ผลงานจาก 'ลุงตู่' ถึง 'พีระพันธุ์' พากระแสมวลชนคนไทยตีกลับ ความเจริญที่ผู้คนเริ่มโจษขาน อาจดับฝัน 'ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน'

(23 ก.พ. 67) จากช่องติ๊กต็อก @fhakram.chavit หรือ ‘คุณฟ้าคราม’ โพสต์คลิปวิดีโอแสดงความคิดเห็นต่อผลงานของ ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ที่ท่านได้ทำมาโดยตลอดระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรี ในมุมที่หลายคนอาจจะไม่รู้ข้อมูลมาก่อน ก่อนถึง ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ และคนอื่น ๆ ที่สามารถสานต่อโครงการเหล่านี้ได้ในอนาคต โดยระบุว่า…

ที่บอกว่าก้าวไกลทั้งแผ่นดินเนี่ย…ไม่ต้องไปกลัวหรอก ยังไงสีเหลืองก็ชนะ ซึ่งทุกคนจะไปกลัวอะไร ก็ในเมื่อขนาดช่วง ‘พิธาฟีเวอร์’ ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เลย และนับภาษาอะไรกับตอนนี้ ส่วนอันต่อมาคือช่วงก่อนนี้ ‘สีเหลือง’ ยังเป็น ‘พลังเงียบ’ อยู่เลย แต่ขอโทษนะพิธาฟีเวอร์ก็สู้ ‘ลุงตู่องคมนตรีฟีเวอร์’ ไม่ได้

แล้วเพิ่งช่วงหลังเลือกตั้งนี่เอง ที่ประชาชนเพิ่งรู้ในเรื่องของม.112 เกี่ยวกับเยาวชนทะลุวังหรือใครคิดยังไงกับสถาบัน เพราะฉะนั้นสถานการณ์ต่างกันมาก ต่อมาประเทศไทยเราเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน สังคมอย่าไปให้ค่าเจเนอเรชันใหม่จนเยอะลิมิต เพราะวัยรุ่นที่ดีและสง่างามจริง ๆ ในหัวใจควรจะเป็นคนที่นอบน้อมกับผู้ใหญ่ รวมถึงเรื่องสถาบันด้วย เพราะว่าวัยรุ่นต้องมีความสํานึกรู้คุณกตัญญูกตเวทีในหัวใจ มันถึงจะสง่างาม และตอนนี้อินฟลูเอนเซอร์ฝั่งเหลืองเยอะมากและเยอะที่สุดแล้ว

นอกจากนี้ เดี๋ยวนี้เขายังมีการจัดโพลกันแบบกลัว ‘ท่านพีระพันธุ์’ กันแล้วนะ ถ้าเขาไม่กลัวเขาไม่ขัดขาหรอก อย่างโพลของ Line Today ที่ได้สร้างผลสำรวจคะแนนความนิยมของนักการเมืองที่คุณชื่นชอบ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ซึ่งคุณรู้ไหมว่าโพลนี้มีนักการเมืองแทบทุกคนเลยนะ อย่างอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร, พิธา, เศรษฐา, หมอชลน่าน, รัชนก ศรีนอก หรือ รังสิมันต์ โรม ก็มา แต่กลับไม่มีท่านพีระพันธุ์ โอ้โห…กลัวอะไรขนาดนั้นใจเย็น ๆ 

ถัดมายังมีอีกโพลกับหัวข้อ ‘ถ้าท่านต้องเลือกตั้งวันนี้จะเลือกพรรคใด’ ซึ่งมีให้ 2 พรรค ก็คือ เพื่อไทยและก้าวไกล แต่ของเพื่อไทยมีรูปอิโมจิหน้าตกใจประกอบ แต่ถ้าเป็นก้าวไกลก็เป็นหัวใจแทน และก็ไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติเช่นเดิม ก็คิดดูว่าจัดโพลแบบกลัวอะไร? 

ซึ่งอย่างที่เคยบอกไปว่าสามกีบหลาย ๆ คนเนี่ยไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วก็ชอบบอกว่าส้มทั้งแผ่นดินอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ต้องอะไรมากหรอก ความจริงคือความจริง ความดีคือความดี เดี๋ยวผู้คนเขาก็จะเห็นเอง อย่างเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ก็ต่างผุดผลงานลุงตู่ออกมาเพียบ แล้วผู้คนก็จะได้เห็นผลงานลุงตู่ที่ทะลุมิติ ทะลุมัลติเวิร์ส เรียกได้ว่าเป็น S Curve ของเมืองไทยเลยก็ได้

เพราะที่ผ่านมาลุงตู่ได้สร้าง EEC : Eastern Economic Corridor ที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน 3 สนามบินอย่าง ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ แล้วก็ไปถึงอู่ตะเภาด้วย แล้วก็มีการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเพื่อรองรับเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย โดยทั้งหมดนี้สร้างมา 5 ปีแล้ว ซึ่งเสร็จปี 70 ซึ่งก็อีกแค่ 3 ปีเท่านั้น จากสนามบินดอนเมือง-บางอู่ตะเภา ใช้เวลาไม่ถึง 60 นาที โคตรสุดยอด นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องนั่นก็คือ ‘วังจันทร์วัลเลย์’ ที่กําลังจะยกระดับประเทศไทยของเราให้เป็น Smart City ซึ่งมันสุดยอดมาก มันคือ Smart Innovative แพลตฟอร์มดี ๆ นี่เอง และยังเป็นเมืองต้นแบบอัจฉริยะทางเทคโนโลยี ซึ่งในนั้นมีเรื่องของการวิจัย การพัฒนา การทดลอง พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก หรือเกี่ยวกับเรื่องของหุ่นยนต์ (Robotics) ต่าง ๆ อย่างด้าน AI และยังสามารถรองรับกลุ่มผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีทําให้การเป็นอยู่ของผู้สูงอายุสบายขึ้น

อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของการวิจัยพัฒนาอีวี เกี่ยวกับเรื่องของรถอีวี แบตเตอรี่ และมีโรงเรียนที่น่าเข้าไปมาก ๆ อย่าง ‘โรงเรียนกำเนิดวิทย์’ (kvis) ซึ่งเป็นโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องของเทคโนโลยี โดยจะได้เรียนเกี่ยวกับพลังงานสะอาด เอไอ หุ่นยนต์ ทั้งนี้ EEC และ วังจันทร์วัลเลย์ ที่อยู่ในนั้น อยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของลุงตู่

กลับมาเรื่องรถไฟฟ้า 10 กว่าสายในกรุงเทพมหานคร และภาคอีสานความเจริญสุด ๆ กําลังจะไปถึงแล้ว เพราะลุงตู่ทําให้รถไฟฟ้าความเร็วสูงลากไปตั้งแต่ดอนเมือง สระบุรี อยุธยา อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย ส่วนภาคเหนือรถไฟฟ้าไปตั้งแต่ ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ศรีสัชนาลัย ลําปาง ลําพูน เชียงใหม่ ส่วนสายใต้ฝั่งท่องเที่ยวก็จะมี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี หัวหิน ประจวบ ชุมพร สุราษฎร์ พัทลุง หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช เยอะแยะไปหมด

นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมท่าเรือแหลมฉบังมาบตาพุด ท่าเรือน้ำลึก ให้ไทยเราเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการส่งออกของโลก ซึ่งสิ่งที่เราจะได้ก็คือการเกิดงานและเงินให้กับลูกหลานของเราที่ต้องออกไปทํามาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัว และก็มีรายได้ต่อหัวที่สูงมากขึ้น รวมทั้งผู้สูงอายุจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะจะใช้เทคโนโลยีนี้ผ่านการควบคุมจากสมาร์ทโฟนได้ และจะมีรายได้เข้าประเทศมหาศาล…ซึ่ง ‘แลนด์บริดจ์’ จะดูเล็กไปเลย เพราะว่าไทยกําลังจะเป็น Spider Web ซึ่งก็คือใยแมงมุมของด้านการคมนาคม ที่เชื่อมโยงกันทั่วทั้งประเทศ จนทะลุไปถึงประเทศจีน ทั้งนี้ EEC ได้เสร็จไปแล้วเฟสแรก มีเงินเข้ากระเป๋าประเทศไปแล้ว 80- 90%

ทั้งนี้ ในวังจันทร์วัลเลย์ พัฒนากลุ่มอวกาศ มีดาวเทียมดวงแรกของประเทศไทยซึ่งก็คือ THEOS 2 ซึ่งคุณเศรษฐาก็ออกมาพูดว่าไทยเราจะเป็นจุดศูนย์กลางของโลก แล้วก็ตื่นเต้นมากเกี่ยวกับเรื่องของการพัฒนาอีวี หรือภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจริง ๆ มันเจริญมามากแล้วคุณเศรษฐาก็รู้ แต่เป็นผลงานลุงตู่นะ คุณต้องให้เครดิตมาก ๆ หน่อย แล้วก็ค่อย ๆ สานต่อไป ซึ่งไม่สานต่อไม่ได้เพราะมันอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี…

นอกจากนี้ยังมี โครงการเรื่องเครื่องกําเนิดแสง, เมืองนวัตกรรมอาหาร, เมืองนวัตกรรมการบินและอวกาศ, การถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อชุมชน, มีเงินสํารอง, มีทองสํารอง, แอปกระเป๋าตังค์ที่เยียวยาฟื้นฟูในช่วงโควิด-19 เป็นต้น และด้วยทั้งหมดนี่คือการหาเงินเข้าประเทศอย่างแท้จริง รวมถึงในอนาคตที่กำลังจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในด้านการคมนาคมและการท่องเที่ยวของโลก 

แต่ต่างจากนโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งเรือธงของเขาก็คือ ‘รัฐสวัสดิการ’ ตั้งแต่เกิดยันเสียชีวิต คำถามคือ เอาเงินมาจากไหน? ต้องกู้ไหม? แค่เงินของผู้สูงอายุก็หลายแสนล้านแล้ว และจะให้จะแจกตั้งแต่เกิดยันเสียชีวิตเลยเหรอ ฟังดูแล้วมันก็เคลิ้ม ๆ นะ แต่ว่าประเทศพังแน่…แล้วหาเงินเข้าประเทศยังไง จะไปตัดรถตัดทอนความมั่นคงก็ระวังประเทศมันจะพังเอา และจะมาแก้ไขม. 112 อีก ซึ่งไม่ได้เลยนะ เพราะความมั่นคงของใครที่เขามาลงทุน ก็เพราะพระมหากษัตริย์ ทําให้ไทยเรามีความมั่นคง ไม่โดนแทรกแซงจากต่างชาติ 

ดังนั้น อย่าไปโดนใครกล่อมเรื่องประชาธิปไตย มันไม่ได้ดีไปซะทั้งหมดทุกอย่าง มันพังกันมาแล้วก็หลายประเทศ อย่าปล่อยให้ประชาธิปไตยมันครอบงําสมองเราขนาดนั้น ดูที่ข้อเท็จจริงและความเป็นจริง ว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นคนทําจริงเราเห็นอยู่ดี เขาไม่ได้คิดแต่พูด แต่เขาจะทําให้เราเห็น…

ต่อมาคําถาม ‘ถ้าดีขนาดนี้แล้วทําไมคนไม่เลือก?’ สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด คุณคิดว่ามีคนรู้เรื่องแบบผมสักกี่คน ซึ่งหลาย ๆ คนไม่รู้เรื่องนี้เลย ดังนั้นคุณไม่ควรถามผมเลยนะว่าทําไมดีแล้วคนไม่เลือก ซึ่งคําตอบมันมีอยู่แล้ว ก็ถ้ามันดีแล้วคุณไม่เลือกก็แปลว่าคุณ (โดนหลอกแล้ว) … ซึ่งอาจจะไม่มากนัก แต่เปลี่ยนใจกันได้ไม่เป็นไร หลงผิดไปยินดีกลับมาสู้ด้วยกันใหม่ ยินดีเสมอ…

อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้การใช้ชีวิตก็ดีขึ้น เพราะมีคมนาคมที่ทำให้เราเดินทางไปทำงานสะดวก จึงอยากให้ทุกคนลองปรับตัวกันบ้าง ไปทำงานกันบ้าง หรือใครที่รู้สึกว่าปรับตัวในโลกดิจิทัลมันยากและปรับไม่ทัน อันนี้ผมเข้าใจ แต่พวกที่ด่าอย่างเดียวเลยว่าไม่มีเงิน เศรษฐกิจแย่ ประเทศชาติแย่ ระบบแย่ อยากจะเปลี่ยนแปลงและให้ประเทศมันดีขึ้นกว่านี้ คำถามคือประเทศมันยังไม่ดีพออีกหรอทุกวันนี้… ‘ลุงตู่’ ท่านทำ S Curve สร้างไว้ให้ขนาดนี้ คุณไม่คิดจะพัฒนาและปรับตัวเลย คุณจะรอแต่รัฐสวัสดิการและขอเงินอย่างเดียว แล้วคุณจ่ายภาษีกันเท่าไหร่…อย่างสวิตเซอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, เยอรมัน เขาจ่ายภาษีกันประมาณ 40-50% เลย จะเอาประชานิยมที่เขาแจกอย่างเดียว จะให้รอเอาเงินมาให้ เอาสวัสดิการดี ๆ มาให้ แต่ต้องมากู้สาธารณะ ทีนี้ลุงตู่กู้มาล้นเพดาน แถมเงินทุกบาททุกสตางค์ของที่กู้มา มันก็เต็มเม็ดเต็มหน่วยแบบที่ได้พูดไป เพื่อให้พวกคุณไง ด่าเช้าด่าเย็นแต่ก็ใช้ถนน ด่าว่า 8 ปีไม่ทําอะไรเลย แต่ก็ใช้รถไฟฟ้า เรียกร้องจะเอาวัคซีนที่ดีที่สุดอย่างไฟเซอร์ โมเดอร์นา แล้วตอนนี้เป็นไงเสียชีวิตกันเป็นแถบ… ดังนั้นลุงตู่ไม่ใช่เทพที่ไหน ไม่ใช่คนเลวจากการรัฐประหาร แต่เป็นคนดีที่ตั้งใจทําผลงานสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และสร้าง S Curve ให้กับประเทศไทยได้อย่างน่ามหัศจรรย์

แล้วล่าสุดท่านพีระพันธุ์คุยกับผู้ว่าการมณฑลยูนนานของจีน สร้างสัมพันธไมตรีอันดี ซึ่งความพีกก็คือเขาก็มาคุยกันเรื่องของการพัฒนาต่อยอดเศรษฐกิจ พวกโครงสร้างพื้นฐานที่มันเชื่อมกันพลังงานสะอาด พลังงานสีเขียว และก็อุตสาหกรรมสีเขียว แล้วก็แลกเปลี่ยนความรู้ด้านพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน นี่แหละ…มันเป็นความสําเร็จทั้งหมดแล้วมาเชื่อมโยงกันได้ดีมาก สุดท้าย…สีเหลืองคนละไม้คนละมือ จะไม่ชนะได้ยังไงโครงการดี ๆ ขนาดนี้ สู้ไปด้วยกัน…


ที่มา : https://vt.tiktok.com/ZSFrbULpv/