ทรัมป์ลั่นดันกม.ประหารชีวิต เอาผิดนักโทษคดีข่มขืนและฆาตกรโหด
(26 ธ.ค. 67) โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศว่า หลังเข้าสู่ทำเนียบขาว เขาจะมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามกฎหมายเพื่อผลักดันโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ข่มขืนและฆาตกรที่ใช้ความรุนแรง
“เมื่อผมเข้ารับตำแหน่งในวันที่เข้าพิธีสาบานตน ผมจะสั่งให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันโทษประหารชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัวและเด็กๆ ของชาวอเมริกันจากผู้ข่มขืน, ฆาตกร, และอาชญากรสุดโหด เราจะกลับมาเป็นประเทศที่มีระเบียบและกฎหมายอีกครั้ง!” ทรัมป์ระบุผ่าน Truth Social ตอบโต้หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศอภัยโทษประหารชีวิตต่อฆาตกรที่ทำร้ายเด็กและฆาตรกต่อเนื่องหลายราย
“โจ ไบเดนเพิ่งลดโทษประหารชีวิตให้กับ 37 ฆาตกรที่โหดเหี้ยมที่สุดในประเทศของเรา เมื่อคุณได้ยินการกระทำของแต่ละคน คุณจะไม่เชื่อว่าเขาทำเช่นนี้ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลย ญาติและเพื่อนๆ ของพวกเขาถูกทำลายยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่เชื่อว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น!” ทรัมป์เขียนในโพสต์โดยวิจารณ์การตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46
ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2024 ทรัมป์ได้เรียกร้องให้มีโทษประหารชีวิตสำหรับผู้อพยพที่ฆ่าประชาชนชาวอเมริกันหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขายังกล่าวว่าโทษประหารชีวิตยังควรถูกใช้ต่อผู้ค้ายาเสพติดเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในสหรัฐด้วย
อย่างไรก็ตาม ในบรรดา 37 นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่ไบเดน ไม่ได้ลดโทษให้คือ ดโจคาร์ ซาร์นาเอฟ ผู้ก่อเหตุระเบิดในงานมาราธอนบอสตันเมื่อเดือนเมษายน 2013 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน, ดายแลน รูฟ นักเหยียดผิวผู้ก่อเหตุยิงคนผิวสี 9 คนในโบสถ์ที่ชาร์ลสตันเมื่อเดือนมิถุนายน 2015, และโรเบิร์ต เบาเวอร์ส ผู้ก่อเหตุยิงที่โบสถ์ยิวในพิตต์สเบิร์กเมื่อเดือนตุลาคม 2018 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน