ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค สะเทือนค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ระหว่าง ‘อภิสิทธิ์-เดชอิศม์’ ใครจะได้เป็นผู้กุมบังเหียนประชาธิปัตย์

เริ่มชัดขึ้นแล้วสำหรับศึกชิงหัวหน้าประชาธิปัตย์ มาถึงวันนี้ น่าจะเหลือเพียงสองคนชิงดำกัน ระหว่าง ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตหัวหน้าพรรค อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จ้องจะเข้ามานานแล้ว วนเวียนพูดอยู่ตามเวทีเสวนาต่างๆ กับ ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ รองหัวหน้าพรรคภาคใต้

เดิมมีชื่อปรากฏผู้ที่จะลงชิงอยู่ 3-4 คน ตามที่เคยบอกกล่าวไปบ้างแล้ว นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ ‘นายกฯ ชาย’ รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ที่กล่าวอ้างว่า มี ส.ส.มากถึง 17 คน ให้การสนับสนุน มีแรงเชียร์จากชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ ‘มาดามเดียร์’ ผู้สนับสนุนเป็นกลุ่มเดียวกับที่เชียร์นายกฯ ชาย ถ้าคนใดคนหนึ่งถอยอีกคนจะสู้แทน แต่มาดาเดียร์น่าจะขาดคุณสมบัติ เพราะเพิ่งเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคยังไม่ครบ 5 ปี ตามข้อบังคับพรรค แต่ข้อบังคับพรรคมีการเปิดช่องให้ยกเว้นการบังคับใช้ได้ด้วยมติ 3/4 ของที่ประชุมใหญ่ แต่ยังถือว่า ‘อ่อนพรรษาทางการเมือง’ ด้วยอายุเพียง 37 ปี และเป็น ส.ส.1 สมัย และไม่ใช่ในนามพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ มาดามเดียร์จึงน่าจะไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์มากุมบังเหียนพรรค

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าใครสนับสนุนบ้าง แต่ภาพลักษณ์ดี เป็นคนรุ่นใหม่ มีคุณสมบัติครบ และ ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการพรรค บารมียังน้อย แต่ทำงานใกล้ชิดนายชวน หลีกภัย ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ดร.อิสระ จะโดดเด่นขึ้นมาได้ ต้องได้รับการสนับสนุน หรือแรงเชียร์จากผู้อาวุโสในพรรคเท่านั้น ผลงาน 4 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ปรากฏชัด ช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ใช่ตัวชูโรง ถึงที่สุดแล้ว น่าจะถอยตามคำขอของผู้อาวุโส

โดยทั้งหมดเรียกว่าเป็น ‘คนรุ่นใหม่’ ที่ต้องการให้เข้ามากอบกู้วิกฤตพรรค ก่อนหน้านี้อาจจะมีชื่อ ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ด้วยประวัติส่วนตัวบางอย่างยังคลุมเครือ จึงล่าถอยไปก่อน กลัวจะถูกขุดคุ้ยไม่ต่างจากพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอดีต ส.ส.และผู้อาวุโสของพรรคทั้งนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ต่างเห็นว่าผู้ที่เหมาะสมจะมากอบกู้ฟื้นฟูพรรคในเวลานี้มีเพียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้แจ้งต่อผู้ใหญ่ในพรรคแล้วว่าถ้าจะกลับมานำพาพรรคต้องเป็นฉันทานุมัติของคนในพรรคที่เห็นพ้องกัน และขอให้เชื่อมั่นในทิศทางที่จะนำพาพรรค โดยจะขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น

ท่าทีการขอเป็นฝ่ายค้านของนายอภิสิทธิ์ น่าจะตรงกับกระแสส่วนใหญ่ที่อยากเป็นประชาธิปัตย์ถอยมาตั้งหลัก ขบคิดทบทวน ถอดบทเรียนเรื่องราวในอดีต แต่แตกต่างจากท่าทีของกลุ่มหนุนนายเดชอิศม์ ที่ต้องการนำพาพรรคไปสู่การร่วมรัฐบาล เพื่อนำนโยบายที่หาเสียงไว้ไปสู่การปฏิบัติ รับใช้พี่น้องประชาชน

เอากันให้ชัดๆ สรุปว่า เวลานี้เหลือชิงดำกันระหว่าง ‘อภิสิทธิ์’ กับ ‘นายกฯ ชาย’ เท่านั้น

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เริ่มปรากฏภาพความเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้นเมื่อ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.วทันยา บุนนาค เป็นต้น รวมถึงนายเชาว์ มีขวด และ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดคุณติ๊งต่าง

‘คุณติ๊งต่าง’ คือใคร? คือ นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ‘ติ๊งต่าง’ เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม​ชาวไทยหัวใจรักสงบ แม่ยกสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์

ในงานเลี้ยงของแม่ยกประชาธิปัตย์ที่มีผู้อาวุโส ผู้มากบารมีทางการเมืองไปร่วม คงไม่คุยกันเรื่องการทำนา ราคาทุเรียน หรือรับเหมาก่อสร้างเป็นแน่แท้ จริงไหมโฆษกขวด เชื่อมั่นว่าจะต้องคุยกันถึงเรื่องการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และจะเชียร์ใคร ถ้าไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ที่นั่งอยู่ในวงด้วย และคนในวงนี้ทั้งหมดเชียร์นายอภิสิทธิ์ทั้งนั้น

ไม่ต้องพูดถึงนายชวน-บัญญัติ-คุณหญิงกัลยา เชาว์ มีขวด เข้าสู่แวดวงการเมือง เพราะคำชักชวนของนายอภิสิทธิ์ เกียรติ์ สิทธีอมร ได้ดิบได้ดี เพราะนายอภิสิทธิ์สนับสนุนมิใช่หรือ

9 กรกฎาคมก็จะรู้ว่า ใครจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ระหว่าง ‘อภิสิทธิ์’ กับ ‘นายกฯ ชาย’ แต่ก่อนถึงวันนั้นให้ติดตามการขับเคลื่อนของมวลสมาชิก เพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย และให้จับตา ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ ว่าจะขยับไปหนุนช่วยฝั่งไหน