Wednesday, 4 December 2024
POLITICSQUIZ

กรณ์ ไลฟ์สร้างความเชื่อมั่น ชวนคนลงทะเบียน "ฉีดวัคซีน" สร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ ฟื้นคืนชีพเศรษฐกิจไทย

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij’ เชิญชวนประชาชนมาลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ โดยระบุว่า การฉัดวัคซีน เป็นทางออกของประเทศ เนื่องจากขณะนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้ลดลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน เกิดเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ เราต้องยอมรับว่า โควิดนี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน การฉีดวัคซีนนั้น ไม่ใช่แค่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนที่เรารักด้วย ถ้าเราฉีดกันมาก ๆ ก็จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ เพื่อให้ร้านค้าสามารถเปิดได้ เพื่อให้ธุรกิจเล็ก ๆ ไม่ตาย ทุกคนออกไปใช้ชีวิตกันแบบเดิมได้ เราจะหลุดพ้นออกจากสภาพนี้ได้ ก็ต่อเมื่อได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นการลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญกันมาก

“ในต่างประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนกันไปเยอะแล้ว ทุกอย่างกลับมาสู่ความเป็นปกติ ยกตัวอย่างที่ประเทศอังกฤษ ก็ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา อย่างน้อย 1 โดส ไปกว่าครึ่งของประชากร และหนึ่งในสี่ที่ได้รับ 2 โดส หรือ 25% ซึ่งความจริงโดสแรกก็จะได้รับการคุ้มครองสูงถึง 90% แล้ว โดสสองเพียงแค่ต่ออายุการคุ้มครองวัคซีนไปเท่านั้น ซึ่งขณะนี้คนอังกฤษก็สามารถออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติ การทำมาค้าขายก็เริ่มดีขึ้น เช่นเดียวกับอเมริกาที่ฉีดเข็มแรกให้กับประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ หรือ 34% สถานการณ์โดยรวมก็เริ่มดีขึ้น และคาดว่าจีดีพีของประเทศจะโตถึง 10% ได้” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยวัคซีนล็อตแรก คือแอสตราเซเนกา ก็ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามีมาตรฐานคุณภาพที่ดี และจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จึงอยากเชิญชวนทุกคน ใครที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะลงทะเบียนได้ก็ช่วยกันชี้แจงญาติผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เข้าเกณฑ์ ให้สบายใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม จากสำรวจพบว่ามีประชาชนมาลงทะเบียนยังไม่ถึง 2 ล้านคน จากผู้มีสิทธิประมาณ 12 ล้านคน ไม่รวมผู้มีโรคประจำตัว 7 ชนิด อีกหลายล้านคน ทั้งนี้

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า เหตุผลที่ประชาชนยังไม่กระตือรือร้นมีเหตุผลหลักคือ

1.) กลัวผลข้างเคียงเนื่องจากมีข่าวออกมามาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมาทบทวนว่า อย่างน้อยการฉีดวัคซีนก็ปลอดภัยกว่าการติดเชื้อที่มีผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทุกวัคซีนที่ใช้ในการฉีดก็ล้วนได้รับความไว้วางใจจากผู้นำทั่วโลกในหลายประเทศจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราคลายความกังวลได้ถึงอันตรายจากผลข้างเคียง โดยผู้นำที่ได้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาได้แก่ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ ไต้หวัน ส่วนผู้นำที่ฉีดวัคซีน ซีโนแวค ได้แก่ นายกรัฐมนตรีไทย อินโดนิเซีย ฮ่องกง ชิลี ตุรกี

2.) การตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไรดี ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีหลักวิทยาศาสตร์ที่ต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือลดโอกาสในการติดเชื้อ และลดการแพร่ระบาด ส่วนผู้ที่ติดแล้วเป้าหมายเดียวกันคืออาการไม่หนักจนกระทั่งต้องเข้าไอซียู อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างเวลานี้คือการขึ้นทะเบียนที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้สูงอายุ และจากการสำรวจพบว่าคนในชนบทบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการลงทะเบียน เรื่องของการสื่อสารจึงเป็นเรื่องสำคัญ และไม่ควรจะพึ่งพาเฉพาะรัฐเท่านั้น ทุกคนสามารถช่วยกันสื่อสารบอกต่อกันได้

นายกรณ์ ยังได้ถอดประสบการณ์ สองจังหวัดที่ประสบความสำเร็จจากการขึ้นทะเบียนและเข้ารับการฉีดวัคซีนคือจังหวัดลำปาง และภูเก็ต โดยเฉพาะที่ จ.ลำปาง ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดคือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรือ “ผู้ว่าหมูป่า” รณรงค์ให้ประชาชนมาขึ้นทะเบียนได้แล้วกว่า 220,000 คน เทียบกับจังหวัดอื่นส่วนใหญ่ที่มีการขึ้นทะเบียนเพียงหลักพันคน ลำปางมีประชากร 730,000 คน ซึ่งมีอายุในเกณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนได้ (เกิน 60ปี) 170,000 คน ดังนั้นโดยตัวเลขหมายถึง มีผู้มีโรคประจำตัวอีกราว ๆ 50,000 คน

“ทำไมลำปางทำได้ ในขณะที่จังหวัดอื่นทำไม่ได้ แม้แต่กรุงเทพที่มีประชากรมากกว่าลำปางถึง 8 เท่า การเข้าถึงข้อมูล รวมถึงตัวเลขสัดส่วนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสูงกว่ามาก แต่กลับมีผู้ขึ้นทะเบียนมากกว่าลำปางเพียงเท่าเดียว ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ทำอย่างไร นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบศึกษา เพื่อแนะแนวให้กับทุกจังหวัดได้เรียนรู้และปฏิบัติตาม เพราะการฉีดวัคซีนโดยเร็วคือทางออกของประเทศ และเป็นความหวังของประชาชนที่เดือดร้อนหนักหนาสาหัสจากผลกระทบโควิดระลอกที่ 3 นี้ ส่วนที่ จ.ภูเก็ตก็จัดลำดับขั้นตอนการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าสองจังหวัดทำได้ ทุก ๆ จังหวัดก็ต้องทำให้ได้ครับ” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ ก่อนวัคซีนจะมาถึง ตนยังเชื่อว่าทำได้ แต่ดูจากสถานการณ์วันนี้แล้ว ต้องเร่งอีกมาก เนื่องจากมีคนเดือดร้อนกันมาก ถ้าเรายังลังเลและรอให้คนอื่นฉีดก่อน ก็จะไม่ทำให้เราเข้าสู่เป็นปกติในการดำรงชีวิตได้ จึงอยากให้การฉีดวัคซีนเป็นหน้าที่ในฐานะประชากรที่ดีคนหนึ่ง เรื่องการทะเลาะกันในเรื่องวัคซีน มันผ่านไปแล้ว มันเป็นเพียงข้อบกพร่องในอดีต อยากให้ทำหน้าที่ในปัจจุบันให้ดี และมองไปอนาคต หน้าที่ของรัฐเวลานี้คือ รณรงค์ให้คนมาฉีดวัคซีน ส่วนหน้าที่ของประชาชน คือเตรียมความพร้อมในการไปรับวัคซีน ที่สำคัญคือสร้างความเชื่อมั่นจากการสื่อสารที่ชัดเจนต่อเนื่อง เราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน


ที่มา : https://fb.watch/5pO-rZArBf/

'บิ๊กป้อม' คุมเข้มแก้ค้ามนุษย์   ประชุม ปคม. สั่งเร่งขับเคลื่อนมาตรการ ปก./ปราบปราม/เยียวยาผู้ถูกกระทำ  ให้กำลังใจ จนท.ทำงานระวังโควิด-19  เน้นสร้างความเข้าใจ ปชช.  ย้ำจนท.รัฐห้ามยุ่งเกี่ยวรับผลประโยชน์ เด็ดขาด  มุ่งขจัดการค้ามนุษย์ ให้หมดสิ้นไป  ยกระดับส

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564  พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่าวันนี้ เวลา10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 2/2564  ณ  ห้องประชุมวิจิตรวาทการ  สมช. ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ รายงานผลการดำเนินงานของ ปคม.ซึ่งมีความคืบหน้า ตามแผนงาน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา จัดระดับประเทศไทยในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ประจำปี2564 โดย กระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งรายงานแล้ว เมื่อ 2 เม.ย.64  ซึ่งประเทศไทยได้พยายามแก้ปัญหา และตั้งเป้า ยกระดับสู่เทียร์ 1 ในปีนี้

พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า การค้ามนุษย์ ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องมุ่งมั่น ร่วมมือกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการป้องกัน การล่อลวง การละเมิดทางเพศกลุ่มเปราะบาง เด็กและสตรี ในสื่อออนไลน์ รวมทั้งการเยียวยาผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์ และให้เร่งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการติดตามการลักลอบผู้โยกย้ายถิ่น และการติดตามนำเงินที่ได้จากการยึด อายัดทรัพย์ไปเยียวยาผู้เสียหาย พร้อมกำชับ การบริหารจัดการกองทุนเพื่อปกป้องและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ต้องมีความโปร่งใส ให้ความสำคัญกับการจัดทำรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอให้มีการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชน ได้รับทราบการดำเนินงาน ของรัฐบาล อย่างต่อเนื่องโดยทั่วกัน

พล.อ.ประวิตร  ยังได้กล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนราชการ ที่เสียสละ ทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาลด้วยดี ที่ผ่านมา พร้อมกำชับไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวหาผลประโยชน์ ในการนำพา ช่วยเหลือลักลอบ โดยเด็ดขาด เพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย และได้แสดงความห่วงใยขอให้ระมัดระวัง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วย

บิ๊กป้อม สั่ง ศปฉ.พปชร. ระดม ช่วยชาวบ้าน สู้โควิด-19  เกาะติด คลัสเตอร์คลองเตย เร่ง บรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ  อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชาชนจะจัดตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 พปชร. หรือ ศปฉ.พปชร. เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการติดเชื้อ แต่ไม่มีเตียงในการรักษา และนำส่งโรงพยาบาลให้รวดเร็วเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนแล้ว ยังได้ระดมสรรพกำลังส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้ความช่วยเหลือถึงมือพี่น้องประชาชนมากที่สุด  เช่น การมอบเครื่องอุปโภค บริโภค  อุปกรณ์ในการป้องกันตนเอง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์  เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ  เป็นต้น  โดยกำชับให้การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ในการเว้นระยะห่างทางสังคม  

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเราพูดจริง ทำจริง โดยขณะนี้ส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐได้เดินหน้าลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแล้วหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาต่างๆต่อเนื่อง   ส.ส.จักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. ผู้แทนศูนย์ช่วยประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศปฉ.พปชร) ได้ร่วมกับคณะ มอบหน้ากากอนามัย จำนวน 25,000 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ ให้กับโรงพยาบาลศิริราช  น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร แจกหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ และมอบอาหารสดให้กับชุมชนคลองตาปลั่ง ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี มอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและของกินของใช้ให้กับโรงพยาบาลสนาม ที่วิทยาลัยพยาบาลพร้อมบริการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ให้กับอบต.และเทศบาลในพื้นที่ราชบุรี นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางแค ได้มอบแท่นกดเจลแอลกอฮอล์ในชุมชนนิรันดร์คอนโด นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา จัดรถเตรียมรับส่งผู้ป่วย และลงพื้นที่มอบอาหารสดอาหารแห้งชุมชนคลองอู่ตะเพา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นาย ฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ ลงพื้นที่มอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งรถฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ให้กับชุมชนอ.พระปะแดง จ.สมุทรปราการ รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช มอบเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ และหน้ากากอนามัยให้กับตัวแทนอสม. นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา ลงพื้นที่อ.ประทายมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ช่วยเหลือผู้ให้ความร่วมมือกักตัวในบ้านพักเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารสุข เป็นต้น พร้อมกันนี้บรรดาส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรคยังได้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย

และขณะนี้พื้นที่ที่สังคมกำลังกังวลใจเป็นอย่างมากคือชุมชนคลองเตย ซึ่งมีการแพร่เชื้อติดต่อเป็นวงกว้างจากความเป็นอยู่ของชุมชนแออัดที่เป็นพื้นที่แออัดที่สุดในประเทศไทยนั้น ทาง น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม.เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ  ได้ลงพื้นที่ทั้งฉีดพ่นฆ่าเชื้อ มอบสิ่งของจำเป็นกับผู้เดือดร้อน สื่อสารข้อมูลประสานงานทุกอย่างให้พี่น้องในชุมชน พร้อมเข้าสำรวจพื้นที่บริเวณการท่าเรือ ลงพื้นที่ให้กำลังใจช่วยเหลือ ณ จุดฉีดวัคซีนโลตัสพระราม4  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

“ภาวะวิกฤติเช่นนี้ นักการเมืองมีส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนการปฏิบัติของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้ ด้วยการเสริมการป้องกันให้กับพี่น้องประชาชน การอำนวยความสะดวกและการช่วยประสานงานเพื่อไม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่การนั่งเพียงนั่งอยู่ในห้องแอร์ วิจารณ์อยู่หน้าจอ ทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่  ซึ่งต้องร่วมมือกันฝ่าวิกฤติไปให้ได้ ไม่ใช่คอยฉกฉวยโอกาสฉุดรั้ง การแก้ไขปัญหาจนวิกฤติเกินแก้ไข” น.ส.ทิพานัน กล่าว

สงกรานต์ปีนี้คนไทย.....อยากทำอะไร? | PoliticsQuiZ EP.5

PoliticsQuiZ พาทุกคนมาสำรวจความคิดเห็นคนไทยบางส่วน ว่าหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ พวกเขามีแผนอยากจะทำอะไรกัน!!

.

.


สนับสนุนโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ . #THESTATESTIMES #PoliticsQuiZ

กลาโหมฯ จัดกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม พร้อม นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมให้กำลังใจกำลังพลและข้าราชการที่บริจาคโลหิต

พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานในการจัดกิจกรรมการช่วยเหลือประชาชน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 134 ปี  ณ บริเวณลานภูธเรศ ชุมชนแพร่งภูธร โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ชุมชนโดยรอบศาลาว่าการกลาโหมเข้าร่วมกิจกรรม สำหรับการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การบริจาคโลหิตสำหรับประชาชนในชุมชน

การบริการตัดผมให้กับประชาชน การมอบยาสามัญประจำบ้าน การมอบถังดับเพลิง และดวงไฟส่องสว่าง การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมว การสาธิตการทำเจลล้างมือ โดยวิทยากรจิตอาสา 904 การมอบถุงยังชีพให้กับผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ชุมชน ซึ่งปลัดกระทรวงกลาโหมได้เดินมอบตามบ้านให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงด้วยตนเอง  นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีอีกด้วย 

ซึ่งกิจกรรมการช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ให้ชุมชนในพื้นที่โดยรอบศาลาว่าการกลาโหม ได้รับทราบถึงความเป็นมา และความสำคัญของวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม รวมถึงได้รับทราบถึงความรักความห่วงใยที่มีร่วมกัน ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กับประชาชนโดยรอบศาลาว่าการกลาโหม ซึ่งจะก่อให้เกิดความรักความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีระหว่างทหารกับชุมชนต่อไป

และในวันเดียวกันสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 134 ปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ ห้องพินิตประชานาถในศาลาว่าการกลาโหมซึ่งกิจกรรมดังกล่าว มี คุณรมิดา อินทรเจริญ นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางมาให้กำลังใจกำลังพลและข้าราชการของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ร่วมบริจาคโลหิต

ชินวรณ์ ฝากการบ้าน รมว.ศธ.คนใหม่ 5 ข้อ ขอให้ทำทันที

30 มีนาคม 2564 นายชินวรณ์ บุญญเกียรติ ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความยินดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง พร้อมทั้งชื่นชมการประกาศ 12 นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และ 7 มาตรการเร่งด่วน ที่นับได้ว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีและตรงกับสถานการณ์และสภาพปัจจุบันปัญหาการศึกษาของประเทศในขณะนี้

"ขอเป็นกำลังใจและให้กล้าตัดสินใจเดินหน้าอย่างจริงจัง การศึกษาไม่มีเวลาให้ใครมาลองผิดลองถูกอีกต่อไป และขอให้ระวังกับดักของข้าราชการระดับสูง (ยกยอ ปอปั้น หาผลประโยชน์) เหมือนรัฐมนตรีหลายท่านที่ผ่านมา" นายชินวรณ์กล่าว 

พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า นอกจาก 12 นโยบาย 7 มาตรการเร่งด่วนแล้ว ตนในฐานะเป็นอดีต รมว ศธ. เป็นสส. และเป็นรองประธานกรรมการขับเคลื่อน พรบ.การศึกษาแห่งชาติภาคประชาชน ขอเสนอให้ทำทันที 5 ประการ  

1.) เร่งรัดให้ ครม. เสนอ พรบ. การศึกษาแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กฤษฏีกาและตัวแทนครูร่วมกันพิจารณา

2.) เรียกขวัญกำลังใจครู นักเรียน กลับมาโดยการเดินหน้าทำงานหนักและชูธง 12+7+5 ทันที 

3.) สั่งสอบสวนกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน สก.สค. และย้ายเลขาธิการและคณะไปประจำ สร. เพื่อความยุติธรรมทันที

4.) สั่งสอบสวนกระบวนการหาผลประโยชน์จากการสั่งซื้อหนังสือเรียนไม่ครบ และหาผลประโยชน์จากการใช้งบเหลือจ่ายงบ 63 และงบปี 64 หลายพันล้านของ สพฐ.  และย้ายเลขาธิการและคณะเพื่อความยุติธรรมทันที 

5.) สั่งสอบสวนกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งโดยเฉพาะกรณีการแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา (ไร่ขิง) 

"ผมเชื่อมั่นในความตั้งใจของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ เพื่ออนาคตลูกหลานของเราเดินหน้าเถอะครับ" นายชินวรณ์กล่าวในที่สุด

“รมว.ทส.”แจง กก.มรดกโลก เตรียมพิจารณา วาระเสนอป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก กลางเดือน ก.ค.นี้ พร้อมยัน! ดับไฟป่า อ.สะเมิงได้แล้ว แต่ต้องตรวจสอบสภาพอากาศเอื้อเกิดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 หรือไม่

วันที่ 30 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีที่ยูเนสโก ชะลอการพิจารณาขึ้นทะเบียนป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ว่า ยูเนสโกประชุมและได้กำหนดวันประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเรื่องป่าแก่งกระจานเป็นวาระหนึ่งที่จะนำเข้าสู่การพิจารณา แต่ข่าวที่ออกมาอาจจะมีความเข้าใจคาดเคลื่อนในการนำเสนอของสื่อ ทั้งนี้หากยูเนสโกต้องการสอบถามข้อมูลอะไรเราพร้อมตอบ เรื่องนี้เราทำเองมาตั้งแต่ต้นบางครั้งคนที่อยู่ในระยะไกลได้ข้อมูลที่ไม่ครบว่าสามารถตอบคำถามคณะกรรมการได้ครบถ้วน

ผู้สื่อข่าวถามต่อ กรณีชาวเมียนมาอพยพเข้ามาอาศัยในพื้นที่อุทยานฯ จำนวนมาก นายวราวุธ กล่าวว่าเท่าที่ทราบมีผู้อพยพเข้ามาเป็นหลักพันแต่มั่นใจว่าควบคุมได้โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ตรวจตราตลอดเวลา และเรื่องนี้เกี่ยวกับด้านนโยบายจึงต้องหารือฝ่ายความมั่นคงก่อนว่าจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร ส่วนกรมอุทยานฯ จะควบคุมพื้นที่ไว้ก่อนจะไม่ให้เกิดการกระจายตัวของกลุ่มคนและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ยังให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีไฟป่าอ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ล่าสุดว่าสามารถดับไฟได้เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏออกมานั้นยอมรับว่าน่ากลัวมาก ทั้งนี้พื้นที่ อ.สะเมิง มีความลาดชันสูง และ มีพื้นที่ที่เป็นหินอยู่บางส่วนทำให้เจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดับไฟทำงานได้ยาก จึงต้องใช้วิธีดับไฟที่เรียกว่าใช้ไฟดับไฟ คือการจุดเป็นแนวกันไฟขึ้นมา แล้วใช้ไฟนั้นไล่กลับเข้าไป จึงทำให้ภาพที่ออกมาเห็นว่ามีปริมาณเพลิงสูง ยืนยันว่าขณะนี้สามารถดับไฟได้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามว่า ต้นเหตุของไฟเกิดจากฝีมือมนุษย์หรือธรรมชาติ นายวราวุธ กล่าวว่า โอกาสที่จะเกิดไฟป่าตามธรรมชาติในประเทศไทยมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์  ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นด้วยความตั้งใจ หรือบางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ คือบางคนอาจจะเผาเพียงแค่พื้นที่ส่วนหนึ่ง แต่ไฟลุกลามจนเกิดสถานการณ์อย่างที่เราเห็น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุให้กระทรวง ทส. ต้องร่วมมือกับ ภาคเอกชนและประชาชน ดำเนินการเก็บเชื้อเพลิงต่างๆ ในโครงการชิงเก็บก่อนเผา แต่ไม่วายก็ยังเกิดสถานการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเสียใจ และต้องขออภัยชาว จ.เชียงใหม่ ที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ได้จัดกำลังพลเตรียมรับมือกับสถานการณ์ 

เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว จะทำให้ปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จะต้องขอตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าทางภาคเหนือมีสภาพลมเป็นอย่างไรถ้ามีลมแรงก็จะสามารถพัดพาฝุ่นเหล่านี้ไปกระจายไปตามพื้นที่อื่นได้ แต่หากมีสภาพอากาศกดทับ ก็จะทำให้พีเอ็ม 2.5 รุนแรงขึ้น 

กระทรวงแรงงาน รับข้อเสนอ ทางการเมียนมา เตรียมจัดตั้งศูนย์ CI ในประเทศไทย 5 แห่ง

คณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) เสนอขอจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) ของทางการเมียนมาในประเทศไทย จำนวน 5 แห่ง และศูนย์บริการเคลื่อนที่แก้ปัญหาหนังสือเดินทางคนต่างด้าวทยอยหมดอายุ เนื่องจากไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อต่ออายุได้

วันที่ 24 มีนาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 2/2564  โดยมีนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม  ณ ห้องประชุม เทียน อัชกุล ชั้น 10 กรมการจัดหางาน อาคารกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาการขอจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) ของทางการเมียนมาในประเทศไทย จำนวน 5 แห่ง ในจังหวัดระนอง 1 แห่ง จังหวัดสมุทรปราการ 1 แห่ง จังหวัดเชียงใหม่ 1 แห่ง จังหวัดสมุทรสาคร 1 แห่ง และชลบุรี 1 แห่ง ถ้าหากจำเป็น จะออกให้บริการเคลื่อนที่นอกเหนือจาก 5 แห่งข้างต้นด้วย 

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ทำให้ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่จัดส่งแรงงานมาทำงานในประเทศไทย ประกาศใช้มาตรการด้านสาธารณสุข และมาตรการควบคุมโรค ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย  อย่างไรก็ตาม การไม่สามารถเดินทางผ่านแดนได้ตามสถานการณ์ปกตินั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบขั้นตอนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ซึ่งกระทรวงแรงงานได้เตรียมแนวทางการรับมือปัญหาดังกล่าว โดยจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) ของทางการเมียนมาในประเทศไทย แห่งแรกในจังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่เดียวกันกับศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราว (The Temporary Data Collection Centre : TDCC) และในอนาคตจะมีการจัดตั้งศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นในจังหวัดต่างๆ ประมาณ 3 – 5 แห่ง  ตามความจำเป็น 

“ในส่วนทางการกัมพูชา จะส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการขยายอายุเอกสารเดินทาง (Travel Document : TD) โดยการติดสติ๊กเกอร์ลงในเล่มมีอายุ 2 ปี ณ สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ทั้งนี้ แรงงานกัมพูชาสามารถยื่นคำขอผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และทางการลาว หนังสือเดินทางของแรงงานลาวที่ใกล้หมดอายุ สามารถมาดำเนินการติดต่อขอเปลี่ยนเล่มใหม่ได้ ณ สถานทูตลาวประจำประเทศไทย เพื่อมิให้แรงงานต่างด้าวที่ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีแล้วและถือเอกสารประจำตัวที่หมดอายุและกำลังจะหมดอายุมีสถานะเป็นคนต่างด้าวผิดกฎหมาย เรื่องนี้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำและติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด เนื่องจากอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ปัญหาด้านความมั่นคง การค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว 

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรณีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของคนต่างด้าว ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานอยู่ในประเทศไทยทยอยหมดอายุ และแรงงานต่างด้าวไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศต้นทางเพื่อไปทำหนังเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางใหม่ได้ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่รับผิดชอบของทั้ง 3 ประเทศ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ต้องร่วมกันหารือแนวทางรับมือข้อขัดข้องที่อาจเกิด เนื่องจากการที่แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติจะทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เอกสารประจำตัวแรงงานต่างด้าวจะต้องมีความครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนที่จะไปดำเนินการตรวจลงตรา (Visa) เพื่อขออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง 

สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามขั้นตอนขอรับใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10  หรือที่ไลน์ @Service_Workpermit หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694  ซึ่งมีการจัดล่ามในภาษากัมพูชา เมียนมา และอังกฤษ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร และแนะนำวิธีการดำเนินการ

“ชินวรณ์ - ราเมศ” รับหนังสือกลุ่มวีแฟร์ ยืนยัน ประชาธิปัตย์ ดำเนินนโยบายที่เป็นรากฐานของสังคม มั่นใจนโยบายที่ใช้หาเสียงมีความคืบหน้า

24 มี.ค. 2564 นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ร่วมกันเป็นตัวแทนรับหนังสือจากกลุ่มเครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม WE FAIR ที่พรรคประชาธิปัตย์ 

ภายหลังจากการรับหนังสือ นายชินวรณ์ ได้กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันทางการเมือง โดยตั้งแต่พรรคได้ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเดินหน้าไปสู่รัฐสวัสดิการ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายที่เป็นรากฐานของสังคมจนมาถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการกระจายโอกาสให้เด็กไทยได้มีโอกาสเรียนจากภาคบังคับ มาเป็นภาคการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อมาขยายโอกาสให้ได้เรียนต่อในระดับมัธยม และเปิดมหาวิทยาลัยในภูมิภาคมากขึ้น 

โดยเฉพาะในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายเรื่องการเรียนฟรี 15 ปี โดยใช้งบประมาณอย่างน้อยปีละ 80,000 ล้านบาท จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 12 ปี พี่น้องประชาชนคนยากคนจนได้หนังสือ แบบเรียน อุปกรณ์การเรียน ถือเป็นความพยายามลดความเหลื่อมล้ำ และยังได้เริ่มต้นโครงการสวัสดิการสังคมที่สำคัญในเรื่องสุขภาพ โดยพรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดในการให้พี่น้องประชาชนได้รับการประกันสุขภาพจนได้รับการพัฒนามาเป็นลำดับ สำหรับนโยบายที่เกี่ยวกับเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ในการที่จะให้ได้รับการดูแลจากรัฐก็ล้วนเริ่มต้นจากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน 

“ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ผมขอยืนยันว่า เราจะดำเนินแนวทางทางการเมืองที่เป็นธรรมาภิบาล เพื่อให้นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น โดยจะได้เห็นการต่อสู้ในเรื่องของการที่จะให้มีการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น เป็นไปตามหลักสากล” นายชินวรณ์กล่าว 

พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า พรรคยึดมั่นในหลักการใหญ่ 3 ประการ เกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ ประการแรกคือ ยึดมั่นการปกครองในประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยจะแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญยกเว้นหมวด 1 หมวด 2 และที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ ประการที่ 2 มาตรา 256 ที่ทำให้การแก้ไขได้ยากนั้น ได้ใช้เสียงข้างน้อยมาครอบงำเสียงข้างมาก ไม่เป็นไปตามหลักสากลในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องตัดสินด้วยเสียงข้างมาก และเคารพเสียงส่วนน้อยด้วย (Majority rule and Minority rights) มาตรา 272 

การให้ ส.ว. มีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะ เมื่อ ส.ว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ควรมีหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น และยังมีเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน เรื่องสิทธิชุมชน เรื่องรัฐสวัสดิการ และการกระจายอำนาจ ตลอดจนเรื่องธรรมาภิบาล 

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ พรรคก็มุ่งเน้นเรื่องปากท้องของประชาชน โดยยืนยันว่า พรรคจะทำไปพร้อมกันทั้งเรื่องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อให้ดุลยภาพ มีเสถียรภาพ ลดความขัดแย้งทางสังคม ส่วนเรื่องปากท้องของประชาชนนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ดูแลโดยเฉพาะนโยบายการประกันรายได้เกษตรกร ในพืช 5 ชนิด ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด 

พร้อมกับดูแลปัญหาราคาสินค้า นำมาสู่แนวคิด “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ในวันนี้ก็จะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า ในภาวะฝืดเคือง มีวิกฤติเศรษฐกิจ แต่กลุ่มเกษตรกรก็ยังมีนโยบายประกันรายได้ที่พอจะเป็นหลักพอที่จะทำให้หายใจได้ พรรคมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพื่อดูแลเด็กและสตรี คนพิการ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่มีความคืบหน้ามาแล้วทั้งสิ้น รวมไปถึงการเสนอ พรบ.เงินออม ซึ่งก็เป็นนโยบายของพรรคเช่นกัน

พร้อมกันนี้นายชินวรณ์ ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มเครือข่ายที่มาเป็นแรงเสริม เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายต่อไป ซึ่งประชาธิปไตยจะเข้มแข็งได้ภาคประชาชนจะต้องมีความเข้มแข็งด้วย 

ทั้งนี้ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงนโยบายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด พรรคก็ได้เริ่มทำแล้วแม้จะยังไม่ถ้วนหน้า แต่ก็เล็งเห็นว่าเด็ก เยาวชนต้องได้รับการดูแล พร้อมทั้งมั่นใจว่าในอนาคตก็จะมีความคืบหน้าไปโดยลำดับ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ส่งเสริมให้เด็กได้ดื่มนม โดยโครงการนมโรงเรียนได้ริเริ่มมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน 

“ข้อมูลที่ได้นำเสนอมา ก็เชื่อว่าตัวแทนของประชาชนก็พร้อมที่จะผลักดันเพิ่มเติมเพื่อให้ได้งบประมาณต่อไป แต่เมื่อพรรคไม่ได้เป็นแกนนำหลัก และการมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในบางกระทรวง พรรคจึงได้พยายามผลักดันนโยบายให้เป็นไปตามสิ่งที่ได้เคยหาเสียงไว้ และทำให้ดีที่สุด” นายราเมศกล่าว

อีกทั้งได้เพิ่มเติมในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญว่า พรรคได้มองไปถึงเรื่องสิทธิของพี่น้องประชาชน รวมถึงเรื่องสวัสดิการต่างๆ ที่ในรัฐธรรมนูญปี 60 ขาดตกบกพร่องไปพอสมควร อย่างเรื่องสิทธิชุมชน พรรคจึงมีแนวคิดดึงสิ่งเหล่านี้กลับคืนมาด้วย

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “อัษฎางค์ ยมนาค” ชี้ชวนให้คนไทย “มาร่วมภูมิใจในความเป็นไทยกัน” ว่า...

อยากมาชวนให้ชมคลิปนี้ โดยเฉพาะคนไทยที่ไม่รักเมืองไทย หรือจะใช้คำว่าชังชาติก็ได้ และถูกแหกตาด้วยการพูดกรอกหูว่า เมืองไทยมีแต่สิ่งไม่ดีและล้าหลัง

คลิปนี้โรซี่ ครูสอนภาษาอังกฤษ ที่หลงรักเมืองไทยและเรียนภาษาไทยตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยที่อังกฤษ ปัจจุบันอยู่เมืองไทยมา 7 ปีแล้ว

โรซี่: สัมภาษณ์ชาวอังกฤษด้วยกัน ที่อพยพมาอยู่เมืองไทยถาวร ผู้ชายคนนี้ชื่อ ญวน

ซึ่งชื่อเขาเป็นภาษาที่ค่อนข้างแปลกหูเพราะเขาเป็นชาวอังกฤษที่มีเชื้อสายไอริชและสก๊อต

ญวน: เล่าว่าเขามาเมืองไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้วตอนเขาอายุ 17 ปี

โดยแวะเข้ามาในเมืองไทยแค่ 2 วันเท่านั้นก็ตกหลุมรักเมืองไทยทันที และบอกตัวเองว่าจะกลับมาที่เมืองไทยอีก

ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงรายและกำลังเรียนปริญญาตรีอยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เอกภาษาไทย ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุด

เขามีลูกอายุ 8 เดือนและภรรยาเป็นสาวใต้

เขาบอกว่าเขาสามารถพูดไทยกลางได้ดี แต่ภาษาเหนือฟังได้รู้เรื่องแต่พูดไม่ได้

นอกจากนี้เขายังได้ฟังภาษาใต้จากภรรยาซึ่งเป็นคนใต้อีกด้วย

เขาเลยอยากได้เพื่อนเป็นคนอีสานเพื่อจะได้รู้ภาษาไทยครบทุกภาค

โรซี่: บอกว่า 4 ภาคของไทย มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งภาษาและอาหารเป็นต้น ซึ่งต่างจากสหราชอาณาจักร ที่ประกอบด้วยสี่ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์ และเวลส์ นั้นกลับไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเหมือนสี่ภาคของไทย

โรซี่: ถามว่าเรียกใครว่าพี่หรือน้องบ้างหรือไม่

ญวน: ตอบว่าจะเรียกเฉพาะคนที่อายุมากกว่าหรือน้อยกว่ามากๆ เท่านั้นส่วนคนที่อายุใกล้กันจะไม่เรียกพี่เล่นหรือน้อง

และจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจถ้าจะต้องเรียกใครว่าลุงหรือป้าเพราะรู้สึกว่ากำลังไปว่าเขาเป็น ”คนแก่”

เพราะวัฒนธรรมของฝรั่งจะไม่เรียกคนโดยการแบ่งตามอายุ

โรซี่: บอกว่าการที่เรียกลุงป้าน้าอาพี่น้องคือการแสดงความเคารพนับถือของผู้ใหญ่และเด็กซึ่งเป็นวัฒนธรรมของไทยที่งดงามมาก

โรซี่: ถามญวนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ตกหลุมรักเมืองไทย และชอบอะไรในเมืองไทย

ญวน: ตอบว่า

1 อาหารไทย

2 วัฒนธรรมไทย

3 ความเป็นธรรมชาติอันสวยงามของเมืองไทย

เขายังยกตัวอย่างว่าขนาดเที่ยงคืนยังสามารถออกมาหาอาหารข้างทางที่เอร็ดอร่อยกินได้

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก

จำกันได้ใช่มั้ยว่า ใครบอกให้คนไทยเลิกเรียกกันว่า พี่น้อง ลุงป้าน้าอา เพื่อความเสมอภาค

ใครบอกให้เลิกยกมือไหว้ ใครบอกว่าการยิ้ม คือคนที่โง่เพราะไม่รู้จะพูดอะไรก็ยิ้มไว้ก่อน

แต่ความจริงจารีตประเพณีของไทยเรากลับถูกฝรั่งชื่นชม ยกย่อง สรรเสริญ

ทำไมต้องชังชาติ

ทำไมต้องดูถูกความเป็นไทย

ทำไมต่อต้านความเป็นไทย

ทำไมถึงคิดว่าต้องต่อต้านและยกเลิกความเป็นไทยเพื่อให้ได้มาซึ่งความเสมอภาค และการเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้า

เราภูมิใจในความเป็นไทยไม่ได้หรือ

อัษฎางค์ ยมนาค

ชมคลิปตามลิงค์นี้ https://fb.watch/4glo-khURq/


ที่มา: https://www.facebook.com/1234993066616474/posts/3924271071021980/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top