Thursday, 25 April 2024
เศรษฐา

กล้าพูดได้เต็มปาก! ‘เศรษฐา’ เลี่ยงตอบ “เก่งอย่างไร ให้มองที่ผลงาน” ย้ำ! “ตนเป็นคนตั้งใจ-พยายาม-ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค”

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาเพื่อไทย ได้ตอบคำถาม ว่าถ้าหากคนที่เป็นนายกฯ ได้ตั้งคำถามถึงความเก่งของตน จะตอบว่าอย่างไร โดย นายเศรษฐา ได้ตอบคำถามนี้ว่า ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ให้คนมองดูที่ผลงานของตนแทน 

ตนได้เข้ามาทำบทบาทในฐานะนักการเมืองได้ไม่นาน ยังไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก ทำให้ยังไม่มีผลงาน แต่ขอให้จับตามองต่อไปว่าจะมีผลงานอะไรบ้าง

‘พรรคเพื่อไทย’ รวมพลมือฉมัง ตั้ง ‘ทีมเศรษฐกิจ’ ชู ‘หมอพรหมินทร์’ นั่งประธาน ‘เศรษฐา’ ที่ปรึกษา

(3 มี.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นประธาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นรองประธาน พร้อมผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้แก่ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3 นายกรัฐมนตรี, นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้า และที่ปรึกษานายกด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศมาร่วมเป็นที่ปรึกษา

ด้าน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนสงครามเศรษฐกิจจีน-สหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ประชาชนไทยทุกข์ยากต่อเนื่องมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงถือเป็นความท้าทายของพรรคการเมืองที่จะนำพาประเทศและประชาชนฝ่าพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้จงได้ พรรคเพื่อไทย จึงได้เชิญบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศในด้านต่างๆ มาให้คำปรึกษา และร่วมเป็นกรรมการ โดยคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคจะเป็นแกนกลางในการระดมความรู้ ความสามารถและความร่วมมือในการกอบกู้เศรษฐกิจของเราต่อไป เราจะบริหารให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

แคลงใจภาวะผู้นำ!! 'จตุพร' ตอก 'เศรษฐา' หลังเลี่ยงตอบคำถาม 'ประยุทธ์' สังคมไม่คาดหวังกับผู้นำ ที่แสดงความเชื่อฟังคนแก่กว่าในมิตินี้

(3 มี.ค.66) ‘นายจตุพร พรหมพันธุ์’ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ ได้เข้าร่วมเป็นที่ประธานปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า...

 

"บทบาทครั้งนี้ของคุณเศรษฐา ไม่ได้มีผลกับทางการเมืองมาก เพราะเรายังไม่เห็นอะไรชัดเจนจากตัวของ นายเศรษฐากันเท่าไร"

 

นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่ พลเอกประยุทธ์ ได้เอ่ยปากถามถึงนายเศรษฐาด้วยว่า “แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” ตรงนี้นายเศรษฐานั้น เลี่ยงที่จะตอบถึงเรื่องนี้ ซึ่งอันที่จริงเขาควรจะตอบเพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่ใช่เลี่ยงตอบคำถามเช่นนี้

 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า เมื่อนายเศรษฐา ถูกคาดหมายจะมาเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องตอบข้อครหาเชิงกล่าวหาของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาแสดงมารยาททางสังคมต้องเชื่อฟังคนแก่กว่า ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับความคาดหวังในภาวะผู้นำของประเทศเช่นนี้

 

 

 

บทเรียนสอนใจ 'แรมโบ้' ยก ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ กรณีศึกษาสอน 'เศรษฐา' ย้อนถาม!! กินข้าวกับชาวนาเพื่อรับฟัง หรือเห็นประโยชน์

'แรมโบ้' ตอกกลับ 'เศรษฐา' ไปกินข้าว รับฟังความเห็นชาวนา จริงใจหรือประโยชน์การเมืองกันแน่ ย้ำนโยบายช่วยชาวนาของรัฐบาล มุ่งสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มผลผลิตสร้างรายได้เพิ่ม ตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG ให้กับชาวนา ไม่เหมือนนโยบายโกงจำนำข้าวที่ทำชาวนาจนผูกคอตายไปหลายราย เตือนนักธุรกิจที่เคยค้าความร่ำรวยจากประชาชน เข้ามาบริหารประเทศ ให้ดูชะตากรรมนายทักษิณ ยิ่งลักษณ์เป็นบทเรียนสอนใจ

(11 มี.ค. 66) - นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยาฟังปัญหาชาวนาวิจารณ์ 8 ปีอยู่ในหลุมดำรายได้ต่ำ ราคาข้าวไม่ดี มีแต่น้ำท่วม-แล้ง โดยนายเสกสกลยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาล นายกฯประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับเกษตรกร และชาวนามาโดยตลอด และมีหลายนโยบายออกมาให้ความช่วยเหลือ มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้เพียงพอและอยู่ดีมีสุข และอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งทำควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำของประเทศอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันการส่งออกข้าวกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการชี้แจงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดปี 2565 การส่งออกทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน มีผู้ส่งออกขอใบอนุญาตส่งออกแล้ว 8.58 ล้านตัน และคาดการณ์ปี 66 ปริมาณการส่งออกจะสูงกว่าปี 65 แน่นอน

“นโยบายการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ นายเศรษฐา อาจจะมองว่าไม่หวือหวาหรือช่วยชาวนาให้อยู่ดีกินดีได้ทันที แต่เป็นนโยบายที่สร้างความมั่นคงให้กับชาวนาได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน เพิ่มมูลค่าการผลิต โครงการข้าวรักษ์โลก BCG ที่เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องเป็นที่ถูกใจของชาวนามาก ไม่เหมือนกับนโยบายโกงจำนำข้าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอดีต ที่สร้างปัญหาส่งผลให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ต้องเข้ามาแก้ไขตามใช้หนี้จนทุกวันนี้ยังไม่หมด อีกทั้งนโยบายโกงจำนำข้าวของเพื่อไทยนี้ยังสร้างความเจ็บปวดให้กับชาวนาเป็นอย่างมาก ผูกคอตายไปหลายคน ครอบครัวเดือดร้อนสิ้นเนื้อประดา นี่คือผลงานของเพื่อไทยมิใช่หรือ

อวยกันหนัก!! ‘เศรษฐา’ โพสต์รูปภาพคู่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ พร้อมอวย "เธอสง่างาม ออร่าพุ่ง"

12 มี.ค.2566 - นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย โพสต์รูปภาพคู่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า "เธอสง่างาม ออร่าพุ่ง…"

สำหรับนายเศรษฐา และนางสาวแพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/339985/ 

‘เศรษฐา’ โชว์ ‘เพื่อไทย’ ใส่ใจเสรีภาพการประกอบอาชีพ ชี้!! ‘อาชีพทหาร’ ต้องเป็นด้วยความสมัครใจ-ไม่ถูกบังคับ

(14 มี.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวิตข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ Srettha Thavisin (@Thavisin) ว่า เมื่อวานนี้ขอบคุณน้อง ๆ เยาวชนรุ่นใหม่จากพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงที่สละเวลามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแชร์ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ โอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม และหลายๆ ประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งทาง #พรรคเพื่อไทย จะรวบรวมข้อเสนอและความคิดเห็นต่างๆ เพื่อประกอบจัดทำเป็นนโยบายต่อไป

เรื่องหนึ่งที่น้องๆ ถามคือการเกณฑ์ทหาร เรามองถึงสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพอันเป็นสิทธิพื้นฐานของเยาวชน ดังนั้นนโยบายเราชัดเจนว่า ต้องเป็นทหารด้วยความสมัครใจและจะต้องไม่ถูกบังคับ

‘เศรษฐา’ พร้อมยุติทวิตขายบ้าน หลังเกิดดรามา ลั่น!! จะไม่มีข้อความชวนเชิญซื้อบ้านในโครงการอีก

(18 มี.ค.66)  ที่ร้าน WHEELER BED & BIKE อ.เมือง จ.ชลบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการแชร์ข้อความจากทวิตเตอร์ ที่นายเศรษฐาได้ทวีตแนะนำให้ประชาชนซื้อบ้านในโครงการบ้านจัดสรร จนกลายเป็นประเด็นดรามา ว่า เป็นคนทวีตจริง เพราะเห็นว่าตนเองยังเป็นพนักงานของบริษัทแสนสิริอยู่

'เพื่อไทย' เดินเครื่อง 'อิ๊งค์' ลั่น!! เลือกวันไหนก็พร้อม พรุ่งนี้ก็ได้ 'เศรษฐา' เล็งรื้อยุทธศาสตร์ 20 ปี 'ชลน่าน' ปัดหลีกทาง 'ธรรมนัส'

(21 มี.ค.66) ที่ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้าสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงประจำวันเกิด

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "วันนี้ถือว่าเป็นวันดี ยุบสภาปุ๊บ เราก็รีบมาไหว้เลย ซึ่งจริง ๆ ก็วางแผนกันไว้อยู่แล้วว่าอยากจะมาไหว้ศาลหลักเมืองอยู่แล้ว" เมื่อถามว่า เมื่อมีการยุบสภาแล้วจากนี้ถือว่าเป็นการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งอย่างเต็มที่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราลุยเต็มที่มาสักพักแล้ว ไม่มีอะไรที่จะทำให้ช้าลง เราจะเร่งเครื่องเต็มที่ต่อไป

ขณะที่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราเริ่มกันตั้งแต่วันนี้แล้ว อีกเดี๋ยวก็จะไปพบกลุ่มหอการค้า ตามด้วยไปคลองสาน จ.นนทบุรี จ.สระบุรี ตารางแน่นมากต่อวัน ตอนนี้เดินหน้าเต็มที่

เมื่อถาม น.ส.แพทองธาร ว่ายังไหวหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้เดินทางประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง หากออกนอก กทม.ยังไหว แต่คงไม่ได้ไปค้างนอกสถานที่แล้ว จากนี้จะเป็นนายเศรษฐาช่วยเดินเต็มกำลัง

เมื่อถามถึงการโฟนอินไปร่วมเวทีปราศรัยที่ จ.ระยอง เป็นครั้งแรก น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราก็ตื่นเต้น กลัวว่าโทรเข้าไปแล้วสัญญาณจะขัดข้อง หรือพี่น้องประชาชนจะไม่ได้ยิน แต่ได้รับเสียงตอบรับ และเสียงให้กำลังใจดีมากๆ อย่างไรก็ตาม จะมีการปรับรูปแบบในเวทีต่อๆ ไป โดยจะมีทั้งวีดีโอคอล และคลิปวีดีโอ อะไรที่เราจะสามารถกระจายไปได้ เราก็จะฝากทีมหาเสียงกระจายไปด้วย

เมื่อถามว่า กกต.มีการประชุมเคาะวันเลือกตั้งซึ่งแนวโน้มน่าจะเป็นวันที่ 14 พ.ค.นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราพร้อมอยู่แล้ว เลือกตั้งพรุ่งนี้เลยก็ได้

เมื่อถามถึงแพลนคลอด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คลอดก่อนวันที่ 14 พ.ค.อยู่แล้ว ซึ่งเราวางกันไว้ตอนแรกคือช่วงปลาย เม.ย.ต้นเดือน พ.ค.ซึ่งตนจะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งแน่นอน จะเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าหรือตรงวันเท่านั้น โดย นายเศรษฐา กล่าวแทรกขึ้นมาว่า หากเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.จริง การปราศรัยวันสุดท้ายก็น่าจะมีโอกาส

เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ชื่อของ น.ส.แพทองธาร จะได้เข้าไปอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา ตนอยู่ตรงไหนก็ได้ อะไรก็ได้ที่มีส่วนช่วยประเทศชาติ เพราะอย่างที่บอกว่าทุกอย่างทำคนเดียวไม่ไหว ทุกอย่างต้องช่วยกันเป็นทีม ตรงไหนที่พรรคและประชาชนเห็นว่าตนเหมาะสมก็ตรงนั้น

เมื่อถามว่า แม้มีการเปิดตัว ส.ส.เขต ทั้ง 400 คนไปแล้ว แต่หลายพื้นที่ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนอยู่ เช่น จ.พะเยา ก็มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ซึ่งทำให้คนสังเกตว่ามีการหลีกทางให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงข้อสังเกต ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วอยู่ในกระบวนการ ซึ่งการปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัครนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ หากมีการรับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนผ่านช่องทางการทำไพรมารีโหวต กรรมการสรรหา และกรรมการบริหาร ก็ยังสามารถเปลี่ยนตัวผู้สมัครได้ตลอด เพราะเป็นขั้นตอนกระบวนการคัดเลือก กรณี จ.พะเยา เราก็ดำเนินการตามขั้นตอน หากจะมองว่าเป็นการดีลกัน แต่พี่น้องประชาชนไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถทำได้

‘เศรษฐา’ นำทัพ ‘พท.’ ลุย 3 ตลาดเช้าย่านฝั่งธนฯ ขอบคุณชาวกรุง หลังผลโพลหนุนพรรคเพื่อไทย ยืนหนึ่ง

‘เศรษฐา’ นำทีม ‘เพื่อไทย’ บุก 3 ตลาดเช้าย่านฝั่งธนฯ เมิน ‘บิ๊กตู่’ ขู่ แลนด์สไลด์ออกนอกเลนระวังเจ็บตัว มองฝ่ายบริหารแยกนิติบัญญัติดีกว่า

(26 มี.ค. 2566)  ที่ตลาดเช้าวัดหนองแขม พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายวัน อยู่บำรุง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) บางบอน (ยกเว้นแขวงบางบอนใต้และแขวงคลองบางบอน) จอมทอง (เฉพาะแขวงบางขุนเทียน) ลงพื้นที่พบปะพ่อค้าแม่ค้าเพื่อสอบถามปัญหาต่างๆ โดยนายวันได้พานายเศรษฐานั่งมอเตอร์ไซค์มายังบริเวณตลาด ระหว่างที่พบปะพ่อค้าแม่ค้าได้มอบดอกกุหลาบและขอถ่ายรูปกับนายเศรษฐา

ต่อมา นายเศรษฐาและคณะเดินทางต่อไปยังตลาดบางแคเพื่อรับฟังปัญหา โดยมีนางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางแค (ยกเว้นแขวงบางแคเหนือและแขวงบางไผ่) ภาษีเจริญ (เฉพาะแขวงบางหว้า แขวงบางด้วนและแขวงคลองขวาง) ร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งก็มีประชาชนให้กำลังใจและมอบดอกกุหลาบให้เช่นเคย จากนั้น นายเศรษฐาและคณะเดินทางไปยังตลาดสดธนบุรี ซึ่งมีนายจิรวัฒน์ อรัญยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 31 ตลิ่งชัน (ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง) ทวีวัฒนา 

โดย นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กรณีผลโพลสำรวจระบุว่าคนกรุงเทพฯ เชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรค พท.มาเป็นอันดับหนึ่ง ว่า ตนยังไม่ได้ดู เพราะตอนนี้หน้าที่ตนคือเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตนก็จะเดินหน้าหาเสียง ปราศรัย พบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่เท่าได้ และขอบคุณที่ประชาชนที่อยากให้มีส่วนร่วมในทางการเมือง แต่ตอนนี้ก็ทำหน้าที่เต็มที่ ทั้งนี้ สำหรับผลโพลที่ระบุว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ พรรค พท.นำมาตลอดนั้น ตนเชื่อว่าในอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เราก็ใช้นโยบายนำโดยตลอด บุคคลมีคุณภาพในพรรคเราก็มีเยอะมากมาเป็นแผง ตนเชื่อว่าพรรคมีความสามารถ ฉะนั้น จึงไม่แปลกใจ และจะเดินหน้าต่อไปเพื่อเผยแพร่นโยบายที่ดี

เมื่อถามว่า มองว่าโพลแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่หล่นลงมา เป็นเพราะเปิดตัวช้าหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “คงไม่ใช่หรอกครับ โพลก็คือโพล เรามีหน้าที่ของเรา เราก็ต้องเดินหน้าต่อ เราก็ทำหน้าที่เต็มที่ จะมาพะวงกับโพลไม่ได้ การชี้นำของโพลเราก็ว่ากันไป”

เมื่อถามว่า การประกาศชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะมีการขยับไวขึ้นจากวันที่ 5 เม.ย.หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบยังเป็นวันที่ 5 เม.ย.อยู่

เมื่อถามถึง กรณีที่มีรายงานข่าวเปิดรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ออกมา แต่ไม่ชื่อของนายเศรษฐาและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า การที่ชื่อของตนไม่ได้อยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ก็ไม่ได้ผิดความคาดหวังอะไร เพราะเราพูดกันตลอดว่าฝ่ายบริหารก็อยู่ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติก็อยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ เข้าใจว่ามีหลายฝ่ายอยากให้คนที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ด้วย แต่ก็เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้กำหนดไว้ หากใครก็ตามที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้รับเลือกเข้ามา แล้วต้องไปดำรงตำแหน่งนั้นจริงๆ สิ่งที่สำคัญคือต้องบริหารราชการแผ่นดิน และทำตามกฎหมายที่สภาฯ ออกมา ส่วนในสภาฯ ก็เป็นหน้าที่ของส.ส.ที่ต้องออกกฎหมาย นอกจากนี้สำคัญที่สุดคือการที่ฝ่ายบริหารต้องไปตอบกระทู้ในสภาฯ 

'หนุ่มเมืองจันท์' วิเคราะห์ ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ สองเถ้าแก่แห่ง ‘เพื่อไทย’ 'เหมือน-ต่าง' อย่างไร? เมื่อใส่หมวกการเมืองลงมาปั้นเกม

เมื่อไม่นานมานี้ สรกล อดุลยานนท์ หรือ ‘หนุ่มเมืองจันท์’ คอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้ออกมาพูดถึงประเด็น 'เศรษฐา-ทักษิณ ต่างกันอย่างไร' โดยได้กล่าวว่า...

“คุณเศรษฐา เป็นคือเจ้าขอบริษัท เป็นเถ้าแก่เหมือนกันกับทักษิณ ซึ่งวิธีคิดของเถ้าแก่กับมืออาชีพไม่เหมือนกัน เถ้าแก่กล้าตัดสินใจ เพราะนั่นเป็นธุรกิจของเขาเอง และสามารถใช้อารมณ์ได้บ้างเล็กน้อย เพราะเป็นเจ้าของ ฉะนั้นปัญหาอยู่ที่ คุณเศรษฐา ก็มีความเป็นเจ้าของกิจการมาก่อน เขาไม่มีความจำเป็นต้องมาลงการเมืองก็ได้ ซึ่งพอได้มาลงการเมืองนั่นแปลว่าอาจมีอะไรในใจที่อยากจะทำ”

หนุ่มเมืองจันท์ ได้กล่าวต่อว่า การที่เถ้าแก่อย่าง เศรษฐา และทักษิณ นั้นมาอยู่ร่วมพรรคเดียวกัน “นั่นคือสิ่งที่จะต้องหากติกาในการอยู่ร่วมกัน ว่าถ้าจะดำเนินการร่วมกันจะมีแนวทางไหนบ้าง” พร้อมเสริมว่า “คุณเศรษฐา บริหารแสนสิริได้ดี ถือว่าเป็นคนที่มีรสนิยม”

“คุณเศรษฐา และคุณทักษิณ นั้นแตกต่างกัน ซึ่งคุณทักษิณนั้นเป็นคนต่างจังหวัด อยู่สันกำแพง พอมาเกณฑ์ทหารก็เจอชาวบ้าน และได้ลงพื้นที่ จึงทำให้รู้จักคนทุกระดับได้มากกว่า แต่กลับกัน ในส่วนของคุณเศรษฐา เป็นคนที่อยู่ในกลุ่มยอดพีระมิด ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่แปลกที่บุคคลที่อยู่ยอดพีระมิดจะมารู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำ นั่นแปลว่าต้องมีอะไรอยู่ในใจคุณเศรษฐา”

หนุ่มเมืองจันท์ ยังได้กล่าวต่อว่า “เคยสังเกตไหมครับ คุณเศรษฐาเวลาลงพื้นที่พบเจอกับชาวบ้าน เขาจะอินกับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งอาจะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่คุณเศรษฐาไม่เคยเจอแต่เขารู้สึก”

พร้อมเปิดเผยถึงด้านการทำธุรกิจของเศรษฐา ว่า “คุณเศรษฐาเวลาทำธุรกิจเป็นคนเด็ดขาดมาก เป็นคนที่กล้าตัดสินใจ และรสนิยมในการตั้งแบรนด์ แสนสิริ คือตัวของคุณเศรษฐาเอง” พร้อมเพิ่มเติมไปอีกว่า “เศรษฐาเป็นคนที่มีรสนิยมสูง นั้นเป็นโอกาสในการจะนำสินค้าไทยไปได้ไกล เพราะคุณเศรษฐามีรสนิยมดีและรู้เรื่องเหล่านี้ดี”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top