Monday, 27 May 2024
ธนาธร

‘ธนาธร’ ร่วมวงปลุกพลังเลือก ‘ก้าวไกล’ ชูอุดมการณ์ ลดเหลื่อมล้ำ สู้ทุนใหญ่ผูกขาด

‘ก้าวไกล’ ล่องใต้เปิดเวทีพบสมาชิกที่กระบี่-ภูเก็ต เดินหน้าขยายฐานสมาชิกเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ‘ธนาธร’ ร่วมเวทีด้วย เคลียร์ชัดอุดมการณ์อนาคตใหม่ ต่อเนื่องสู่ก้าวหน้า-ก้าวไกล คือการต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมที่เป็นธรรมเป็นประชาธิปไตย 

พรรคก้าวไกล จัดกิจกรรมเปิดรับสมัครและพบปะสมาชิกพรรคที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดภูเก็ต โดยมี ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีเปิดการรณรงค์ขยายฐานสมาชิก และพูดคุยเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลในการเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วประเทศ พร้อมเชิญ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมการบรรยายเกี่ยวกับประเทศไทยที่พรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า อยากเห็น

ธนาธร เริ่มต้นด้วยการอธิบายถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ในประเทศไทยที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยระบุว่าความเหลื่อมล้ำเช่นนี้เป็นผลโดยตรงจากการจัดสรรทรัพยากรของประเทศอย่างไม่เป็นธรรม อำนาจทางการเมืองถูกใช้เพื่อการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนขนาดใหญ่มากกว่าประชาชน นำไปสู่การผูกขาดทางเศรษฐกิจอยู่ในมือของกลุ่มทุนขนาดใหญ่และชนชั้นนำ 

นี่คือปัญหาที่พรรคอนาคตใหม่เดิม มาจนถึงพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าวันนี้ยืนยันมาตลอดว่าเป็นเป้าหมาย ก็คือการทลายทุนผูกขาด และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย อำนาจเป็นของประชาชน และทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการเรียกร้องแสดงออก

ธนาธร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาชนชั้นนำมักอ้างความสามัคคีปรองดองมาเรียกร้องต่อทุกคนในชาติและใช้ในการโจมตีพวกเราตลอดเวลา แต่คำถามคือการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนผูกขาดร่ำรวยเป็นหลักแสนล้านภายในเวลาไม่กี่ปี ขณะที่ปล่อยให้คนเกิน 50% ของประเทศนี้มีรายได้ไม่ถึง 7,500 บาทต่อเดือน เข้าไม่ถึงน้ำประปาที่มีคุณภาพ บริการสาธารณะที่ดี ทั้งที่เป็นสิทธิพื้นฐาน สิ่งนี้คือความปรองดองของคนในชาติหรือไม่

ดังนั้น ประเทศไทยในแบบที่เราอยากเห็นเป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก คือเป็นประเทศที่ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเกิดที่จังหวัดไหน ต้องเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน น้ำประปา โรงเรียน โรงพยาบาลที่ดีเหมือนกัน เราต้องการสร้างประเทศที่เสมอภาคเป็นธรรม ดอกผลการพัฒนากระจายถึงทุกคน มีเศรษฐกิจที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีของตัวเอง และเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องสามัญพื้นฐานที่คนไทยทุกคนควรได้รับ นี่คือสังคมไทยที่เราเปลี่ยนแปลงได้

“การเรียกร้องให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ มีความเป็นธรรม ดอกผลการพัฒนากระจายถึงทุกคน มีเศรษฐกิจที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง ไม่ใช่เรื่องที่ผิด นี่คือสังคมที่เราทุกคนอยากให้ลูกหลานของเราเติบโตขึ้นมา โอกาสในการเปลี่ยนแปลงอยู่ในมือทุกท่านแล้ว มาร่วมกันผลักดันวาระสำคัญของประเทศ ให้ดอกผลของการพัฒนาไม่ได้ตกอยู่กับเจ้าสัวไม่กี่คน แต่อยู่กับคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ เราทำได้ด้วยการร่วมสร้างพรรคก้าวไกลด้วยกัน” ธนาธรกล่าว

ด้านชัยธวัช ได้บรรยายถึงยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลมีเป้าหมายที่ต้องการเป็นพรรคเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยเล็งเห็นว่าการเปลี่ยนรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเพียงลำพังไม่สามารถทำให้ประเทศไทยดีขึ้นได้ ต้องเปลี่ยนไปถึงโครงสร้างทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศ

นั่นเป็นเพราะปัญหาของสังคมไทยที่เป็นข้อขัดแย้งไม่จบสิ้นมายาวนาน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คืออำนาจการเมืองในประเทศนี้อยู่ที่ประชาชนหรืออยู่ที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมาการรัฐประหารทั้งสองครั้งล่าสุดในปี 2549 และ 2557 เป็นการรัฐประหารที่ฝ่ายชนชั้นนำได้ลดทอนอำนาจจากการเลือกตั้ง และเพิ่มอำนาจให้กลุ่มที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งกองทัพ องค์กรอิสระ และตุลาการมาโดยตลอด

'ดร.นิว' ถาม 'ธนาธร' ชี้นำความคิดให้ผู้อื่นกระทำสารพัด แล้วเคยบอกลูกให้ลาเครื่องแบบโรงเรียนนานาชาติหรือยัง?

(2 ธ.ค. 65) นายศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุว่า...

2 ปีผ่านมาแล้ว วันนี้ลูก ๆ ของคุณ Thanathorn Juangroongruangkit ได้บอกลาเครื่องแบบโรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียนกับโรงเรียนนานาชาติไบร์ทตันแล้วหรือยัง?

ผมพูดจริงๆ นะ การที่คุณพล่ามบอกลูกๆ ของชาวบ้านให้ทำนู่นทำนี่สารพัด คอยชี้นำทางความคิดและยัดเยียดภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง แต่ในขณะเดียวกัน คุณกลับไม่ได้พล่ามบอกลูกๆ ของตัวเองให้กระทำเช่นนั้นด้วย 

สุดท้าย คนอย่างคุณก็เป็นได้เพียงแค่นายทุนชนชั้นนำนักเผด็จการคนหนึ่ง ซึ่งมีส่วนร่วมในการสร้างความเหลื่อมล้ำ ชนชั้น และการเอารัดเอาเปรียบ แม้จะพูดจาสวยหรู แต่การกระทำกลับสวนทางกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง

ตี๊ต่าง!! ‘ปิยบุตร’ VS ‘พิธา’ ซัดกันไปมา ยังกะ ‘จูเลียส ซีซาร์’ VS ‘บรูตุส’

ต่อกรณีของ ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดวิวาทะกับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผ่านสมรภูมิเฟซบุ๊ก โดยมีผู้สันทัดกรณีและแฟนคลับของแต่ละฝ่ายเฝ้าติดตามด้วยความระทึกในหัวใจกับศึกสายเลือดครั้งนี้เป็นจำนวนมาก เพราะแม้ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ตัวพ่อลงทุนออกโรงหมายหย่าศึกด้วยตนเองแล้ว แต่ดูเหมือนทั้งสองยังไร้ทีท่าจะรามือกันแต่อย่างใด

ผู้ชมริงไซต์บางคนบอกนึกถึง ‘จูเลียส ซีซาร์’ (Julius Caesar) รัฐบุรุษแห่งกรุงโรม กับ ‘มาร์คุส ยูนุส บรูตุส’ (Marcus Junius Brutus) หรือ ‘บรูตุส’ นักการเมืองวัยห้าวชาวโรมัน สองตัวละครระดับตำนาน ‘แทงข้างหลัง’ ที่โลกจารึก

ฝ่ายแรก คือ บุรุษผู้กอบกู้และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่โรม แม้ช่วงหลังของการครองบัลลังก์จะถูกมองว่า “...เขาไม่สนใจจารีตเก่า ไม่แม้แต่จะเหลียวมองกลุ่มขั้วอำนาจการเมืองที่ยังคงอยากรักษาสถานะทางสังคมของพวกเขาเอาไว้ ในยามที่กรุงโรมกำลังอยู่ในสถานการณ์ความวุ่นวาย เขากลับเป็นอำนาจที่ไม่อาจโค่นล้มได้”

ขณะที่คนหลังเป็นนักการเมืองหนุ่ม อนาคตไกล ผู้มีอุดมการณ์ต่างจากซีซาร์คนละขั้ว แต่ยังคงได้รับความเมตตาตลอด เพียงเพราะชื่อ ‘เซอร์วิเลีย’ (Servilia) นางผู้เป็นที่โปรดปรานของซีซาร์ และก็คือมารดาของบรูตุส ดังนั้นสายตาที่มองมายังบรูตุส จึงไม่ต่างจากบิดามองลูกชายตน

เรื่องนี้จบอย่างไรหลายคนทราบดี - ส่วนคนไม่รู้ก็ไปหาอ่านเอาเอง

แต่ประเด็นสำคัญมิได้อยู่ที่ว่า ‘พิธา กับ ปิยบุตร’ หรือ ‘บรูตุส กับ ซีซาร์’ เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ต้องกล่าวโทษอีกฝ่ายว่า คือ ‘ผู้ผิด’ เสมอ ดังที่ ปิยบุตรพูด (เขียน) ถามถึงพิธาก่อนว่า “...ผู้นำพรรคก้าวไกลมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะชนะในเขตเลือกตั้งได้หรือไม่?”

ขณะที่พิธาโต้กลับตรง ๆ ว่า ปิยบุตรต้อง “เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” - “เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ” เสียที

สองคนมองเหมือนว่าตนคือซีซาร์ผู้ถูกแทงกลางหลังโดยคมมีดของอีกฝ่าย

และทั้งปิยบุตรกับพิธาก็ถูกมองว่าคือ ‘บรูตุส’ ผ่านสายตาอีกฝั่งเช่นกัน

แต่หากพิเคราะห์ดี ๆ แล้ว เนื้อหาโพสต์เฟซบุ๊กซึ่งตอบโต้กันอย่างเปิดเผยคราวนี้ กลับแทบไม่ต่างจากการชี้หน้าด่ากันกลางตลาด หากเพียงตัดรูปประโยคสวยหรูทว่าแสนรุงรังออกทิ้ง เรื่องทั้งมวลจะเหลือแค่แกนหลักของเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘สาวไส้’ ของกันและกันออกมา ‘กอง’ ต่อหน้าสาธารณชนรับรู้ ส่วนคนดู (กา) จะกิน ปรบมือ เป่าปาก โห่ หรือฮา ก็แล้วแต่วิจารณญาณของใครของมัน

‘พิธา’ ควง ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ’ เยือนอีสาน 3-4 มี.ค. ชู ‘อนาคตใหม่ก้าวไกล เพื่อประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’

(1 มี.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เผย วันที่ 3-4 มีนาคมนี้ พรรคก้าวไกลยกทัพบุกพื้นที่อีสาน 2 จังหวัด คือ ขอนแก่น และร้อยเอ็ด นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และมีไฮไลต์สำคัญ คือ กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลมีมติ เปิดตัว 3 ขุนพลแกนนำอนาคตใหม่ เป็นผู้ช่วยหาเสียงพร้อมเดินสายทั่วประเทศสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ โดยประเดิมที่แรก เวทีปราศรัยจังหวัดขอนแก่น โดยมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, น.ส.พรรณิการ์ วานิช ขึ้นเวทีปราศรัยด้วยเป็นครั้งแรก ถือได้ว่าเป็นการเข้าสู่บรรยากาศโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

มุ่งแก้ปัญหาให้ตรงจุด ‘ธนาธร’ คัมแบ็คเวทีปราศรัย ‘ก้าวไกล’ ประเดิมอุดรฯ ชี้! แก้ทุกปัญหาไปพร้อมกัน เพื่อทลายความเหลื่อมล้ำในชาติ 

‘ธนาธร’ รีเทิร์นเวทีหลังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง ‘ก้าวไกล’ ประเดิมที่อุดรธานี ปลุกปรากฏการณ์ ‘อนาคตใหม่’ ร่วมสานต่อภารกิจเปลี่ยนแปลงประเทศ ย้ำ หมดเวลาแก้ปัญหาแบบทีละเรื่อง ต้องลุยทลายความเหลื่อมล้ำ-แก้ปัญหาประเทศอย่างถาวรเท่านั้น*

วันที่ 1 มีนาคม 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ประเดิมร่วมเวทีหาเสียงของพรรคก้าวไกล หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคอย่างเป็นทางการ เวทีแรกของการเดินสายในรอบสัปดาห์นี้คือ จ.อุดรธานี เริ่มต้นด้วยเวทีรับฟังปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ที่ อ.หนองแสง ก่อนเดินทางร่วมเวทีปราศรัยที่ อ.กุมภวาปี ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น หลังจากร้างลาเวทีหาเสียงระดับชาติมานานกว่า 3 ปีภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)

ธนาธร เริ่มต้นการปราศรัยด้วยการเล่าถึงการทำงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่าช่วงที่ผ่านมา ได้ไปร่วมทำงานกับท้องถิ่น ทั้งระดับเทศบาล และ อบต. ได้เห็นปัญหาในระดับท้องถิ่นหลายเรื่อง เช่น เรื่องน้ำประปา ที่น่าเหลือเชื่อว่าประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 คนส่วนใหญ่ในประเทศยังไม่มีน้ำสะอาดที่ไหลตลอด 24 ชั่วโมงใช้ทุกวัน ถ้าไม่แกว่งสารส้มเองให้ตกตะกอนก็ต้องซื้อน้ำถังมาใช้ กลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ตอกย้ำความยากลำบากในชีวิตของคนส่วนใหญ่ ที่มีมากพออยู่แล้ว

สิ่งที่ได้ไปเห็นมาจากการทำงานท้องถิ่น ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่ตนเชื่อมาตลอด ว่าประเทศของเราควรดูแลกันและกันได้ดีกว่านี้ คนไทยทุกคนไม่ว่าเกิดที่ไหนควรเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานได้เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำประปา โรงพยาบาล โรงเรียน ถนนหนทาง ฯลฯ ควรจะดีเท่ากันทุกที่ ซึ่งไม่ใช่ว่าประเทศของเราไม่มีความรู้หรือศักยภาพพอที่จะทำได้ แต่ปัญหาคือการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าไม่ถึงทรัพยากรและงบประมาณ ยกตัวอย่างเช่น เงินทุกบาทที่เอาไปซื้อเรือดำน้ำ ก็คือทุกบาทที่ไม่ได้เอามาทำน้ำประปาให้สะอาดสำหรับประชาชนทุกคนในประเทศนี้

ธนาธรกล่าวต่อไปว่า การเดินทางของพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล คือการเดินทางไปสร้างสังคมไทยที่จะทลายความเหลื่อมล้ำ เช่น การต่อสู้กับทุนผูกขาดเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทำมาหากินได้ เราไม่เคยสัญญาว่าจะให้ข้าวตันละเท่าไร เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ดีกว่าคือการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำมาหากินได้ เช่นที่เราเสนอกฎหมายสุราก้าวหน้า เพื่อยกเลิกการผูกขาดในตลาดสุรากว่า 4 แสนล้านบาท ที่อยู่กับแค่ 2-3 บริษัทมากว่า 40 ปี โดยไม่เคยมีใครคิดจะแก้ไข

ตัดทางนายทุน!! ‘ธนาธร’ รุด ‘ลำพูน’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียง ชู!! เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จำกัด 50 ไร่ต่อสิทธิ์

ธนาธร’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงที่ลำพูน เปิดเวทีแนะนำนโยบายและรับฟังปัญหา ส.ป.ก. หวังประชาชนเลือกก้าวไกลเป็นรัฐบาล ชื่นชมเตรียมพร้อมร่างกฎหมายดันผ่านสภาฯ หลังเลือกตั้ง

(8 มี.ค.66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ร่วมเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชนที่บ้านสบเมย ตำบลทาขุมเงิน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ร่วมกับ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน คือ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก และนายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์

โดย ต.ทาขุนเงิน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนายธนาธรระบุว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความสำคัญ ตนเห็นว่า พรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับประเด็นข้อพิพาทที่ดินอื่น ๆ เพราะปัญหาที่ดินเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนนับล้าน และนั่นทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล มุ่งมีบทบาทในคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอด

จากที่ตนติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคได้ไปรับฟังประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 ปีในหลากหลายพื้นที่ ทำให้พรรคก้าวไกลวันนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาเป็นชุดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินตามที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด อันเป็นผลมาจากการตกผลึกร่วมกันว่า ทางแก้ปัญหาไม่ใช่การออก ส.ป.ก. เพิ่ม แต่คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด แก่ประชาชนที่ควรต้องได้รับสิทธิ์นั้น ในกรณีที่ตามเอกสารยังเป็นชื่อผู้ใช้ประโยชน์เดิมหรือทายาทที่ได้รับสิทธิ์โดยชอบธรรม และจำกัดไม่ให้เปลี่ยนเกิน 50 ไร่ต่อเจ้าของสิทธิ์ เพื่อไม่ให้นายทุนฉวยโอกาส

‘ธนาธร’ ชี้ ‘รัฐสวัสดิการ’ คือทางรอดพ้นความเหลื่อมล้ำ ชู หั่นงบกองทัพช่วยหนุน ลั่น!! ‘ก้าวไกล’ เท่านั้นที่กล้าทำ 

‘ธนาธร-พรรณิการ์’ ลุยช่วยก้าวไกลหาเสียงสุดสัปดาห์สองจังหวัด ภาคอีสาน ‘กาฬสินธุ์-ขอนแก่น’ ชี้ รัฐสวัสดิการไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอดเดียวสังคมไทยออกจากวิกฤติความเหลื่อมล้ำสุดขั้ว ย้ำประเทศมีเงินพอทำได้ แต่ต้องกล้าตัดงบกองทัพ-นโยบายเอื้อทุนใหญ่ ชูก้าวไกลพรรคเดียวเท่านั้นกล้าทำเรื่องยาก ชนคนส่วนน้อยเพื่อคนส่วนใหญ่ รับรอง เลือกแล้วคุ้มกว่าอนาคตใหม่แน่นอน

(18 มี.ค. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลหาเสียงในช่วงสุดสัปดาห์ 

โดยเริ่มต้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วยนายชวลิต กงเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดกาฬสินธุ์ และนางสาวสุพัตรา วันตุ้ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมขบวนแห่ไปรอบเมืองกาฬสินธุ์ เปิดปราศรัยที่สวนสาธารณะกุดน้ำกิน ก่อนร่วมเดินแจกเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครและนโยบาย และขึ้นปราศรัยร่วมกับว่าที่ผู้สมัครในทั้งสองเขตที่ตลาดโต้รุ่งกาฬสินธุ์ ส่วนวันรุ่งขึ้น ได้เดินสายต่อมายัง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ร่วมเดินหาเสียงกับนายวุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จังหวัดขอนแก่น ที่ตลาดน้ำพอง ก่อนร่วมเปิดเวทีปราศรัยที่วัดโพธิ์ศรีโคกสูง ตำบลโคกสูง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

โดยเนื้อหาของการปราศรัยของนายธนาธรรอบนี้ เน้นย้ำถึงปัญหาสภาพทางเศรษฐกิจของประชาชนในปัจจุบัน ที่เป็นสาเหตุความจำเป็นของการมีรัฐสวัสดิการ โดยนายธนาธรระบุว่า ช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแต่ห่างขึ้นทุกวัน สถานการณ์โควิดในรอบสามปีที่ผ่านมายิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ประชาชนหมดสิ้นความหวัง ในสถานการณ์แบบนี้สังคมไทยต้องมีรัฐสวัสดิการรองรับคนที่พ่ายแพ้ไม่ให้ถูกบดขยี้จากสภาพสังคมปัจจุบัน 

“ประเทศไทยวันนี้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาสังคมสูงวัย เด็กเกิดใหม่ลดจำนวนลงเหลือปีละ 5 แสนคน คนไม่อยากมีลูกเพราะการมีลูกมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ยิ่งทำให้คนมีลูกน้อยลง จะแก้ปัญหานี้ได้ต้องมีรัฐสวัสดิการเท่านั้น เพื่อเป็นกลไกให้คนยืนอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคง ไขว่คว้าหาความฝันในชีวิต เลือกเส้นทางชีวิตเดินได้” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธรยังกล่าวต่อไปว่า แต่ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ ในการหางบประมาณมาสร้างรัฐสวัสดิการ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ลดงบประมาณกองทัพที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ทุกวันนี้กองทัพเข้ามาทำเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่มากมาย ทั้งหวย มวย ม้า สนามกอล์ฟ รีสอร์ต หากเราสามารถยกเลิกธุรกิจกองทัพได้ ประเทศเราจะมีเงินประมาณคืนกลับมาได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อปี

รวมทั้งเก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน เช่น ภาษีนิติบุคคลที่เรียกเก็บจากบริษัทขนาดใหญ่ ยกเลิกสิทธิ BOI ที่ให้กับบริษัทขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านพันล้านขึ้นไป ถ้าทำสำเร็จจะได้อีก 8 พันล้านบาทต่อปี รวมถึงการเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากคนรวยที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านบาท จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 6 หมื่นล้านบาทต่อปี

‘ธนาธร’ นำทีม ส.ส.ชลบุรี ขอคะแนนเสียงจากปชช. พร้อมขอโทษชาวชลบุรี มีอดีต ส.ส.งูเห่า ทรยศคนเขต  

‘ธนาธร’ ช่วยทีมชลบุรี หาเสียง เดินขอโทษทั่วหาดพัทยา มีอดีตส.ส.งูเห่า ทรยศคนเขต  

(24 มี.ค.66) ที่ชลบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.เขต 6 ชลบุรี พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยทีมงานลงพื้นที่หาเสียงตลาดสดเทศบาลเมืองศรีราชา มีประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมากมาย โดย นายธนาธร กล่าวว่า ขอโทษชาวอำเภอศรีราชา ที่อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย จึงได้ส่งนายกฤษฎิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนในนามของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีอุดมการณ์ที่หนักแน่นและแน่วแน่ ไม่ใช่งูเห่าอย่างแน่นอน พร้อมที่นำเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการให้กับประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต และมีสวัสดิการรองรับ และหวังว่าชาวชลบุรีที่ชื่นชอบประชาธิปไตยจะให้การสนับสนุนต่อไป

จากนั้น เวลา 13.30 น. ที่ชายหาดพัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายธนาธร พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย อดีตผู้สมัครนายกเมืองพัทยา ได้เดินทางมาลงพื้นที่ช่วย นายยอดชาย พึ่งพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล เขตเลือกตั้งที่ 9 เพื่อพบปะประชาชน ผู้ประกอบการร่มเตียงในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน โดยมีประชาชนบางส่วนได้เข้ามาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจนายธนาธร และผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมีถึง 10 เขตเลือกตั้ง

ทั้งนี้ สำหรับในพื้นที่นี้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2565 พรรคอนาคตใหม่ สามารถเอาชนะคู่แข่งไปได้ แต่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ ได้ย้ายไปอยู่กับพรรคพลังท้องถิ่นไท ก่อนที่ครั้งนี้จะลงสมัคร ส.ส.สังกัดพลังประชารัฐ

‘ธนาธร’ บุกอำนาจเจริญ ชู สร้างงาน-สร้างรายได้ที่ดีในอีสาน อ้อน ปชช.กา ‘ก้าวไกล’ เปลี่ยนประเทศไทยให้ดีกว่าเดิม

เมื่อวานนี้ (25 มี.ค. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียงในหลายจังหวัดภาคอีสาน เริ่มต้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ได้แก่ อำเภอเมือง, อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอชานุมาน โดยมีนายประภาส เวชกรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 และนายไมตรี แก้วมงคล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 ร่วมพบปะพี่น้องประชาชน นำเสนอนโยบายเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยประชาชนชาวอำนาจเจริญให้การต้อนรับผู้สมัครพรรคก้าวไกลอย่างอบอุ่น

นายธนาธร ขึ้นรถแห่ร่วมกับนายประภาส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 1 ปราศรัยกลางแดดจ้านำเสนอนโยบายของพรรค โดยมีพ่อค้าแม่ค้าโบกไม้โบกมือให้การสนับสนุนตลอดทาง จากนั้น ร่วมปราศรัย ณ วัดบ้านคึมใหญ่ อำเภอเมือง ซึ่งมีพี่น้องประชาชนเดินทางมารับฟังการปราศรัยอย่างอบอุ่น

‘ธนาธร’ นำทัพเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สุรินทร์ ทั้ง 8 เขต อ้อนชาวสุรินทร์ เพิ่มคะแนนเสียง กา 'ก้าวไกล' 2 ใบยกจังหวัด

‘ก้าวไกล’ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สุรินทร์ ทั้ง 8 เขต ‘ธนาธร’ ขอแรงประชาชน เพิ่มคะแนนเสียงแห่งความเปลี่ยนแปลง กาก้าวไกล 2 ใบยกจังหวัด สร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

(30 มี.ค.66) เมื่อวันที่ 29 มี.ค.66 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกล เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ ทั้ง 8 เขต ที่สวนรัก อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

ธนาธร ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ความฝันของอดีตพรรคอนาคตใหม่และเชื่อว่าเป็นความฝันของพรรคก้าวไกลเช่นกัน คือการสร้างสังคมที่เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตย ทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอ ว่าต้องการทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

การเมืองดีคืออำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน จะเกิดขึ้นได้นักการเมืองของเราต้องมีอุดมการณ์ เพราะเกียรติภูมิของนักการเมือง ไม่ได้มาจากการที่นายจ้างสัมภาษณ์หรือการตอบข้อสอบ แต่อาชีพนี้มีเกียรติเพราะประชาชนเป็นคนเลือกเรามา แต่ที่ผ่านมา เราเห็นนักการเมืองในตระกูลดังๆ ย้ายพรรค บางคนในกลุ่มเดียวกันนี้เพิ่งเป็นนั่งร้านยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นักการเมืองเช่นนี้จะสร้างการเมืองดีได้อย่างไร และหากประเทศไทยไม่มีการเมืองดี การทำให้ประเทศไทยปากท้องดีและมีอนาคต ย่อมเป็นเรื่องยาก

ธนาธรกล่าวต่อว่า ส่วนปากท้องดีเป็นเรื่องสำคัญ ขอยกประสบการณ์การเดินตลาดของตน เดินมาหลายสิบตลาดในเดือนนี้ พ่อค้าแม่ขายพี่น้องประชาชนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำมาค้าขายลำบาก หลายคนทำงานหนักมาทั้งชีวิต ยังไม่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ในช่วงบั้นปลาย พรรคก้าวไกลจึงเสนอนโยบายสร้างรัฐสวัสดิการ ซึ่งไม่ใช่นโยบายแบบลดแลกแจกแถมเหมือนที่แล้วมา แต่เป็นการคิดอย่างเป็นระบบ ดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่มั่นคง ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังสามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้เต็มที่

การสร้างรัฐสวัสดิการจะช่วยคืนความเข้มแข็ง ทำให้คนกล้าคิดกล้าฝัน เพราะหากชีวิตไม่มั่นคง ก็ต้องมองอนาคตเป็นรายสัปดาห์รายวัน ไม่สามารถวางแผนในชีวิตได้ แต่การให้สวัสดิการต้องทำพร้อมกับการสร้างงานสร้างอาชีพและลดรายจ่าย เช่น จังหวัดสุรินทร์ ที่โด่งดังเรื่องข้าวและการทำสุรา หากพรรคก้าวไกลเข้าไปเป็นรัฐบาล เขาประกาศนโยบายสุราก้าวหน้า ซึ่งจะเป็นตัวช่วยปลดล็อกศักยภาพ เพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร กระจายรายได้ในธุรกิจสุราออกจากกลุ่มทุนใหญ่ ไปสู่ประชาชน ชาวสุรินทร์จะได้ประโยชน์มหาศาล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top