Tuesday, 7 May 2024
ความเชื่อ

'ชาติพัฒนากล้า' ลุยสำรวจปทุมธานี - อยุธยาฯ ผลักดัน 'ศก.สายมู' ดึงดูด นทท. สร้างรายได้ให้ประเทศ

(13 ก.พ. 66) พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค, นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ นายกอุ๊ ที่ปรึกษาพรรค พร้อมด้วย นางสาวยศยา ชิยาปภารักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร, นางสาววิเวียน จุลมนต์ และนางสาวกชพร คีรีโชติ ทีมนโยบายพรรค เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสายมู ณ วัดโบสถ์ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, วัดไชยวัฒนาราม และอุทยานหลวงปู่ทวด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยวัดโบสถ์นั้น มีการสร้างหลวงพ่อโต องค์ใหญ่ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา โดย นายกอุ๊ เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างเมื่อกว่า 10 ปี ที่แล้ว จากวัดเล็ก ๆ ขยายเติบโตเป็นวัดขนาดใหญ่ ที่ประชาชนจากทั่วประเทศ เข้ามาสักการะไม่ขาดสาย สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ที่นำของมาจำหน่าย สร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน

ส่วนที่วัดไชยวัฒนาราม ก็เป็นแลนด์มาร์กสำหรับแหล่งเช็กอินของชาวไทยและต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับร้านค้า เช่าชุดไทย ที่นักท่องเที่ยวนิยมใส่ถ่ายรูปกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และที่อุทยานหลวงปู่ทวด ซึ่งนายกอุ๊ ได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ จากพื้นที่นาโล่ง ๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ที่สร้างรายได้ให้กับร้านค้าชุมชนในพื้นที่ต่อเดือนตั้งแต่ 100,000 – 350,000 บาท

นางสาวยศยา หรือ นุ่น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งเป็นผู้ที่ทำธุรกิจสายมู กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเชื่อและความศรัทธาในศาสตร์การกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อยู่คู่คนไทยมาช้านานตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันกาล การกราบไหว้และบูชาในศาสตร์ต่าง ๆ เปรียบดั่งการยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมถึงปลุกขวัญและกำลังใจในการใช้ชีวิตทางโลกได้อย่างเสถียรภาพและมีคุณภาพ มีบทวิจัยจากนักวิจัยหลายประเทศ เป็นเครื่องยืนยันว่าศาสตร์ของการมูเตลูและการนั่งสมาธิสามารถเยียวยาจิตใจ รักษาโรคภัย และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับมวลมนุษย์ได้

นางสาวยศยา กล่าวว่า ตนเป็นอีกคนหนึ่งที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้า ในการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและศาสตร์การบูชาองค์เทพสายขาวทุกแขนง เริ่มต้นจากผู้ศรัทธากลายมาเป็นผู้บูชา จนมาถึงเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ one stop services เกี่ยวกับการมูเตลู นุ่นเป็นทั้งผู้ซื้อสินค้าและบริการ จนกลายมาเป็นผู้ให้บริการทางด้านสินค้าและบริการทางศาสตร์มูเตลู เป็นเครื่องยืนยันได้จากประสบการณ์จริงว่า ความศรัทธา สามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดเงิน และต่อยอดทางธุรกิจและเศรษฐกิจได้อย่างไม่รู้จบ

'เลขาธิการ OIC' ชื่นชม 'ไทย' ผสานทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ พร้อมเชิญแบ่งปันปรัชญา 'ศก.พอเพียง-วิถีเกษตร' ในแอฟริกา

(10 ส.ค. 66) ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฮุซัยน์ บรอฮีม ฏอฮา (H.E. Mr. Hissein Brahim Taha) เลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation: OIC) เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับเลขาธิการ OIC ในโอกาสเดินทางเยือนไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ว่า ไทยได้เชิญเลขาธิการ OIC เยือนไทยเป็นทางการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลและเข้าใจสถานการณ์ในไทยได้ดียิ่งขึ้น ประเทศไทยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพในการนับถือทุกศาสนาอย่างเท่าเทียม โดยมีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างผู้คนทุกเชื้อชาติและศาสนา โดยชาวไทยมุสลิมสามารถแสดงออก และปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเสรี และที่ผ่านมาชาวมุสลิมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีชาวไทยมุสลิมหลายคนที่มีตำแหน่งระดับสูงในไทย

ด้านเลขาธิการ OIC กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสเยือนไทยในครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลและคนไทยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวชื่นชมไทยที่ให้เสรีภาพปฏิบัติศาสนกิจของทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน ที่ผ่านมา OIC ได้มีโอกาสไปเยือนชุมชนกุฎีจีน ซึ่งได้สำรวจพื้นที่และพบกับผู้คนจากทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม สะท้อนถึงการเป็นแบบอย่างในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม ขอชื่นชมนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทยในการสร้างสันติสุขและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการประชุมของ OIC ในหลายโอกาสได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทย รวมถึงกล่าวถึงประเทศไทยในเชิงบวกและสร้างสรรค์ 

จากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ ประกอบการส่งเสริมความร่วมมือกับ OIC ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือในสาขาที่ไทยชำนาญและ OIC สนใจ ทั้งการทำการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข ความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และมาตรฐานสินค้าอาหารฮาลาล เป็นต้น 

ทั้งนี้ ไทยได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรไทยประจำ OIC หวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย - OIC ซึ่งเลขาธิการ OIC พร้อมให้การสนับสนุนผู้แทนถาวรไทยฯ เพื่อกระชับความร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ สำหรับสถานการณ์ของประเทศสมาชิก OIC ในภูมิภาคแอฟริกา นั้น OIC ให้ความสำคัญกับสมาชิก OIC ในภูมิภาคแอฟริกา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการเกษตร พร้อมกล่าวเชิญชวนไทยมาแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาและการเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมบทบาทของเลขาธิการ OIC ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

ด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสามฝ่ายระหว่างไทย OIC และแอฟริกา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งจะเป็นกลไกที่สำคัญต่อการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กับประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคแอฟริกา โดยนายกรัฐมนตรียินดีร่วมมือในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคงทางอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สามฝ่าย

โอกาสนี้ เลขาธิการ OIC เชิญไทยแบ่งปันความรู้ด้านการเกษตร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับมิตรประเทศในภูมิภาคแอฟริกา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ กล่าวผ่านรายการ ‘Me สติ’ Ep.53 ตอน ทำดีไม่ได้ดี?

‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ กล่าวผ่านรายการ ‘Me สติ’ Ep.53 ตอน ทำดีไม่ได้ดี? | หากินกับความเชื่อของคน!? ถึงปรากฏการณ์ ‘ครูกายแก้ว’ หรือ ‘พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์’ ที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมขณะนี้ โดยระบุว่า…

“การไปไหว้เทพองค์นั้น เทพองค์นี้ เพราะคิดว่าท่านจะช่วยเราได้ ในความเห็นของหมอบี ถ้าเราไม่มีบุญ บารมีไม่ถึง ท่านก็ช่วยเหลือเราไม่ได้ แต่ถ้าบุญบารมีเราถึง แล้วเราขอท่าน ก็เหมือนไปร้องขอผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็อาจจะช่วยผลักดัน เพื่อให้มันชัดเจนขึ้น ได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเราไม่เคยทําบุญเลย ไม่มีทางที่ใครจะมาช่วยเราได้ เราต้องสะสมบุญเป็นทุนเดิมด้วย เรียกว่า ‘ต้นทุนบุญ’ เราต้องมี”

“เรากําลังพูดถึงเรื่อง ‘บุญกับบาป’ บุญ แปลว่า ‘ความสบายกายและสบายใจ’ อะไรก็ตามที่ทําแล้วสบายกายสบายใจเท่ากับเป็นบุญ อะไรที่ทําแล้วไม่สบายกายไม่สบายใจเท่ากับเป็นบาป แต่เราอย่าไปตีความว่าการทำบาป คือต้องตกนรก ลงกระทะทองแดงอะไรอย่างนั้น

คนเราสามารถทําบุญและบาปได้ตลอดเวลา ทุกลมหายใจ เราคิดไม่ดี เราก็บาปแล้ว เพราะเราไม่สบายใจ แต่ถ้าเราคิดสิ่งดีๆ เราก็โล่งอก สบายใจ ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว เป็นเรื่องเบสิกมากๆ คือ ทําอะไรแล้วมันสบายกาย และสบายใจ เราก็ได้บุญหมด”

'ชาวบ้านสุโขทัย' บวงสรวง!! ปั้นหุ่นชายหญิงร่วมรักริมบ่อน้ำ  เชื่อเทวดาเห็นภาพอุจาด จะส่งฝนลงมาชะล้าง ส่วนชาวบ้านได้น้ำไปใช้ต่อ

(7 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ 6 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ได้ช่วยกันปั้นหุ่นดินเหนียวเป็นรูปชาย-หญิงในสภาพเปลือยเปล่า โชว์ลีลาท่ารักอย่างโจ๋งครึ่ม บริเวณริมสระน้ำติดกับประปาหมู่บ้าน เพื่อหวังจะให้เทวดาเห็นภาพอุจาด บาดตาบาดใจ แล้วส่งฝนลงมาชะล้าง พลอยให้ชาวนาชาวไร่ได้น้ำทำการเกษตรไปด้วย

ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ปีนี้มีการปั้นหุ่นพร้อมประกอบพิธีบวงสรวง ร่ายรำ นับเป็นปีที่ 3 แล้ว หลังจากหมู่บ้านแห่งนี้ต้องเผชิญปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก โดยเฉพาะในปีนี้ภัยแล้งคุกคามตั้งแต่ยังอยู่กลางฤดูฝน ทำให้ชาวบ้านต้องหาวิธีเท่าที่พอจะทำได้ ตามความเชื่อของคนโบราณ ด้วยการปั้นหุ่นชาย-หญิงร่วมรักกัน ให้เทวดาเห็นภาพอุจาด แล้วส่งฝนลงมาชะล้าง พลอยให้ชาวนาชาวไร่ได้น้ำทำการเกษตร

ซึ่งปรากฏว่าหลังปั้นหุ่นและทำพิธีเสร็จ ฝนก็ตกลงมาจริง ๆ แต่ทว่าก็ยังไม่มากพอที่จะช่วยให้เกษตรกรผ่านพ้นวิกฤตไปได้

‘แพรรี่’ ลั่น!! ‘ปีชง’ ไม่มีจริง วอนหยุดหากินกับความเชื่อ พร้อมย้ำ!! 365 วัน ชีวิตคนเราต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว

(9 ม.ค.67) กลายเป็นคลิปวิดีโอไวรัลในข้ามคืน เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ หรือ ‘ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอฟาดแรงถึงความเชื่อว่า ปีชงมีไว้หลอกคนโง่

โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าว ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ พูดว่า “ใช้ชีวิตมา ต่อให้เป็นปีที่ไม่ชง ไม่เกิดปัญหาเลยเหรอ ใช้ชีวิตมา 300 กว่าวัน คือชีวิตดีมากว่างั้น ปีนี้ไม่ชงก็เลยสบาย ทำอะไรชิล ๆ ทำอะไรดีหมดทั้งปี มีเหรอ ไม่มีค่ะ ต่อให้ไม่ชง ชงหรือไม่ชง ชีวิตต้องมีปัญหา”

“มีใครกล้าบอกไหม สมมติปีที่แล้วไม่ชง ชีวิต 365 วัน ที่ผ่านมาดีหมด ไม่มีปัญหา ไม่มีติดขัด มีเหรอ มันไม่มี ปีชงมันมีไว้สำหรับหลอกคนโง่ค่ะ”

เพราะมันขายของได้ไง ถ้ามันบอกว่ามันชง ปีชงตามมาด้วยการทำพิธีกรรม ทุกอย่างแก้ได้ด้วยการเสียเงิน หรือจะเถียง ที่มันบอกว่ามีเคราะห์ ที่มันบอกว่าชง เดี๋ยวมันให้วิธีแก้ชง แต่วิธีแก้ชง ก็คือเสียเงินแน่นอน เดี๋ยวมันแนะนำให้ไปทำพิธีวัดนู้นวัดนี้ แต่เสียเงิน”

เจ้าตัวยังพูดอีกว่า จะไปชงกับใครก็ไป แต่ไม่ได้ชงกับแล้วคนนึง ไม่ได้กินเงินตนค่ะ ไม่ต้องมาชงกับตน ตนชงเองได้ เอ้าลองคิดดูให้ดี ใช้สติปัญญาให้ดีว่าไอ้ที่เขาบอกว่าคุณชง ปีโน้นคุณชง มันตามมาด้วยอะไร หนึ่ง ถ้าเขาบอกว่าปีนี้คุณชง คุณไม่สบายใจละ ถ้าเขาบอกราศีนี้ชง ร้อยทั้งร้อย คนที่เชื่อเรื่องดวง เชื่อเรื่องราศี ฟังแล้วไม่สบายใจ

เมื่อไม่สบายใจ ตามมาด้วย การต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อแก้ชง เพราะคิดว่าการทำพิธีสิ่งที่ไม่ดี หรือสิ่งที่ชง จะไม่เกิด เสียเงิน เสียเงินแน่นอน มากน้อยต้องเสีย แล้วจะไปเชื่อทำไม ความเชื่อที่ทำให้เราต้องเสียเงินเสียทอง ความเชื่อที่ทำให้เราไม่สบายใจ เราจะไปเชื่อทำไม

ทั้งนี้ แพรรี่ ไพรวัลย์ พร้อมฝากถึงคนที่หากินกับความเชื่อว่า “ถ้าคุณหากินกับความเชื่อแบบนี้ ต้องเจอตน หลอกคนได้หลอกไป แต่เจอตนแน่นอน อีพวกหากินกับความเชื่อคน อาชีพมีเยอะแยะ มีมือมีเท้าก็ไปทำสิ มาหลอกกินกับความเชื่อกับคน

เดี๋ยวจัดพิธีไหว้ของดำ ราหู ถามหน่อย พระพุทธเจ้าบอกไว้ในพระไตรปิฎกเล่มไหน ไหว้ของดำ ไหว้ราหูเนี่ย พระไตรปิฎกเล่มไหนสอน

พวกหมอดูทำไป ก็ยังทำเนานะ มันเป็นอาชีพ แต่เดี๋ยวนี้ลามไปยังวัด พาคนไปสวดสะเดาะเคราะห์ มีในไหนเนี่ยพระไตรปิฎก ชีวิตง่ายขนาดนั้นไม่ต้องมีศาสนาพุทธค่ะ ไปนั่งเอาสายสิญจน์พันหัว มึงไม่เอาพันคอไปเลยหล่ะ จะได้หมดทุกข์ไปเลย

พร้อมทิ้งท้าย ว่า “จะเชื่อก็เชื่อไป ตนไม่ได้ว่าไร คุณจะทำ ก็ทำไป ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่มีคนมาถาม ตนก็จะพูดแบบนี้ เพราะตนไม่เชื่อ ตนมีหน้าที่ให้สติคน ไม่ได้ไปล้ำเส้นความเชื่อพวกคุณหนิ ถ้าตนไปพังพิธีคุณ ว่าไปอย่าง”

งานนี้เจ้าตัวยังมีการอัปคลิปวิดีโอวิพากษ์วิจารณ์ความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งเบญจเพส, สีเสื้อมงคล, ความเชื่อทางศาสนาอื่น ๆ ท่ามกลางคอมเมนต์จากชาวเน็ต


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top