‘นักลงทุน’ แห่ช้อปทองคำ เหตุเป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ลุ้นนิวไฮใหม่ทองคำ ปี 65 อาจทะลุบาทละ 32,100 บาท

พิษแบงก์มะกันล้ม นักลงทุนแห่ช้อปทองคำ ลุ้นทะลุนิวไฮบาทละ 32,100 บ. ขณะที่หุ้นหายตื่นดีดแรงบวก 41 จุด

(15 มี.ค.66) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีการปิดตัวลงของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank : SVB) และซิกเนเจอร์แบงก์ (Signature Bank) ในสหรัฐ ว่า คงไม่มีผลกระทบกับแผนเงินกู้ในตลาดตราสารหนี้ ที่จับตาดูอยู่ยังไม่มีอะไร และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังดูแลอยู่ เชื่อว่าจะมีการจำกัดผลกระทบส่วนนี้ให้น้อยลง หากเกิดความผันผวนขึ้นมาในช่วงรัฐบาลยุบสภา สามารถใช้มาตรการเข้าไปดูแลในช่วงรักษาการได้หรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใด ๆ ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง จำเป็นต้องเข้าไปดำเนินมาตรการเพื่อดูแลประชาชน คาดหวังว่าเหตุที่เกิดขึ้นในสหรัฐจะไม่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง หากไม่ได้เป็นประเทศที่ไปลงทุน และฝากเงินใน 2 แบงก์นั้นจำนวนมาก

“ส่วนถามว่าจำเป็นต้องออกมาตรการมาดูแลเช่นใดนั้น ก็ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบว่าปัญหาจะเป็นเรื่องอะไร วิกฤตที่เกิดขึ้นในสหรัฐ แบงก์ที่ปิดตัวเป็นธนาคารในภูมิภาค แม้จะอยู่ที่อันดับ 16 ก็ตาม แต่หากขยายไปสู่แบงก์ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ก็อาจจะมีผลกระทบ” นายอาคมกล่าว

นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำ นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 1,150 บาทต่อบาททองคำ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมนี้ บวกแล้ว 800 บาทต่อบาททองคำ ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 31,100 บาทต่อบาททองคำ ราคาทองคำปรับขึ้นร้อนแรงตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ตอบรับวิกฤตธนาคารสหรัฐขาดสภาพคล่องจนต้องปิดตัวไปแล้ว 3 แห่ง ยังไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่รายรอปิดตัวเพิ่มอีก ทำให้ทองคำถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหรือเซฟเฮฟเว่นในการลงทุนอีกครั้ง เพราะขณะนี้ตลาดมีความกังวลกับการล้มของแบงก์สหรัฐสูงมาก

“มีการมองภาพย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ ทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องพิมพ์เงินเพิ่มจำนวนมาก (คิวอี) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นการทำคิวอีครั้งแรกในรอบนั้นด้วย โดยในช่วง 10 ปีก่อนหน้าทองคำถือเป็นฮีโร่ในช่วงวิกฤตการเงิน ทำให้นักลงมุนมองว่า ทองคำอาจเป็นฮีโร่อีกครั้งได้ แต่ภาพปัจจุบันแตกต่างกัน เพราะดอกเบี้ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำมาก แต่ตอนนี้ก็คงค้างอยู่สูงมาแทน” นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าว

นายพิบูลย์ฤทธิ์ กล่าวว่า วันที่ 22 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องติดตามว่าเฟดจะมีท่าทีผ่อนคลายลงบ้างหรือไม่ หลังจากตัวเลขดัชนีซีพีไอออกมาเฟ้อน้อยกว่าคาด บวกกับวิกฤตแบงก์สหรัฐล้มลงนั้น จะทำให้เฟดประเมินถึงผลกระทบจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลงหรือไม่ หากยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามเป้าหมาย อาจทำให้เกิดแรงกดดันในตลาดทองคำและตลาดสินทรัพย์อื่นทั่วโลกด้วย เนื่องจากเมื่อดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง สินทรัพย์ทั่วโลกก็จะถูกเทขายออกมา เดิมเราประเมินเป้าหมายทองคำราคาสูงสุดอยู่ที่ 31,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะนี้ราคาก็เข้าใกล้บริเวณดังกล่าวแล้ว จึงมองว่าอาจไปได้สูงกว่านี้ แต่จะถึง 32,100 บาทต่อบาททองคำ เป็นจุดนิวไฮในปี 2565 หรือไม่ อาจต้องรอประเมินการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ หากชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลง ก็มีโอกาสจะราคาทองคำจะถูกดันขึ้นได้อีก นักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อสะสมเพิ่มเติม อาจต้องมองในบริเวณ 30,500 บาทต่อบาททองคำ หรือ 30,000 บาทต่อบาททองคำ หากราคาลงไปถึง เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีกองทุนทองคำหันมาซื้อสุทธิทองคำเพิ่มขึ้นด้วย เพราะอาจเริ่มกังวลว่า เงินที่อยู่ในธนาคารอาจมีความอันตรายมากกว่าเดิมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมาว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก เปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,523.89 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,565.00 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 41.11 จุด หรือ 2.70% ดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,573.51 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,543.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 69,699.24 ล้านบาท


ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3875462