Monday, 29 April 2024
พัทลุง

‘รมว.พิพัฒน์’ เปิด THAI FIGHT การแข่งขันชกมวยไทยโลก!! ณ เขาอ้อ พัทลุง

ที่สนามลานวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานเปิดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT” เขาอ้อ เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ THAI FIGHT ในปี 2020  ชิงถ้วยพระราชทานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 3 ถ้วยพระราชทาน และถ้วยพระราชทานใน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี จำนวน 1 ถ้วยพระราชทาน ให้แก่นักมวยผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ถือเป็นสิริมงคลสูงยิ่ง

รมว.พิพัฒน์  กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ ถึงมาตรการความพร้อมรวมถึงระบบการดูแล และอำนวยความสะดวกต่อผู้ที่จะเข้ามาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และการกีฬาเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ทางรัฐบาล  พลเอก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญยิ่ง

ดังนั้นการที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาร่วมให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT เขาอ้อ” ณ.จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นการส่งเสริม และร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงผลักดันนวัตกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาสู่ความเป็นเลิศ 

การท่องเที่ยวเชิงกีฬา สามารถช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นรวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี ตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด”

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมขยายผลจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม กรณีคนร้ายเขียนใบปลิวเรียกค่าคุ้มครองสวนทุเรียน

จากกรณีสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีคนร้ายได้ใช้ของมีคมปอกเปลือกของลำต้นทุเรียนหมอนทอง จำนวน 9 ต้น และราดน้ำกรดฆ่ายางบริเวณดินใต้ต้นทุเรียน ทำให้ได้รับความเสียหาย รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาทต่อต้น ซึ่งปลูกไว้บนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ม.8 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จว.พัทลุง และมีการเขียนข้อความด้วยปากกาลงในกระดาษลักษณะข่มขู่ บรรจุในถุงพลาสติกใสผูกติดไว้ที่ต้นทุเรียน ข้อความว่า “พวกเราจะขอความช่วยเหลือ ถ้าหากไม่ได้ตัวอย่างมีให้เห็น ไว้แล้วที่ต้นทุเรียน ถ้าไม่อยาก ให้ต้นทุเรียนตายหมดทั้งสวน ให้คุณไปติดต่อที่ลูกพี่กูด้ายเลย กูให้เวลาพวกมึงไม่เกิน 7 วัน เน้นไม่เกิน 7 วัน” นั้นพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ควบคุมดูแลการสืบสวนติดตามและจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว และ ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการขู่กรรโชกทรัพย์จากประชาชน จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วัลลพ จำนงค์อาษา รอง ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9, พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนเร่งรัดติดตามกลุ่มคนร้ายทันที

‘นริศ’ รมช.มหาดไทยคนใหม่ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เชิญชวนมุสลิมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ส.ส. จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำตนเข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เนื่องในโอกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งและให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนรู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

นายนริศ กล่าวอีกว่า ตนถือเป็นมุสลิมคนที่ 4 ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ต่อจากนายเล็ก นานา, นายสิดดิก สารีฟ และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพี่น้องชาวมุสลิมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งที่ผ่านมาพระองค์ก็ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกที่บำบัดทุกข์ ดูแลสุขของพี่น้องศาสนิกในทุกศาสนาที่ต่างก็เป็นพสกนิกรของพระองค์อย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ทำให้พี่น้องมุสลิมของเราอยู่อย่างมีความสุข และร่มเย็นเสมอมา

ปชป. คว้า ‘ดร.ปิยกาญจน์’ ปักธงเมืองลุง เขต 2 มั่นใจ!! กระแสตอบรับดี - คนในพื้นที่ไว้วางใจ

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัว 3 ผู้สมัครในจังหวัดพัทลุงในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม เวลา 15.00-20.00 น. ณ สนามกีฬาสิริวัณวลี อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง 3 คน ประกอบด้วย เขต 1 คือ ‘สุพัชรี ธรรมเพชร’ อดีต ส.ส.จากตระกูลบ้านใหญ่ ที่ยังคงมั่นอยู่กับประชาธิปัตย์ 

เขต 2 คือ ‘ดร.ปิยกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี’ หรือ ดร.เดย์ ลูกสาวของ สานันท์ สุพรรณบุรี อดีต ส.ส. 2 สมัย อดีตนายกฯ อบจ.พัทลุง 2 สมัย ได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว 

ส่วนเขต 3 ก็เป็น ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส. 5 สมัยของพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย

ส่วนแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมาร่วมเวทีเปิดตัวผู้สมัคร และปราศรัย เบื้องต้นประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผอ.เตรียมการเลือกตั้ง, นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคภาคใต้, ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค

ขอเคียงข้างชาวพัทลุง!! ‘มาดามเดียร์’ อ้อน! ขอโอกาส ส.ส. ‘ประชาธิปัตย์’ จับมือชาวใต้ โชว์อุดมการณ์แรงกล้า ‘เงินซื้อไม่ได้’

‘มาดามเดียร์’ ปราศรัยอ้อนชาวพัทลุงให้โอกาสผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ชวนแสดงอุดมการณ์ว่าคนภาคใต้เงินซื้อไม่ได้

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่จ.พัทลุง น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเวทีปราศรัย “ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ โอกาสปักษ์ใต้บ้านเรา” ในการเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง ที่สนามโรงเรียนพัทลุง ว่า วันนี้รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาเจอพี่น้องชาวพัทลุง ซึ่งวันนี้ตนตั้งใจมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาหาพี่น้องชาวพัทลุง และที่ผ่านมาทุกคนอาจจะได้เห็นข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเลือดไหลออก ทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกกังวล แต่การมายืนอยู่ของตนเป็นสิ่งที่จะบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีเลือกไหลเข้าไม่จบ เลือดเก่าที่ไหลออก แต่เลือดใหม่ที่ไหลเข้าเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยืนอยู่คู่คนไทยไม่เปลี่ยนแปลง 

“เราไม่ใช่พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นเพียงฉาบฉวย ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นสถาบันทางการเมืองที่อยู่คู่คนไทย อยู่คู่คนพัทลุงมา 77 ปี เพราะฉะนั้นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เราจะทำงานบนความรับผิดชอบ บนอุดมการณ์ที่ยึดมั่น และก็จะไม่เกิดขึ้นเพียงฉาบฉวย โดยที่ไม่คำนึงถึงอนาคตของคนรุ่นลูกรุ่นหลานในอนาคตข้างหน้า และสิ่งที่อยากจะบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงก้าวเดินต้อไปและจะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งประชาธิปัตย์ได้” น.ส.วทันยา กล่าว 

น.ส.วทันยา กล่าวตอว่า จังหวัดพัทลุงมีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 1,000 ปี และที่สำคัญบรรพบุรุษได้เคยสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศไทยหลายครั้งหลายคราว อย่างเช่น ในสมัยรัชกาลที่ 1 บรรพบุรุษชาวพัทลุงได้ช่วยกันสู้ศึกกับพม่าและสามารถรักษาเอกราชให้กับคนไทยไว้ได้ และตลอดระยะเวลากว่า 77 ปีที่ผ่านมา ที่จังหวัดพัทลุงได้มีพรรคการเมืองเข้ามาแล้วก็จากไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเห็นอยู่ คือ คนพัทลุงและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทอดทิ้งกัน เราร่วมต่อสู้และช่วยเหลือชาวพัทลุงมาโดยตลอด เราเป็นพรรคที่เกิดจากอุดมการณ์ที่มาจากประชาชน และมีรากฐานมาจากประชาชน และเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีหัวใจเป็นประชาชน พรรคเราไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนที่มาคอยชี้นำ และไม่มีอำนาจรัฐที่จะขู่เข็ญประชาชน แต่พรรคประชาธิปัตย์เรายืนยัดอยู่คู่คนพัทลุงได้นั้น เพราะเรามีศรัทธาของคนพัทลุงเป็นหลังพิงเท่านั้น 

ดับยกคัน!! เหตุสลด!! ‘รถพ่วง’ ยางแตกพุ่งชน ‘รถยนต์’ ดับ 5 ราย จนท. เร่งค้นหาคนขับรถพ่วงหนีหาย หลังเกิดเหตุ

สลด!ดับยกคัน 5 ศพ รถพ่วงยางแตกเหินข้ามเลนชนกระบะ

(9 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 18.20 น.วันที่ 8 มีนาคม 2566 เกิดเหตุการณ์สลดรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้น ท้องที่หมู่ 3 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่เร่งช่วยกันงัดซากรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ ทะเบียนพัทลุง ซึ่งถูกรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกไม้ยางขนาดใหญ่ เสียหลักพุ่งข้ามฝั่งถนนมาชน เป็นเหตุให้มีคนในรถได้รับบาดเจ็บ 5 ราย หนึ่งในผู้บาดเจ็บเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 9 ปี ซึ่งนั่งมาในรถยนต์กระบะทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องลำเลียงแยกส่ง ที่ รพ.ป่าบอน รพ.ตะโหมด และ รพ.บางแก้วแต่สุดท้ายทั้ง 5 ราย เสียชีวิตในเวลาต่อมา

‘ประชาธิปัตย์ยุคใหม่’ มั่นใจ!! ปักธงฟ้าเข้าสภาฯ ยกทีม ชู ยกระดับพัทลุง 5 มิติ เสริมจุดแข็งครอบคลุมทั้งจังหวัด

(9 เม.ย. 66) นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 อำเภอกงหรา (ยกเว้น ตำบลชะรัด และตำบลสมหวัง) อำเภอตะโหมด, อำเภอป่าบอน, อำเภอปากพะยูน และอำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงนโยบายการพัฒนา จังหวัดพัทลุง ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ของทีมประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จังหวัดพัทลุง ว่า จากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนและศึกษาข้อมูลในพื้นที่อย่างเป็นระบบ ทีมประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จังหวัดพัทลุง ซึ่งประกอบไปด้วย น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1, น.ส.ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 และตน ได้ตกผลึกร่วมกันถึงนโยบายที่จะยกระดับ จังหวัดพัทลุง 5 มิติ ซึ่งถือว่าบ้านของเราเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาต่อยอด แต่ยังขาดการบูรณาการร่วมกันและประสานงานกันอย่างเป็นรูปธรรมของ ส.ส.ทั้ง 3 เขต จึงเป็นที่น่าเสียดายสำหรับโอกาสที่สูญเสียไปในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ ทีมประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะใช้จุดแข็งของความเป็นทีมคนรุ่นใหม่ที่ทำงานร่วมกันและลงพื้นที่คลุกคลีกับพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มาขอโอกาสทำงานเพื่อคนพัทลุง เชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนจะไว้วางใจและร่วมกันปักธงฟ้าทีมประชาธิปัตย์ยุคใหม่ทั้ง 3 เขต

นายร่มธรรม กล่าวว่า สำหรับนโยบายยกระดับจังหวัด 5 มิติ ของทีมประชาธิปัตย์ยุคใหม่นั้น มีวิสัยทัศน์ว่า ‘พัทลุงหรอยดี’ คือส่งเสริมของดีของเด่นใน จ.พัทลุง ทำให้ประชาชนมีความสุข เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและดีกว่าเดิม ดังนี้

มิติที่ 1 การเดินทางดี โดยการผลักดันและประสานงานการทำถนนเลี่ยงเมือง รอบเมืองครบ 4 สาย และผลักดันการสร้างสนามบินพัทลุง เพื่อเสริมศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่ จ.พัทลุง อย่างเต็มรูปแบบ

มิติที่ 2 การท่องเที่ยวดี โดยจะผลักดันและพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.พัทลุง ทั้งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเชิงวัฒนธรรม โดยมีรัฐทำหน้าที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน, Free wifi, sky walk และกระเช้า ตามศักยภาพของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง เพิ่มที่จอดรถชมวิวบนสะพานเฉลิมพระเกียรติทะเลน้อย-ระโนด ส่งเสริมกีฬาทางน้ำในทะเลสาบสงขลา และสร้างการรับรู้ รวมถึงพัฒนาให้ จ.พัทลุงเป็นเมืองท่องเที่ยวและจุดมุ่งหมายของการพักผ่อนหลังเกษียณ

มิติที่ 3 สินค้าดี โดยการผลักดันและประสานงานการทำเกษตรพรีเมี่ยม เกษตรอินทรีย์ เกษตรแปรรูป เกษตรหลากหลาย พร้อมส่งเสริมการจดทะเบียน GI ข้าวเหนียวดำหมอ, เล็บนก, ดีปรีชี, จำปาดะ และอื่น ๆ ผลักดันการก่อสร้างศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำประมงน้ำกร่อย สร้างสะพานปลา ท่าเทียบเรือ ตลาดนัดปลา ริมทะเลสาบ เร่งดำเนินการให้พัทลุงเป็นเมืองหลวงด้านปศุสัตว์ภาคใต้ โดยการเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมโคนมและโคเนื้อ นอกจากนี้จะมุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ งานทำมือ ศิลปะ วัฒนธรรม สินค้าแปรรูป สินค้าของคนพัทลุง พร้อมจัดตั้งตลาดศูนย์กลางการเกษตรเพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าที่สำคัญของจังหวัดไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ

‘กรณ์’ ลุยปราศรัยพัทลุง ปลื้ม!! กระแสแรงแซงพรรคใหญ่ ขอโอกาสคนเมืองลุง หนุน ‘ชพก.’ เข้าสภาฯ แก้ปัญหาให้ ปชช.

(8 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค, นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อกขวัญใจชาวใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สงขลา และทีมผู้สมัคร จ.สงขลา ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต1, ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ เขต 3 และทนายอาร์ม นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมืองช่วยนายธนากร บุญสนิท ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 2 โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังกันอย่างคึกคัก

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ภูมิใจมาก เพราะกระแสในพื้นที่คะแนนของนายธนากรมาแรงแซงพรรคใหญ่ โดยพรรคชาติพัฒนากล้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ และผู้สมัครก็หน้าใหม่เกือบทั้งหมด พวกเราตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ก็มักจะมีพี่น้องประชาชนมาฝากให้พวกเราเข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งราคาน้ำมัน ค่าไฟ ราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งตราบใดที่พี่น้องยังมีแรง มีเรื่องฝากให้เราทำ แสดงว่าพวกท่านยังมีความหวัง มีความเชื่อและศรัทธาเรา ไม่เช่นนั้นคงไม่เสียเวลา และนี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเรามุ่งมั่น และทุ่มเทที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

นายกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ตนอยู่ใต้ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนรู้สึกชื่นใจที่สุด เดินไปเจอใครก็บอกจะเลือกพรรคชาติพัฒนากล้าแน่ เพราะเป็นพรรคแนวกลาง แนวเศรษฐกิจ เดินทางการเมืองในแนวทางที่ใสสะอาด แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีอีกหลายคนที่แม้จะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเลือกยังไงดี เพราะกระแสหลักทางสื่อผลักให้อยู่ใน 2 ขั้ว เหมือนถูกยัดเยียดให้เลือกในสิ่งที่เขาไม่ชอบ เพื่อหนีสิ่งที่เขากลัว เขาไม่ต้องการเปลี่ยนประเทศ แต่ต้องการเปลี่ยนทิศทางของประเทศ ซึ่งตนได้ตอบไปว่า การเมืองมันมีทางเลือกแน่นอน และทางเลือกนั้นคือ ชาติพัฒนากล้า แม้เราจะไม่ใช่พรรคใหญ่ และเป็นพรรคใหม่ แต่ก็เชื่อว่า ใหญ่ เล็ก ใหม่ เก่า ไม่สำคัญ เท่าขนาดของหัวใจ ประชาชนให้โอกาสเรามาแล้ว ทุกนโยบายที่เรานำเสนอ มุ่งเป้าทำให้เศรษฐกิจปากท้องดีขึ้น และเราก็สู้มาตลอด

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราเป็นนักสู้ โดยยึดหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย เราพร้อมทำงานกับทุกคน เราไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่ใครก็ตามที่จะเป็นนายก ต้องรวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯ ที่ประชาชนเลือกมา เราไม่เห็นด้วยที่จะใช้เสียง สว.มาเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ ประชาชนต้องเป็นคนเลือก สว.เลือกนายกได้แต่โหวตกฎหมายในสภาไม่ได้ นอกจากนี้ เรายังยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะสู้ เพื่อความมั่นคงในสถาบันหลักของประเทศ ม.112 ต้องมี และเราได้เสนอทางออกให้สังคมด้วยการตั้งคณะกรรมการกรองคำร้องเรียน เพื่อไม่ให้กฎหมายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม เราเป็นพรรคแรกที่ยืนยันแนวทางนี้

เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาราคาน้ำมัน ค่าไฟ เราก็มายืนหยัดสู้กับทุนใหญ่ ซึ่งเป็นทุนผูกขาด นอกจากนี้เรื่องเราได้รับการร้องขอให้ช่วยมากที่สุดคือ การยกเลิกแบล็กลิสต์ ที่ทำให้หลายคนขาดโอกาสในการทำกิน อีกนโยบายที่โดนใจชาวบ้านคือการ ‘หวยจังหวัด’ โดยการเพิ่มรางวัลให้กับประชาชนผู้ซื้อลอตเตอรี่  3 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาท ในทุกงวด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เลือกพรรคเราไม่ผิดหวัง เราทำได้แน่นอน ทุกนโยบายเราศึกษามาแล้วอย่างละเอียด ทุกคะแนนที่ท่านให้กับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นการเติมพลังให้กับสังคมและบ้านเมือง ทุกคนยืนหยัดต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

'ปลัดจุก' ผู้สมัคร รทสช. พัทลุง ย้ำ!! ไม่เคยยกธงขาว วอนคนไทย “เป็นปลาฉลาด กินเฉพาะเหยื่อไม่กินเบ็ด”

(12 พ.ค. 66) จากกระแสข่าว ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ พัทลุง ยกธงขาว ยุติการหาเสียง เนื่องจากถูกตัดท่อน้ำเลี้ยงกลางอากาศนั้น ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ นายปรัชญา นวลเปียน หรือ 'ปลัดจุก' ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดพัทลุง เขต 3 ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร?

โดยนายปรัชญา ได้เผยเรื่องการยุติหาเสียง และถูกตัดท่อน้ำเลี้ยงกลางอากาศของตน ว่าไม่เป็นความจริงยืนยันตนเองก็ไม่เคยพูดในประเด็นนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เดินหน้าหาเสียงในโค้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งกล่าวว่า...

“ไม่ได้ยุติการเสียง ไม่ได้ถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง ซึ่งพรรคก็ดูแลตามกฎหมายที่กำหนด และไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทางพรรครวมไทยสร้างชาติ” 

นายปรัชญา กล่าวถึงจุดยืนต่อว่า “เมื่อก่อนผมอยู่พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากผมมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งนี้ผมจึงติดตามพลเอกประยุทธ์ มาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าพรรคฯ และพลเอกประยุทธ์ยังได้รับความนิยมจากประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้” 

ส่วนบรรยากาศการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายที่พัทลุงตอนนี้ นายปรัชญากล่าวว่า “การแข่งขันในพื้นที่ค่อนข้างดุเดือด กระสุนมาแรง เราต้องสร้างกระแสสู้กระสุน เราต้องการทำการเมืองสีขาว กระแสของพรรครวมไทยสร้างชาติที่จังหวัดพัทลุงดีมาก แต่ไม่รู้ว่าจะฝ่ากระสุนได้หรือไม่ เรื่องซื้อสิทธิขายเสียงก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขกันอย่างไร คนที่มีหน้าที่อยู่ก็คือ กกต. บางทีก็ต้องตั้งคำถามว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมด้วยหรือไม่ การซื้อสิทธิขายเสียงมันต้องพอใจทั้ง 2 ฝ่าย จึงค่อนข้างยากในการแก้ไขปัญหานี้ จริง ๆ แล้วควรติดกล้องล่อซื้อแต่ก็ไม่มีใครกล้าทำ” 

"อีก 2 วันก็จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว ขอฝากข้อคิดไว้ว่า เป็นปลาฉลาด ให้กินเฉพาะเหยื่อไม่กินเบ็ดนะครับ” ปลัดจุก ทิ้งท้าย

พัทลุง-พช.พัทลุง ประชุมวางแผนขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาสตรี ประจำปี พ.ศ.2567

วันที่ 26 ธันวาคม 2566  เวลา 13.30 น. ณ โรงแรม ชัยคณาธานี ดร.นาที  รัชกิจประการ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน (ประธาน กพสจ.) ร่วมกับ นายเสรี จิตรเวช  พัฒนาการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย นายประโมทย์ ดำจวนลม  ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด (กพสจ.) พัทลุง ครั้งที่ 3/ 2566 เพื่อติดตามแนวทางการพัฒนาอาชีพของสตรี และการจัดกิจกรรมวันสตรีสากล ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระชนมพรรษา  6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 การจัดกิจกรรมเนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี พ.ศ.2567 ที่ประชุมได้มีมติให้ใช้ชื่อกิจกรรม ภายใต้โครงการ "รวมพลังสตรี ทำความดี เทิดไท้ 72 พรรษา องค์ราชัน" โดยกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 8 มีนาคม 2567 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง 

ในการประชุมครั้งนี้มีหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานและคณะกรรมการ กพสจ. เข้าร่วมประชุม จำนวน 45 คน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top