Wednesday, 22 May 2024
ปลดพนักงาน

‘Amazon’ จ่อปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เซ่นพิษเศรษฐกิจ - ภาวะเงินเฟ้อ

‘แอมะซอน’ ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอเมริกัน ประกาศตัดลดตำแหน่งงานมากกว่า 18,000 ตำแหน่งจากกำลังแรงงานของบริษัท ซึ่งมากกว่าที่เคยเปิดเผยเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลเรื่อง ‘เศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน’ และข้อเท็จจริงที่ว่าทางบริษัทมีการ ‘จ้างงานอย่างรวดเร็ว’ ระหว่างที่เกิดโรคระบาดใหญ่โควิด-19

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 66) แอนดี แจสซี ซีอีโอของแอมะซอน กล่าวในคำแถลงถึงบรรดาลูกจ้างพนักงานที่มีการนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนว่า จากที่บริษัทได้เคยแจ้งเรื่องการลดตำแหน่งงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อมาถึงตอนนี้บริษัทวางแผนจะปลดลูกจ้างพนักงานมากกว่า 18,000 ตำแหน่งเล็กน้อย ทั้งนี้ ตอนที่บริษัทประกาศไว้ในเดือน พ.ย. โดยที่เริ่มให้ลูกจ้างพนักงานในแผนกเครื่องมืออุปกรณ์ออกไปนั้น ระบุว่าจะเลย์ออฟราว ๆ 10,000 คน

ซีอีโอของแอมะซอนบอกว่า ตำแหน่งงานที่ถูกตัดลดลงคราวนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ทำงานอยู่ในพวกองค์กรด้านอีคอมเมิร์ซ และด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท และบางส่วนจะเกิดขึ้นในยุโรป โดยแอมะซอนจะเริ่มแจ้งให้ลูกจ้างพนักงานที่ถูกกระทบทราบตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม

ในคำแถลง แจสซี กล่าวว่า คณะผู้นำของบริษัท มีความตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า การลดตำแหน่งงานเหล่านี้สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้คน และเราไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ด้วยความง่ายดายเลย

“เรากำลังทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ที่ได้รับความกระทบกระเทือน และกำลังจัดทำแพกเกจต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินสำหรับการต้องแยกจากกัน ผลประโยชน์ด้านการประกันสุขภาพระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน และความสนับสนุนในเรื่องการหาตำแหน่งงานจากภายนอก” ซีอีโอของแอมะซอน กล่าว

แอมะซอน มีกำลังแรงงานทั่วทั้งบริษัทราวๆ 300,000 คน การเลย์ออฟคราวนี้จึงเท่ากับลดคนลงไปประมาณ 6% และก็เป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงการกลับลำอย่างรวดเร็วยิ่งของยักษ์ใหญ่ขายปลีกผ่านออนไลน์รายนี้ ซึ่งเพียงไม่นานมานี้เอง ยังเพิ่งขยายเพดานสูงสุดของเงินเดือนฐานของตนไป 1 เท่าตัว ในระหว่างการแข่งขันกันอย่างดุเดือดกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อช่วงชิงผู้มีความรู้ความสามารถ

Amazon เตรียมปลดพนักงานอีก 9 พันคน ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

Amazon ประกาศเลิกจ้างงานรอบสองอีก 9,000 คน รวม 2 รอบ ยอดรวมเป็น 27,000 คน

บริษัท Amazon Inc แถลงเมื่อวันจันทร์ (20 มีนาคม) ว่า จะเลิกจ้างงาน 9,000 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายล่าสุดที่ประกาศเลิกจ้างรอบสอง ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมทั้ง Microsoft Corp, Salesforce Inc และ Alphabet and Meta Platforms ต่างปรับลดตำแหน่งงานหลายพันในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ หลังมีการจ้างงานมากเกินไป ส่วน Amazon ตามรอย Meta บริษัทแม่ของ Facebook กลายเป็นบริษัทที่ประกาศลดพนักงานรอบสอง โดยก่อนหน้านี้ได้ปลดไปแล้ว 18,000 คน เมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา

แอนดี แจสซี กรรมการบริหาร หรือซีอีโอ ของ Amazon กล่าวว่า ทางบริษัทได้เพิ่มพนักงานจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สภาพเศรษฐกิจผันผวนไร้ความแน่นอน ทำให้บริษัทต้องเลือกลดต้นทุนและลดพนักงานลง โดยการลดพนักงานมุ่งเน้นไปในส่วนของการบริการคลาวด์ โฆษณาและทวิตช์

‘ดิสนีย์’ ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ 7,000 คน หลังกำไรธุรกิจสตรีมมิ่งไม่ปังตามเป้า

ดิสนีย์ประกาศปลดพนักงาน 7,000 คน เพื่อควบคุมต้นทุนให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้นในธุรกิจ หลังดิสนีย์ เข้าไปลงแข่งในวงการสตรีมมิ่ง และทำกำไรไม่ได้ตามเป้า 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บ็อบ ไอเกอร์ CEO ของวอลท์ ดิสนีย์ (Walt “Disney”) ออกจดหมายถึงพนักงานว่า ดิสนีย์ประกาศการปลดพนักงานจำนวน 7,000 คน โดยจะเริ่มแจ้งพนักงานกลุ่มแรกในอีก 4 วันข้างหน้า ส่วนในรอบที่ 2 ซึ่งจะเป็นการประกาศครั้งใหญ่จำนวนหลายพันคน จะมีในเดือนเมษายน

และรอบสุดท้ายจะประกาศก่อนช่วงฤดูร้อน ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าว เป็นการตัดสินใจยากลำบากของบริษัท เนื่องจาก พนักงานหลายคนเลือกมาทำงานที่นี่ ด้วยความหลงใหลในดิสนีย์ที่มีมาตลอดชีวิต

‘Apple’ จ่อปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ เล็งลดตำแหน่งงานบางส่วนออกเป็นครั้งแรก 

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 บลูมเบิร์ก รายงานว่า Apple Inc. (AAPL) กำลังปรับโครงสร้างภายในทีมค้าปลีกของบริษัท ซึ่งถือเป็นการลดตำแหน่งงานภายในบริษัทเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการรัดเข็มขัดเมื่อปีที่แล้ว

ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว Apple มีพนักงาน 164,000 คน และตรึงอัตรากำลังไว้ต่อเนื่อง ต่างจากบิ๊กเทคอื่นที่ขยายกำลังพนักงานเร็วในช่วงโควิด เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจนถึงปลายปีที่แล้ว ทำให้ความจำเป็นในการเลิกจ้างพนักงาน เช่น Amazon.com Inc. (AMZN) และ Google ของ Alphabet Inc. (GOOGL) ได้ปลดพนักงานหลายหมื่นคน

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา Apple จะรัดเข็มขัด ลดงบประมาณและตัดทอนพนักงานรับเหมาจำนวนมาก รวมถึงวิศวกรสัญญาจ้าง นายหน้า และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และให้พนักงานเหล่านั้นกลับมาสมัครงานใหม่ในตำแหน่งที่คล้ายกัน ซึ่งอาจจะได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าเดิม

‘Google’ สั่งปลดพนักงานฝ่ายบุคคลหลายร้อยตำแหน่ง อ้างเหตุผล บริษัทชะลอการจ้างงาน เพื่อลดต้นทุนธุรกิจ

(14 ก.ย. 66) รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ‘อัลฟ่าเบท’ (Alphabet) บริษัทแม่ของ ‘กูเกิล’ (Google) ตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานจากทีมสรรหาบุคลากรหลายร้อยตำแหน่ง เนื่องจากบริษัทยังคงชะลอการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

การตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเลิกจ้างครั้งใหญ่ เพราะบริษัทจะยังคงรักษาพนักงานส่วนที่สำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป และผลักดันให้พนักงานค้นหาบทบาทการทำงานในบริษัทที่ตรงกับความต้องการของตนเอง

Alphabet เป็นบิ๊กเทคแห่งแรกที่เลิกจ้างพนักงานในไตรมาสนี้ หลังจากที่บริษัทอื่น ๆ เช่น เมตา (Meta), ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และแอมะซอน (Amazon) ปรับลดขนาดองค์กรและลดจำนวนพนักงานในช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจอ่อนแอ

ก่อนหน้านี้ ในเดือน ม.ค. 2566 Alphabet เลิกจ้างพนักงานในรัฐแคลิฟอร์เนียประมาณ 12,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 6% ของพนักงานทั้งหมด

นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังอ้างอิงรายงานของ Challenger, Grey & Christmas บริษัทจัดหางานในสหรัฐที่ระบุว่า การเลิกจ้างในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในเดือน ส.ค. จากเดือน ก.ค. และเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าปี

'Qualcomm' จ่อปลดพนักงาน 1,258 ตำแหน่ง  เซ่น 'รายได้หด-หัวเว่ยหนีซบพันธมิตรในท้องถิ่น'

(17 ต.ค. 66) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ควอลคอมม์ (Qualcomm) บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ สัญชาติอเมริกา เตรียมจะปลดพนักงานประมาณ 1,258 คน ในสำนักงาน 2 แห่งในแคลิฟอร์เนีย ตามเอกสารที่ยื่นกับแผนกพัฒนาการจ้างงานของรัฐแคลิฟอร์เนีย

ทั้งนี้ บริษัทมีพนักงานประมาณ 51,000 คน ณ เดือนกันยายน 2565 ตามเอกสารการเงินประจำปีครั้งล่าสุด ดังนั้นจำนวนนี้ จึงถือเป็น 2.5% ของพนักงาน สาเหตุหลักของการลดตำแหน่งงานคือ รายได้ลดลงหลังจากธุรกิจชิปที่ซบเซาในไตรมาสที่ 3 ของบริษัท

ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายนี้ แจ้งกับรัฐว่า จะเลิกจ้างพนักงานในซานดิเอโกประมาณ 1,064 คน และพนักงานในซานตาคลารา 194 คน จะมีผล 13 ธันวาคม ทั้ง 2 แห่ง

ควอลคอมม์ ระบุกับ ซีเอ็นบีซี ว่า บริษัทชี้ไปที่รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด โดยระบุว่า คาดว่าจะมีการลดจำนวนสถานที่ทำงานและค่าธรรมเนียมในการปรับโครงสร้าง

เมื่อเดือนที่แล้ว นักวิเคราะห์ หมิงชื่อ กัว เปิดเผยว่าควอลคอมม์ อาจสูญเสียลูกค้ารายใหญ่เมื่อเผชิญหน้ากับหัวเว่ย ผู้ผลิตชาวจีนซื้อ SoC มากกว่า 40 ล้านตัวในปี 2566 แต่กำลังเปลี่ยนไปสู่พันธมิตรในท้องถิ่นในปี 2567 และต่อ ๆ ไป

‘บริษัทดัง’ สั่งปลดเด็กเข้าใหม่ แถมบอกล่วงหน้า ‘วันเดียว’ พนง.ประจำยังไม่รอด สั่งหยุดยาวสูงสุด 3 เดือน จ่าย 75%

(6 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก ข่าวสารชลบุรี-ระยอง รายงานว่า บริษัท ผลิตโซลาร์เซลล์ ในนิคมอมตะซิตี้ระยอง ปลดหมดพนักงานเพิ่งเข้าใหม่ไม่ถึงเดือน โดยบอกกล่าวล่วงหน้า 1 วัน พนักงานประจำยังไม่รอด สั่งหยุดยาวสูงสุด 3 เดือน จ่าย 75% พนักงานซับไม่ต่อสัญญา

ทั้งนี้ มีหนุ่มสาวฉันทนาเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งยอมรับสภาพและว่าก็ดีได้เงินก้อน เพื่อไปต่อทุนหางานใหม่ บ้างก็ให้กำลังใจกัน บอกว่า สู้ๆ นะ

ขณะเดียวกันบางรายให้ข้อมูลว่า เป็นแบบนี้หลายโรงงานเลย เช่นว่า “ข้างโรงงานผม ปิดไปตั้งแต่ก่อนโควิด ตอนนี้เป็นป่า สามารถเข้าไปหางู หาต่อ หาผึ้ง ได้แล้ว” อีกรายบอกว่า “ขนาดหลายโรงงานที่วางแผนมาดี ก็ยังมีปลดกลางอากาศ ส่วนบางสาขาได้โอทีเยอะมาก” เป็นต้น

‘Lazada’ สั่งปลดพนักงานนับร้อยทั่วอาเซียน หวยออก ‘สิงคโปร์’ ถูกปลดออกมากที่สุด

(5 ม.ค. 67) สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ‘ลาซาด้า’ (Lazada) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเครือบิ๊กเทคสัญชาติจีน ‘อาลีบาบา’ (Alibaba) ได้เลิกจ้างพนักงานทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายร้อยชีวิตเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่า การเลิกจ้างครั้งนี้ส่งผลกระทบกับพนักงานในสิงคโปร์มากที่สุด แต่ส่งผลกระทบถึงพนักงานในประเทศอื่น ๆ ที่ Lazada ได้ให้บริการเช่นกัน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือพนักงานที่อยู่ในฝ่ายการขาย ค้าปลีก และการตลาด

ตัวแทนของ Lazada สิงคโปร์ กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า บริษัทกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อเร่งการทำงานแบบเชิงรุก และพัฒนาบริการให้คล่องตัวมากขึ้น พร้อมต่อการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนรายดังกล่าวยังไม่ยืนยันเกี่ยวกับรายละเอียดการปรับลดพนักงานในครั้งนี้

ทั้งนี้ การปลดพนักงานของ Lazada เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรงของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปี้ (Shopee) และ TikTok Shop ที่บุกตลาดเข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมทั้งมีทิศทางการเติบโตของแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง

ยักษ์เทคฯ 'อเมซอน' เดินหน้าปลดพนักงาน 'ไพร์ม วิดีโอ-เอ็มจีเอ็มสตูดิโอ' หลัง 'ทุนจม-เล็งหาทิศทางใหม่' ตั้งเป้าปลดให้ได้ 27,000 คนในปี 67

อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ประกาศปลดพนักงานจำนวนมากหลายร้อยคนขึ้นไปใน 2 ธุรกิจชื่อดัง ได้แก่ 'ไพร์ม วิดีโอ' (Prime Video) ธุรกิจสตรีมมิ่งภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก และอเมซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอ ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ในสหรัฐอเมริกา สำหรับการปลดพนักงานจำนวนมากใน 2 บริษัทนี้ เป็นไปตามนโยบายของอเมซอนที่ประกาศไว้ตั้งแต่เมื่อปีผ่านมาว่าต้องปรับลดค่าใช้จ่ายลงให้มากที่สุดและต่อเนื่องด้วยการตั้งเป้าหมายปลดพนักงานมากมายถึง 27,000 คนระหว่างปี 2023 ถึงสิ้นปี 2024 

(11 ม.ค.67) Btimes รายงาน นายไมค์ ฮอพกิ้นส์ รองผู้อำนวยการอาวุโส ไพร์ม วิดีโอ และอเมซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอ กล่าวว่า ได้วิเคราะห์ แจกแจงโอกาสหลายอย่างที่จะลดหรือยุติการลงทุนในธุรกิจบางประเภท ในขณะที่ไปเพิ่มการลงทุนและเน้นความสำคัญสิ่งริเริ่มใหม่ๆ ด้านเนื้อหา และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งสร้างผลสำเร็จที่เห็นผลมากขึ้น 

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัททุ่มเงินลงทุนจำนวนมากมายในการตั้งและบุกธุรกิจสื่อ โดยใช้เงินลงทุนมากถึง 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 297,500 ล้านบาท ในการผนวกกิจการเอ็มจีเอ็ม และใช้เงิน 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 16,275 ล้านบาทในการสร้างภาพยนตร์ซีซั่นแรกของเดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริง ตอนเดอะ ริง ออฟ พาวเวอร์ มาอยู่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์ของไพร์ม วิดีโอ

ขณะที่เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.67) 'ทวิชต์' (Twitch) แบรนด์แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดการเล่นเกมและการแข่งขันอี-สปอร์ต (e-Sports) ชื่อดังระดับโลกของบริษัทเทคโนโลยีและยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซชื่อดังระดับโลก อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น เตรียมประกาศในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐด้วยการปลดพนักงานครั้งใหญ่ออกมากกว่า 500 คน หรือมากถึง 35% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน โดยการเตรียมประกาศปลดพนักงานในวันพุธนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปีผ่านมา ในปี 2023 ทวิชต์ปลดพนักงาน 2 รอบรวมกันกว่า 400 คน 

สาเหตุจากผลประกอบการของทวิชต์ที่ขาดทุนต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการลงทุนสูงเพื่อให้บริการเว็บไซต์ในรูปแบบแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดรองรับการเล่นเกมออนไลน์และการแข่งขันอี-สปอร์ต ที่กินเวลามากถึง 1,800 ล้านชั่วโมงต่อเดือน นับเป็นขนาดการให้บริการถ่ายทอดสดเกมออนไลน์ที่ใหญ่มหึมาแห่งหนึ่งของโลก ที่สำคัญเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมีราคาแพงมาก ทั้งๆ ที่ทวิชต์ใช้โครงสร้างเครือข่ายเทคโนโลยีของบริษัทอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น 

นอกจากนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 ผ่านไป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายแดน แคลนซี เปิดเผยว่า ทวิชต์จะยุติบริการถ่ายทอดสดเกมออนไลน์ และอี-สปอร์ตในประเทศเกาหลีใต้ สาเหตุจากค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากมาย ท่ามกลางในปี 2023 เกิดการทยอยลาออกของผู้บริหารระดับสูงในบริษัททวิชต์หลายคนในช่วงที่ผ่านมา 

บริษัทอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น เข้าซื้อกิจการทวิชต์เมื่อปี 2015 ปรากฏว่า นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึง 9 ปีในปัจจุบัน ทวิชต์ ไม่สามารถสร้างผลประกอบการเป็นกำไรให้กับอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่นได้เลยแม้แต่ปีเดียว เนื่องจากรูปแบบการหารายได้จากค่าโฆษณาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว และอยู่ในระดับสูงทุกวันนี้มาอย่างต่อเนื่อง 

‘Citigroup’ จ่อปลดพนักงาน 20,000 คน ภายใน 2 ปีหน้า หลังเผชิญวิกฤตขาดทุนหนัก เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปี!!

(13 ม.ค.67) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ‘ซิตี้กรุ๊ป’ จะเลิกจ้างพนักงาน 20,000 คน ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดย ‘มาร์ค มาสัน’ กล่าวว่า การลดจำนวนลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทรายงานผลการขาดทุนสุทธิ 1.8 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 62,900 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ซึ่งเป็นไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปี

ธนาคารคาดว่าการลดจำนวนพนักงานจะช่วยประหยัดเงินได้ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะยาว หรือราว 87,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารรายงานการสูญเสียกำไรมหาศาล ที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสที่ 4 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่ขาดทุน 11 เซนต์ต่อหุ้น

ซิตี้กล่าวว่า มีค่าใช้จ่ายประเภทครั้งเดียวหลายครั้งที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่าย 1.7 พันล้านดอลลาร์ ที่ธนาคารต้องจ่าย เกี่ยวข้องกับวิกฤตธนาคารในภูมิภาค เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว การสูญเสีย 880 ล้านดอลลาร์ในอาร์เจนตินา และ 800 ล้านดอลลาร์ ในต้นทุนการปรับโครงสร้าง ที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้าง ประมาณ 7,000 คนในปี 2566

นอกเหนือจากการลดพนักงาน 20,000 ตำแหน่ง ในส่วนการดำเนินงานของบริษัทแล้ว ธนาคารยังจะปลดพนักงาน 40,000 คน ในเม็กซิโก ผ่านการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งจะทำให้จำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทเหลือประมาณ 180,000 คนจาก 240,000 คน

บริษัทยังกล่าวว่า คาดว่าจะจ่ายเงินชดเชยและค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กรมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์

ด้านโฆษกของผู้ให้กู้ยืมรายหนึ่งในสหรัฐฯ เผยว่า การปลดพนักงานจะเกิดขึ้นทั่วโลก และปฏิเสธที่จะแจกแจงตัวเลขตามภูมิภาค

ทั้งนี้ ‘เจน เฟรเซอร์’ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป ได้ประกาศความพยายามในการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ครั้งแรกเมื่อกันยายนปีที่แล้ว โดยวางแผนที่จะจัดความเป็นผู้นำของธนาคารใหม่ เพิ่มความับผิดชอบ และว่าจะต้องมีพนักงานที่น้อยลง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top