แคลงใจภาวะผู้นำ!! 'จตุพร' ตอก 'เศรษฐา' หลังเลี่ยงตอบคำถาม 'ประยุทธ์' สังคมไม่คาดหวังกับผู้นำ ที่แสดงความเชื่อฟังคนแก่กว่าในมิตินี้

(3 มี.ค.66) ‘นายจตุพร พรหมพันธุ์’ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ ได้เข้าร่วมเป็นที่ประธานปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า...

 

"บทบาทครั้งนี้ของคุณเศรษฐา ไม่ได้มีผลกับทางการเมืองมาก เพราะเรายังไม่เห็นอะไรชัดเจนจากตัวของ นายเศรษฐากันเท่าไร"

 

นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่ พลเอกประยุทธ์ ได้เอ่ยปากถามถึงนายเศรษฐาด้วยว่า “แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” ตรงนี้นายเศรษฐานั้น เลี่ยงที่จะตอบถึงเรื่องนี้ ซึ่งอันที่จริงเขาควรจะตอบเพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่ใช่เลี่ยงตอบคำถามเช่นนี้

 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า เมื่อนายเศรษฐา ถูกคาดหมายจะมาเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องตอบข้อครหาเชิงกล่าวหาของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาแสดงมารยาททางสังคมต้องเชื่อฟังคนแก่กว่า ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับความคาดหวังในภาวะผู้นำของประเทศเช่นนี้

 

 

 

"สิ่งที่พูดวันนี้ คือ ผมจะบอกว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของทดลองของใครคนใดคนหนึ่ง และไม่ใช่ว่าเจ้าของพรรคจะพึงพอใจใครคนใดคนหนึ่ง ประเทศนี้จะอยู่อย่างไร มีนายกรัฐมนตรีเพื่อจะมีนายกรัฐมนโทหรือ? มันซ่อนอำนาจกันตลอดเวลาแล้วสุดท้ายคืออะไร ดังนั้น จึงต้องการให้ได้คนที่มีศักยภาพ เพราะคนเก่งในบางวงการกับการบริหารประเทศคนละเรื่องกัน"

 

นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า ที่สำคัญ แม้ว่าในอดีตจะมีการคอร์รัปชันกันของหลายพรรคการเมืองนั้น แต่ว่าจะไม่เท่ากับการเลือกครั้งในครั้งต่อไป เพราะตนนั้นยังไม่เคยเห็นมาก่อน สำหรับการไม่ออกทุนเองให้คนมาร่วมหุ้น เพื่อแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นตนจึงมองว่าเป็นการอยากจะใช้ทรัพยากรของประเทศ เพื่อประโยชน์ของตนเอง

 

ซึ่งตนคิดว่าคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศคนใหม่นั้น ควรเป็นคนที่เข้ามาแล้วทำให้มองเห็นถึงอนาคตของประเทศ แต่ตอนนี้คนที่จะเข้ามาใหม่นั้นตนยังมองไม่เห็นถึงอนาคตและความหวัง

 

พร้อมปิดท้ายว่า คนที่จะเข้ามาบริหารประเทศไทยนั้นควรจะต้องเปิดเผยได้ทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้