'เลขาธิการ OIC' ชื่นชม 'ไทย' ผสานทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ พร้อมเชิญแบ่งปันปรัชญา 'ศก.พอเพียง-วิถีเกษตร' ในแอฟริกา

(10 ส.ค. 66) ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฮุซัยน์ บรอฮีม ฏอฮา (H.E. Mr. Hissein Brahim Taha) เลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation: OIC) เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับเลขาธิการ OIC ในโอกาสเดินทางเยือนไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ว่า ไทยได้เชิญเลขาธิการ OIC เยือนไทยเป็นทางการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลและเข้าใจสถานการณ์ในไทยได้ดียิ่งขึ้น ประเทศไทยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพในการนับถือทุกศาสนาอย่างเท่าเทียม โดยมีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างผู้คนทุกเชื้อชาติและศาสนา โดยชาวไทยมุสลิมสามารถแสดงออก และปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเสรี และที่ผ่านมาชาวมุสลิมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีชาวไทยมุสลิมหลายคนที่มีตำแหน่งระดับสูงในไทย

ด้านเลขาธิการ OIC กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสเยือนไทยในครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลและคนไทยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวชื่นชมไทยที่ให้เสรีภาพปฏิบัติศาสนกิจของทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน ที่ผ่านมา OIC ได้มีโอกาสไปเยือนชุมชนกุฎีจีน ซึ่งได้สำรวจพื้นที่และพบกับผู้คนจากทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม สะท้อนถึงการเป็นแบบอย่างในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม ขอชื่นชมนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทยในการสร้างสันติสุขและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการประชุมของ OIC ในหลายโอกาสได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทย รวมถึงกล่าวถึงประเทศไทยในเชิงบวกและสร้างสรรค์ 

จากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ ประกอบการส่งเสริมความร่วมมือกับ OIC ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือในสาขาที่ไทยชำนาญและ OIC สนใจ ทั้งการทำการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข ความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และมาตรฐานสินค้าอาหารฮาลาล เป็นต้น 

ทั้งนี้ ไทยได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรไทยประจำ OIC หวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย - OIC ซึ่งเลขาธิการ OIC พร้อมให้การสนับสนุนผู้แทนถาวรไทยฯ เพื่อกระชับความร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ สำหรับสถานการณ์ของประเทศสมาชิก OIC ในภูมิภาคแอฟริกา นั้น OIC ให้ความสำคัญกับสมาชิก OIC ในภูมิภาคแอฟริกา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการเกษตร พร้อมกล่าวเชิญชวนไทยมาแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาและการเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมบทบาทของเลขาธิการ OIC ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

ด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสามฝ่ายระหว่างไทย OIC และแอฟริกา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งจะเป็นกลไกที่สำคัญต่อการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กับประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคแอฟริกา โดยนายกรัฐมนตรียินดีร่วมมือในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคงทางอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สามฝ่าย

โอกาสนี้ เลขาธิการ OIC เชิญไทยแบ่งปันความรู้ด้านการเกษตร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับมิตรประเทศในภูมิภาคแอฟริกา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง