Wednesday, 2 July 2025
NEWS

'โทนี่' ชี้!! 10 ปีประเทศไทยติดกับเรื่องเล็กๆ ที่ชอบขยายวง ลั่น!! ‘บิ๊กตู่’ ไม่โง่!! 'แต่เลือกใช้คนโง่ - ไม่ค่อยฟังใคร'

(26 เม.ย. 65) เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี่ วู้ดซัม หรือ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ ซอฟต์พาวเวอร์ไทย : ฝันให้ไกล ไปให้ปัง!

โดยระหว่างการไลฟ์สด มีการตั้งคำถามถึงกระแสข่าวว่า มีการพบกันกับ พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปตรวจสุขภาพที่ประเทศอังกฤษ ว่า...

“พอดีว่า Holoportation ยังไม่มีที่ดูไบ ถ้ามีจะส่ง Hologram ของผม ไปคุยกับท่านที่ลอนดอน เพราะท่านอยู่ลอนดอน แต่ผมอยู่ดูไบ”

เส้นเลือดใหญ่แห่งมหานคร ‘แม่น้ำเจ้าพระยา’ อดีตคลองจากฝีมือคน สู่ แม่น้ำสายหลัก ของชาวกรุง

แม่น้ำเจ้าพระยาสายใหม่
เป็นคลองมนุษย์ขุดขึ้นในสมัยพระไชยราชาธิราช ยุคกรุงศรีอยุธยา
ต่อมา กลายเเป็นแม่น้ำใหญ่
เป็นที่ตั้งของสองราชธานี 
กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร
และกรุงเทพมหานคร
หรือแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงศิริราช พื้นที่กองทัพเรือ และวัดอรุณนั่นเอง


ที่มา : https://www.facebook.com/532544466865594/photos/a.532552690198105/4347486248704711/


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 4/2565 โดยจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

(26 เม.. 65) พล...สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 4/2565 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (Video Conference) ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมการประชุมฯ

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุมฯ ได้กำหนดให้มีการจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงาน ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.. 2565 ได้แก่...

ระดับกองบัญชาการ/ตำรวจภูธรภาค ได้แก่...

อันดับที่ 1 ตำรวจภูธรภาค 3

อันดับที่ 2 ตำรวจภูธรภาค 4

อันดับที่ 3 ตำรวจภูธร ภาค 9

ระดับกองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัด ได้แก่

อันดับที่ 1 ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม

อันดับที่ 2 ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์

อันดับที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง

‘ศรีลังกา’ ตัดสินใจกะทันหัน หนีซบ IMF แทนพึ่งเงินกู้จากจีน

รัฐบาลจีนแสดงทีท่าไม่ค่อยพอใจนัก เมื่อรัฐบาลศรีลังกามีแผนที่จะรับเงินกู้ก้อนใหม่จาก IMF เพื่อฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจที่กระทบต่อปัญหาปากท้องของชาวศรีลังกากว่า 22 ล้านคนในตอนนี้

ด้วยสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจของศรีลังกาในขณะนี้ ที่ขาดสภาพคล่อง และเงินสำรองต่างประเทศอย่างหนัก ถึงกับต้องประกาศพักชำระหนี้ต่างประเทศทั้งหมด เพื่อสำรองเงินต่างประเทศไว้นำเข้าสินค้าอุปโภคที่จำเป็น เวชภัณฑ์และพลังงานไว้ใช้ในประเทศเท่านั้น นับเป็นวิกฤติด้านเศรษฐกิจที่หนักที่สุดของศรีลังกา นับตั้งแต่เป็นประเทศเอกราชในปี 1948 

และนำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศ เนื่องจากประชาชนหลายล้านคนกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาเงินเฟ้อ สินค้าอุปโภค บริโภคราคาสูงขึ้นมาก หลายชุมชนมีปัญหาขาดไฟฟ้า/น้ำประปานานนับสัปดาห์ และภาคสาธารณสุขดำดิ่งสู่วิกฤติที่ใกล้ถึงจุดพังทลาย

รัฐบาลศรีลังกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โกตาบายา ราชปักษา จึงต้องหาวิธีผ่าตันด้วยการขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนระหว่างประเทศ หรือ IMF อีกครั้ง 

ศรีลังกาเคยขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุน IMF มานานเกือบ 20 ปี ครั้งล่าสุดที่ IMF เข้ามาดูแลปัญหาการเงินของศรีลังกา อยู่ในช่วงปี 2019 ที่ทำให้หนี้ต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งจนถึงปีนี้ 2022 ศรีลังกามีหนี้ต่างประเทศกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ และหากต้องการเสริมสภาพคล่องให้ระบบเศรษฐกิจให้พอต่อลมหายใจได้อีกครั้ง รัฐบาลศรีลังกาต้องการวงเงินกู้เพิ่มไม่น้อยกว่า 3 พันล้านเหรียญ

แต่ทั้งนี้ นอกเหนือจากเงินทุนช่วยเหลือจาก IMF และสถาบันการเงินของชาติตะวันตกแล้ว จีนก็เป็นหนึ่งในผู้ให้เงินกู้รายใหญ่กับรัฐบาลศรีลังกา พ่วงกับเงื่อนไขสัญญาในโครงการก่อสร้างในโปรเจกต์ Belt and Road Initiative ของจีน ซึ่งนับถึงตอนนี้รัฐบาลจีนปล่อยเงินกู้ให้ศรีลังกาไป 3.5 พันล้านเหรียญ

และทางการจีนได้เสนอที่จะให้เงินกู้ก้อนใหม่แก่ศรีลังกาอีกกว่า 1.5 พันล้านเหรียญเพื่อบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจ แต่ทว่าทางรัฐบาลศรีลังกาได้ตอบรับการช่วยเหลือจากกองทุน IMF อีกครั้ง ซึ่งเป็นการตัดสินใจอย่างกะทันหัน ทำให้รัฐบาลจีนไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก และยอมรับว่าการตัดสินใจของรัฐบาลศรีลังกา จะมีผลกับการเจรจาการให้เครดิตเงินกู้รอบใหม่กับจีนอย่างแน่นอน

ตำรวจสรุป 'คดีแตงโม' เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เหตุมีคนประมาท ยัน!! บาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ

(26 เม.ย. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดี แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวซึ่งพลัดตกจากสปีดโบ๊ตเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ได้จัดแถลงสรุปสำนวนคดีแตงโม

โดยทางทีมสืบสวน ได้เผยแพร่ไทม์ไลน์การสืบสวน โดยได้เปิดพยานหลักฐานทั้งหมดในการสอบสวนคดี พบสอบปากคำพยานบุคคลและพยานแวดล้อม 124 ปาก มีวัตถุพยาน ต่างๆ อีก 335 รายการเป็นคลิปวิดีโอกว่า 200 คลิป สำนวนคดีมีจำนวนทั้งสิ้น 2,499 หน้า

ทั้งนี้ทีมสอบสวนได้จัดทำเป็นคลิปวิดีโอชี้แจงไทม์ไลน์ก่อนและหลังการเกิดเหตุ โดยจากวงจรปิดพบวัตถุบังไฟบริเวณท้ายเรือในเวลาก่อนจะหายไปในเวลา 22.34.10 น. ก่อนที่เรือจะลดความเร็วและหักเรือกลับ ตรวจสอบพบว่าไม่พบเงาวัตถุท้ายเรือเหมือนรอบก่อน โดยจุดที่เงาวัตถุหายไปห่างจากจุดพบศพ 100 เมตร

จากคลิปวีดีโอพบหลักฐานที่เชื่อว่า แตงโม นิดา เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และตกเรือจากท้ายเรือและบาดแผลตามร่างกายนั้น เข้ากับแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ

‘รมต.รัสเซีย’ เตือน!! ‘WW3 - นิวเคลียร์’ อาจเป็นจริง หาก ‘นาโต’ ยังเดินเกมสงครามตัวแทนต่อเนื่อง

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเตือน ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 (WW3) อาจ ‘เป็นจริง’ และมีความเสี่ยงสูงมากที่ความขัดแย้งจะบานปลายถึงขั้นใช้ ‘อาวุธนิวเคลียร์’ หลัง ‘นาโต’ กำลังทำสงครามตัวแทนกับรัสเซีย แต่ยังเชื่อมั่นว่า ความขัดแย้งจะจบลงด้วยการลงนามในข้อตกลงสันติภาพ

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ Russian First Channel ของรัฐบาลรัสเซีย และสำนักข่าว Interfax ของรัสเซีย รวมทั้งสื่อหลายสำนักในรัสเซียเมื่อ 25 เม.ย. 65 โดยเตือนว่า หากพิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้ อันตรายที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 อาจ ‘เป็นความจริง’ ได้ พร้อมเตือนด้วยว่า มีความเสี่ยงสูงมากที่ความขัดแย้งในยูเครน จะบานปลายและยกระดับขึ้นไปจนถึงขั้นการใช้อาวุธนิวเคลียร์ 

อย่างไรก็ตาม ลาฟรอฟยืนยันว่า จุดยืนของรัสเซีย คือ ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ปล่อยให้เกิดความเสี่ยง อันจะทำให้ความขัดแย้งบานปลายไปได้ถึงขั้นนั้น แต่เขายอมรับว่า ขณะนี้ความเสี่ยงดังกล่าวกำลังเพิ่มและดูเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น จึงไม่ควรประเมินอันตรายเหล่านี้ ต่ำเกินไป อย่างไรเสีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลาฟรอฟ ก้ได้กล่าวว่า รัสเซียยังคงยึดมั่นในจุดยืนหลีกเลี่ยงสงครามนิวเคลียร์ 

'หริรักษ์' ชี้ โซเชียลโพสต์หมิ่นสถาบัน ทำเป็นขบวนการ เชื่อ!! จะไม่หยุด จนกว่าเป้าหมายล้มล้างจะสำเร็จ

'รศ.หริรักษ์' อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า...

เมื่อเร็วๆ นี้ได้เห็น fb ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า "ซาว ไซย่า" ได้โพสต์ภาพที่ตัดต่อนำพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาใส่ในภาพคนอื่นที่ไม่ใช่พระองค์ และเขียนบรรยายภาพด้วยข้อความที่ทุกคนที่มีใจเป็นธรรมเห็นแล้ว ไม่อาจรับได้ด้วยประการทั้งปวง

การที่คนพวกนี้กระทำเช่นนี้ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เชื่อว่า ไม่ได้ทำเพราะเกิดนึกสนุกขึ้นมา ไม่ได้ทำเพราะเกิดความแค้นจนไม่อาจไม่แสดงออกเพื่อตอบโต้ได้ เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างความแค้นให้กับใคร การใช้นามแฝงใน fb แสดงว่าเป็นการเตรียมการ ทำเป็นขบวนการ มีวาระ มีจุดหมาย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือ 'จุดแข็ง' จึงต้องกัดเซาะให้คนเสื่อมความนิยมในสถาบันพระมหากษัตริย์ลงเรื่อยๆ และพวกนี้ไม่มีวันเลิก จนกว่าจะไปถึงจุดหมายนั่นคือ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และเปลี่ยนการปกครองประเทศให้เป็นแบบสาธารณรัฐในที่สุด

ที่ชอบพูดกันว่า "กษัตริย์ไม่ใช่เจ้าของประเทศ ประชาชนต่างหากคือเจ้าของประเทศตัวจริง" อยากรู้เหมือนกันว่าบรรพบุรุษของคนที่พูดมาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใด ส่วนใหญ่ปู่ ย่า ตา ทวด ของคนที่พูดล้วนมาจากที่อื่น เข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในประเทศไทย และส่วนใหญ่จะรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ แต่ครั้นมีลูก มีหลาน มีเหลน พวกเขากลับลืมที่มาของบรรพรุษของตนเสียสิ้น ทึกทักเอาว่า ฉันนี่แหละคือเจ้าของประเทศตัวจริง ทั้งที่ตัวเองเพียงได้เกิดในประเทศไทย ถือสัญชาติไทย มีสิทธิถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ แม้ปัจจุบันเราจะมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แต่ต้องไม่ลืมว่า พระมหากษัตริย์ทรงก่อตั้งประเทศ หากไม่มีพระมหากษัตริย์ก็ไม่มีประเทศสยาม ไม่มีประเทศไทย

ชอบพูดกันนักว่า "ภาษีกู" กูจะทำอะไรก็ได้ ก็เมื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีรายได้ก็ต้องเสียภาษี เพื่อนำเงินไปรวมกันเป็นเงินของแผ่นดิน นำไปเป็นงบประมาณแผ่นดินเพื่อใช้จ่ายในการจัดสร้างสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และใช้จ่ายเพื่อให้ส่วนรวมทั้งหมดสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และได้รับการดูแลตามสมควร แต่การเสียภาษี ไม่ได้หมายความว่าผู้เสียภาษีจะสามารถทำอะไรกับสิ่งที่สร้างขึ้นมาจากเงินงบประมาณแผ่นดินก็ได้ตามใจชอบ เพราะทุกอย่างมีกติกา มีกฎเกณฑ์ เพื่อประโยขน์สุขของส่วนรวม จึงไม่มีใครสามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างไม่มีขอบเขต

'ดร.เสรี' ชมตำรวจ ปัดรับ 'กระเช้าสามกีบ' ไฮโซดัง ยัน!! 'หมิ่นเกียรติ-ศักดิ์ศรี' แบบนี้ ปล่อยผ่านไม่ได้!!

26 เม.ย. 65 ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตำรวจเล่นเป็น เล่นเก่งจริงๆ นะคะ ที่ไม่ลงมารับกระเช้าของคนถ่อยที่จัดของใส่มาอย่างตั้งใจสื่ออัตลักษณ์แห่งตัวตนอย่างไร้สำนึกผิดอย่างแท้จริง

ของที่ใส่มาในกระเช้าคือมะม่วงยี่ห้อสามกีบ น้ำพริกยี่ห้อทะลุฟ้า ทุเรียนกรอบของไมค์ ดูแล้วคิดยังไงกันบ้างคะ สำนึกผิดจริงไหมคะ

ไหว้สวย รวยกระเช้า ไม่เข้าทางค่ะ

ตำรวจยังคงยืนยันที่จะฟ้องนะคะ เพราะความถ่อยสถุลของนายคนนี้ เป็นการแสดงความกร่างที่หมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีของตำรวจที่ปล่อยผ่านไม่ได้

ปิดดีล!! 'อีลอน มัสก์' ซื้อ Twitter 44,000 ล้านเหรียญฯ คาดสิ่งแรกที่จะทำ 'กำจัดบัญชีหลุม'

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ (Twitter) ด้วยมูลค่า 54.20 ดอลลาร์ฯ ต่อหุ้น รวม 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1,500,000 ล้านบาท 

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนเมษายน อีลอน มัสก์ เคยมีข่าวการเข้าซื้อหุ้น 9.2% ของบริษัททวิตเตอร์และกลายเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดของบริษัท โดยไม่เข้าร่วมนั่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซึ่งในขณะนั้นผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากอีลอน มัสก์ กำลังมีแผนการใหญ่มากกว่าเข้าซื้อหุ้นและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงอย่างเดียว 

ในช่วงกลางเดือนเมษายน อีลอน มัสก์ กลายเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งเมื่อเขาเสนอซื้อกิจการทวิตเตอร์ (Twitter) ด้วยเงินสดมูลค่ากว่า 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,400,000 ล้านบาท แต่ทางกรรมการผู้บริหารบริษัทแสดงท่าทีปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวและออกมาตรการยาพิษ หรือ Poison Pill เพื่อสกัดไม่ให้ อีลอน มัสก์ ซื้อหุ้นของทวิตเตอร์สำเร็จ

ความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ของอีลอน มัสก์ในครั้งนี้ถูกเปิดเผยโดยคณะกรรมการบริหารบริษัททวิตเตอร์ว่าทางบริษัทได้พิจารณาอย่างละเอียดก่อนขายกิจการทวิตเตอร์ให้อีลอน มัสก์และเชื่อว่าจะเป็นหนทางที่ดีสำหรับทวิตเตอร์และผู้ใช้งาน รวมไปถึงผู้ถือหุ้นของบริษัท 

โดยปัจจุบันอีลอน มัสก์เป็นหนึ่งในผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามอันดับต้น ๆ ของโลกจำนวนมากกว่า 84 ล้านคน และมักเคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ทวีตข้อความต่าง ๆ บ่อยครั้งอย่างตรงไปตรงมา

อย่างไรก็ตามประเด็นการเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ของอีลอน มัสก์ยังคงต้องติดตามกันต่อไป เนื่องจากก่อนการเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์อีลอน มัสก์เคยประกาศว่าต้องการนำบริษัททวิตเตอร์ออกจากตลาดหุ้นและการตัดเงินผลประโยชน์ที่ผู้บริหารชุดเก่าจะได้รับ รวมไปถึงการปรับรูปแบบการให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ของทวิตเตอร์ให้มีเสรีภาพซึ่งเป็นโจทย์ที่ท่าทายท่ามกลางผู้ใช้งานจำนวนมากที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมรวมไปถึงข้อกฎหมายของแต่ละประเทศ

หอนาฬิกา 'สวนลุมพินี' หลักฐานที่ยังหลงเหลือ จากงาน 'เอกซ์โป' แห่งสยาม

หลงใหลสวนลุมพินี
หอนาฬิกาสวนลุมพินี 
หลักฐานที่หลงเหลือของแผนการจัดงาน “เอกซ์โป” ครั้งแรกในสยาม  
ชื่องาน "สยามรัฐพิพิธภัณฑ์" ในปี พ.ศ. 2468 
แต่ยกเลิกไปก่อนกำหนดเปิด 
เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน


ที่มา : https://www.facebook.com/532544466865594/posts/4413767582076577/?d=n


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

“เฉลิมชัย” ประกาศเป้าหมายพัฒนา "ทุเรียนไทย" ขึ้นแท่นคุณภาพดีที่สุดในโลก

รมว.เกษตรฯ เปิดงาน Eastern Monthong Best Quality เปิดฤดูกาลหมอนทองดีเลิศที่คุณภาพ ดีเยี่ยมเพื่อส่งออก เข้มมาตรการ Zero Covid ประกาศยืนหนึ่ง "ทุเรียนไทย" มีคุณภาพดีที่สุดในโลก พร้อมเดินหน้าแก้ทุเรียนอ่อนภาคตะวันออกปี 65

(25 เม.ย.65) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานประชาสัมพันธ์ Eastern Monthong Best Quality เปิดฤดูกาล "ทุเรียนหมอนทองตะวันออก" ดีเลิศที่คุณภาพ ดีเยี่ยมเพื่อส่งออก ณ สวนทุเรียนน้ำกร่อย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี


 
พร้อมด้วย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม
 
โดยมีนายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และเกษตรกร ให้การต้อนรับว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกผลไม้เมืองร้อนที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน


 
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยเราประสบปัญหาภาวการณ์แข่งขันที่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขทางการค้าที่เข้มงวดขึ้นรวมถึงการควบคุมสินค้าให้มีคุณภาพ และปัญหาผลไม้ราคาตกต่ำในช่วงผลผลิตกระจุกตัว
 
ดังนั้นแนวทางที่จะพัฒนาภาคเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ทุเรียน" จึงต้องพัฒนาทั้งระบบด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายบูรณาการทำงานร่วมกันทั้งเกษตรกร ล้ง ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เน้นการผลิตที่สอดคล้องกับตลาดโดยยึดหลักตลาดนำการผลิต สร้างและขยายตลาดโดยเฉพาะตลาดภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ คือการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 

เนื่องจากในช่วงเวลานี้เป็นฤดูกาลผลไม้ของภาคตะวันออกซึ่งจะมีผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ "ทุเรียน" ซึ่งขณะนี้มีความเป็นห่วงในเรื่องของ COVID- 19 และปัญหา "ทุเรียนอ่อน" จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID - 19 ตั้งแต่ระดับสวนเกษตรกร

และมาตรการควบคุมป้องกันแก้ไข "ทุเรียนอ่อนภาคตะวันออก" ปี 2565 ระดับสวนเกษตรกร เพื่อใช้เป็นมาตรฐานให้ทุกสวนผลไม้ส่งออกได้ยึดถือปฏิบัติและเป็นแนวทางให้ทุกฝ่ายได้ดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเป้าหมายให้ "ทุเรียนไทย" มีคุณภาพดีที่สุดในโลกและมีมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมเป็นพี่เลี้ยง และพร้อมแก้ไขปัญหาร่วมกัน รมว.เกษตรฯ กล่าว

รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อไปว่า การจัดงานครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเน้นย้ำความมีคุณภาพของ "ทุเรียนตะวันออก" ที่เป็นสินค้าเกษตรให้เป็นที่เชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศขอยืนยันว่าหาก "ทุเรียนไทย" เรายังรักษาคุณภาพไว้ได้ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการส่งออกอย่างแน่นอน จึงต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันรักษาคุณภาพทุเรียนไทย และไม่ให้มีการตัด "ทุเรียนอ่อน" อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ เตรียมจะขยายช่องทางส่งทางรางรถไฟขนส่งไปจีน คาดว่า 1-2 เดือน จะแล้วเสร็จ เพื่ออำนวยความสะดวกได้มากขึ้น
 
โอกาสนี้ รมว.เกษตรฯ ได้ร่วมขึ้น sky walk เพื่อตัดทุเรียนพร้อมจำหน่าย ร่วมกับอธิบดีกรมส่งเสริมเกษตร นายธีรพัฒน์ อุ่นใจ ที่ปรึกษาสมาพันธุ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออกและเกษตรกรดีเด่น พร้อมกับแกะทุเรียนเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ประชาสัมพันธ์งาน Eastern Monthong Best Quality เปิดฤดูกาลทุเรียนหมอนทองตะวันออกดีเลิศที่คุณภาพ ดีเยี่ยมเพื่อส่งออก

ทั้งนี้จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ปลูก "ทุเรียน" ประมาณ 320,000 ไร่ และมีปริมาณผลผลิต "ทุเรียน" ประมาณ 490,000 ตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 65 ของ 3 จังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตทุเรียนภาคตะวันออก และยังมีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทดแทนพืชชนิดอื่น เช่น ยางพารา เงาะ ลองกอง เป็นต้น
 
แหล่งผลิตทุเรียนที่สำคัญของจังหวัดจันทบุรีได้แก่ อำเภอท่าใหม่ เขาคิชฌกูฏและขลุง เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมีทั้งเกษตรกรรายเดิม เกษตรกรรายใหม่ และมีเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นทายาทเกษตรกรชาวสวนเดิมเข้ามาเริ่มทำการเกษตรมากขึ้น มีการปฏิบัติดูแลรักษาเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการสวนเพิ่มขึ้น ทำให้ผลตอบแทนต่อไร่สูงขึ้นตลอดระยะเวลา 5 - 6 ปีที่ผ่านมา
 
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินมาตรการเตรียมความพร้อมรองรับผลผลิต"ทุเรียนภาคตะวันออก" ปี 2565 ที่เน้นให้การส่งออกผลไม้ต้อง Zero Covid และต้องไม่มีปัญหาทุเรียนอ่อน เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นสู่ผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนที่เป็นตลาดส่งออกหลัก
 
ในฤดูกาลผลไม้ปีนี้ จีนในฐานะประเทศคู่ค้าสำคัญผลไม้ของภาคตะวันออกกำหนดว่าต้องตรวจไม่พบเชื้อ COVID -19 ทั้งในคน ผลไม้และองค์ประกอบอื่นในการขนส่งเพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จัดงาน Eastern Monthong Best Quality เปิดฤดูกาลหมอนทองภาคตะวันออก ดีเลิศที่คุณภาพ ดีเยี่ยมเพื่อส่งออก ขึ้นในวันนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ และสร้างความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันทุเรียนอ่อนและมาตรการ Zero Covid ของทั้งเกษตรกรเจ้าของสวนและผู้ประกอบการส่งออกในภาคตะวันออกทุกจังหวัด

"โฆษก สพฐ." ชี้ กองทะเบียนประวัติฯ ยุคใหม่ ใส่ใจประชาชน นำเทคโนโลยี มาให้บริการอำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่าย

(25 เม.ย.65) ที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) ได้นำนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเป็นแนวทางการทำงานของ สพฐ.ตร. ปัจจุบันกองทะเบียนประวัติอาชญากร นำโดย พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผบก.ทว. ได้ปรับปรุงการให้บริการประชาชน ในการตรวจสอบประวัติ ด้วย ชื่อ-ชื่อสกุล ผ่านระบบออนไลน์ แต่เดิมนั้นต้องเดินทางเข้ามาเพื่อขอตรวจสอบประวัติที่ศูนย์บริการตรวจสอบประวัติบุคคล (walk in) ที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทำให้ต้องเสียค่าเดินทาง พบเจอคนจำนวนมากเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด19 ปัจจุบันจึงยกเลิกการ Walk in                

โดยทุกคนสามารถยื่นคำร้องขอตรวจสอบประวัติด้วยตนเอง เพียงกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com หลังจากนั้น 1 – 2 วัน หากอนุมัติแล้ว ก็สามารถติดต่อขอรับผลการตรวจสอบ พร้อมชำระเงินตามสถานที่ที่ระบุ ตอนกรอกข้อมูล ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ทั้งนี้ สามารถเลือกรับผล ได้ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1-10, พิสูจน์หลักฐานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรุงเทพฯ


                
กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้เริ่มเปิดใช้บริการ เว็บไซต์ตรวจสอบประวัติ ด้วยชื่อ- ชื่อสกุลออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแล้วทั้งสิ้นกว่า 70,000 ราย สถิติผู้มาใช้บริการในเดือน ธ.ค. 64 - มี.ค. 65 กรุงเทพฯ เฉลี่ยวันละ 400 ราย  สำหรับต่างจังหวัดมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 350 ราย จังหวัดที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดคือ จังหวัดเชียงใหม่

นอกจากนี้ กรณีประชาชนที่เคยมีประวัติการต้องหาคดีอาญา เมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว หากประสงค์จะคัดแยกประวัติ สามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์การคัดแยกประวัติในเว็บไซต์www.criminal.police.go.th และติดต่อสถานีตำรวจเจ้าของคดี เพื่อให้ส่งรายงานผลคดีถึงที่สุดมายังกองทะเบียนประวัติอาชญากร และเข้าสู่กระบวนการ คัดแยกประวัติต่อไป ที่สำคัญอย่าหลงเชื่อบุคคลภายนอกที่อ้างว่าสามารถลบประวัติให้ท่านได้อย่างเด็ดขาด

รถไฟฟ้าสายแรก ‘บังกลาเทศ’ คืบ 92% พร้อมเปิดหวูด 16 ธ.ค.นี้ ตรงฉลองวันชาติ

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 65 บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หน่วยงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า Dhaka Metro Rail Project CP03 & CP04 ณ กรุงธากา ได้ต้อนรับ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ นางมาฆวดี สุมิตรเหมาะ พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูต รวมจำนวน 5 ท่าน ที่มาเยี่ยมชมโครงการ โดยมีเจ้าของงาน (DMTCL) และที่ปรึกษาโครงการ (NKDM) ร่วมต้อนรับ โดยได้เยี่ยมชมโครงการและถือโอกาสพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องคนไทยที่ทำงานในโครงการ รวมทั้งเพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-บังกลาเทศ ในโอกาสครบรอบ 50 ปี

“โฆษกกห.” ชี้ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม เอาจริง ปราบปรามค่ามนุษย์ วอน หยุดพาดพิง ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องค้ามนุษย์ ร้องขอความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพ ยกคดี “พล.ท.มนัส” หากช่วยกัน คงได้ประกันออกมาแล้ว 

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ จากสำนักข่าวอัลจาซีลา ที่ผ่านมา โดยมีการกล่าวพาดพิงว่า  ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นั้น  ดูจะไม่ให้ความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพในภาพรวม  ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพได้เข้าสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ในการแก้ปัญหาสำคัญๆที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะ การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมาต่อเนื่องยาวนานในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา 

“ขอยืนยันว่ากระทรวงกลาโหม สนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างแข็งขัน และมีนโยบายชัดเจนห้ามกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือ สิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด  ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องกำกับดูแลกำลังพล หากปรากฏพบการกระทำผิดของกำลังพล ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ต้องสอบสวนเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาให้ถึงที่สุด โดยให้สืบเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการปกป้องหรือยกเว้นเป็นเด็ดขาด  และกระทรวงกลาโหม จะไม่เก็บคนเหล่านี้ไว้ในกองทัพ ให้เกิดความเสื่อมเสียกับองค์กรและประเทศชาติ”พล.อ.คงชีพ กล่าว

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า สำหรับคดีการจับกุม พล.ท.มนัส ในข้อหาค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เป็นการยืนยันถึงความจริงใจในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในสมัยยุครัฐบาล คสช.  โดยมีการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการช่วยเหลือ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและปกป้องกันจริง พล.ท.มนัส คงไม่ติดคุกและได้รับการประกันตัว  ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าคดีมีการสืบสวนออกหมายจับแล้ว 153 หมาย มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้วกว่า 120 ราย  โดยเฉพาะการกล่าว หาเชื่อมโยงพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแกนหลักระดับนโยบายของรัฐบาล ในการนำและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังที่ผ่านมา จนสถานภาพและปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ  

โดยการกล่าวหาที่ไม่มีข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ จะเป็นการสร้างความสับสนกับสังคมและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการประเมินสถานภาพการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่จะมีขึ้น และจะกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในภาพรวม

“บิ๊กบี้” ย้ำหน่วยทหารทั่วปท. บูรณาการความร่วมมือ ด้านความมั่นคงกับปท.เพื่อนบ้าน เข้มสกัดยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าเมืองเข้าไทย

ที่กองบํญชาดารกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบออนไลน์กับหน่วยทหารทั่วประเทศ โดยได้สั่งการเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก เน้นย้ำการบูรณาการประสานความร่วมมือในทุกมิติงานด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการสกัดกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้ทุกหน่วยบริหารจัดการสร้างพื้นที่ให้มีความปลอดภัยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศและประชาชนในพื้นที่ชายแดนภายใต้กรอบนโยบายของรัฐบาล

โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงการตรวจเลือกทหารกองประจำการที่เสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการและชายไทยเป็นอย่างดี ประกอบกับมีผู้สมัครเป็นทหารกองประจำการตามที่กองทัพได้เชิญชวน ทั้งนี้ในเรื่องการดูแลและการจัดการฝึกทหารใหม่ กองทัพบกยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันโควิด-19 ด้วยมาตรการที่สอดคล้องกับสถานการณ์โรค การตรวจคัดกรองหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และการดูแลพื้นฐานทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโควิด-19 สำหรับการฝึกทหารใหม่ จะมุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาศักยภาพของทหารใหม่ให้เป็นผู้ที่มีวินัย มีความรักสามัคคี เสียสละ ทำประโยชน์เพื่อประเทศ รวมทั้งการคัดเลือกทหารใหม่ให้ได้ทำงานในตำแหน่งหน้าที่ตามความถนัดและมีโอกาสพัฒนาตนเองได้มากที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top