Sunday, 6 July 2025
POLITICS NEWS

โฆษกรัฐบาล ฯ เผย ไทยนับถอยหลังเปิด Test and  Go รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.พ.นี้   " นายกฯ" มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม  กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ยังเน้นคุมเข้มสกัดโควิดชายแดนช่วยกันสอดส่อง ป้องกันเชิงรุก 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบ Test and Go อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ. นี้ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุดต่อ หลังรัฐบาลตัดสินใจระงับไปเมื่อปลายปี 2564 เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน   เชื่อมั่น แพทย์และระบบสาธารณสุขไทยพร้อมรับมือหากมีการเปิด Test and Go  อีกครั้ง   คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งปี 2565 ได้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้ 4.8 แสนล้านบาท 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า   ขณะนี้ ยังมีผู้ที่พยายามลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อหางานทำอย่างผิดกฎหมายต่อเนื่อง  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ คุมเข้มทุกด่านให้ระมัดระวัง ป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึง ช่องทางธรรมชาติทุกแห่ง  รวมทั้ง ขอให้เครือข่ายสาธารณสุขในพื้นที่ทั้ง อสม. ฝ่ายท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมช่วยสอดส่องว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ หากพบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้  ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดย กองกำลังสุรสีห์จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 365 ราย  ที่ลักลอบเข้าเมืองกลางดึก ชายแดนบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  จำนวน 135 คน และกาญจนบุรี จำนวน 230 คน ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย   ซึ่งไม่ผ่านการคัดกรองโรคจากเจ้าหน้าที่   กรณีที่อยู่ในการจับกุมของตำรวจก็จะตรวจหาเชื้อด้วย 

"แรมโบ้" ฟาดแรง "หมอชลน่าน"เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้านคิดได้แค่ "หางอึ่ง" ได้กลิ่นรัฐประหาร จมูกคงเน่าถึงได้กลิ่นเช่นนี้ เอาสมองส่วนไหนมาคิด ทำลายบรรยากาศให้บ้านเมืองเสียหายมากกว่า 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กลิ่นรัฐประหาร  ฟันธง"21 ส.ส."ตัวแปรสำคัญในสภา ชี้เสียงข้างมากแท้จริงต้องไม่หนุนข้างน้อยปกครองประเทศ  พร้อมอย่าเคลมเยือนซาอุฯเป็นผลงานรัฐบาล โดยไม่รู้ว่า หมอชลน่านไปได้กลิ่นมาจากไหน จมูกคงเน่าอักเสบมากกว่าเลยได้กลิ่นเช่นนี้ หรือพูดสร้างกระแสขึ้นมาเอง ซึ่งในช่วงที่ประเทศอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด ก็ไม่ควรที่จะออกมาพูดเรื่องที่อาจทำให้เกิดกระแสหรืออาจเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือทำลายบรรยากาศประเทศ

และการที่หมอชลน่านบอกว่าอย่าเอาเรื่องนายกฯเยือนซาอุเป็นผลงานเพราะประเทศซาอุฯ ต้องการเปิดประเทศเองนั้น ตนไม่อยากเชื่อว่า คนเป็นระดับผู้นำฝ่ายค้านช่างกล้าพูดเช่นนี้ ข้อเท็จจริงประเทศซาอุฯเปิดมานานแล้ว เพียงแต่ยุครัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่มีศักยภาพพอที่จะมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศซาอุฯ ให้กลับมาเป็นปกติได้ เป็นเพราะไม่มีฝีมือหรือเอาแต่เวลาไปคิดช่วยนายทักษิณ ใช่ไหม
 
  "หมอชลน่านต้องกล้าออกมายอมรับว่าการพลิกประวัติศาสตร์กับประเทศซาอุฯเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นความพยายามทุ่มเทตั้งใจของพลเอกประยุทธ์และรัฐบาล ที่ได้มีการประสานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับเชิญอย่างเป็น ทางการจากรัฐบาลประเทศซาอุฯ ไปเยือนเพื่อฟื้นความสัมพันธ์  หารือถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ และคนทั้งประเทศก็เห็นว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ถือว่านายกฯและรัฐบาลได้มอบของขวัญปีใหม่ ผลงานชิ้นโบว์แดงให้ประเทศไทยและคนไทยด้วยซ้ำไป มีแต่หมอชลน่านและพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ ที่จ้องอิจฉาจนออกอาการเอาเรื่องดีๆของประเทศมากล่าวหาโจมตีนายกฯ และรัฐบาล และดูถูกดูแคลนประเทศของตัวเองและยิ่งมาปล่อยข่าวว่า ได้กลิ่นรัฐประหาร ยิ่งปล่อยมุขแบบเสียคน ใครที่ฟังผู้นำฝ่ายค้าน ปล่อยมุขนี้อดขำไม่ได้ คิดได้อย่างไร เอาสมองส่วนไหนมาคิดเอาจมูกเน่าๆส่วนไหนมาดมกลิ่น จึงได้กลิ่นรัฐประหารมา หรือว่า นายใหญ่ทางไกลส่งกลิ่นเน่าๆเหม็นๆมาให้พูด 

'ไทยภักดี' ร่อน 'จดหมายหมอวรงค์' ขอโอกาสเข้าสภาฯ ปราบโกง-ปกป้องสถาบัน

27 ม.ค. 65 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ร่อน “จดหมายจากคุณหมอวรงค์” จำนวน 20,000 ฉบับ ถึงประชาชนเขตจตุจักร หลักสี่ ให้โอกาสนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 พรรคไทยภักดี เข้าสภาเป็นโซ่ข้อกลาง ประกาศจุดยืนปราบโกงและปกป้องสถาบัน

โดยจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าว สะท้อนปัญหาบ้านเมืองว่า ประเทศชาติกำลังเผชิญปัญหาของขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปัญหาที่หมักหมมจากการทุจริต จึงขอให้ประชาชนชาวจตุจักร หลักสี่ เชื่อมั่นในพลังอันแรงกล้าของพรรคไทยภักดี และนายพันธุ์เทพที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภา สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องทุกท่าน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมโยงพรรคไทยภักดีกับสภา พรรคไทยภักดีมีจุดยืนที่ชัดเจน พร้อมประกาศนโยบายปราบโกงและปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของพวกเรา ความหวังในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา

ไอจี เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ทรงโพสต์ภาพนายกฯ ไทยไปเยือน

27 ม.ค. 65 - อินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบียได้ทรงโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของราชอาณาจักรไทยที่เข้าเฝ้าฯ โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวถึง 394 รายการ และผู้ถูกใจถึง 6,995 คน ทั้งนี้ไอจีของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูดนั้นมีติดตามถึง 949,000 คน


ที่มา : https://www.instagram.com/p/CZLvq47qBMj/
https://www.thaipost.net/hi-light/73500/
 

“นายกฯ”สั่ง “ก.พาณิชย์-ตำรวจ”ตรวจสต๊อกปาล์มน้ำมัน ห้ามกักตุน ให้ก.เกษตรฯ คุมASF ระบาดในสุกร

นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์สินค้าราคาแพง และสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมัน ที่เพิ่มสูงจากสภาพอากาศ ฝนตกต่อเนื่อง โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสต็อกปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่กักตุนสินค้า ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบและส่งผล
กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคอุปโภคเป็นวงกว้าง โดยล่าสุดตำรวจร่วมบูรณาการกับพาณิชย์จังหวัด จัดชุดตรวจลงพื้นที่ตรวจสต็อกปาล์มน้ำมัน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ตลอดจนคลังน้ำมันปาล์มฯ

โดยจะดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้กำหนดโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ  และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือหากมีการแจ้งการครอบครองไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนั้น นายกฯ ติดตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการเรื่องการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตามที่กรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่สำรวจปริมาณซากสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มงวด ระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค.จำนวน 773 แห่งตรวจพบซากสุกรสะสม จำนวน 18,727,824.545 กิโลกรัม

'วัน อยู่บำรุง' ฟันธงเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลักสี่ 'อ๊อบ สุรชาติ' เข้าวิน 'เพชร กรุณพล' ได้ที่ 4

27 ม.ค. 65 - นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กรุงเทพ เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ว่า 

น้องอ๊อบ
เจ๊หลี
คุณเอ๋
คุณเพชร
ตามลำดับฮะ
#คหสต.

พร้อมกับ โพสต์เพิ่มเติม อีกว่า สุรชาติ เทียนทอง #เบอร์3
#พรรคเพื่อไทย
จตุจักร หลักสี่
ชนะแน่นอน
ป๋าวันคอนเฟิร์ม
สารวัตรเฉลิมฟันธง

“ศรีสุวรรณ” แถลงการณ์ จี้ รัฐหยุดเอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการ ใช้กม.เด็ดขาดฟ้องเรียกค่าเสียหายบริษัททำน้ำมันรั่วมาบตาพุด

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ในฐานะนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ ระบุ กรณีที่เกิดเหตุน้ำมันดิบใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลบริเวณทะเลอ่าวมาบตาพุด อ.เมืองระยอง กว่า 4 แสนลิตร ซึ่งต่อมากรมควบคุมมลพิษคำนวนว่ามี 128 ตันหรือ 1.6 แสนลิตร แต่มีข้อพิรุธ คือ รองผู้ว่าฯระยองกลับอ้างว่ามีเพียง 24,000 ลิตร โดยบริษัทดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.06 น. วันที่ 25 มกราคม 2565 พบน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัทจริง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองนั้น
              
เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นโศกนาฎกรรมทางทะเลซ้ำในพื้นที่ทะเลระยองอีกครั้ง หลังจากที่เคยเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลระยองไปกว่า 50,000 ลิตรในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วเมื่อปี 2556 ซึ่งครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน รวมทั้งทำลายสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะหาดเสม็ด หาดแม่รำพึง จนกระทบพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไปทั้งระบบ จนประเมินค่าความเสียหายมิได้
              
ยังไม่ทันข้ามพ้นทศวรรษปัญหาน้ำมันรั่วไหลในทะเลระยองกลับมาเกิดซ้ำอีก ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของผู้ประกอบการที่อาจหละหลวมต่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรการที่ระบุไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) รวมทั้งหน่วยงานอนุญาตและกำกับดูแลทั้งหลาย อาจละเลยหรือไม่เคร่งครัดในการตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยและด้านสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในมาตรการ ซึ่งต้องไล่เบี้ยมาตั้งแต่คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ(คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งหากจะหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว ยังมีอีกมากมายนัก

‘สื่ออาวุโส’ ไขคำตอบที่มา ‘พรมสีม่วง’ เหตุใด ซาอุดีอาระเบีย จึงใช้ ปูต้อนรับ ‘บิ๊กตู่’

เถกิง สมทรัพย์ สื่อมวลชนอาวุโส เผยเหตุผล ทำไมซาอุดีอาระเบียใช้พรมสีม่วงปูต้อนรับนายกรัฐมนตรีของไทย ชี้กระทรวงวัฒนธรรมซาอุฯ ประกาศใช้ “พรมสีม่วง” แทน “พรมแดง” ทั้งในงานพระราชพิธีและงานต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง สื่อถึงการต้อนรับที่อบอุ่น ยินดี

วันนี้ (27 ม.ค.) เฟซบุ๊ก "เถกิง สมทรัพย์" ของนายเถกิง สมทรัพย์ สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความถึงกรณีการเดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า "เพื่อนสวนกุหลาบรุ่น 97 ถามว่า …ทำไมซาอุดีอาระเบียใช้ “พรมสีม่วง” ปูต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ... ผมลองค้นคำตอบได้คร่าวๆ คือ

1.) แต่เดิมพรมสีแดงคือพรมแห่งเกียรติยศ งดงาม อลังการ ที่ซาอุดีอาระเบียใช้ประดับต้อนรับแขกวีไอพีผู้มาเยือน

2.) แม้พรมสีแดงจะมีใช้มานาน แต่เริ่มนิยมใช้กันแพร่หลายในศตวรรษที่ 19 นี้เองในสหรัฐฯ และยุโรป แล้วแพร่ไปทั่วโลก รวมทั้งในซาอุดีอาระเบีย ... มีบันทึกว่า ในปี ค.ศ. 1821 ชาวเมืองจอร์จทาวน์ ในรัฐเซาท์แคโรไลนา ปูพรมสีแดง ต้อนรับประธานาธิบดี เจมส์ มอรโร ต่อมา รถไฟขบวนสุดหรูในนิวยอร์กก็ปูพรมแดงรับผู้โดยสารไฮโซ

3.) ในราวทศวรรษ 1920 พรมแดงเริ่มเข้าสู่ฮอลลีวูดเมื่อใช้ในการเปิดตัวหนังเรื่องโรบินฮูดของดักลาส แฟร์แบง

4.) ในปี ค.ศ. 1961 เริ่มใช้พรมแดงในการต้อนรับเหล่าดาราในงานออสการ์ ... และพรมแดงเป็นสีแห่งความสุดยอดอลังการมายาวนาน

5.) จนกระทั่งปีสองปีมานี้ งานออสการ์หันมาใช้ “พรมสีชมพู” แทนพรมแดง

6.) ว่ากันว่า “พรมแดง” ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่อลังการ กำลังถึงคราวร่วงโรยเพราะเริ่มใช้สีอื่นๆ มาทดแทน (พรมแดงน่าจะใช้กันเกร่อจนหมดความขลัง หมดความเป็นสีแห่งวีไอพี)

7.) เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศใช้ “พรมสีม่วง” แทน “พรมแดง” ทั้งในงานพระราชพิธีและงานต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองตั้งแต่สนามบินเลยทีเดียว

8.) เหตุผลคือ ในฤดูใบไม้ผลิของซาอุดีอาระเบีย จะมีดอกไม้ “สีม่วง” เบ่งบานราวกับพรมสีม่วงปกคลุมไปทั่วแผ่นดิน เช่น lavender flowers, desert germander, basil and Jacaranda trees ล้วนแล้วแต่มีดอกสีที่ออกโทนม่วงทั้งนั้น ... สีม่วงจึงถูกนำมาใช้แทนสีแดง

“บิ๊กตู่" เชิญชวนคนไทยรณรงค์ เทศกาลตรุษจีน ปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 ร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ. ช่วง "วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว"

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชิญชวนคนไทยรณรงค์เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2565  ปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 พร้อมขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขในช่วง วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ก.พ. 65  หลายครอบครัวมีการรวมกลุ่มญาติพี่น้อง ซึ่งอาจมีพฤติกรรมหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อของโควิด-19  จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างเคร่งครัด โดยทั้ง 3 วันนี้ สมาชิกทุกคนในครอบครัวต้องปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล “DMHTTA” อย่างเคร่งครัด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนศาสนสถาน และสถานที่จัดงานตรุษจีน ให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ดังนี้ 1.ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำแก่ผู้ดำเนินการศาสนสถานในการบริหารจัดการเพื่อลดมลพิษจากการจุดธูปสำหรับศาสนสถาน ศาลเจ้า สถานที่จัดงานตรุษจีน 2.ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนผู้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนสถาน ศาลเจ้า สถานที่จัดงานตรุษจีนให้มีวิธีการปฏิบัติที่ดี เพื่อลดอันตรายจากการสัมผัสมลพิษจากควันธูป รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) 3.จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ควบคุม กำกับ ศาสนสถาน ศาลเจ้า สถานที่จัดงานตรุษจีนที่ประชาชนนิยมไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการ ในการป้องกันอันตรายจากควันธูปและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เนื่องจากปีนี้ อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ดังนั้น   จึงได้มีการประกาศงดการจัดงานเทศกาลตรุษจีนที่ถนนเยาวราช  แต่มีการประดับตกแต่งไฟบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน)  ในส่วนของพี่น้องประชาชน เชื้อสายจีน ยังคงสามารถสืบสานประเพณีรวมถึงการไหว้เจ้าตามสถานที่ต่าง ๆ ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 

เร่งเครื่อง “บิ๊กตู่” เร่งผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานไทย-ซาอุดีอาระเบีย สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทันที “ย้ำ”ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 เดือน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 – 26 มกราคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งดำเนินการจัดหาแรงงานไทยที่มีศักยภาพเข้าร่วมทำงานในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนอกจากนายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกับขั้นตอนดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี และการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี เพื่อหารือความร่วมมือทวิภาคีในสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญ

ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทย ได้หารือทวิภาคีร่วมกับ นายอะห์หมัด บิน สุไลมาน อัลรอยิฮี (Ahmad Sulaiman ALRajhi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาทางสังคม ซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะผลักดันความร่วมมือด้านแรงงาน โดยเฉพาะในภาคบริการต่าง ๆ ทั้งธุรกิจโรงแรม สุขภาพ ตลอดจนอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ 

“ซึ่งผลจากการหารือทวิภาคีดังกล่าว ทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน และสำนักงานแรงงานในกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย จะเป็นผู้ประสานงานหลักร่วมกับฝ่ายซาอุดีอาระเบีย โดยจะดำเนินการตามข้อหารือต่อไปเพื่อพิจารณาแรงงานไทยเข้าทำงานตามความประสงค์ของซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีแรงงานไทยเข้าทำงานอยู่ในซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1,345 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง นายจ้างพาไปทำงาน และระบบ Re-entry โดยมีตำแหน่งที่เข้าทำงานในหลายประเภท เช่น ช่างเชื่อม ช่างเทคนิค ช่างเครื่องยนต์ ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน ผู้ควบคุมเครื่องจักร คนงานผลิตผลิตภัณฑ์ทั่วไป คนงานควบคุมเครื่องจักร ผู้ช่วยกุ๊ก แม่บ้าน เป็นต้น”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

นายธนกร กล่าวว่า ในเรื่องความร่วมมือด้านแรงงานกับซาอุดีอาระเบียเป็นความท้าทายที่สำเร็จจากความพยายามของรัฐบาลในการปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ซาอุดีอาระเบีย เชื่อมั่นว่าจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในด้านการยกระดับการพัฒนาฝีมือแรงงานไทย กระตุ้นให้บริษัทจัดหาแรงงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงแรงงานปรับปรุงการจัดหาแรงงานที่เป็นธรรม ไม่โก่งราคา คุ้มครองสิทธิแรงงาน และสวัสดิการให้สอดคล้องกับที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียต้องการ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีการเดินทางแลกเปลี่ยนการเยือนระดับรัฐมนตรี บริษัทจัดหาแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านแรงงานระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียมากขึ้น เพื่อเร่งรัดการดำเนินการจนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top