Sunday, 6 July 2025
NEWS

หลงรักภูเขาทอง สื่อรักรูปหัวใจจาก 'การไฟฟ้า’ ผ่านมุมมองฟากฝั่ง ‘คลองสาน'

หลงรักภูเขาทอง
ภาพนี้ถ่ายที่คลองสาน
ส่วนหัวใจสีเขียวแดงมาจากตึกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่บางกรวย


ที่มา : https://www.facebook.com/532544466865594/photos/a.532552690198105/4493489827437685/


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' แขวะ สื่อตะวันตก-องค์กรสิทธิฯ เงียบกริบ!! หลัง 'ยูเครน' จับ 'ผู้นำฝ่ายค้าน' แลกเชลยศึก

14 เม.ย. 65 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart มีรายละเอียดดังนี้

มาตรฐานใหม่

เมื่อ 12 เมษายน ทางการยูเครนได้จับกุมตัวนาย Viktor Medvedchuk ผู้นำฝ่ายค้านของรัฐสภายูเครน ทางการยูเครนได้เปิดเผยภาพของผู้นำฝ่ายค้านในสภาพที่ใส่ชุดทหารพราง ซูบผอมและถูกใส่กุญแจมือ

ประธานาธิบดียูเครนเสนอให้ฝ่ายรัสเซียแลกเปลี่ยนตัวนาย Viktor กับทหารยูเครนที่รัสเซียควบคุมตัวไว้

โฆษกกลาโหมรัสเซียได้แถลงข่าวปฏิเสธการแลกเปลี่ยนตัว เนื่องจากนาย Viktor ไม่ใช่คนรัสเซีย แต่เป็นนักการเมืองยูเครน รวมทั้งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย และปฏิเสธว่า

รัสเซียไม่มีความสัมพันธ์ลับกับนาย Viktor โดยใข้คำว่า No black door relation หากรัสเซียมีการติดต่อกับนาย Viktor คงต้องให้หลบหนีออกจากยูเครนก่อนหน้าการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย

ส่วนผสมที่แตกต่าง...แต่ลงตัว ‘วัดไผ่เงินโชตนาราม - วัดนักบุญยอแซฟ’ ‘วัดพุทธ - วัดคาทอลิก’  ย่านตรอกจันทน์

กรุงเทพมุมนี้แปลกตาดีครับ
แอดถึงกับขยี้ตาก่อนถ่ายภาพ 555

วัดคาทอลิก...
วัดนักบุญยอแซฟ ตรอกจันทน์
และวัดพุทธ... 
วัดไผ่เงินโชตนาราม 

วัดนักบุญยอแซฟ ตรอกจันทน์
ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทรงไทยประยุกต์

คุณพ่อแปรูดง เจ้าอาวาสวัดอัสสัมชัญ (ค.ศ. 1939-1960 , พ.ศ. 2482-2503) คิดที่จะขยายมิสซังคาทอลิกในกรุงเทพฯ ไปทางใต้ 

ค.ศ. 1951 (พ.ศ.2494) ซื้อที่ดินแปลงใหญ่ในบริเวณใกล้วัดไผ่เงิน
ต่อมามีการสร้างอาคารโรงเรียนหญิง 
เปิดสอนชั้นมัธยม (ร.ร.วาสุเทวี) เมื่อปี ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496)
สร้างโรงเรียนประถม (ร.ร.เปรมฤดี ศึกษา) 

เสกศิลาฤกษ์สร้างวัด วันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498)
เสกวัดใหม่ถวายแด่ท่านนักบุญยอแซฟ
ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506)
ตรงกับวันแรงงาน เนื่องจากนักบุญยอแซฟ บิดาของพระเยซู ท่านเป็นช่างไม้ 

‘สามย่าน’ อดีตวงเวียนเชื่อมความเจริญ ใจกลางมหานคร

สามย่าน ต้นถนนพญาไท 
อดีตเคยเป็นวงเวียน

ถนนพญาไทยในอดีต
คือถนนเจ้าแห่งวงเวียน

มีวงเวียน 5 แห่ง
เริ่มต้นที่วงเวียนสามย่าน วงเวียนปทุมวัน วงเวียนราชเทวี วงเวียนพญาไท และสิ้นสุดที่วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ปัจจุบันคงเหลือเพียงวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=472485114235152&set=a.242244403925892


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

การศึกษาใหม่เผย!! ไทยติดโผ ประเทศส่วนน้อย แบนบุหรี่ไฟฟ้า

การศึกษาใหม่เผย!! ไทยติดโผ ประเทศส่วนน้อย แบนบุหรี่ไฟฟ้า เผยผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในไทยเพิ่ม 4,500% ใน 3 ปี สะท้อนปัญหาแบนบุหรี่ไฟฟ้าล้มเหลว แนะใช้กฎหมายคุมเหมือน 67 ประเทศส่วนใหญ่ดีกว่า
 
เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (ECST) เผยผลการศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าใน 97 ประเทศ ชี้ไทยเป็นหนึ่ง 1 ในเพียง 30 ประเทศที่แบนบุหรี่ไฟฟ้า สวนทาง 67 ประเทศที่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกต้องตามกฎหมาย แถมแบนมาตลอด 7 ปี แต่ผู้ใช้เพิ่มขึ้น 4500% สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจและปิดโอกาสผู้สูบบุหรี่ที่เสียชีวิตปีละเกือบ 70,000 คน
 
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “ลาขาดควันยาสูบ” และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” เผยผลการศึกษาในหัวข้อ “การเปรียบเทียบระเบียบข้อบังคับและแรงจูงใจของบุหรี่ไฟฟ้าใน 97 ประเทศ” ว่า “การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น หลายประเทศจึงมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อหาวิธีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้สมดุลในแบบที่ห้ามการเข้าถึงของเด็กและคนไม่สูบบุหรี่ แต่ก็ไม่ปิดกั้นโอกาสของคนสูบบุหรี่ที่อยากเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งใน 97 ประเทศ เช่น แคนาดา อิตาลี เยอรมนี ญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกา เลือกที่จะควบคุมในรูปแบบต่างๆ เช่น ห้ามการเติมส่วนประกอบที่จูงใจเด็ก หรือควบคุมแบบสินค้าบริโภคทั่วไป แต่ประเทศไทยกลับเลือกที่จะแบนบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีเพียง 30 ประเทศ เช่นอินเดีย บรูไน สปป.ลาว เกาหลีเหนือ และศรีลังกา ที่เลือกใช้วิธีการแบนเช่นเดียวกัน”


 
การศึกษานี้ ได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Social Science & Medicine เมื่อกลางปี 2564 ซึ่งทำการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศต่างๆ รวมถึงข้อดี-ข้อเสียของนโยบายแต่ละประเภท ซึ่งการแบนหรือการปิดกั้นการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จนั้น ก็ทำให้เกิดประเด็นทางจริยธรรมเพราะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้สูบบุหรี่ และทำให้เกิดปัญหาการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจากแหล่งผิดกฎหมายซึ่งอาจเป็นอันตรายกว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ผลิตแบบมีคุณภาพ และยังสวนทางกับแนวโน้มด้านนโยบายของหลายๆ ประเทศที่เริ่มปลดล็อคสิ่งเสพติดบางชนิด เช่น กัญชา ให้ถูกกฎหมาย
 
“หลายประเทศมีการแก้ไขมาตรการควบคุมยาสูบ เพื่อให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายและควบคุมได้ เช่น นิวซีแลนด์ที่เคยแบนบุหรี่ไฟฟ้า หรือ ฟิลิปปินส์ที่รัฐสภาได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุม ขณะที่สหรัฐอเมริกา ก็กำหนดให้ผู้ผลิตและผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าต้องนำผลิตภัณฑ์มาขึ้นทะเบียนก่อนขาย และล่าสุด อย.สหรัฐก็เพิ่งอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าหลายยี่ห้อขายในประเทศได้”

เพื่อนผมปาระเบิด!! ฝากขัง 'บุ๊ค' แร็ปเปอร์วง Eleven Finger ยอมรับเพื่อนปาระเบิดใส่บ้านนายกฯ

ไม่รอด ฝากขัง ‘บุ๊ค ธนายุทธ’ ยอมรับเพื่อนปาระเบิดใส่บ้านนายกฯ แต่ตัวเองไม่เกี่ยวอ้างสำรวจเส้นทางจัดกิจกรรมสงกรานต์ 13 เม.ย. 65 ด้านตำรวจจ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย

12 เม.ย. 65 ที่สน.ท่าเรือ พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขัง นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ “บุ๊ค” ศิลปินแร็ปเปอร์วง Eleven Finger ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ในคดีที่ตำรวจนครบาลท่าเรือ รับแจ้งเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในย่านคลองเตย เวลา 21.30 น. ในที่เกิดเหตุตำรวจพบนายธนายุทธ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดอยู่ที่บ้านหลังนี้ และเมื่อตำรวจตรวจค้นบ้านพัก ยึดของกลาง ประทัดลูกบอล 164 ลูก ประทัดไข่มังกร 8 ลูก พลุควัน 1 ลูก และระเบิดควันสีดำ 22 ลูก ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองฯ และนายธนายุทธ ให้การยอมรับว่า พลุและควันสี ที่ตรวจยึดได้ในบ้านพักเป็นของตัวเอง แต่ปฏิเสธว่า ประทัดลูกบอลและไข่มังกร ไม่ใช่ของตัวเอง

ต่อมา ตำรวจนครบาลบางซื่อ เข้าสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร กับนายธนายุทธ โดย พนักงานสอบสวน ระบุว่า วันที่ 10 เมษายน นายธนายุทธกับพวก ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และเมื่อเลิกชุมนุม นายธนายุทธ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง จากนั้น ขับขี่ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก เมื่อผ่านบริเวณประตูกรมทหารราบที่ 1 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณดังกล่าว และนายธนายุทธกับพวก หลบหนีไปตามถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก

ต่อมา ตำรวจจับนายธนายุทธพร้อมของกลางประทัดและพลุ ได้ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ จากการสืบสวนพบว่า นายธนายุทธและพวกขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นทันที จึงเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยนายธนายุทธ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนแฟนสาวของนายธนายุทธ ที่ถูกควบคุมตัวพร้อมกันที่บ้านพักย่านคลองเตย ตำรวจนครบาลบางซื่อ แยกไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร โดยฝากขังต่อศาลอาญา รัชดา ไปแล้วเมื่อวานนี้

‘กัมพูชา’ เปิดโผชนิดกีฬาซีเกมส์ 2023 ทำไทยเซ็ง!! หั่น ‘ฟุตซอล’ ใส่ ‘โบกาตอ’ แทน

ไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดเผยว่า ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ระบุการแข่งขัน 40 ชนิดกีฬา โดยมีการตัดกีฬา ‘ฟุตซอล’ ออกจากการแข่งขัน แต่บรรจุกีฬาอย่าง โบกาตอ กีฬาต่อสู้ประจำชาติมาไว้แทน

ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่า นอกจาก ฟุตซอล ที่โดนหั่นออกไปแล้ว ยังไม่มีการแข่งขัน รักบี้ฟุตบอล ในซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชา หลังจากก่อนหน้านี้ ซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม ได้ถอดการแข่งขัน รักบี้ฟุตบอล ออกไปแล้ว

'ไทย สมายล์ บัส' ร่วมสนับสนุนกิจกรรมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์วิถีไทย 2565 

วันนี้ 12 เมษายน 2565  ทีมงานแผนกมวลชนสัมพันธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัส ได้ลงพื้นที่  มอบสิ่งของที่จำเป็นในการเดินทาง ให้แก่ จุดบริการประชาชน ของ สำนักงานเขตบางนา หน้าสถานีปั้มน้ำมันบางจาก และ จุดบริการประชาชน ของ สถานีตำรวจภูธรพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ  หน้าห้างไทวัสดุ  โดยประกอบด้วย น้ำดื่ม ไทย สมายล์ บัส และหน้ากากอนามัย เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต่อไป  โดยเทศกาลสงกรานต์วิถีไทย ปี 2565  รถเมล์พลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ บัส ขออวยพรให้ทุกท่าน เดินทางใกล้หรือไกลด้วยรอยยิ้ม ปลอดภัยไร้กังวล และขอให้มีความสุขสวัสดีในวันสงกรานต์ 

“ทร.” โต้ ทุกต่อข้อสงสัย “โจ้ พท.” กรณีการจัดหาเรือดำน้ำและท่าจอดเรือดำน้ำ 

เมื่อวันที่ 12 เม.ย.65 พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ  กล่าวกรณีที่เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายยุทธพงศ์  จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยกล่าวโจมตีกองทัพเรือ ในประเด็นเรือดำน้ำ และ ท่าจอดเรือดำน้ำ และกล่าวหา ว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กองทัพเรือ เจรจากับ บริษัท CSOC เรื่องปัญหาเครื่อง MTU ของเรือดำน้ำ ให้เสร็จสิ้นก่อน 23 พ.ค.65 นั้นทางกองทัพเรือไม่ทราบเรื่องนี้  เชื่อว่าเป็นการพยายามโยงประเด็นเรือดำน้ำ ให้เกี่ยวข้องเพื่อให้อยู่ในกระแส เพื่อเตรียมการสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กองทัพเรือจึงขอไม่ตอบประเด็นนี้ อย่างไรก็ตามอยากเรียนชี้แจงกับประชาชนว่า กองทัพเรือ เร่งรัดการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ปัจจุบันกองทัพเรือยืนยันตามสัญญา คือเรือดำน้ำจะใช้เครื่องยนต์ MTU 396 ของเยอรมัน อย่างไรก็ตาม ขอความกรุณาอย่าเพิ่งคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าและสร้างความสับสนให้กับประชาชน กองทัพเรือจะมีการเจรจากับบริษัท CSOC และจะแจ้งความก้าวหน้าให้ประชาชนทราบอย่างตรงไปตรงมาต่อไป และในเรื่องนี้ขอให้มั่นใจว่า กองทัพเรือจะแก้ไขปัญหาอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อกำลังพลของกองทัพเรือเอง และประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด  

พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวต่อว่า ต่อข้อกล่าวหาที่ว่า งานก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำยังไม่มีความก้าวหน้าเช่นเดิม ถึงแม้ได้เบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว รวมถึงให้บริษัท CRCC รับช่วงต่อจาก บริษัท CSOC และบริษัทแสงเจริญ นั้นกองทัพเรือ ได้การดำเนินการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำขณะนี้บริษัท CSOC ได้ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา ซึ่ง กองทัพเรือได้เร่งรัดให้บริษัทฯ ทำให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ส่วนการเบิกเงินล่วงหน้าเป็นเรื่องปกติของทุกโครงการก่อสร้าง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ก็ได้วางเอกสารทางการเงินเป็นหลักประกันเท่ากับจำนวนเงินที่เบิกล่วงหน้า

ดังนั้นหากมีการบอกเลิกสัญญา กองทัพเรือ ก็สามารถเรียกเงินคืนได้โดยไม่เสียเปรียบ ในส่วนการดำเนินการจัดหาบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ เพื่อก่อสร้างท่าเรือดำน้ำเป็นการดำเนินการของบริษัท CSOC เพื่อให้งานแล้วเสร็จตามสัญญา ซึ่งกองทัพเรือได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า บริษัท CSOC ได้ว่าจ้างหลายบริษัทมา
สนับสนุนการก่อสร้าง และมีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ภาพท่าจอดเรือดำน้ำที่นำมาแสดงและอ้างว่าเป็นท่าจอดเรือดำน้ำที่กองทัพเรือกำลังก่อสร้างอยู่นั้น บางภาพไม่ใช่ภาพจริง ในการนี้กองทัพเรือขอให้ใช้วิจารณญานอย่างยิ่งในการนำเรื่องไม่จริงหรือจริงบางส่วน (Half-truth) และเรื่องที่เป็นความลับทางราชการมาเผยแพร่ให้กับประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้สังคมแตกแยก ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ข้อมูลของฝ่ายเรา ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งกับประเทศชาติและประชาชน 
     
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า ต่อกรณีที่อ้างว่า ครูสอนภาษาที่ควบคุมงานก่อสร้างฯ ได้พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเอกธานี หน้า กองเรือยุทธการ กองทัพเรือขอเรียนว่า หมู่บ้านดังกล่าวอยู่นอกพื้นที่ของกองทัพเรือ ซึ่งหากมีบุคคลใด ไม่ว่าสัญชาติใดก็ตาม กระทำความผิดกฎหมาย เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าทำการตรวจสอบ จับกุมและดำเนินคดี รวมทั้งจากการที่เคยชี้แจงเมื่อ 22 มี.ค.65 ไปแล้วว่า ผู้แทนที่บริษัท CSOC แต่งตั้งเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง โดยมีเอกสารสัญญาที่ชัดเจน คือนาย Lang Qingxu ซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการ และมีนายจักรพงษ์ วงศ์ธนปกรณ์ เป็นวิศวกรโครงการ มีคุณวุฒิวิศวกรโยธาระดับสามัญ

‘ไต้หวัน’ ออก ‘คู่มือป้องกันพลเรือน’ แนะวิธีเอาตัวรอดหากเกิดสงคราม

กองทัพไต้หวันเผยแพร่คู่มือว่าด้วยการป้องกันพลเรือนฉบับแรก เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นแนวทางเอาตัวรอดในยามเกิดสงคราม หลังปฏิบัติการรุกรานทางทหารที่รัสเซียกระทำต่อยูเครนกระตุ้นให้ไทเปตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องเตรียมรับมือภัยคุกคามจาก ‘จีน’ ภายหลังจาก จีน ยังคงยืนยันว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน และไม่ปฏิเสธที่จะใช้กำลังทหารนำไต้หวันมาอยู่ภายใต้การปกครอง อีกทั้งยังมีการยกระดับกิจกรรมทางทหารข่มขู่ไทเปอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

คู่มือดังกล่าวของไต้หวัน ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟนเพื่อหาที่หลบระเบิด อาหารและน้ำดื่ม รวมไปถึงวิธีเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน

โดยอันที่จริงกองทัพไต้หวันมีแผนจัดทำคู่มือลักษณะนี้ตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน ทว่าผลลัพธ์ของสงครามในยุโรปมีส่วนทำให้ไต้หวันยิ่งตื่นตัว และพยายามศึกษาบทเรียนเพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งรวมถึงการปฏิรูประบบการฝึกของทหารกองหนุน

“เราได้ให้ข้อมูลแก่ประชาชนว่าพวกเขาควรปฏิบัติตัวอย่างไร ในกรณีที่เกิดวิกฤตด้านการทหารหรือหายนะต่างๆ” หลิว ไท่อี้ (Liu Tai-yi) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานระดมสรรพกำลังทางทหาร (All-out Defence Mibilisation Unit) ในสังกัดกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุในงานแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์

ทบ.เปิด 94 จุดบริการประชาชเทศกาลสงกรานต์​ ส่งความสุขปีใหม่ไทย  ท่องเที่ยวปลอดภัย

เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้หน่วยทหารของกองทัพบกในทุกพื้นที่ใช้ศักยภาพกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้าสนับสนุนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดูแล และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เพื่อสร้างความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 

ส่วนการจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามที่ ศบค.กำหนด “ริน รด พรม” เพื่อให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัย ปลอดโรค ขณะเดียวกันโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกได้เตรียมบุคลากรและเครื่องมือแพทย์ พร้อมให้การรักษาดูแลผู้ป่วยโดยประสานกับโรงพยาบาลสาธารณสุขในพื้นที่อย่างใกล้ชิดตลอดห้วงเทศกาล 

โดยหน่วยทหารของกองทัพบกได้บูรณาร่วมกับส่วนราชการในจังหวัดตั้งจุดบริการประชาชนตลอดเทศกาลสงกรานต์เรียบร้อยแล้ว 94 จุด และให้บริการ ช่วงวันที่ 10- 18 เม.ย. 2565 ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลาง (กองทัพภาคที่ 1) จำนวน 26 จุด, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กองทัพภาคที่ 2) จำนวน 15 จุด, ภาคเหนือ (กองทัพภาคที่ 3) จำนวน 14 จุด, ภาคใต้ (กองทัพภาคที่ 4) จำนวน 10 จุด และหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก 29 จุด โดยจุดบริการประชาชนตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีประชาชนไปใช้บริการเป็นจำนวนมากพื้นที่ปมคมนาคมสำคัญและเส้นทางตรงยาวที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่

โดยให้บริการ อาทิ จุดพักรถพักคน, บริการกาแฟน้ำดื่ม, ปฐมพยาบาลเบื้องต้น, สุขา, เช็คสภาพรถและสอบถามเส้นทาง แจ้งเหตุด่วน ให้คำแนะนำสถานการณ์โควิดของแต่ละจังหวัด แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับในกรุงเทพมหานครจุดบริการประชาชนในพื้นที่สำคัญ อาทิ สถานีขนส่งผู้โดยสาร กทม. ถนนบรมราชชนนี (สายใต้ใหม่), สถานีขนส่งผู้โดยสาร กทม. (จตุจักร) 

ส่วนในต่างจังหวัดจุดบริการประชาชนในเส้นทางสำคัญ อาทิ มณฑลทหารบกที่ 31 บริเวณสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 8 อ.เมือง  จ.นครสวรรค์, มณฑลทหารบกที่ 44 บริเวณริมถนนหมายเลข 4 หน้าเทศบาลตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร, กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ บริเวณปมคมนาคมตรงข้ามศาลจังหวัดสระบุรี (ฝั่งขาขึ้น) ถนนเลียบเมือง จ.สระบุรี ไป จ.ลพบุรี, กองพลทหารราบที่ 3 บริเวณถนนเลี่ยงเมือง หน้าสำนักงานเทศบาลตำบล บ้านเป็ด ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น 

ดับเซ่นสงกรานต์วันแรก 26 ราย เจ็บ 238 คน ศปถ.คุมเข้มเส้นทางสายหลัก จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ และเส้นทางเลี่ยงเพิ่มคงามปลอดภัย ปชช.

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 โดยปภ.และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 237 ครั้งผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 238 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ  32.91 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.94

ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.90 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.73 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.38 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.97 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 11.01 – 12.00 น. ร้อยละ 8.44 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 23.86 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (14 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี (3 ราย) ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,902 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,343 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 350,748 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 64,343 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,275 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17,748 ราย 

นายนิรัตน์ กล่าวต่อว่า ศปถ.ได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 เน้นการเรียกตรวจและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเส้นทางเลี่ยง ทางลัด และทางเชื่อมต่อสู่ถนนสายหลักในจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรงวิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง จึงสามารถใช้ความเร็วได้สูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยใช้กลไกของจุดตรวจร่วมและด่านชุมชน เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงและลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ง่วงแล้วขับ รวมถึงเพิ่มการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถตู้ รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะในลักษณะที่เป็นอันตราย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง นอกจากนี้ ให้สนธิกำลังหน่วยทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลการจราจร เปิดช่องทางพิเศษ เพิ่มจุดบริการประชาชน จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณจุดตัดเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรแก่ประชาชน

‘ดร.สมเกียรติ’ ดึงสติคนไทย ใครคือ ‘มิตรแท้’ ย้อนวิกฤตปี 40 ‘มะกัน - ยุโรป’ ไม่ช่วยไทยแม้สลึงเดียว

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ยามเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ 40 อเมริกาเทไทย จำไว้ครับ

เมื่อประเทศไทยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ประเทศไทยต้องการเงินกู้มาดำรงเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อ

หนึ่ง สร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินบาท

สอง สร้างความเชื่อถือแก่ประเทศ ธุรกิจที่เราต้องนำเข้า ส่งออก เพื่อจะเชื่อมั่นว่าเราสามารถชำระหนี้ได้

สาม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่เจ้าหนี้ต่างประเทศ ซึ่งไทยมีหนี้ต่างประเทศสูงถึง 109 พันล้านเหรียญ เป็นหนี้ภาคเอกชน 80 พันล้านเหรียญ แบงก์ชาติลืมนับของเอกชน เป็นหนี้ระยะสั้น 65% คือเรียกคืนได้ทันที

สี่ เพื่อลดความตื่นตระหนกมิให้คนไทย ต่างชาติหอบเงินออกนอกประเทศ จนหมดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย

ถ้าหยุดไม่อยู่จะเกิดปัญหาสี่ข้อพันกันเป็นงูกินหาง

ที่จริงประเทศไทยตั้งเป้าว่าหากกู้ยืมมาได้สัก 35 พันล้านเหรียญ จึงเอาอยู่ แต่หามาได้เพียง 17.2 พันล้านเหรียญ 

สองปีก็คืนหนี้ 17 พันล้านเหรียญได้ เพราะส่งออก ท่องเที่ยวทำรายได้เยอะ

ใช้เพียง 13 พันล้านเหรียญก็เอาอยู่ 

รายได้จากการท่องเที่ยว ส่งออก ลงทุนเพิ่มมาก สองปีก็มีสำรองพอ คืนไปได้เลย

แหล่งเงินกู้ 17.2 พันล้านเหรียญ ได้มาจาก

IMF 4 พันล้านเหรียญ

ญี่ปุ่น 4 พันล้านเหรียญ

จีน 1 พันล้านเหรียญ

ฮ่องกง 1 พันล้านเหรียญ

อินโดนีเซีย 500 ล้านเหรียญ

เกาหลี 500 ล้านเหรียญ

มาเลเซีย 1 พันล้านเหรียญ

สิงคโปร์ 1 พันล้านเหรียญ

บรูไน 500 ล้านเหรียญ

ธนาคารโลก 1500 ล้านเหรียญ

ธนาคารพัฒนาเอเซีย 1200 ล้านเหรียญ

การกู้จาก IMF ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเซียเป็นไปตามสิทธิของประเทศสมาชิก

อเมริกา ยุโรปไม่ช่วยแม้แต่สลึงเดียว รีบตั้งกองทุนมาซื้อทรัพย์สิน หุ้นบริษัท

ราคาถูกได้กำไรมากมาย

ก็ได้พวกเอเชียตัวขาว ตัวดำนี่แหละที่กระตือรือร้นมาช่วยกัน จนตอนหลังมีการตั้งกองทุนการเงินเอเชียขึ้น เรียกว่า chiang mai initiative

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ให้จับตาข่าวใหญ่! รัสเซียล้อมจับนายทหารต่างชาติในยูเครน

รัสเซียกำลังทุ่มเทความพยายามในการปิดล้อมโรงงานเหล็กชานเมืองมาริอูโปล ที่รัสเซียเชื่อว่า มีนายทหารต่างชาติบัญชาการอยู่ ในขณะที่นาโตพยายามติดต่อให้รัสเซียเปิดทางออกให้กองกำลังกลุ่มนี้ ทั้งจากกลาโหมอเมริกันและผู้นำฝรั่งเศส แต่ไม่มีการตอบรับจากรัสเซีย หากถูกปิดล้อมนาน หมดอาหาร น้ำ กระสุน จับเป็นได้เมื่อไร คงเป็นข่าวใหญ่

12 เม.ย. 65 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ว่า สถานการณ์สู้รบในยูเครน มีคำถามมากมายว่า ทำไมมหาอำนาจอย่างรัสเซียถึงใช้เวลานานนักในการจัดการยูเครน รัสเซียกำลังสู้รบกับใคร กองทัพผี ทหารต่างชาติที่แปลงร่างเป็นทหารอาสาสมัคร ควบคุมการปฏิบัติการโดยตำรวจโลก รัสเซียถูกรุมกินโต๊ะจากนาโต ลำพังยูเครนจบไปนานแล้ว แต่ยิ่งยืดเยื้อ ยูเครนจะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากซากกองเศษอิฐ

การข่าว การดักฟังการติดต่อสื่อสารรัสเซียสามารถทำได้อย่างดีจากดาวเทียมจารกรรม ไม่ใช่มีแต่ฝ่ายนาโต ฝ่ายรัสเซียคงสามารถระบุสถานที่ซ่อนตัวของกองกำลังต่างชาติได้หมดว่าอยู่ที่ไหนบ้าง

มีรายงานจากทางฝั่งรัสเซียออกมาว่า การปฏิบัติการของทหารรัสเซียเมื่อ 8 เมษายน ได้สังหารนายทหารใหญ่ระดับรองผู้บัญชาการใหญ่ของฝ่ายขวาจัด ชื่อ Bobanuch ใช้ชื่อรหัสว่า Hummer เสียชีวิต ระหว่างการลาดตระเวนใกล้เมือง Kharkov ซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่า สังหารคนรัสเซียไปจำนวนมาก

'เอกชนจีน' หนุน 'อาหาร-ที่พัก' ฟรี!! ให้ไรเดอร์ หลังช่วยเซี่ยงไฮ้ ‘ไม่อดอยาก’ ช่วงล็อกดาวน์

China: แพลตฟอร์มส่งอาหารในจีน มอบที่พักฟรีและโบนัส ให้แก่บรรดาไรเดอร์ที่ทำงานในช่วงโควิดระบาดในเซี่ยงไฮ้

แพลตฟอร์มส่งอาหารของจีน อาทิ Meituan, JD.com, Ele.me และ Dada ได้ส่งพนักงานส่งของกว่า 1,000 คน ไปยังเซี่ยงไฮ้ จากเมืองและมณฑลใกล้เคียง เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีอาหารเพียงพอ ท่ามกลางข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายสาธารณะ หลังโควิด-19 ระบาดหนัก

สำนักข่าว thepaper.cn ของจีน รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10 เมษายน) ระบุว่า แพลตฟอร์มส่งอาหาร Meituan กำลังทำข้อตกลงกับโรงแรมกว่า 100 แห่ง สนามกีฬาในร่มขนาดเล็ก และสำนักงานในทุกเขตของเซี่ยงไฮ้ เพื่อให้บริการที่พักฟรีชั่วคราว แก่พนักงานส่งของและพนักงานขนส่ง กว่า 4,500 คน ในระหว่างให้บริการในเซี่ยงไฮ้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top