'หริรักษ์' ชี้ โซเชียลโพสต์หมิ่นสถาบัน ทำเป็นขบวนการ เชื่อ!! จะไม่หยุด จนกว่าเป้าหมายล้มล้างจะสำเร็จ

'รศ.หริรักษ์' อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า...

เมื่อเร็วๆ นี้ได้เห็น fb ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า "ซาว ไซย่า" ได้โพสต์ภาพที่ตัดต่อนำพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาใส่ในภาพคนอื่นที่ไม่ใช่พระองค์ และเขียนบรรยายภาพด้วยข้อความที่ทุกคนที่มีใจเป็นธรรมเห็นแล้ว ไม่อาจรับได้ด้วยประการทั้งปวง

การที่คนพวกนี้กระทำเช่นนี้ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เชื่อว่า ไม่ได้ทำเพราะเกิดนึกสนุกขึ้นมา ไม่ได้ทำเพราะเกิดความแค้นจนไม่อาจไม่แสดงออกเพื่อตอบโต้ได้ เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างความแค้นให้กับใคร การใช้นามแฝงใน fb แสดงว่าเป็นการเตรียมการ ทำเป็นขบวนการ มีวาระ มีจุดหมาย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือ 'จุดแข็ง' จึงต้องกัดเซาะให้คนเสื่อมความนิยมในสถาบันพระมหากษัตริย์ลงเรื่อยๆ และพวกนี้ไม่มีวันเลิก จนกว่าจะไปถึงจุดหมายนั่นคือ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และเปลี่ยนการปกครองประเทศให้เป็นแบบสาธารณรัฐในที่สุด

ที่ชอบพูดกันว่า "กษัตริย์ไม่ใช่เจ้าของประเทศ ประชาชนต่างหากคือเจ้าของประเทศตัวจริง" อยากรู้เหมือนกันว่าบรรพบุรุษของคนที่พูดมาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใด ส่วนใหญ่ปู่ ย่า ตา ทวด ของคนที่พูดล้วนมาจากที่อื่น เข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในประเทศไทย และส่วนใหญ่จะรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ แต่ครั้นมีลูก มีหลาน มีเหลน พวกเขากลับลืมที่มาของบรรพรุษของตนเสียสิ้น ทึกทักเอาว่า ฉันนี่แหละคือเจ้าของประเทศตัวจริง ทั้งที่ตัวเองเพียงได้เกิดในประเทศไทย ถือสัญชาติไทย มีสิทธิถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ แม้ปัจจุบันเราจะมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แต่ต้องไม่ลืมว่า พระมหากษัตริย์ทรงก่อตั้งประเทศ หากไม่มีพระมหากษัตริย์ก็ไม่มีประเทศสยาม ไม่มีประเทศไทย

ชอบพูดกันนักว่า "ภาษีกู" กูจะทำอะไรก็ได้ ก็เมื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีรายได้ก็ต้องเสียภาษี เพื่อนำเงินไปรวมกันเป็นเงินของแผ่นดิน นำไปเป็นงบประมาณแผ่นดินเพื่อใช้จ่ายในการจัดสร้างสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และใช้จ่ายเพื่อให้ส่วนรวมทั้งหมดสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และได้รับการดูแลตามสมควร แต่การเสียภาษี ไม่ได้หมายความว่าผู้เสียภาษีจะสามารถทำอะไรกับสิ่งที่สร้างขึ้นมาจากเงินงบประมาณแผ่นดินก็ได้ตามใจชอบ เพราะทุกอย่างมีกติกา มีกฎเกณฑ์ เพื่อประโยขน์สุขของส่วนรวม จึงไม่มีใครสามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างไม่มีขอบเขต

ใครก็ตามที่ประกาศว่า สนามหลวงเป็นของประชาชน ประชาชนต้องใช้ประโยชน์อย่างไรก็ได้ หากที่คนพูดเกิดมีวาสนาได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขึ้นมาจริงๆ โดยตรรกะเดียวกัน ก็น่าจะต้องประกาศด้วยว่า สำนักงานกทม และห้องทำงานของผู้ว่าฯ ก็เป็นของประชาชน ดังนั้นประชาชนจะเข้ามาทำอะไรก็ได้ในสำนักงาน หรือในห้องทำงานผู้ว่าฯ โดยไม่มีข้อห้ามใดๆ 

สถาบันพระมหากษัตริย์ก็อยู่คู่กับประเทศไทยมาช้านาน และยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้ประเทศอยู่รอดพ้นภัยมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า สถาบันพระมหากษัตริย์จึงยังคงมีความสำคัญต่อประเทศไทย การดำรงอยู่หรือไม่ดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์จึงควรเป็นไปตามกาลเวลา ตามสภาพ หากพระมหากษัตริย์พระองค์ใดไม่ครองแผ่นดินโดยธรรม ไม่ทรงทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มิพักต้องเอ่ยถึงการกดขี่ประชาชนซึ่งเป็นไปไม่ได้ในยุคปัจจุบัน และหากเป็นเช่นนั้น สถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะเกิดความเสื่อมโดยตัวเอง และจะดำรงอยู่ไม่ได้ในที่สุด แต่ในปัจจุบันยังไม่ใช่เวลานั้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย 

ไม่เข้าใจว่าทำไมใจร้อน อยากรีบล้มล้างกันเหลือเกิน ประหนึ่งว่าไปรับงานใครมา จึงต้องทำให้บรรลุเป้าหมายตามกำหนดเวลา มิฉะนั้นจะต้องตกงาน เปลี่ยนให้ทีมอื่นมาทำงานแทน ใช่หรือไม่ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายต่างก็รู้อยู่แก่ใจ


ที่มา : https://www.facebook.com/100000016923106/posts/5489718144372029/