Wednesday, 9 July 2025
POLITICS

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความยินดีกับ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ เมื่อ 22 พฤษภาคม 2565

‘เอ้ สุชัชวีร์’ โทรสายตรงยินดี ‘ชัชชาติ’ ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังทราบผลคะแนนไม่เป็นทางการนำโด่ง

เมื่อ 22 พฤษภาคม นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่ากทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ สูสีกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล ที่อันดับ 2 และ 3 ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ หลังยอมรับความพ่ายแพ้ โดยบอกว่าได้โทรศัพท์หานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพื่อแสดงความยินดี

ก็ได้คุยกัน ยินดีกับพี่เขาจริงๆ ครับ โทร.ไปแล้วก็บอกว่า ‘พี่ชัชชาติ เอ้ แสดงความยินดีกับพี่นะ สุดยอดจริงๆ มีอะไรให้เอ้ช่วยพร้อมเสมอครับ แล้วเราก็เป็นพี่น้องกัน เพราะเราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันครับ’ นายสุชัชวีร์ กล่าว

“อุตตม”  โพสต์ยินดี “ชัชชาติ” แนะ แก้ด่วนเรื่องเศรษฐกิจให้คนเมือง “ลดค่าใช้จ่ายเดินทาง - ค่าที่อยู่อาศัย” 

“ด้าน “สนธิรัตน์” ระบุ ปชต. ไม่ได้จบแค่กากบาทในคูหา ชี้คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง จะเป็นเงาตามตัว ตรวจวัดความสำเร็จในการทำงานเพื่อมหานครกรุงเทพฯ 

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ขอแสดงความยินดีกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากชาวกรุงเทพฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจากการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยกรุงเทพฯเป็นมหานครที่มีประชากรอาศัยมากถึง 10 ล้านคน เฉพาะในทะเบียนราษฎรราว 6 ล้านคน และมีประชากรแฝง อีกประมาณ 4 ล้านคน ที่มาอยู่อาศัยประกอบอาชีพ เรียนหนังสือ ฯลฯ และไม่เฉพาะแค่คนไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติ ที่เข้ามาทำงาน ทำธุรกิจ และท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีจำนวนมาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้น จึงมิใช่แค่คนกรุงเทพฯ แต่เพื่อคนไทยทุกคนด้วยเช่นกัน

นายอุตตม กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง หรือได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เป็นปัญหาเดิมๆ เช่น ปัญหาจราจร น้ำท่วม มลพิษและสิ่งแวดล้อม ที่ล้วนส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่มาตลอดหลายสิบปี ที่สำคัญปัจจุบันยังต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องต้นทุนค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่ง และคนกรุงเทพฯกำลังเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างหนัก เช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ ดังนั้นกทม.ต้องยกระดับเรื่องเศรษฐกิจขึ้นมาเป็นภารกิจหลักและเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น ช่วยหาทางลดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางให้กับประชาชน ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ทั้งสองเรื่องนี้คือต้นทุนชีวิตส่วนใหญ่ของคนเมือง นอกจากนี้ กทม.ต้องสร้างโอกาสในการหารายได้เพิ่มให้ประชาชนด้วย ซึ่งกทม.มีกลไกและทรัพยากรพร้อมที่จะทำงานในเรื่องทั้งหมดนี้อยู่แล้ว

การยกระดับเศรษฐกิจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน คือจุดเริ่มของเส้นทางที่จะสร้างให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งความหวังและความสุขของทุกคน  ขอเป็นกำลังใจให้นายชัชชาติ ในการทำงานเพื่อนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพมหานครครั้งใหม่นี้

ย้อนดูผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 10 ครั้งล่าสุด

ย้อนดูผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 10 ครั้งล่าสุด ก่อนที่ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จะทุบสถิติชนะทั้ง 50 เขต แบบแลนด์สไลด์

ส่วนผู้ว่าฯ กทม. ก่อนหน้านี้ ได้คะแนนจากชาวกรุงเท่าไหร่กันบ้าง ไปดูกันเลย

'พงศ์พรหม' ชี้!!! ผลเลือกตั้ง กทม.หนนี้ไม่พลิก เหตุคนหลากรุ่น 'เบื่อทหาร - เบื่อขวาที่เก่งแต่ปาก'

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ 'ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ครั้งนี้ สะท้อนอะไร?'

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เอาตรง ๆ ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่ได้หักปากกาเซียน

เหตุเพราะ “คนเบื่อทหาร” “เบื่อขวาที่เก่งแต่ปาก” ครับ

>> ส่วนตัว
ผู้ว่าอัศวินมีผลงานดีกว่าผู้ว่าสุขุมพันธุ์เป็นร้อยเท่า
แต่...

>> ในโลกที่เชื่อมกันหมดแล้ว
...ประชาชนต้องการคนที่เป็นคนนำทางสู่อนาคตได้ดีกว่า
...ประชาชนอยากรู้ว่าอะไรคือแนวทางเศรษฐกิจ การศึกษา นวัตกรรม การเดินทางใหม่

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ใช่เป็นการป้องกันตำแหน่งของผู้ว่าอัศวิน ต่อผู้ท้าชิง

แต่เป็นการบอกว่าคนกรุงเทพต้องการการปฏิรูป!!!

การปฏิรูปที่ทหารละเลยมาตั้งแต่วันทำรัฐประหาร

การไม่พูด ไม่ทำ ไม่ให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปการศึกษา เกษตร นวัตกรรม ปากท้อง

วัน ๆ มีแต่ข่าวทหารตีกัน ข่าวกลุ่มผู้นำรัฐบาลที่ไม่สามารถแสดงถึงการมีความรู้ ความเข้าใจต่อโลกใบใหม่ได้

วัน ๆ มีแต่อำนาจ ใหญ่โต พิธีเยอะ

>> คนรุ่นใหม่เค้าจึงไม่เอาท่าน!!

แล้วเมื่อหลาย ๆ ปีผ่านไป

คนรุ่นเก่าก็ไม่เอาท่านด้วยเช่นกัน!!

สรุปผลเลือกผู้ว่าฯ กรุงเทพ ‘ชัชชาติ’ ได้ 1.3 ล้านเสียง

‘ดร.เอ้’ รั้งอันดับ 2 ด้วยคะแนน 2.5 แสน ทิ้งห่าง ‘วิโรจน์’ 785 คะแนน ตามด้วย ‘สกลธี’ และ ‘อัศวิน’ ตามลำดับ ส่วนผลเลือก ส.ก. เพื่อไทย ได้ 19 ที่นั่ง พรรคก้าวไกล ได้ 14 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 9 ที่นั่ง

วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 01.55 น. ผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (อย่างไม่เป็นทางการ) ครบ 100% จากการนับคะแนนครบทุกหน่วยเลือกตั้ง 6,817 หน่วย มีประชาชนมาใช้สิทธิ 2,673,696 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,402,948 คน คิดเป็นร้อยละ 60.73 โดยมีผลเลือกตั้งดังนี้

1. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ ได้รับคะแนนไปทั้งหมด 1,386,769 คะแนน
2. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ 254,723 คะแนน
3. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล 253,938 คะแนน
4. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ 230,534 คะแนน
5. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครอิสระ 214,805 คะแนน
6. รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครในนามอิสระ 79,009 คะแนน
7. นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย 73,826 คะแนน

ส่วนของผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. (อย่างไม่เป็นทางการ) เมื่อเวลา 01.55 น.

พรรคเพื่อไทย ได้ 19 ที่นั่ง
พรรคก้าวไกล ได้ 14 ที่นั่ง
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 9 ที่นั่ง
กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ได้ 2 ที่นั่ง
พรรคพลังประชารัฐ ได้ 2 ที่นั่ง
พรรคไทยสร้างไทย ได้ 2 ที่นั่ง
กลุ่มอิสระได้ 2 ที่นั่ง


ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9650000048641

ตุรกียื่นข้อเสนอ รับสวีเดนและฟินแลนด์เข้า NATO หากหยุดสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในตุรกี | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.52

✨ ตุรกียื่นข้อเสนอ รับสวีเดนและฟินแลนด์เข้า NATO หากหยุดสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในตุรกี

✨ เสียสละซะ!! ‘ทูตยูเครน’ ชี้!! ชาติยุโรปควรเสียสละทางเศรษฐกิจ เพื่อกดดันการคว่ำบาตรรัสเซีย

✨ จีนฟาดกลับแรง!! บอก G7 ควรใส่ใจปัญหาของตน หยุดบังคับชาติอื่นคว่ำบาตรตามคำสั่ง

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.

‘สุรนันทน์’ กร้าว!! ปท.ต้องการชุดความคิดใหม่ ๆ ยก ‘สมคิด’ นั่งนายกฯ เหมาะสมสุดในตอนนี้

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

เมื่อวานผมเกือบลาออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย 

เรื่องที่ทำให้ผมต้องคิดตัดสินใจเช่นนั้น เป็นผลพวงจากการประชุมคณะกรรมการบริหารที่มีการถกเถียงในจุดยืนเกี่ยวกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ผมให้ความเห็นว่า หากพรรคได้รับคะแนนเสียงเพียงพอ ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 25 ที่นั่งตามกำหนดที่สามารถเสนอชื่อ ผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เสนอชื่อ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ตามที่พรรคเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ใช่พรรคขนาดใหญ่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และขอคำยืนยันว่าจะไม่ยกมือให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าในกรณีใด

มีการเสนอความเห็นพอสมควร แต่มีกรรมการท่านหนึ่ง ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม บอกข้อเสนอของผมเป็น “ปาหี่” ซึ่งผมรับไม่ได้ สำหรับถ้าอะไรจะเป็นปาหี่ ก็คือการหักหลังประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อให้ ดร.สมคิด เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นอย่างน้อยในรอบแรกของการซาวเสียงในสภาฯ พรรคควรแสดงจุดยืนที่มุ่งมั่นตามที่ประชาชนที่เลือกพรรคต้องการ

'อ.กิตติธัช' ชี้!! "ไม่เลือกเราเขามาแน่" วาทกรรมหลงยุค ที่ใช้ไม่ได้แล้ว

ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

บริบททางการเมืองวันนี้กับปี 2556 มันคนละบริบทเลย วันนั้นคนกรุงเทพฯ ยังมีความไม่ชอบใจเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย 

ทั้งจากกรณีเสื้อแดงเผาเมือง สงครามกลางเมือง กองกำลังติดอาวุธ ประกอบกับน้ำท่วมใหญ่ จำนำข้าว ฯ

หลายคนจำยอมเลือก สุขุมพันธุ์ แม้จะไม่ชอบพวกนักการเมืองสไตล์ ปชป. แต่ก็ไม่มีตัวเลือก เพราะไม่อยากเลือกฝั่งแดง

‘โรม’ รำลึกเหตุการณ์นองเลือด 'พ.ค.35/53' ย้ำเตือน!! อย่าเอา 3 ป.อยู่ในอำนาจต่อ

โฆษกก้าวไกล ร่วมรำลึกถึง 2 เหตุการณ์นองเลือดเดือนพฤษภา ปี 35 และ 53 ย้ำเตือน เคารพเจตนารมณ์คนเดือนพฤษภา ต้องไม่เอาทั้ง 3 ป. และพวกมาปกครองประเทศอีก เพราะล้วนแต่เป็นผู้มีส่วนร่วมก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดในสังคมประชาธิปไตย

เนื่องในวันครบรอบ 12 ปี การล้อมปราบประชาชนในวันที่ 19 พ.ค.53 รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผนึกกำลังขีดเส้นใต้ความล้มเหลว ขีดเส้นตายรัฐบาล ท่ามกลางสถานการณ์ที่นายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงจุดตกต่ำขนาดที่คนในพรรครัฐบาลเองยังไม่อยากจะร่วมหัวจมท้ายด้วย ในขณะเดียวกันปรากฏกระแสข่าวของความพยายามที่จะผลักดันคนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นมาแทนที่

ในวันนั้น ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนของพรรค ได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า...

"เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม เราย่อมรำลึกถึงเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างน้อย 2 เหตุการณ์ คือพฤษภา 35 และพฤษภา 53 

"พฤษภา 35 พี่น้องประชาชนจำนวนมากเสียเลือดเนื้อชีวิตเพื่อยืนยันในหลักการว่า ‘นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง ต่อต้านนายกฯ คนนอก’ พฤษภา 53 พี่น้องประชาชนจำนวนมากเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อยืนยัน ‘ขับไล่รัฐบาลที่มาจากค่ายทหาร’ ดังนั้น ไม่เป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งที่เราจะเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังเดือนสิงหาคมชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ"

เปิดขั้นตอนการลงคะเเนน เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าคูหา วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565

เวลาลงคะแนนเลือกตั้ง เวลา 08.00 - 17.00 น.

✨️ขั้นตอนก่อนหย่อนบัตร
1. ตรวจสอบรายชื่อ ต
รวจสอบรายชื่อ และลำดับที่จากบัญชีรายชื่อ ที่ประกาศไว้หน้าที่เลือกตั้ง

2. ยื่นหลักฐานแสดงตน
แสดงหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) หรือ บัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน ต่อ กปน. พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือในบัญชีรายชื่อ

3. รับบัตรเลือกตั้ง
ลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือลงที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ บัตรเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม และบัตรเลือกตั้ง ส.ก.

4. ทำเครื่องหมายกากบาท
เข้าคูหาลงคะแนนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในช่องทำเครื่องหมาย ดังนี้

- บัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สีน้ำตาล เลือกผู้สมัครได้ 1 คน
- บัตรเลือกตั้ง ส.ก. สีชมพู เลือกผู้สมัครได้เขตเลือกตั้งละ 1 คน
- หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท (X) ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วพับบัตรเลือกตั้ง

'วันชัย' เชื่อ!! รบ.ใหม่หลังเลือกตั้ง ไม่สวิงอำนาจไปสุดขั้ว แต่ต้องสร้างสมดุล ประนอมอำนาจได้กับทุกฝ่าย

นายวันชัย สอนศิริ หรือ 'ทนายวันชัย' สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก 'ทนายวันชัย สอนศิริ' หัวข้อ 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แล้วไง' ว่า...

“เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แล้วไง...

ถึงขนาดเรียกคนเสื้อแดงกลับมาบอกว่าเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ และถ้าเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง จะเป็นรัฐบาล ใครจะขวางได้ 

ก็พูดเอามันไปเรื่อยเพื่อปลุกใจตัวเองและพรรคพวกให้ดูคึกคัก เสมือนหนึ่งว่าจะได้เป็นรัฐบาลในเร็ววันนี้ อำนาจรัฐกำลังจะใกล้มือเข้ามาแล้ว 

เที่ยวปลุกคนกรุงเทพคนต่างจังหวัดไปทั่วตามประสาคนที่ละอ่อนทางการเมืองและไม่เข้าใจในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 272 เขาไม่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยึดบ้านยึดเมืองมีอำนาจรัฐแต่ฝ่ายเดียว จะแลนด์สไลด์ขนาดไหนก็เป็นรัฐบาลโดยลำพังไม่ได้ จะคุยโม้คุยโตนั่นพอได้ แต่จะเป็นจริงๆ คงไม่ได้

นับถอยหลัง เลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ 22 พ.ค.65

หมายเลข 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล กับแนวคิด “เมืองที่คนเท่ากัน” พร้อมชนกับต้นตอของปัญหา และจะทำให้ปัญหาของทุนคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม นโยบายหาเสียง ได้แก่

1. เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 60 เป็น 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มสวัสดิการเลี้ยงดูเด็กเป็น 1,200 บาทต่อเดือน เพิ่มเบี้ยคนพิการเป็น 1,200 บาทต่อเดือน 

2. ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ให้บริการวัคซีนฟรี เช่น วัคซีนโรคปอดอักเสบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก 

3. เพิ่มงบชุมชนปีละ 500,000-1,000,000 บาท ตามขนาดของชุมชน ตั้งงบประมาณ 200 ล้านบาทในการพัฒนากรุงเทพฯ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าจะนำไปพัฒนาด้านใดบ้าง

4. สร้างที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง 10,000 ยูนิต ภายใน 4 ปี ให้คนกรุงเทพฯ เช่าได้ระยะยาว 30 ปี 

5. จัดให้มีรถเมล์คุณภาพ ทำตั๋วคนเมืองที่จ่ายในราคา 70 บาท แต่สามารถใช้เป็นค่าโดยสารได้ 100 บาท ผลักดัน “ตั๋วร่วม” ขึ้นรถไฟฟ้าในราคา 15-45 บาทได้ตลอดสายแบบไร้รอยต่อ 

6. ขึ้นค่าเก็บขยะห้างใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 เท่าของที่จ่ายอยู่ในปัจจุบัน เพื่อนำไปปรับปรุงการเก็บขยะครัวเรือน ปรับปรุงจุดทิ้งขยะทั่วกรุงเทพฯ และแก้ไขกลิ่นเหม็นจากโรงงานขยะ

7. ลงทุนศูนย์ดูแลเด็กเล็กศูนย์ละ 5 ล้านบาท ยกระดับให้มีคุณภาพเทียบเท่าเอกชนจัดให้มีครูสำหรับเด็กพิเศษที่พัฒนาการช้า เพิ่มศูนย์รับเลี้ยงเด็กที่ยังขาดแคลนรวมถึงดูแลสวัสดิการครูและพี่เลี้ยงเด็กต้องมีสัญญาจ้างงานประจำ 

8. ด้านการศึกษา เสนอตัดวิชาที่ไม่จำเป็นออก เพิ่มการเรียนรู้นอกห้องเรียน ทำให้เป็นโรงเรียนปราศจากการรังแก (Bullying-Free School)

9. ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง เปลี่ยนงบประมาณอุโมงค์ยักษ์ปีละ 2,000 ล้านบาท เป็นงบปรับปรุงระบบระบายน้ำเพื่อให้ระบายได้เร็วขึ้น 

10. เปลี่ยนที่รกร้างเป็นสวนสาธารณะ ออกข้อบัญญัติให้หน้าอาคารที่จะก่อสร้างใหม่ทุกแห่งต้องมีพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ได้ และเปิดพื้นที่สาธารณะให้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับการชุมนุม

11. ทางเท้าดี เท่ากันทั้งกรุงเทพฯ ให้ประชาชนเป็นพยานตรวจรับงาน หากมีการขุดทางต้องคืนกลับมาในสภาพดีเหมือนเดิม ทางเท้าที่แคบกว่า 3.2 เมตร ห้ามตั้งแผงลอย แต่หาพื้นที่ใกล้เคียงให้ค้าขาย และทางม้าลายต้องปลอดภัย

12. เจอส่วยแจ้งผู้ว่าฯ สร้างกรุงเทพฯโปร่งใส ไร้คอร์รัปชั่น การขอใบอนุญาตให้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้บุคคลที่สาม (Third Party) ประเมินการขอใบอนุญาตและตรวจรับงาน

หมายเลข 3 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ สโลแกน “กทม.More ทำกรุงเทพฯ ให้ดีกว่านี้ได้” กับนโยบายหลัก 6 ด้าน ได้แก่...

1.ยกระดับศูนย์สาธารณสุข 69 ศูนย์ และสำนักอนามัยให้ครอบคลุมการบริการอย่างทั่วถึง เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง

2.โรงเรียนคุณภาพใกล้บ้าน เพิ่มหลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาจีนในโรงเรียนปรับให้เป็นโรงเรียน 2 ภาษา จัดตั้งโรงเรียนผสมและเฉพาะทาง มีหลักสูตรเรียนตามความถนัดหรือความชอบ เช่น โปรแกรมเมอร์ ดนตรี ภาพยนตร์ โภชนาการอาหารฟรี มีหลักสูตรหลังเลิกเรียนเพื่อเพิ่มทักษะการใช้ชีวิตและหารายได้เสริม โดย กทม.สนับสนุนประสานภาคเอกชน

3.เชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ล้อ ราง เรือ Free Feeder ทั่วเมือง ระบบตั๋วเชื่อมที่ใช้ได้ทุกเส้นทาง เพิ่มความปลอดภัยด้วยการกำจัดจุดเสี่ยงจราจร นำเทคโนโลยี Ai มาควบคุมระบบการจราจรให้การปล่อยรถเป็นระบบมากขึ้น

4.บริการ Free WiFi ทุกชุมชนและที่สาธารณะ ขอยื่นพิจารณาการอนุญาตต่างๆ จบในที่เดียวภายในเวลาไม่เกิน 30 วันด้วยระบบ AI

5.ลด แยกขยะ จัดแนวทางการเก็บขยะเพื่อเตรียมเป็น กทม. Net Zero จัดระเบียบ Zoning อุตสาหกรรม พาณิชย์ ที่อยู่อาศัย จัดทำสวนทุกเขตพร้อมนักรุกขกรมืออาชีพเพื่อดูแลต้นไม้ใหญ่ทั่วเมือง สนับสนุนปลูกต้นไม้หักภาษีทั่วเมือง ทำบึงหนองบอนให้เป็นกีฬาทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดของ กทม. เสนอสร้าง 50 สวน 50 เขต เพิ่มจำนวนกล้องซีซีทีวีให้ครอบคลุม ลดจุดบอด จุดอับ จัดทำโครงการ Smart pole เสาไฟที่ให้มากกว่าความสว่าง มีเครื่องวัดคุณภาพอากาศ กล้องวงจรปิด เพิ่มสถานีดับเพลิง ปรับปรุงสาธารณูปโภคเอื้อต่อผู้พิการ ผู้ใช้รถเข็น ผลักดันโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำด้วยวิธีดันท่อลอด pipe jacking เพิ่มเติม เพื่อประสิทธิภาพการระบายน้ำในกรุงเทพฯ รวมถึงอุโมงค์ระบายน้ำต่างๆ

6.การหารายได้เข้ากรุงเทพฯ สร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์ที่ไม่พัฒนา แปลงสินทรัพย์เป็นทุน เช่น เปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ของ กทม. เพื่อให้ กทม.มีรายได้เข้ามาบริหารเมือง นอกจากรองบกลางจากรัฐบาล เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง จัดระบบงบดุลใหม่ ตั้งกองทุน Social Impact Fund โดยซักชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนเพื่อผลตอบแทนทางสังคม จับมือเอกชนเพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่แปลงให้เป็น BOT (Build Operate Transfer) ทุกโครงการโปร่งใส ใช้ระบบ Blockchain และจัดกิจกรรมท่องเที่ยว ถนนคนเดิน 50 เขต ทุกเขตตามอัตตลักษณ์ชุมชน พิจารณาส่งเสริม Street food ไม่กระทบต่อการเดินเท้า ส่งเสริมสนับสนุนเพิ่มโอกาสจ้างงานผู้พิการ และส่งเสริมอาชีพคนพิการ

 

หมายเลข 4 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ กับสโลแกน “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” เปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสวัสดิการที่ดูแลประชาชนเป็นเมืองที่มีความทันสมัย และเป็นเมืองต้นแบบแห่งอาเซียน โดยได้เสนอนโยบาย ได้แก่...

1. ตั้งกองทุนเพื่อการจ้างงานชุมชนในทุกชุมชน

2. ติดตั้งอินเทอร์เน็ตไวไฟ (Wi-Fi) 150,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ

3. จัด 12 เทศกาลใหญ่ และ 50 เทศกาลเขต เพื่อให้กรุงเทพฯ มีรายได้จากการท่องเที่ยว

4. ส่งเสริมศูนย์บริการสาธารณสุขให้มีอุปกรณ์การแพทย์ทันสมัย และมีแพทย์เฉพาะทางประจำการ-โรงเรียนดี อยู่ใกล้บ้าน มีโรงเรียนประจำเขต 50 เขต 50 โรงเรียนสาธิต หลักสูตรการเรียนรู้ขั้นต่ำ 2 ภาษา รู้โคดดิ้ง รู้ AI และมีครูที่ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

5. ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เอไอควบคุมสัญญาณไฟจราจร เอาเกาะกลางถนนออกเพิ่มช่องจราจร

6. สร้างทางเท้าที่มีมาตรฐานสากล สร้างทางจักรยานลอยฟ้า เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถขี่รถจักรยานไปทำงานได้

7. สร้างแก้มลิงใต้ดิน ใช้เครื่องสูบน้ำแบบอัตโนมัติ แก้ปัญหาการระบายน้ำ

8. ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดมลพิษทางอากาศบริเวณที่มีการก่อสร้าง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดสำหรับการก่อสร้างที่สร้างมลพิษเกินมาตรฐาน ประกาศสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 ระงับการให้บริการรถโดยสารที่สร้างมลพิษเกินค่ามาตรฐาน

9. ส่งเสริมการแยกขยะในครัวเรือน จัดจุดบริการขยะแลกเงินไม่ให้มีขยะตกค้าง

10. เปลี่ยนพื้นที่รกร้างของเอกชนเป็นสวนสาธารณะฉบับกระเป๋า หรือ Pocket Park ให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ ลดภาษีที่ดินให้กับเอกชนที่ให้ กทม.ได้เข้าใช้พื้นที่

หน.รวมไทยยูไนเต็ด ยก ‘ชัชชาติ’ คนของประชาชน วอนหยุดสร้างวาทกรรม สร้างความเกลียดกลัว

หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด มั่นใจ ‘ชัชชาติ’ เป็น “คนของประชาชน” จะพากรุงเทพ ก้าวข้ามความแตกแยก ขอหยุดปลุกระดมความเกลียด กลัวโยงขั้วการเมืองระดับชาติ ที่ทำลายความหวัง กทม.

วันที่ 20 พ.ค. 2565 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Voranai Vanijaka-วรนัยน์ วาณิชกะ เรื่อง “ก้าวข้ามความแตกแยก : Man of the People” โดยระบุว่า ตนรู้จักคน Gen X ยัน Baby Boomer เยอะมาก ที่ทั้งชีวิตลงคะเเนนเสียงให้ขั้วอนุรักษ์นิยม ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าและทั้งชีวิตของพวกเขา ก็คงลงคะแนนเสียงให้ขั้วอนุรักษ์นิยม แต่การเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้ พวกเขาจะลงคะแนนเสียงให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

เหตุผลคือ พวกเขาไม่ไหวแล้วที่เมืองหลวงของเราจะต้องหยุดชะงักและพังอย่างต่อเนื่อง เพราะการบริหารไม่เอาไหน ซึ่งสืบทอดมาจากการที่กรุงเทพตกเป็นเหยื่อในสนามรบของขั้วการเมืองระดับชาติ ที่ต่อสู้กันบนความเกลียดและความกลัว กรุงเทพจะเดินไปข้างหน้าได้ ผู้ว่ากรุงเทพต้องเป็นคนที่ก้าวข้ามความแตกแยก ก้าวข้ามขั้วการเมือง

ตนพักอาศัยอยู่แถวบ่อนไก่ ข้างหน้าคือถนนวิทยุ ตรงข้ามคือสวนลุมพินี นายชัชชาติมักจะมาวิ่งตอนเช้าในสวนลุมพินี และแวะเข้ามาที่สโมสรกีฬาในบ่อนไก่ ตนได้พูดคุยกับชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบนายชัชชาติมาก อัธยาศัยดี เป็นกันเอง ใส่ใจ ถามทุกข์สุขตลอด ตนพูดว่า “ก็เขาหาเสียงอยู่นิ” ชาวบ้านก็บอกผมว่า เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลายปีแล้ว

นั่นหมายความว่า ในบรรดานักการเมืองในประเทศนี้ มีไม่กี่คนหรอก ที่จะพูดได้ว่าเป็น Man of the People (คนของประชาชน) ที่แท้จริง หนึ่งในนั้นคือ นายชัชชาติ และสิ่งที่กรุงเทพต้องการ ไม่ใช่ขั้วการเมือง แต่เป็น Man of the People

‘ทนายอาร์ม’ พรรคกล้า เปิดรับเรื่องผู้ปกครอง หลังเกิดเหตุสลด ‘น้องโบนัส’ ยันเด็กต้องได้เรียนฟรี

‘ทนายอาร์ม’ พรรคกล้า เปิดรับเรื่องผู้ปกครอง กรณีโรงเรียนเรียกเก็บเงินการศึกษาภาคบังคับ ส่งศาล รธน.วินิจฉัย ขัดมาตรา 54 หรือไม่

นายพงศธร สุวรรณรักษา (ทนายอาร์ม) อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง จ.สงขลา พรรคกล้า กล่าวถึงการเสียชีวิตของน้องโบนัสเด็กหญิงวัย 14 ปี ชั้นม.2 โรงเรียนสตรีพัทลุง โดยแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากปัญหารุมเร้าจากครอบครัว และไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมเรียนต่อ ขณะที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง บอกว่า รัฐต้องดําเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดกันมาโดยตลอด

“วันนี้ผู้ปกครองท่านไหน ที่ลูกต้องเรียนการศึกษาภาคบังคับ และยังต้องจ่ายเงินให้โรงเรียน ให้ยื่นเรื่องมาที่ผม เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยว่า การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นใดของโรงเรียนนั้นๆ ชอบหรือมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่

เคลื่อน 5 ยุทธศาสตร์ สานต่อนโยบายเพื่อประชาชน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมขับเคลื่อน 5 ภารกิจหลัก ประกอบด้วย
1. ด้านกิจการสัมพันธ์ 
สร้างความคุ้นเคยของเหล่าสมาชิกพรรคทุกระดับ พร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง 
2. ด้านการพัฒนาพรรค
เพิ่มผลงานให้ ส.ส. และผู้สมัครในอนาคต
3. ด้านเศรษฐกิจท้องถิ่น 
คิดค้นรูปแบบการทำกินแบบใหม่ๆ ช่วยให้ประชาชนมีอาชีพทำกินต่อไปได้
4. ด้านการสร้างการมีส่วนร่วม
สร้างกิจกรรมกับบุคคลภายนอกผ่านกิจกรรมแบบจิตอาสา
5. ด้านสื่อประชาสัมพันธ์และการข่าว
เพิ่มความน่าเชื่อถือในพรรค และสามารถต่อต้านข่าวที่ทำลายภาพลักษณ์ของพรรคได้


ที่มา : พรรคพลังประชารัฐ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top