‘สาวใหญ่’ หลงคารมหนุ่มสายบุญ ให้ยืมเงิน-ซื้อรถป้ายแดง สุดท้ายโดนชิ่ง เจอหมายศาลยึดทรัพย์ ส่งถึงหน้าบ้าน

กำลังถูกยึดทรัพย์ หลงคารมหนุ่มสายบุญ เจอหมายศาลถึงบ้าน โทรไปถามแถไม่หยุด

(19 มี.ค.66) นางเอ (นามสมมติ) อายุ 57 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐาน และหมายศาลที่ถูกฟ้องยึดทรัพย์ มาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว หลังถูก นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี พ่อค้าขายเครื่องราง หลอกยืมเงิน 2 แสนบาท และยังหลอกให้เช่าซื้อรถป้ายแดงให้ สุดท้ายกำลังจะถูกยึดทรัพย์

นางเอ เล่าว่า ตนรู้จักกับ นายเอ็ม เพราะชอบเข้าวัดทำบุญเหมือนกัน ก่อนนับถือเป็นพี่น้อง จากนั้นเมื่อปี 64 นายเอ็ม มาขอยืมเงินตน 200,000 บาท และต้นปี 2565 ก็หลอกให้ใช้ชื่อเช่าซื้อรถยนต์ป้ายแดงให้ โดยอ้างว่าชื่อตัวเองติดแบล็กลิส เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพิษโควิดทำให้ขายของไม่ได้ จนถูกยึดรถยนต์ที่มีอยู่ ทั้งประสบปัญหาขาดทุนขายของไม่ได้ครอบครัวเดือดร้อนไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกน้อยกิน

ด้วยความสงสารจึงยอมให้ยืมเงินและใช้ชื่อเช่าซื้อรถให้ ทั้งเห็นว่าเป็นคนชอบทำบุญจึงเชื่อใจ ประกอบกับ นายเอ็ม รับปากว่าจะรีบหาเงินมาคืนและผ่อนจ่ายค่างวดโดยไม่ให้มีปัญหาแน่นอน แต่เมื่อเดือน พ.ย.65 ก็ได้รับหมายศาลจังหวัดนางรอง เนื่องจากถูกธนาคาร และบริษัทที่ตนใช้ชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ยื่นฟ้องเรียกรถยนต์คืน หากไม่มีรถคืนก็ให้จ่ายเป็นเงินแทน เนื่องจาก นายเอ็ม ที่หลอกให้ตนใช้ชื่อเช่าซื้อรถยนต์ราคาเกือบล้านบาท ไม่ยอมชำระค่างวด หากตนไม่มีรถไปคืนบริษัทหรือหาเงินไปชำระตามหมายศาล ก็จะถูกยึดทรัพย์

นางเอ กล่าวอีกว่า หลังได้รับหมายศาลก็พยายามติดต่อไปหา นายเอ็ม เพื่อทวงถามเงินที่ยืมไป 200,000 บาท และให้เอารถยนต์มาส่งคืน เพื่อจะได้นำไปคืนบริษัท แต่ นายเอ็ม ก็บ่ายเบี่ยงว่ายังหาเงินไม่ได้ ส่วนรถยนต์ก็อ้างว่าเมียเอาไปใช้ที่ จ.นครราชสีมา ตนจึงโทรติดต่อไปหาเมีย นายเอ็ม ก็อ้างว่าให้เพื่อนยืมไปยังไม่เอามาคืน จึงเชื่อว่า นายเอ็ม น่าจะมีเจตนาไม่คืนเงินและรถยนต์

จึงตัดสินใจไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ช่วยติดตามรถยนต์คืน เนื่องจากเป็นชื่อของตน แต่หากไม่คืนก็ให้ดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งตำรวจกลับให้ลงแค่บันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น จึงได้ออกมาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะตอนนี้ตนเดือดร้อนมากหากไม่มีรถไปคืนก็จะถูกฟ้องยึดบ้าน แล้วไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จึงอยากให้ผู้รู้กฎหมายให้คำแนะนำ หรือให้ความช่วยเหลือด้วย


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7567574