ต่างชาติ แห่ลงทุน Data Center ปีนี้กว่า 1.7 แสนล้าน หนุนไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
(14 พ.ย. 67) ‘รองโฆษกรัฐบาล’ เผย ต่างชาติเชื่อมั่น ลงทุนในกิจการ Data Center ในประเทศไทยต่อเนื่อง ล่าสุด BOI ไฟเขียว 2 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท รวมทั้งปี 47 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1.73 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 เวลา 9.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเป็นเป้าหมายและยุทธศาสตร์สำคัญด้านการลงทุน Data Center และ Cloud Service อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่าในรอบปีที่ผ่านมา มีโครงการลงทุนยื่นขอรับการส่งเสริมฯ ในกิจการ Data Center และ Cloud Service รวม 47 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 173,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนจากบริษัทรายใหญ่ทั้งสัญชาติอเมริกัน ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย และไทย
จากข้อมูลล่าสุด BOI อนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการ Data Center 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท ควอตซ์ คอมพิวติ้ง จำกัด ในเครือ Alphabet Inc. (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google มูลค่าลงทุน 32,760 ล้านบาท เป็นการลงทุนตามแผนธุรกิจที่ Google ได้ประกาศระหว่างการพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ว่าจะสร้าง Data Center และ Cloud Region แห่งใหม่ ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนเฟสแรก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเป็นศูนย์ Data Center แห่งที่ 5 ในเอเชียของ Google ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีแผนเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2570
และโครงการ Data Center ของบริษัท ดิจิทัลแลนด์ เซอร์วิสเซส ในเครือ GDS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำระดับโลก ที่ให้บริการทั้งในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่าลงทุน 28,000 ล้านบาท โดยโครงการใหม่ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีแผนเปิดให้บริการในปี 2569
นางสาวศศิกานต์กล่าวว่า จากนโยบายเชิงรุกของรัฐบาล ที่ส่งเสริมด้าน Cloud First Policy ช่วยกระตุ้นให้ภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยี Cloud ส่งผลให้ตลาด Data Center ในไทยขยายตัวมากขึ้น ตอกย้ำการพัฒนาก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัล อีกทั้งจากผลประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของประเทศไทย และเป็นการเปิดโอกาสให้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเม็ดเงินในหลายมิติ ทั้งภาคการผลิต การค้า และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Digital Innovation Hub ของภูมิภาคอาเซียนด้วย