้มอบรูปหล่อพระพุทธไสยาสน์ ผ้ายันต์คาถาชินบัญชร ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ให้แก่ พล.อ.ประวิตร

ขณะที่ภายในงานมีประชาชนที่มารอต้อนรับต่างตะโกนเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พร้อมกับตะโกน “รักลุงป้อม” โดย พล.อ.ประวิตร มีสีหน้าอารมณ์ดี และยิ้มหลายครั้ง

ต่อมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนมาติดตามเรื่องน้ำที่ จ.พระนครศรีอยุธยาหลายครั้ง ขอบคุณที่มาต้อนรับตน จะสังเกตเห็นว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งอุทกภัย วาตภัย น้ำหลาก น้ำลด รัฐบาลจะเยียวยาให้ประชาชนจนได้รับค่าชดเชยกันตลอด ไม่เคยว่างเว้น เพราะเราเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

เยือนแปดริ้ว!! ‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา สักการะหลวงพ่อโสธรฯ พร้อมร่วมพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 10 มี.ค.นี้ 

(9 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะตรวจราชการ ซึ่งมีกำหนดการ ดังนี้

เวลาประมาณ 14.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ช.พัน.2 รอ. ค่ายศรีโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฮลิคอปเตอร์ แล้วเดินทางไปยังวัดโสธรวารารามวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร และกราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวารารามวรวิหาร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top