‘อนุทิน’ คาด!! โควิดพุ่งแน่หลังสงกรานต์ แต่ยังเดินหน้าโรคประจำถิ่น ตามแพทย์ชง!! 

4 เม.ย. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการห้ามเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ช่วงนี้ผ่อนคลายมาตรการออกมาเยอะ แต่ธรรมชาติของการติดเชื้อโควิด-19 คือการสัมผัส การรวมกลุ่มใกล้ชิด และการใช้ภาชนะร่วมกัน ทั้งนี้ การสาดน้ำแบบสมัยก่อนจะมีการนำมือลงไปกวนแป้งดินสอพอง ใช้มือประแป้ง และใช้ขันน้ำร่วมกัน แต่จะไปบอกว่าให้ใส่ถุงมือเล่นน้ำสงกรานต์เป็นไม่ได้อยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ทำตามประเพณี และวัฒนธรรมที่ดี จึงสามารถรดน้ำโดยไม่ต้องสาดก็ได้

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กต่ำกว่า 5 ปี จึงจะเร่งเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีเชิงรุก ไม่ต้องรอให้มาหาที่สถานบริการพยาบาล และขณะนี้ฉีดวัคซีนไปเยอะจนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอันตรายต่อร่างกาย จึงไม่ต้องมานั่งสังเกตอาการ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะนี้พบว่าติดเชื้อจำนวนมาก จึงอยากฝากให้พ่อแม่และผู้ปกครอง งดพาเด็กเล็กไปโรงพยาบาล เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลายอย่าง ส่วนคนทั่วไปยังต้องเฝ้าระวังตัวเองให้ดี จึงขอย้ำให้ฉีดวัคซีนเพราะจะป้องกันการเจ็บป่วยร้ายแรง

เมื่อถามถึงการประเมินยอดติดเชื้อหลังเทศกาลสงกรานต์ จะพุ่งขึ้นเหมือนปี 64 นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องควบคุมในสิ่งที่ควรควบคุม ทั้งการควบคุมไม่ให้เจ็บป่วยหนัก และควบคุมไม่ให้เกิดการเสียชีวิต ขณะนี้กำลังประกาศโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น เป็นสิ่งที่แพทย์เสนอ ไม่ใช่รัฐบาลเป็นผู้เสนอ เพราะรัฐบาลมีความกังวล แต่เมื่อแพทย์ให้คำอธิบายในเชิงหลักวิชาการรองรับไว้แล้ว เราเชื่อตามนั้น เพราะเห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม แม้จะมีผู้ติดเชื้อแต่หากมียารักษาโรค และสถานพยาบาลรองรับกรณีเกิดการเจ็บป่วยหนัก ถือว่าโควิด-19 เป็นโรคๆ หนึ่ง เราต้องกล้าก้าวข้ามตรงนี้ไป

นายอนุทิน ยอมรับว่า การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขยังเชื่อมั่นว่า วัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนไปแล้วจะทำหน้าที่ของมันได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อแล้วต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการ บางคนสามารถรับประทานยารักษาตามอาการและหายโรคเองได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว


ที่มา : https://www.thaipost.net/covid-19-news/117585/