Thursday, 16 May 2024
อนุทิน_ชาญวีรกูล

‘อนุทิน’ ขานรับ เปิดประเทศ 1 พ.ย.ลั่น ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ชี้ เปิดได้ก็ปิดได้ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องโรค 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้จะดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างไร ว่า เราเตรียมความพร้อมไว้ระดับหนึ่งและหารือในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนองนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่แจ้งไว้ต่อประชาชน ส่วนการจะเปิดให้ 10 ประเทศเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องของประเทศ รอให้ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) หารือก่อนที่จะนำเสนอศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีปัญหากับการเปิดประเทศ และยังสามารถรองรับเรื่องการรักษาได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ให้เหตุผลความสำคัญต่างๆ ไปแล้ว กระทรวงสาธารณสุขต้องปฏิบัติตามนโยบายด้วยความระมัดระวังและเตรียมการให้มากที่สุด 

‘อนุทิน’ ยินดี ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งที่ปรึกษา ‘เพื่อไทย’ ชี้ ไม่ใช่คู่แข่ง ‘ภูมิใจไทย’ ในพื้นที่อีสาน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว อุ๊งอิ๊ง หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย (พท.) คิดว่าจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดมิติใหม่ขึ้นหรือไม่ ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกอย่างต้องมีพลวัต ต้องมีคลื่นลูกใหม่มาทดแทนคลื่นลูกเก่า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะที่พรรคพท.ปรับเปลี่ยนมาแต่ละคนนั้น ต่างก็มีคุณสมบัติที่ดี มีการศึกษาที่ดีจะได้มาทำงานช่วยกันเพื่อบ้านเมือง ตนไม่มีปัญหาเพราะมองเป็นบวก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าเป็นคู่แข่งของพรรคภูมิใจไทยในการเจาะพื้นที่ต่าง ๆ หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า ของภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีถึง 6 คนอยู่แล้ว ไม่แข่งกับใครเราก็อยู่ของเราอย่างนี้

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย จะต้องปรับยุทธศาสตร์ในภาคอีสานอย่างไรเมื่อพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้างเช่นนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดคือ พรรคจะต้องมีนโยบายที่จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าเราเข้าไปดูแลปากท้องเขาได้ ดูแล สารทุกข์สุกดิบของเขาได้และผู้สมัครเองก็ต้องขยัน เข้าถึงใจประชาชนให้ได้ การเมืองก็อยู่ตรงนี้ คือต้องทำงานให้กับประชาชน ให้ประชาชนมั่นใจ และไม่ว่าอะไรก็ตามก็จบตรงนี้ เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนหรือเปล่า เพราะนั่นคือคำตอบ

‘ภูมิใจไทย’ ดัน นโยบายกัญชา สุดตัว ยกระดับจากสิ่งผิดกม. ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ

ถึงจะโดนเรื่องโควิด-19 กลบ จนเรื่องกัญชา ต้องหายเงียบ แต่ในความเงียบ กลับมีความเคลื่อนไหว ที่สะท้อนความคืบหน้าในนโยบายกัญชา ซึ่งเป็นเดิมพันสำคัญของพรรค “ภูมิใจไทย”

รู้หรือไม่ ??? จากในอดีตที่กัญชา มีสถานะเป็น “สิ่งเสพติด” หากแม้นมีการครอบครอง ไปจนถึงนำมาใช้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดล้วน “ผิดกฎหมาย” เป็นผู้ร้ายตลอดกาล ปัจจุบัน ประเทศไทยคลายล็อกให้สามารถปลูกกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายแล้ว กัญชากำลังค่อยๆ เปลี่ยนบทบาทให้กลายเป็น “พระเอก” มากยิ่งขึ้น จนไทยได้ชื่อว่ามีความก้าวหน้าในเรื่องการนำกัญชามาใช้ ที่ก้าวหน้าที่สุดในอาเซียน

รู้หรือไม่ ? วันนี้ ประชาชนสามารถเข้าถึงการปลูกกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายแล้วกว่า 1.6 ล้านตารางเมตร

รู้หรือไม่ ? ในปี 2564 เพียงปีเดียวสินค้าที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม มีมูลค่าในตลาดสูงถึงกว่า 7 พันล้านบาท

รู้หรือไม่ ? ประเทศไทย มีคลินิกกัญชาแล้วใน 760 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

รู้หรือไม่ ? มีประชาชนกว่า 7.6 หมื่นคน ใช้บริการคลินิกกัญชา เป็นทางออกในการรักษาโรค

เหล่านี้คือปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้นแล้ว ในประเทศไทย และเป็นเครื่องยืนยันความคืบหน้าของนโยบายกัญชาเสรี

เป็นผลจากการทุ่มกาย เทพลัง ตลอด 2 ปีเศษ ที่พรรคภูมิใจไทย “ต้อง” ผลักดันนโยบายกัญชาทางการแพทย์ให้ไปข้างหน้า เนื่องเพราะเป็นนโยบายสำคัญที่ทำให้พรรคโกยคะแนนเลือกตั้ง กระทั่งได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรคอย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อผลักดันให้นโยบาย เกิดความเป็นรูปธรรม ตามแผนบันได 3 ขั้น เริ่มจากแก้กฎหมาย ให้กลายเป็นพืชสมุนไพร ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ไปจนถึงเป็นพืชเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน

ซึ่งการก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นนั้น ไม่ใช่เรื่องหมู ต้องฝ่าฟัน “ความเชื่อ” จากสังคมไทย จำนวนไม่น้อย ที่ยังปฏิเสธกัญชา ขณะที่กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ก็เป็นดั่งกำแพงที่ยากจะปีนข้าม มีเพียงการค่อยแก้กฎหมายทีละชั้นอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด ถึงจะสามารถคลายล็อกกัญชาได้

ข้อเท็จจริงคือ ประเทศไทยอยู่ภายใต้อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1961 แก้ไขโดยพิธีสาร ค.ศ. 1972 และอนุสัญญาว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1971 ซึ่งอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับนี้ยินยอมให้ใช้กัญชาทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ได้ แต่รัฐบาลต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพและการป้องกันการรั่วไหลไปยังตลาดมืด ซึ่งรัฐบาลต้องมีการข้อกำหนดที่ชัดเจนในการอนุญาตให้ผลิตปลูกหรือใช้กัญชาทางการแพทย์ที่จะต้องดำเนินการโดยมีระบบใบอนุญาต (Licensing System) เพื่อให้มั่นใจว่าตลาดกัญชาของรัฐนั้น ๆ จะไม่เกินความต้องการใช้ทางการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์”

โดยมีคณะกรรมการการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศจะเป็นหน่วยงานที่เป็นกลไกกำกับดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญาฯ ประเทศภาคีสมาชิกจะต้องรายงานให้ทราบเกี่ยวกับการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่ผิดกฎหมาย

นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทย ต้องนำเรื่อง “การแพทย์” มานำร่องเรื่องกัญชา เป็นไฟต์บังคับ ที่นายอนุทิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทราบดี ซึ่งนายอนุทิน ค่อย ๆ ขยับแก้กฎหมายไปทีละขยัก ผ่านอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เริ่มจากวันที่ 6 สิงหาคม ปี 2562 ได้ ลงนามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข รับรองสถานะหมอพื้นบ้าน เปิดช่องให้หมอพื้นบ้านใช้กัญชา เป็นส่วนผสมในตำรับยา 

ขณะเดียวกัน ยังได้ผลักดันให้ “วิสาหกิจชุมชน” ทั่วประเทศ ปลูกกัญชา สำหรับส่งไปยังโรงพยาบาลสำหรับใช้ผลิตยา เพื่อเตรียมใช้ในคลินิกกัญชา ที่จะเกิดขึ้นในปีเดียวกัน พร้อมไปกับการปลดล็อกให้สารสกัดจากกัญชา ทั้ง THC และ CBD ไม่เป็นยาเสพติด ตามเงื่อนไขที่กำหนด เหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้สามารถนำกัญชาไปในทางการแพทย์ได้ โดยมีเงื่อนไขน้อยที่สุด ขณะที่แหล่งผลิต ที่เกิดขึ้นจะกลายมาเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบในเชิงเศรษฐกิจด้วย

ซึ่งการเปลี่ยนร่างกัญชาจากพืชสมุนไพร สู่พืชเศรษฐกิจนั้น ต้องย้อนกลับไป ในวันที่ นายอนุทิน นำกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศกระทรวง เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ฉบับที่ 2) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ให้บางส่วนของต้นกัญชาและกัญชงไม่จัดเป็นยาเสพติด

ส่วนต่าง ๆ ของกัญชาที่ไม่จัดเป็นยาเสพติด ได้แก่ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย สารสกัด CBD ที่มี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2% และกากที่เหลือจากการสกัดกัญชา ซึ่งต้องมี THC ไม่เกิน 0.2%

ประชาชน เอกชน สามารถใช้ประโยชน์จากส่วนเหล่านี้ได้ แต่มีข้อกำหนดว่าต้องได้มาจากสถานที่ปลูกหรือผลิตในประเทศ ซึ่งได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น

เมื่อสามารถนำส่วนต่าง ๆ ของกัญชามาใช้ประโยชน์ได้ทั่วไปแล้ว จึงเห็นร้านค้าจำนวนมาก นำวัตถุดิบจากกัญชามาใช้เพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการเป็นจำนวนมหาศาล จนกัญชาได้ชื่อว่าเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อย จากที่กัญชาต้องหลบเร้นอยู่ในมุมมืด การแก้กฎหมายที่ผ่านมา ทำให้เราได้มีโอกาสทานบราวนี่กัญชา ชาที่ทำมาจากกัญชา ข้าวผัดกัญชา พิซซ่ากัญชา ไปจนถึงใช้เครื่องสำอาง ที่มามีส่วนผสมของกัญชาประกอบอยู่

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีด - รอวัคซีนทางเลือก

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีดมาก่อนและยังรอวัคซีนทางเลือก คาดฉีดวัคซีนโควิดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นพ.ย.

26 พ.ย. 64 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 47 ล้านคน จากเป้าหมาย 50 ล้านคน ยังมีผู้ไม่ได้รับวัคซีนอีก 3 ล้านคน คาดว่าจะฉีดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยทุกแห่งจะเร่งรัดฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และขยายไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าว เนื่องจากผู้ไม่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิต ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนทุกชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลลดความเสี่ยงติดเชื้อ ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้

2 กระทรวง ผนึกกำลัง!! สนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการ จากอุบัติเหตุทางถนน เป็นของขวัญปีใหม่ 2565

ณ ห้องประชุมอาคารสโมสร กระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมกันในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนระหว่าง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์

โดยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมและประธานกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

นายอนุทิน กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และมีเจตนารมณ์ที่จะสร้างสังคมแห่งโอกาส ที่มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน “ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยเฉพาะการดูแลคนพิการให้เข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และได้รับการพัฒนาศักยภาพไปพร้อมกัน ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงมียุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

โดยการสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ทุกเพศภาวะและทุกกลุ่ม สร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตและการมีส่วนร่วมเป็นพลังในสังคมสำหรับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงวัย พัฒนาระบบบริการสุขภาพ ลดความเหลื่อมล้ำของคุณภาพการบริการในแต่ละระบบ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงหน่วยบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ

โดยในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในโอกาสนี้จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม สนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือแก่ผู้พิการ เพื่อให้ผู้พิการสามารถดำรงชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงกับบุคคลทั่วไป

 

‘อนุทิน’ พร้อมชะลอมาตรการคลายล็อก หลังยอดติดเชื้อโควิดกลับมาพุ่งอีกรอบ

4 มกราคม พ.ศ. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น จากคลัสเตอร์ร้านอาหาร สถานบันเทิง ระบุว่า 

เมื่อมีผู้ละเลยมาตรการ การติดเชื้อย่อมเกิดขึ้นได้ ผู้ที่ละเลย มีตั้งแต่ผู้ประกอบการ ไปจนถึงผู้มาใช้บริการ ถ้าคิดแต่เรื่องสนุก ไม่คำนึงถึงคนอื่น ก็ย่อมสร้างความเดือดร้อนให้ส่วนรวม ตอนนี้ ขอให้คิดถึงคนอื่นให้มาก ส่วนภาครัฐ ก็ต้องไล่สืบสวน ควบคุมโรคกันต่อไป น่าเสียดาย เพราะโรคนี้ มันจัดการได้ แต่ขอให้ไม่ประมาท สำหรับผู้ที่ป่วย ภาครัฐรักษาให้อยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้ใครป่วย เพราะเดือดร้อนกันหมด คลัสเตอร์ที่เกิดขึ้น ต้องไปดูว่า ทำผิดตรงไหน แล้วใครรับผิดชอบ ผับบาร์ ที่มาจดทะเบียนเปิดเป็นร้านอาหารนั้น เปิดเป็นร้านอาหารจริงหรือไม่ 

‘อนุทิน’ คาด!! โควิดพุ่งแน่หลังสงกรานต์ แต่ยังเดินหน้าโรคประจำถิ่น ตามแพทย์ชง!! 

4 เม.ย. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการห้ามเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ช่วงนี้ผ่อนคลายมาตรการออกมาเยอะ แต่ธรรมชาติของการติดเชื้อโควิด-19 คือการสัมผัส การรวมกลุ่มใกล้ชิด และการใช้ภาชนะร่วมกัน ทั้งนี้ การสาดน้ำแบบสมัยก่อนจะมีการนำมือลงไปกวนแป้งดินสอพอง ใช้มือประแป้ง และใช้ขันน้ำร่วมกัน แต่จะไปบอกว่าให้ใส่ถุงมือเล่นน้ำสงกรานต์เป็นไม่ได้อยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ทำตามประเพณี และวัฒนธรรมที่ดี จึงสามารถรดน้ำโดยไม่ต้องสาดก็ได้

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กต่ำกว่า 5 ปี จึงจะเร่งเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีเชิงรุก ไม่ต้องรอให้มาหาที่สถานบริการพยาบาล และขณะนี้ฉีดวัคซีนไปเยอะจนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอันตรายต่อร่างกาย จึงไม่ต้องมานั่งสังเกตอาการ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะนี้พบว่าติดเชื้อจำนวนมาก จึงอยากฝากให้พ่อแม่และผู้ปกครอง งดพาเด็กเล็กไปโรงพยาบาล เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลายอย่าง ส่วนคนทั่วไปยังต้องเฝ้าระวังตัวเองให้ดี จึงขอย้ำให้ฉีดวัคซีนเพราะจะป้องกันการเจ็บป่วยร้ายแรง

'อนุทิน' ไม่หวั่น!! แม้เพื่อไทยบุก 'ไล่หนู' ลั่น!! หัวใจคิดบวก เตรียมกวาด ส.ส.ศรีสะเกษยกทีม

(19 มิ.ย. 65) เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Anutin Charnvirakul” ระบุว่า คนภูมิใจไทย หัวใจคิดบวก ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน #ศรีสะเกษยกทีม #พรรคภูมิใจไทย”

สำหรับภาพที่โพสต์มี ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ปัจจุบัน และ ส.ส. ที่จะย้ายมาสังกัด และลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทยในอนาคตรวม 6 คน คือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายปวีณ แซ่จึง อดีตส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย, นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล

‘ฟลุค’ แนะ ‘หนู’ เลิกนิสัยตอบโต้มั่ว ควร ‘รับฟัง-แก้ไข’ ในทุกข้อท้วงติง

นายพชร ธรรมมล หรือ ‘ฟลุค เดอะสตาร์’ ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่คนจำนวนมากออกมาเตือนปัญหาการใช้กัญชา ทั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าฯ กทม., แพทย์, อาจารย์, นักวิชาการ, ผู้ประกาศข่าว รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นความกังวลที่เกิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงที่มี ประชาชน รวมทั้ง เด็กและเยาวชน ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ถึงกับมีข่าวว่าบางคนได้เสียชีวิตนั้น เกิดจากนโยบายกัญชาที่คิดขึ้นมาอย่างหละหลวม ไม่ได้คิดและควบคุมให้รอบคอบ 

แต่แทนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือ ‘หนู เดอะ วัคซีน กัญชา’ จะรับฟังและกลับไปหาทางแก้ไข กลับให้โฆษกออกมาโต้มั่วสวนนายภูมิธรรม แบบไม่แน่ใจว่าเมากัญชาด้วยหรือไม่ เพราะพูดไปถึงจำนำข้าวเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับพลเอกประยุทธ์ที่ยังมัวเมากับเรื่องจำนำข้าวยิ่งกว่าเมากัญชา

ทั้งนี้ หากจะย้อนหลังกันไม่นาน ประชาชนจำนวนมากจำได้ดี ว่านายอนุทินได้พูดเรื่อง ไวรัสโควิดเป็นไข้หวัดกระจอก วัคซีนเต็มแขน ซื้อแต่ชิโนแวค ราคาซื้อถูกกว่าราคาอนุมัติ แต่ไม่มีหลักฐานคืนส่วนต่าง จนถูกกระแทกในสภาว่า เกิดที่ชิโนไทย แต่ไปโตด้วยชิโนแวค และพอตอนนี้มีปัญหาจากเรื่องนโยบายกัญชาที่กระแสตีกลับเข้าปลายคางอย่างรุนแรง จนไปไม่ถูก ก็ต้องให้โฆษกออกมาโต้มั่ว

‘อนุทิน’ ติดโควิด หลังกลับจากตปท. พบ มีอาการเล็กน้อย ไม่ต้องนอนรพ.

ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ICEB) และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 170 ของสำนักงานองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE 170th General Assembly) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ (19-21 มิถุนายน 2565) เพื่อร่วมนำเสนอความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2028 (Specialised Expo) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเดินทางต่อพร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหาร UNAIDS ครั้งที่ 50 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ (21-24 มิ.ย. 65)

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและระคายคอ ผลตรวจ ATK เป็นบวก ขณะนี้แพทย์สั่งแยกตัวเพื่อความปลอดภัย 1 สัปดาห์

วันนี้ (28 มิถุนายน 2565) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางกลับจากปฏิบัติราชการต่างประเทศมาถึงประเทศไทย มีอาการเล็กน้อย คือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและระคายคอ ได้ตรวจ ATK พบผลบวก จากการสอบสวนโรคคาดว่า ได้รับเชื้อระหว่างการไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ เพราะต้องมีการพบปะ พูดคุย และสัมผัสมือกับผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามเกณฑ์ที่แนะนำก่อนการเดินทาง ทำให้ไม่มีอาการป่วย แพทย์สั่งแยกตัวเพื่อความปลอดภัย 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล สำหรับผู้ร่วมเดินทางหากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้สวมหน้ากากตลอดเวลา งดไปในพื้นที่สาธารณะที่มีผู้คนจำนวนมากและสังเกตอาการป่วย หากเริ่มมีอาการทางเดินหายใจให้ตรวจ ATK และดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top