'เพื่อไทย' อัด 'บิ๊กตู่' ทำคนไทยไร้ที่อยู่-ที่ทำกินเพียบ ชี้!! ไม่พัฒนาต่อยอดบ้านเอื้ออาทร-บ้านมั่นคง

เมื่อวันที่ (3 ต.ค. 65) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ทุกวันจันทร์แรกของเดือนต.ค.ทุกปี องค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดให้เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก (World Habitat Day) ในปีนี้อยู่ภายใต้แนวคิด Mind the Gap Leave No One and Place Behind หรือใส่ใจช่องว่าง ไม่ทิ้งใครและที่ใดไว้ข้างหลัง เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของสิทธิในที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของประชากรโลก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเครือข่ายต่างๆ ได้จัดกิจกรรมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกินให้กับคนจนเมืองและพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่จากนโยบายของรัฐ 

ทั้งนี้ พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีสิทธิในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชากรโลก ในปี 2546  รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้จัดหาที่อยู่อาศัยให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ทั้งบ้านเอื้ออาทรในต่างจังหวัด และบ้านมั่นคงสำหรับคนเมือง ผ่านการทำงานของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เพราะตระหนักถึงความสำคัญของ คนหาเช้ากินค่ำ คนจนเมือง คนไร้ที่อยู่อาศัย

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งในส่วนของประชาชนซึ่งไม่มีที่ดินทำกินและขาดแคลนที่อยู่อาศัยอย่างเท่าเทียม เพื่อแก้ปัญหาชุมชนแออัด ชุมชนผู้บุกรุกให้เกิดการจัดการที่ดินอย่างเหมาะสมสำหรับผู้มีรายได้น้อยในเมือง อันเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานของการดำรงชีวิต จนขณะนี้ผ่านมา 19 ปีโครงการบ้านมั่นคงและบ้านเอื้ออาทร ยังคงเป็นโครงการที่ถูกสานต่อมาทุกๆ รัฐบาล แต่ยังไม่มีที่ท่าว่าจะพัฒนารูปแบบให้สอดรับกับความต้องการของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ทั้งที่รัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผ่านมา 8 ปีโครงการยังเหมือนเดิม ไม่เพิ่มเติมสิทธิพื้นฐานที่มากขึ้นแต่อย่างใด ทั้งที่โครงการเดิมที่ทำอยู่หากเสริมศักยภาพด้านรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้มีงานทำ หรือช่องทางในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกินได้ง่ายขึ้น ปัญหาคนจนเมืองและประชาชนไร้ที่ดินทำกิน รวมถึงคนไร้บ้านจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างทุกวันนี้ 

“พรรคเพื่อไทยยังคงให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยมาโดยตลอด เพราะถือเป็นความมั่นคงในการดำรงชีวิตของมนุษย์  ใส่ใจช่องว่าง ไม่ทิ้งใครและที่ใดไว้ข้างหลัง ไม่สามารถทำได้ด้วยการแจกเงินและกู้เงิน รัฐบาลที่ดีต้องหารายได้เป็นและส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งตัวเองได้ เพื่อให้เขามีโอกาสเลือกที่อยู่อาศัยของตนเองในแบบที่ต้องการ การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่ใช่ทางออกสำหรับทุกเรื่อง แต่ความชาญฉลาด คำนึงถึงความเป็นมนุษย์และความยุติธรรมในการจัดการปัญหาโดยไม่เลือกปฏิบัติกับคนยากจนต่างหาก ที่จะทำให้ช่องว่างนั้นแคบลง” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว