Thursday, 2 May 2024
ลงพื้นที่

ผู้ตรวจ ก.แรงงาน ลงพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เยี่ยมสถานประกอบการคุ้มครองสิทธิ – สวัสดิการแรงงานได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายเท่าเทียม

วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. นางโสภา เกียรตินิรชา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการที่จ้างคนต่างด้าวทำงาน เพื่อตรวจคุ้มครองดูแลสิทธิแรงงานของลูกจ้างแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย โดยมี นายสนั่น ฉิมพันธ์ กรรมการห้างหุ่นส่วนจำกัดเปี่ยมสินสมบูรณ์ นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสิงห์บุรี ให้การต้อนรับ ณ ห้างหุ่นส่วนจำกัดเปี่ยมสินสมบูรณ์ สถานประกอบการกิจการการสีข้าว ตั้งอยู่เลขที่ 40 หมู่ 9 ตำบลไม้ตัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี มีลูกจ้างทั้งสิ้น 56 คน เป็นแรงงานไทย 33 คน แรงงานต่างด้าว 23 คน สัญชาติเมียนมา 22 คน สัญชาติกัมพูชา 1 คน

นางโสภาฯ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจติดตามการดำเนินการตรวจคัดกรองเบื้องต้นการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในแรงงานต่างด้าว ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจคัดกรอง (SOP) รบ.1 ให้เป็นไปตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานการตรวจคุ้มครองแรงงาน และการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเพื่อตรวจติดตามการรายงานผลการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจากการใช้มาตรฐานการปฏิบัติงาน และ แบบ รบ.1 เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจะเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตาม NRM ตลอดจนรับทราบปัญหาอุปสรรค กระบวนการ วิธีการตรวจคุ้มครองแรงงาน และการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน

‘ลุงป้อม’ ลุย ‘ประจวบฯ-เพชรบุรี’ ติดตามการพัฒนาแหล่งน้ำ ชาวบ้านแห่ต้อนรับคึกคัก ปลื้ม!! ลุงแก้ปัญหาเร็ว-ได้ผลดี

(31 มี.ค. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะได้เดินทางไปปฏิบัติราชการพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามการพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และการผลิตน้ำประปาคุณภาพ

โดยเมื่อ พล.อ.ประวิตร เดินทางถึง วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าสักการะองค์หลวงปู่ทวด และถวายสังฆทานแด่เจ้าอาวาส เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยมงคลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 14 เพื่อประชุมหารือร่วมกับทางจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สทนช., กรมชลประทาน และผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค

โดยรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด ซึ่งมีลำน้ำทั้งหมด 6 ลุ่มสาขา ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ รวม 220 ล้าน ลบ.ม.ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ปี 61-65 จำนวน 781 โครงการ, ปี 65 จำนวน 13 โครงการ, ปี 66 จำนวน 21 โครงการ และโครงการสำคัญอีก 5 โครงการ สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยมงคล ก่อสร้างเพื่อเก็บกักน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย ช่วงฤดูน้ำหลาก มีความจุ 5.85 ล้าน ลบ.ม.

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญ โดยกำชับ สทนช. ให้เร่งรัดการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง พร้อมย้ำให้ กรมชลประทาน เร่งบริหารจัดการแหล่งเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการใช้น้ำให้เพียงพอทุกพื้นที่ รวมทั้ง เพิ่มประสิทธิภาพระบบประปา ต้องผลิตน้ำที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ สำหรับบริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วย

‘บิ๊กป้อม’ ฟิตจัด เร่งแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย จ.เพชรบุรี หลังกระทบหอยแครงพื้นบ้าน-ความเป็นอยู่ของชาวบางตะบูน

(31 มี.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยในช่วงบ่ายได้เดินทางไปยัง เทศบาลตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เพื่อร่วมหารือกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมของจังหวัดเพชรบุรี จาก ผวจ.และสภาพปัญหาผลกระทบของน้ำเน่าเสีย ในพื้นที่ตำบลบางตะบูน จากนายกเทศมนตรี รวมทั้ง รับทราบรายงานแผนงานและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ และแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย ใน 3 จังหวัด (ราชบุรี, สมุทรสงคราม และเพชรบุรี) จากเลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)

ปทุมธานี ภัยแล้งมาแล้วนายกแจ๊สจับมือทุกฝ่ายบูรณาการ แก้ไขปัญหาช่วยเกษตรกรอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองเสือ ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาภัยแล้งในเขตพื้นที่อำเภอหนองเสือ เพื่อป้องกันและแก้ไขภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.ปทุมธานี ผู้นำชุมชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอหนองเสือ , นายมานพ แจ่มมี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ , นายเฉลิมพล ทองน้อย ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 11 เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยมีชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตร พืชผักผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกมามอบให้นายกแจ๊สและทีมงานเพื่อขอบคุณที่ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เกษตรชาวหนองเสือ


โดยมี นายพิษณุ พลธี อดีต ส.ส.เขต.6 ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย (นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดปทุมธานี) และผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในคลองส่งน้ำที่เก้า เนื่องจากเป็นคลองที่มีสภาพตื้นเขินทีสุด หากระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ลดน้ำในคลองส่งน้ำหลักจะแห้งอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำไหลเข้าคลองย่อยหรือคลองซอยตามธรรมชาติไม่ได้ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เบื้องต้น ทาง อบจ.ปทุมธานีได้นำเครื่องสูบน้ำจำนวน 8 เครื่องมาตั้งเครื่องที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองย่อยต่าง ๆ เพื่อสูบน้ำให้เกษตรกรใช้น้ำได้อย่างปกติ


ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ได้ประสานชลประทาน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ท่านนายอำเภอฯ ทุกฝ่ายมาร่วมกันระดมรับฟังปัญหาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด วันนี้เกิดประโยชน์มากที่ทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เมื่อรับทราบปัญหาทางชลประทานจะมีการเติมน้ำเข้ามาในคลองส่งน้ำคลองหลัก เพื่อให้เราได้สูบน้ำเข้าไปยังคลองย่อยคลองซอย

“ป่อเต็กตึ๊ง สร้างสุข ใส่ใจ ผู้สูงวัย” มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นแก่ผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ 10 แห่ง รวม 7 จังหวัด เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566

วันนี้ (11 เมษายน 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี จ.นนทบุรี ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุปทุมธานี จ.ปทุมธานี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี  จ.ปทุมธานี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี  จ.ปทุมธานี  สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพพระประแดง จ.สมุทรปราการ สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) จ.นครปฐม และสถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม จ.นครปฐม เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ประกอบด้วย ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แผ่นรองซับ หน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ผงซักฟอก ผ้าเช็ดตัว และ แป้งเย็น รวม 7 รายการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมี ผู้บริหารของสถานสงเคราะห์แต่ละแห่งเป็นผู้รับมอบ

และในวันพุธที่ 12 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่มอบสิ่งของฯ แก่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการการุณยเวศม์ จ.ชลบุรี  สถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว จ.นครสวรรค์ และ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จ.พระนครศรีอยุธยา 

รวมการมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566 ในสถานสงเคราะห์ 10 แห่ง รวม 7 จังหวัด คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 828,500 บาท (แปดแสนสองหมื่นแปดพันห้าร้อยบาทถ้วน)

ผบ.ตร.ลงพื้นที่โคราช เน้นความปลอดภัยเล่นน้ำสงกรานต์ ลานย่าโม นำโมเดล ถนนข้าวสาร มาปรับใช้ ชื่นชมตำรวจ ภ.3 ป้องกันลดอุบัติเหตุเป็นอันดับหนึ่งประเทศ เร่งอำนวยความสะดวกการจราจรประชาชนเดินทางกลับ กทม.คาดหนาแน่นสุด 16-17 เม.ย.นี้...

วันนี้ (15 เม.ย.) ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางมาตรวจเยี่ยมการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การดูแลความปลอดภัยการจัดงานสงกรานต์ การอำนวยความสะดวกการจราจร และการป้องกันลดอุบัติเหตุในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ภาพรวมของการจัดงานสงกรานต์บริเวณลานย่าโม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามแผน แนวทางที่ ตร.สั่งการเป็นอย่างดี ทั้งจุดคัดกรอง แผนเผชิญเหตุต่างๆ โดย ผบ.ตร.ได้กำชับเพิ่มเติม การจัดระเบียบการละเล่นกรณีคนหนาแน่น รวมทั้งคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ การทะเลาะวิวาทต่างๆ โดยนำโมเดลถนนข้าวสารมาปรับใช้ พร้อมมอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจ เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข็มแขงเสียสละ และขอให้นำอุดมคติตำรวจมาเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ ตร.พร้อมจะดูแลสวัสดิการ ขวัญกำลังใจหลังเสร็จสิ้นภารกิจ

หลังจากนั้น ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.ท.ธนา ได้เดินทางไปร่วมประชุมร่วมกับข้าราชการตำรวจ เพื่อรับทราบปัญหาการดูแลความปลอดภัย การจัดการจราจร และการป้องกันลดอุบัติเหตุในพื้นที่ ภ.3 ณ ห้องประชุม ภ.จว.นครราชสีมา โดยมี ผบช.ภ.3 ตำรวจภูธรในจังหวัด ภ.3 และ ตำรวจทางหลวงเข้าร่วมผ่านการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รายงานสภาพการจราจรมีประชาชนเริ่มเดินทางกลับเข้า กทม. โดยการจราจรจะเริ่มหนาแน่นในเส้นทางถนนมิตรภาพตั้งแต่รอยต่อ จ.ขอนแก่น เชื่อมต่อนครราชสีมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางดง ออกสู่ จ.สระบุรี ส่วน ทล.24 จะเริ่มหนาแน่นตามแยกสัญญาณไฟจราจร และ ทล.348 ช่องตะโก

ผบ.ตร.สั่งการเน้นย้ำให้ ตำรวจทางหลวง ตำรวจท้องที่ ส่วนเกี่ยวข้อง เปิดช่องทางพิเศษระบายการจราจร และเข้าควบคุมสัญญาณจราจรตามแยกที่จราจรหนาแน่น ส่วนมอเตอร์ M6 ปากช่อง-ขามทะเลสอ เปิดให้บริการขากลับเข้า กทม.แล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ช่วยการจราจรถนนมิตรภาพให้คล่องตัวขึ้น 

สำหรับอุบัติเหตุ ภ.3 มีการกวดขันวินัยจราจร บังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องปรามเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ จนมีผลดำเนินการด้านการลดอุบัติเหตุดีที่สุดเป็นดับหนึ่งของประเทศ  แต่อย่างไรก็ตามปีนี้มีการละเล่นสงกรานต์หลายพื้นที่ ทำให้สถิติอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากเมาแล้วขับ จยย.ไม่สวมหมวกนิรภัย นั่งท้ายกระบะ  จึงสั่งปรับแผนให้เน้นตรวจเพิ่มตามชุมชน พื้นที่รอบการจัดงาน โดยแสวงหาความร่วมมือ บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกัน ซึ่งพื้นที่ ภ.3 ทำได้ดีในทุกมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ 

ผบ.ตร. กล่าวว่า “ ขอบคุณและชมเชยตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัด นครราชสีมาที่ใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ซึ่งสถิติสี่วันที่ผ่านมาตำรวจภูธรภาค 3 ถือว่าเป็นมีผลดำเนินการด้านการลดอุบัติเหตุดีที่สุดเป็นดับหนึ่งของประเทศ  อีก 3 วันที่เหลือ ได้สั่งการให้ดำเนินการตามมาตรการเพื่อคงสถิติที่ดีอย่างนี้ต่อไป

นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของการจัดงานสงกรานต์ จ.นครราชสีมา บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้กำชับการเพิ่มแผนปฏิบัติเช่นเดียวกับถนนข้าวสาร กรณีที่มีคนหนาแน่น เช่น การกำหนดทางเข้าออก การกำหนดเวลาละเล่นสงกรานต์ เส้นทางฉุกเฉิน การทะเลาะวิวาท และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ 

รองชินภัทรลงพื้นที่บ้านหนองวัวซอ จ.อุดรธานี ติดตามโครงการชุมชนยั่งยืน แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามนโยบาย ผบ.ตร.

วันที่ 21 เมษายน 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมนึก  น้อยคง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพสิทธิ์  มิตรภักดี รอง ผบก.ปส.1 บช.ปส. พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง รอง ผบก.ปส.3 บช.ปส. พร้อมด้วย พ.ท.พุดสวาด สูนทะลา รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด กับคณะหน่วยปราบปรามยาเสพติดของ สปป.ลาว และนายคณิศร ภาพีรนนท์ ทูต ปปส.ประจำ สปป.ลาว มาศึกษาดูงานโครงการฯ

ตรวจติดตาม การดำเนินการ โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ สภ.หนองวัวซอ ภ.จว.อุดรธานี เพื่อเป็นแบบในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ของทั้ง 2 ประเทศ ณ วัดโนนสว่าง อ.หนองวัวซอ จว.อุดรธานี มีรายละเอียดดังนี้

1. สภ.หนองวัวซอ ได้แสวงหาความร่วมมือกับ พระครูพิพัฒน์วิทยาคม เจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง ในการดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนฯ โดยในขั้นตอน บำบัด ฟื้นฟู ใช้รูปแบบ และกระบวนการเดียวกับ โครงการ บำบัดแก้ไข ฟื้นฟู เด็กและเยาวชน ในศูนย์ฝึกและ อบรมเด็กและเยาวชน เขต 4 ซึ่งทางวัดโนนสว่างเป็น ผู้ดำเนินโครงการ และเป็นที่ยอมรับว่า เป็นการ บำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยมีรูปแบบดังนี้
1.1 การดูแลความเป็นอยู่ เสมือนคนในครอบครัว ให้ความรัก ความเมตตา พักอาศัยและกินอยู่ร่วมกัน
1.2 การฝึกฝนเด็ก เน้นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม  ศิลปวัฒนธรรม และดนตรี ในการกล่อมเกลาจิตใจ
1.3 การดูแล ช่วยเหลือ ด้านการศึกษา , การฝึกอาชีพ ทำกลอง, ตีกลอง และการแสดง มีรายได้เป็นเงินขวัญถุง
1.4 การติดตามประเมินผล ต่อเนื่อง 5 ปี เด็กและเยาวชน กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ร้อยละ 1 ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า คดีพบศพเด็กมีร่องรอยล่วงละเมิดทางเพศ นราธิวาส

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 เวลา 9.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตันหยง ภ.จว.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุพบศพเด็กหญิงนก (นามสมมุติ) อายุ 3 ปีเศษ เสียชีวิตอยู่ในสระน้ำห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร ซึ่งบิดาของเด็กหญิงนกได้แจ้งความหายไว้เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ก่อนจะถูกพบศพดังกล่าว ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กหญิงรายดังกล่าว เพื่อให้ความจริงปรากฏ เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นอันมาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส , พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.สส.จชต. และ พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง เร่งสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กหญิงรายดังกล่าว และติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เบื้องต้นจากการผ่าพิสูจน์ศพของผู้ตายพบว่า มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ประกอบกับข้อมูลจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ศพของผู้ตายนั้นถูกถอดกางเกงและแพมเพิร์สออก ซึ่งบิดาของผู้ตายยืนยันว่า ผู้ตายยังไม่สามารถถอดแพมเพิร์สออกด้วยตนเองได้ จึงสันนิษฐานได้ว่า อาจถูกคนร้ายหลอกไปจากที่บ้าน จากนั้นได้มีการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้น จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ลงมือฆ่าเด็กหญิงนก ก่อนทิ้งอำพรางศพที่บริเวณสระน้ำที่เกิดเหตุ

วันนี้ (22 พ.ค.66) เวลา 18.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้เข้าตรวจสอบบริเวณจุดที่พบศพผู้ตายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน พบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่คันดินเนินสูง ซึ่งผู้ตายที่เป็นเด็กอายุเพียงสามปีไม่สามารถเดินขึ้นได้ด้วยตนเอง สันนิษฐานได้ว่าถูกคนร้ายพาเข้ามาเพื่อก่อเหตุ หลังจากนั้น รอง ผบ.ตร. ได้เข้าเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งพูดคุยกับชาวบ้าน โดยได้มอบของและให้กำลังใจ รวมทั้งให้ความมั่นใจ ว่าจะติดตามผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสลดดังกล่าวมาลงโทษตามกฏหมายโดยเร็วที่สุด จากนั้นจึงได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ที่ ภ.จว.นราธิวาส และได้สั่งการให้ ฝ่ายสืบสวนจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับ สภ.ตันหยง นำตัวผู้ต้องสงสัยในรัศมีใกล้เคียงที่เกิดเหตุทั้งหมด มาตรวจเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอไว้ เพื่อใช้ในการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่อาจพบได้จากศพผู้ตาย รวมทั้งลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยที่อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางเพศต่อเด็ก

'บิ๊กตู่' ลงพื้นที่สระบุรี ตรวจโครงข่ายคมนาคมระบบราง ดูความคืบหน้า ‘รถไฟทางคู่ - รถไฟไฮสปีดไทย-จีน’

(17 ส.ค. 66) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ จ.สระบุรี ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ อุโมงค์ที่ 1 (อุโมงค์ผาเสด็จ) ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ สถานีรถไฟหินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี รับฟังรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ จากนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีออกเดินทางจากพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ ไปยังอุโมงค์มวกเหล็ก ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการความร่วมมือระหว่างไทย-จีน (ไฮสปีด) ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) (เฟส 1) แล้วเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

‘นายกฯ’ ลุยน้ำท่วมยโสธร มอบถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้าน ยันรัฐบาลพร้อมดูแล พร้อมให้คำมั่นสัญญาเงินดิจิทัลทำแน่

(7 ต.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้แม้จะไม่ถูกน้ำท่วมแต่ก็ถูกน้ำจากแม่น้ำชีเอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรและถนนเข้าหมู่บ้านประมาณ 30-60 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ต้องใช้รถขนาดใหญ่ในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน  

โดยนายกรัฐมนตรีได้นั่งรถยกสูงของ ปภ. หมายเลขทะเบียน 53-7093 กรุงเทพมหานครเข้าพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหมู่บ้าน

เมื่อเดินทางมาถึงมีประชาชนรอต้อนรับผูกผ้าขาวม้าให้กำลังใจ โดยมีชาวบ้านบางคนบอกกับนายกฯ ว่าหล่อมาก 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กราบนมัสการ พระครูเมธีธรรมบัณฑิต เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว พร้อมถวายผ้าไตร และจตุปัจจัยไทยธรรม

โดยพระครูฯ ได้มอบพระพุทธบุษยรัตน์จำลอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว พระคู่บ้านคู่เมือง จ.ยโสธร พร้อมเหล็กไหลของทางวัด รวมทั้งผูกข้อมือให้พรกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ร่วมคณะ

โดยช่วงหนึ่งพระครูได้สอบถามนายกฯ และฝากเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะชาวบ้านรออยู่ขอให้นายกฯ ทำสำเร็จ

ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวยืนยันว่า “ขณะนี้รัฐบาลทำอยู่ ต้องทำครับ เพราะมีคนมาต่อต้าน แต่ก็ไม่กี่คนหรอกครับ แต่เราก็ต้องทำเพราะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพี่น้องประชาชน ต้องทำครับ”

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินพบปะกับประชาชนที่มารอ ซึ่งได้นั่งลงพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ว่าอยู่อย่างไรในช่วงน้ำท่วม พร้อมแสดงความเป็นห่วง โดยระบุจะหาแนวทางช่วยเหลือด้วยการยกระดับความสูงของถนนที่เข้าหมู่บ้าน เพื่อให้เดือดร้อนน้อยลงในช่วงที่น้ำท่วมสูง นอกจากนี้จะมีการสร้างสะพานเพิ่มในบางจุด ทำให้ชาวบ้านยกมือไหว้  ซึ่งนายกฯ ได้ตอบกับชาวบ้านว่าไม่ต้องขอบคุณตนเองเพราะสิ่งที่ทำเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

และมีคุณยายวัย 70 ปี บอกกับนายกฯ ว่า ดีใจที่จะได้ใช้เงิน ไม่มีโทรศัพท์ ใช้ไม่เป็นทำไวท่านนายกฯนายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่า “ไม่เป็นไรบัตรประชาชนใบเดียวก็พอแล้ว”

ขณะที่บรรดาชาวบ้านโดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่านายกฯตัวจริงหล่อ และได้บอกนายกว่า ดีใจหลายๆ นายกฯ ลงมาหา หล่อตัวสูง ก่อนที่จะพูดกระเซ้ากันหลังจับมือนายกฯ ว่า “จับมือได้แต่อย่าบายหรรม” เรียกเสียงฮากระจาย

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุอีกกลุ่มสอบถามเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค ขณะที่นายเกรียงซึ่งอยู่ด้วยกับนายกรัฐมนตรี จึงได้สอบถามผู้สูงอายุว่ายังอยากใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ไหม คุณยายจึงตอบว่า อยากได้ ขณะที่นายกฯย้ำว่าเรื่อง 30 บาทเราจะดูแลให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ต้องดูแลทั้งเรื่องสุขภาพ ดูแลประชาชน ตนไม่อยากให้ลำบาก ตนมาเพราะต้องการลงพื้นที่เพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างแท้จริงตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาหาเสียงอยากให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี พร้อมสอบถามเรื่องปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งต้องขอให้ผู้ใหญ่พ่อแม่ดูแลบุตรหลานให้ดีๆ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับประชาชนว่าสวัสดีพี่น้องชาวจังหวัดยโสธรที่รัก เป็นขวัญและกำลังใจ อย่างล้นหลามให้เราทำงาน การเดินทางเข้ามาตรงนี้ ลำบาก ขนาดมาหนเดียวยังลำบาก เพราะเจอแต่ภาวะน้ำท่วม และได้รับการรายงานว่า ท่วมแล้วท่วมอีก ท่วมตลอดเป็นเดือน ตนมีความไม่สบายใจ และเห็นใจทุกท่าน การสัญจรไปมาก็ลำบาก จะไปหาหมอก็ลำบาก พืชผลเสียหาย วันนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ร่วมมาด้วย เป็นที่บ่งบอกแล้วว่าเราให้ความสำคัญกับปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ทั้งนี้เรื่องการป้องกันน้ำท่วมทำได้หลายมิติ ในระยะยาวต้องมีการบริหารจัดการน้ำตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เสนอขุดคูคลองเพิ่ม ตรงนี้ถือเป็นแผนระยะยาว แต่ระยะสั้นเรื่องการปล่อยน้ำทางกรมชลประทานรับปากว่าจะไปทบทวนดูแลวิธีกักน้ำปล่อยน้ำ ซึ่งต้องบริหารจัดการกันไป หากเกิดภาวะอุทกภัยหรือน้ำท่วมเกิดขึ้นหน่วยงานทุกหน่วยงานพร้อมไม่ว่าจะเป็นของนายเกรียง  รมช.มหาดไทยที่ดูแลด้านป้องกันสาธารณภัยนายสุทิน กระทรวงกลาโหม

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารราบพัฒนาก็มาดูแลช่วยเหลือบำบัดทุกข์ให้พี่น้องประชาชน แต่เราไม่อยากให้ถึงจุดนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมดูแลสร้างถนนหนทางเข้ามาด้วย โดยสัญญาว่า จะทำถนนและสะพานอีก 2 สะพานที่น้ำท่วม ซึ่งจะต้องจัดการโดยเร็ว และระหว่างที่ตนนั่งรถเข้ามาได้คุยกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายท่านบอกว่าที่นี่อำเภอนี้หมู่บ้านนี้มีความผูกพันมาก มีโครงสร้างสถาบันครอบครัวที่แข็งแรง พี่น้องไม่ได้ออกไปทำงานนอกเขตอยากอยู่ในเขตพื้นที่ช่วยเหลือจุนเจือด้วยกัน ดูแลผู้แก่ผู้เฒ่าด้วยกัน ผลดีตรงนี้ไม่มีใครทราบ ตนมาที่นี่ไม่มีใครบ่นเรื่องปัญหายาเสพติด เพราะสถาบันครอบครัวแข็งแรงพี่น้องคนแก่คนเฒ่าดูแลลูกหลานดีมีเวลาพูดคุยกันมีเวลาให้ความอบอุ่นแก่ครอบครัวตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสังคมตัวอย่างที่หลายๆ อำเภอหลายๆ จังหวัด ควรที่จะนำไปพัฒนาต่อ วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะพูดคุย แม้มาในสภาพที่น้ำท่วมไม่ค่อยน่ายินดีสักเท่าไหร่ แต่ก็อยากมาในบริบทที่มีรอยยิ้มอย่างจริงจังและวันนี้ก็ยิ้มสุดๆ หน่อย เพราะมาถึงก็เห็นน้ำท่วม ตนมาเพียงวันเดียวยังเศร้าใจ เข้าใจถึงความลำบาก วันนี้ที่มาที่นี่มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย ซึ่งทุกคนเข้าใจและสัญญาจะกลับมาดูแลพี่น้องประชาชน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน จำนวน 300 ชุม และยังได้มอบถุงยังชีพของเกษตรอำเภอให้กับเกษตรกรจำนวน 300 ชุดรวมถึงมะปรางซึ่งเป็นอาหารของปศุสัตว์ในช่วงที่น้ำท่วมรวมถึงต้นกล้าพันธุ์พืชเช่นมะละกอพริกและมะเขือให้กับประชาชนด้วย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเดินทางกลับตามเส้นทางซึ่งมีน้ำท่วมสูงเป็นระยะ นายกรัฐมนตรีได้ลงลุยน้ำและนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบความเดือดร้อนตามรายทาง พร้อมให้กำลังใจว่า ขอให้สู้อดทนอีกหน่อยรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top