Wednesday, 15 May 2024
ภูเก็ต

‘พ่อหมอปาย’ ยัน!! ไม่รับเงินต่างชาติสกปรก หลังมีสายนิรนามโทรเสนอเงินก้อนโต หวังจบคดี

(10 เม.ย.67) จากกรณี Mr.URS BEAT FEHR หรือ เดวิด อายุ 45 ปี เจ้าของปางช้างดังใน จ.ภูเก็ต เตะ แพทย์หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไปนั่งเล่นตรงบันไดที่ลาดลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจากวิลล่า หมายเลข 23 เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยแพทย์หญิงได้รับบาดเจ็บและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมขอความเป็นธรรมจากสังคมที่โดนทำร้าย ทั้งนี้ ชาวต่างชาติคนดังกล่าวอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจเตะแพทย์หญิง แต่สะดุดบันไดล้มลง

จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ลามถึงขั้นตรวจสอบวิลล่าหรู หรือ จนถึงขั้นตรวจสอบปางช้างที่ เดวิลเป็นเจ้าของ หรือการเพิกถอนหนังสือเดินทาง เป็นต้น

ล่าสุดวันนี้ เพจ ‘Phuket Times ภูเก็ตไทม์’ โพสต์ข้อความระบุว่า

“ฉาว! #ฝรั่งเตะหมอ มีสายนิรนามโทรขอเคลียร์เงินก้อนโตให้จบคดี ด้านพ่อหมอปาย ยันไม่รับเงินต่างชาติสกปรก วันนี้เข้าพบอัยการสูงสุด ส่งทนายยื่นฟ้อง 295 เอง ล่าสุด ฝรั่งสู้คดี ยังปฏิเสธ บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ”

'นายกฯ' ชื่นชม!! แผนงานแก้ปัญหาจราจรจาก 'รทสช.ภูเก็ต' บูรณาการทุกภาคส่วน เกิดผลเป็นรูปธรรม 'ระยะสั้น-ยาว'

'เอกนัฏ-พิชชารัตน์' ลงพื้นที่ร่วมคณะนายกฯ ติดตามโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีเป้าหมายจะยกระดับทั้งเกาะสมุย และภูเก็ตให้เป็นเกาะระดับโลก

(19 เม.ย. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และนางนวลจันทร์ สามารถ คุ้มบ้าน อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ทำงานผลักดันเรียกร้องให้มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาจราจรในภูเก็ตมาโดยตลอด 

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามรายงานสรุปโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับ ทางหลวงหมายเลข 4027 (ทางเลี่ยงเมือง) ตอนบ้านเมืองใหม่ - แยกเข้าสนามบิน ระหว่าง กม.18+850 - กม.20+800 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยกล่าวชื่นชมและกล่าวขอบคุณผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำงาน มีการทำแผนงานเกิดผลเป็นรูปธรรม ถือเป็นแผนงานที่เหนือความคาดหมาย เป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการทั้งภาครัฐส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ตามความคาดหวังของประชาชนทั้งแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรให้พี่น้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

‘ภูเก็ต’ จัดรถเมล์ฟรี รับ-ส่งนักท่องเที่ยว วิ่งรอบเมืองเก่า ตั้งแต่ 11 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม เริ่ม 9 พ.ค.นี้

(21 เม.ย.67) บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ร่วมมือกับมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน เปิดตัวโครงการ Phuket Smart Bus EV เส้นทางเมืองเก่า โดยนำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ให้บริการฟรีแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดมลพิษทางอากาศ ขับเคลื่อนและพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยและการท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 2567 ให้บริการทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.

เส้นทางเดินรถรอบเมืองเก่า เริ่มต้นจากจุดจอดรถ ไปตามถนนหลวงพ่อ ต่อด้วยถนนดีบุก จอดจุดที่ 1 ตรงข้ามโครงการไลม์ไลท์ ภูเก็ต เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเทพกษัตรี จอดจุดที่ 2 ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย สาขาภูเก็ต (ตรงข้ามหอนาฬิกาพรหมเทพ) เลี้ยวซ้ายไปตามถนนพังงา จอดจุดที่ 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งที่ 1 (บขส.1) กลับมาที่ถนนพังงา จอดจุดที่ 4 โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนมนตรี จอดจุดที่ 5 ตรงข้ามโรงแรมเพิร์ล ผ่านวงเวียนหอนาฬิกา ไปตามถนนดิลกอุทิศ 1 เลี้ยวขวา จอดจุดที่ 6 ตลาดเกษตร ออกจากตลาดเกษตร เลี้ยวขวาไปตามถนนอ๋องซิมผ่าย จอดจุดที่ 7 ร้านออฟฟิศเมท สาขาภูเก็ต

เลี้ยวขวาไปตามถนนภูเก็ต จอดจุดที่ 8 ร้านโกอ่างซีฟู้ด ผ่านวงเวียนหอนาฬิกา จอดจุดที่ 9 ตรงข้ามตึกแดงพลาซ่า เลี้ยวซ้ายไปตามถนนรัษฎา จอดจุดที่ 10 ร้านคอฟฟี่ ทอล์ค ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต จอดจุดที่ 11 ตรงข้ามธนาคารกรุงไทย สาขาภูเก็ต วนวงเวียนน้ำพุไปยังถนนเยาวราช จอดจุดที่ 12 ธนาคารอิสลาม สาขาภูเก็ต เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกระบี่ จอดจุดที่ 13 พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เลี้ยวขวาไปตามถนนดีบุก จอดจุดที่ 14 ถนนดีบุก จอดจุดที่ 15 วัดมงคลนิมิตร จอดจุดที่ 16 โครงการไลม์ไลท์ ภูเก็ต เป็นป้ายสุดท้าย ก่อนถึงจุดจอดรถ

นายนิพนธ์ เอกวานิช ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายแผนพัฒนาจังหวัดภูเก็ตที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาศัยการใช้พลังงานสะอาดในการลดมลพิษ และยกระดับการดำเนินชีวิตของประชาชนและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน บริษัทฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานโครงการต่างๆที่เกี่ยวกับการพัฒนาเมือง มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานโครงการต่างๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเห็นควรร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green City) เพื่อทำให้การพัฒนาเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม คล่องตัว มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

‘ภูเก็ต’ คว้าชัยอย่างยิ่งใหญ่ ได้เป็นเจ้าภาพงานระดับโลก ขึ้นแท่นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และไมซ์อย่างยั่งยืน

(1 พ.ค. 67) นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ แสดงความยินดีกับจังหวัดภูเก็ตที่นำพาประเทศไทยปักหมุดบนเวทีโลกผ่านการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก การประชุมด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Global Sustainable Tourism Conference 2026) หรือ GSTC 2026 

ถือเป็นการสร้างหมุดหมายใหม่ด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและไมซ์อย่างยั่งยืนในอนาคต ถือเป็นชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ของประเทศไทย รวมถึงระเบียงเศรษฐกิจ 6 จังหวัดอันดามัน ที่ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและไมซ์อย่างยั่งยืนในอนาคตที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

งานดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2569 ที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด “Regenerative Tourism” เป็นการประชุมและสัมมนาเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวระดับโลกและท้องถิ่น มุ่งสร้างการมีส่วนร่วม สนับสนุนการเดินทางและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 

โดยมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ โรงแรม บริษัททัวร์ บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ สถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนา องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้เกี่ยวข้องอีกมากมายเข้าร่วมงาน คาดว่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 700 คน จาก 60 ประเทศ สร้างรายได้กว่า 50 ล้านบาท

สยบข่าวลือทุบทิ้ง 'สะพานสารสิน' หลังสะพัดเป็นดรามาในภูเก็ต เมื่อรัฐเล็งสร้างสะพานขึงเป็นแลนด์มาร์ก-รองรับฮับเรือท่องเที่ยว

ทุบทิ้งสะพานสารสินกลายเป็นกระแสที่มีการพูดถึงกันมากในภูเก็ตขณะนี้ ตามสื่อโซเชียลต่างๆ หลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาภูเก็ตเพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในภูเก็ต และได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างสะพานสารสินแห่งใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้

(15 พ.ค.67) โดยก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการสั่งการให้กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ศึกษาออกแบบการก่อสร้างสะพานขึงที่ภูเก็ต ที่มีความสูงให้เรือขนาดใหญ่สามารถลอดได้ทดแทนสะพานสารสิน เพื่อใช้ในการคมนาคม มีความสวยงาม และจะเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเป็นฮับเรือท่องเที่ยว

สังคมโซเชียลส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ทุบสะพานสารสิน เพราะมองว่าเป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ต เป็นตำนานรักสะพานสารสินที่โด่งดัง หากต้องการจะให้มีสะพานเชื่อมกับฝั่งพังงาเพิ่มควรที่จะสร้างสะพานใหม่ขึ้นมา รวมไปถึงให้รัฐบาลโฟกัสไปที่การแก้ปัญหาการจราจรในภูเก็ต ที่กำลังกลายเป็นปัญหาหนัก มากกว่าที่จะหยิบยกเรื่องการทุบทิ้งสะพานสารสินมาพูดกันในขณะนี้

สะพานสารสิน เป็นสะพานแห่งแรกที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต ระหว่างบ้านท่าฉัตรไชย และบ้านท่านุ่นของจังหวัดพังงา โดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร มี 2 ช่องจราจร เปิดใช้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2510 โดยชื่อของสะพานตั้งตามนามสกุลของนายพจน์ สารสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติในขณะนั้น

ในเวลาต่อมา ได้มีการสร้างสะพานอีก 2 แห่งในบริเวณเดียวกันขนานกันไปกับสะพานสารสิน คือ สะพานท้าวเทพกระษัตรีและสะพานท้าวศรีสุนทร และใช้ในการสัญจรของรถยนต์แทนสะพานสารสิน เนื่องจากมีสภาพชำรุดทรุดโทรมลง โดยได้มีการปรับปรุงสะพานสารสินให้เป็นสะพานคนเดินข้าม และมีหอชมวิวอาคาร 8 เหลี่ยม ให้ได้พักผ่อนชมทิวทัศน์ ออกแบบให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรโคโรเนียล สผสมผสานกับอาคารหลังคาทรงปั้นหยาแบบภาคใต้ ที่มีความสวยงาม ดั่งที่เห็นในปัจจุบัน

อีกทั้งสะพานแห่งนี้ยังเกิดเหตุเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่รู้จักกันทั่วประเทศ เมื่อหนุ่มสาว 2 คน ตัดสินปัญหาความรักที่ไม่สมหวัง ด้วยการใช้ผ้าขาวม้าผูกต่อกันมัดตัวเองและกระโดดจากกลางสะพานลงสู่พื้นน้ำ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2516 จนมีการนำเรื่องราวของคนทั้งสองไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่อง ‘สะพานรักสารสิน’

เพื่อเป็นการสยบข่าวลือการทุบทิ้งสะพานสารสินที่สะพัดอยู่ในภูเก็ต ขณะนี้ นายยุทธนา พิทักษ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต ได้ออกมาชี้แจงถึงกระแสการทุบทิ้งสะพานสารสิน ว่า กรมทางหลวงไม่มีแนวคิดที่จะทุบสะพานสารสินในขณะนี้และในอนาคต ตามที่มีข่าวลือสะพัดในโซเชียล การที่จะดำเนินการโครงการที่เป็นโครงข่ายคมนาคมนั้นจะต้องมีการทำศึกษารายละเอียดของโครงการนั้น ๆ รวมไปถึงการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ และศึกษาถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อน

อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงมีโครงการที่จะก่อสร้างสะพานสารสินแห่งใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างภูเก็ตกับพังงา แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของแนวคิดและของบประมาณมาศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการ ซึ่งจะเป็นจุดใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่

กระแสข่าวทุบทิ้งสะพานสารสินจึงกลายเป็นกระแสที่คนส่วนใหญ่ในภูเก็ตรับไม่ได้ ไม่ต้องการให้รื้อทิ้งสะพานสารสิน ต้องการเก็บไว้เป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ตต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top