Friday, 4 July 2025
NEWS

เพจดังแชร์คลิป หาดวอนนภา 'ขยะเกลื่อน-คนฉี่ลงทะเล' ชาวเน็ตรุมจวก 'ขายหน้า-ไม่มีความรับผิดชอบ'

(16 พ.ค. 65) เป็นคลิปที่มีแต่ความพีก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หาดวอนนภา บางแสน จ.ชลบุรี โดยเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ได้เผยคลิปนี้พร้อมระบุแคปชันว่า "ชาวต่างชาติกำลังคุยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะมากัน #หาดวอนนภา"

โดยในคลิปที่ปรากฏมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผู้ชายและผู้หญิง กำลังนั่งชิวริมทะเล ซึ่งรอบๆ ตัวมีแต่ขยะเกลื่อนหาดทราย หนำซ้ำยังพบว่ามีชายคนหนึ่ง ท่าทางคล้ายคนเมาสุรากำลังยืนปัสสาวะลงทะเลอีกด้วย 

'สหรัฐฯ' ส่อหยุดชะงักส่งอาวุธช่วยเหลือ 'ยูเครน' เหตุ ต้องรอสภาคองเกรสอนุมัติงบก่อน

การส่งอาวุธของสหรัฐฯ ให้ยูเครนอาจถูกตัด อย่างน้อยๆ ก็ชั่วคราว จนกว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติงบประมาณใหม่เกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือยูเครนสกัดการรุกรานของรัสเซีย จากคำเตือนของกระกรวงกลาโหมอเมริกาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

"19 พฤษภาคมคือวันนั้น หากปราศจากอำนาจเพิ่มเติม เราจะเริ่มไม่มีศักยภาพส่งมอบอาวุธใหม่ๆ เข้าไป" จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (13 พ.ค.) "ในวันที่ 19 พฤษภาคม มันจะเริ่มส่งผลกระทบต่อความสามารถมอบความช่วยเหลือโดยไม่ติดขัด"

การส่งมอบอาวุธไปยังยูเครนจะไม่หยุดลงในทันทีในวันที่ 20 พฤษภาคม แม้ปราศจากงบประมาณดังกล่าว เพราะว่ายังคงเหลืออาวุธบางส่วนที่จัดซื้อภายใต้อำนาจการใช้จ่ายราว 100 ดอลลาร์สหรัฐในงบประมาณช่วยเหลือยูเครนของเพนตากอนในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เคอร์บี ยอมรับว่าเพนตากอนอาจต้องหยุดนิ่งเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ได้ในระยะเวลาหนึ่ง หากการอนุมัติเห็นชอบแพกเกจช่วยเหลือยูเครนรอบใหม่ล่าช้าเป็นเวลานาน

แพกเกจช่วยเหลือยูเครนรอบใหม่ของวอชิงตัน มูลค่า 39,800 ล้านดอลลาร์ ผ่านความเห็นชอบอย่างท่วมท้นจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในคืนวันอังคาร (10 พ.ค.) แต่วุฒิสภาสหรัฐฯ ล้มเหลวในความพยายามเร่งรัดให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.)

แม้ร่างงบประมาณดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แต่มันจำเป็นต้องได้ไฟเขียวอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 2 พรรค สำหรับลงมติโดยไม่จำเป็นต้องอภิปรายใดๆ ทว่าความพยายามดังกล่าวถูกยับยั้งด้วย 1 เสียงค้านของ ส.ว.แรนด์ พอล จากเคนทักกี พรรครีพับลิกัน ซึ่งยืนกรานให้มีการแต่งตั้ง “ผู้ตรวจสอบ” เพื่อติดตามการใช้จ่ายเงินก้อนนี้ว่าเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่อย่างไร

พอล เรียกร้องให้แก้ข้อความในร่างกฎหมายเพื่อกำหนดให้มีผู้ตรวจสอบพิเศษ (inspector general) คอยกำกับการใช้เงิน และยังตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่จะช่วยยูเครนนั้นมากกว่างบประมาณที่สหรัฐฯ ใช้จ่ายกับหลายๆ โครงการในประเทศเสียอีก และยังมากพอๆ กับงบป้องกันประเทศที่รัสเซียจัดสรรตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และกระพือปัญหาเงินเฟ้อ

“ไม่ว่าเราจะเห็นอกเห็นใจพวกเขาขนาดไหน แต่ผมได้ให้สัตยาบันตอนเข้ารับตำแหน่งว่าจะปกป้องความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา” พอล กล่าว “เราไม่สามารถปกป้องยูเครนด้วยการทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองได้”

เคอร์บี เน้นย้ำว่า เพนตากอนร้องขอให้มอบงบประมาณใหม่สำหรับช่วยเหลือยูเครน ให้ทันสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม "แน่นอน เราเรียกร้องวุฒิสภาดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราไม่สามารถปล่อยให้ผ่านไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม โดยปราศจากอำนาจใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ"

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติร่างงบประมาณช่วยเหลือยูเครนมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียง 368 ต่อ 57 แต่ด้วยทุกเสียงที่โหวต “ไม่เห็นด้วย” ล้วนมาจากพรรครีพับลิกันนั้น มันบ่งชี้ว่าฝ่ายรีพับลิกันนั้นมีความเห็นแตกแยกกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเด็นนี้

'พงศ์พรหม' ชี้!! ดราม่า Car seat สะท้อนสังคมไทย ประชาชนขาดความเข้าใจ ส่วนภาครัฐก็ไม่สื่อสาร

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ ดราม่าเรื่อง Car seat ทำให้สังคมเห็น 2 อย่าง คือ การไม่เข้าใจของประชาชน และการไม่สื่อสารของรัฐ ว่า...

ในความเห็นผม

กฎหมายนี้ดี ต้องบังคับใช้ โดยไม่ต้องมีข้ออ้าง

ผมเคยพูดถึงขนาดตลาดแต่งรถไปแล้ว ใครลองไปดูตามหัวเมือง สระบุรี ขอนแก่น โคราช สุราษฎร์ธานี ฯลฯ ได้ แต่งรถกันด้วยเงินหนักกว่า car seat เป็นหลายสิบเท่า

- เปลี่ยนเทอร์โบ แต่งท่อ 
- มอเตอร์ไซค์ยุคนี้แต่งกันเป็นแสน

สถิติฟ้องครับ คนซื้อรถ ซื้อมอเตอร์ไซค์ แต่งกันหนักมากที่สุดในอาเซียน

- ลองดู Isuzu DMax 4 ประตูมือ 2 ราคา 4.8 แสน
- มาดู Ecocar มือ 1 ราคา 4.8 แสน
- ราคา Car seat “คุณภาพดี” เริ่มต้นก็ 4 พันกว่าบาท
- มันคือแค่ “1% ของราคารถ” 

>> เริ่มง่ายๆ ครับ ทำไมต้องใช้ Car seat?

ผมว่าคลิปนี้เข้าใจง่ายสุด https://m.youtube.com/watch?v=0AEu1xQLAJ8

ก็เพราะเด็กยังมีสรีระ กล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง อุบัติเหตุชนหน้ารถ ข้างรถ เบาๆ ก็ทำให้หลังคด คอหัก พิการ หรือเสียชีวิตได้

>> ลองดูคลิปเพิ่มครับ https://m.youtube.com/watch?v=3YF34gzwiaQ

แล้วถ้ามองว่ามนุษย์มีความสำคัญ ก็จะเข้าใจว่ามันสำคัญกว่าเหล้า ความสนุก การแต่งรถของผู้ใหญ่มากมาย 

>> คราวนี้มาดูการใช้

การจะซื้อ Car seat ต้องดูอะไรบ้าง?
1.) ดูอายุ และความสูงลูกคุณ

2.) ดูชนิดเบาะรถคุณ มี Isofix หรือ ไม่มี ซึ่งพูดตรงๆ ไม่ใช่ปัญหา แค่มี Isofix ก็จะทำให้สะดวก และการยึดฐานแน่นหนาหน่อย แต่หากไม่มี การใช้ Seatbelt รัดในรุ่น Car seat ที่ออกแบบให้ใช้กับเบาะที่ไม่มี Isofix ก็จะมีจุดยึดแน่นหนาไม่ต่างกัน

3.) ดูชนิด seat belt รถคุณ แม้รถส่วนใหญ่จะเป็น belt 3 จุดหมดแล้ว แต่ก็ยังมีรถเช่น Hyundai H-1 ที่เบาะแถว 2-4 เป็น seat belt 2 จุดรัดเอวแบบเก่าอยู่ เป็นต้น

4.) Car seat ได้มาตรฐานรับรองจากอะไร? เริ่มต้นก็ มอก. กระทรวงอุตสาหกรรม อย่างน้อยมั่นใจได้ว่าดีแล้ว แต่ตัวที่แพงขึ้น ก็จะเริ่มมีมาตรฐานที่สูงกว่าไปเรื่อยๆ เช่น TUV, NHTSA ซึ่งมักจะหมายถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นไปอีก

>> อันนี้ต้องเน้นหลายๆ ทีว่า...

Car seat ที่ได้รับมาตรฐานรับรอง แล้วมีราคา 3-4 พันบาทนั้น ยังไงก็ดี และปลอดภัย “มาก” กว่าการที่จะให้ลูกหลานคุณนั่งเบาะติดรถ ในขณะที่เขายังตัวเล็ก

เพียงแต่ในรุ่นที่สูงขึ้น ก็จะมีโครงสร้างที่แข็งแรง และปกป้องการชนได้หลายทิศทางมากกว่า

'เฉลิมชัย' สั่งกรมประมงเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงทุกกลุ่ม

'สมาคมประมงฯ' พอใจรัฐมนตรีเกษตรทำงานไวตอบโจทย์ทุกประเด็นปัญหาพร้อมประกาศสนับสนุนร่างพรบ.สภาการประมงฯ และร่างพรบ.กองทุนพัฒนาการประมง 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยเปิดเผยวันนี้ภายหลังการประชุมร่วมระหว่างดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน กับนายมงคล สุขเจริญคณา นายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการบริหารสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย (ชุดใหม่)อาทิ นายประเสริฐ แตกช่อ รองประธานกรรมการฯ อาวุโส นายบุญชู แพใหญ่ รองประธานกรรมการฯ ภาคใต้ฝั่งอันดามัน นายไตรฤกษ์ มือสันทัด รองประธานกรรมการฯ ภาคใต้ตอนบน ดร.สุรเดช นิลอุบล รองประธานกรรมการฯ ภาคใต้ตอนล่าง นายพิชัย แซ่ซิ้ม รองประธานกรรมการ ฯ ภาคกลาง และนายสฤษฎ์พัฒน์ ภมรวิสิฐ รองประธานกรรมการฯ ฝ่ายต่างประเทศ พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรี นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรี นายสมเกียรติ กอไพศาล ประธานคณะทำงานรัฐมนตรี นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยเสนอประเด็นความเดือดร้อนจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนและการแพร่ระบาดของโควิด19รวมทั้งกฎหมายกฎระเบียบของพรก.การประมง เช่น...

1.ปัญหาต้นทุนการทำประมงที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันและต้นทุนอื่นๆ ในขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวมีผลต่อราคาสินค้าประมง

2.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดโครงการนำเรือออกนอกระบบ

3.ปัญหาขาดแคลนแรงงานประมงโดยขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง ปีละ 2 ครั้งๆ ละ 3 เดือน

4.เสนอให้เร่งรัดการออกใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน เพื่อให้ผู้ประกอบการเรือประมงพื้นบ้านได้รับสิทธิที่ควรได้รับ 

5.ขอให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ (ฉบับที่ ....) พ.ศ....ตามที่สมาคม ฯ เสนอรวมทั้งพรก.ประมงที่ขัดต่อหลักกฎหมายสากล

6. ไม่เห็นด้วยกับโครงการเพิ่มศักยภาพการตรวจสอบและเฝ้าระวังการทำการประมงผิดกฎหมาย ณ ท่าเทียบเรือประมงของหน่วยงานอื่น (ไม่ใช่กรมประมง) ที่จะมีการบังคับให้ติดกล้องวงจรปิดตามแพปลาเอกชน และต้องรับภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

7.เรื่องการออกข่าวในสื่อสาธารณะต่างๆ กรณี บก.ปคม. เปิดยุทธการ "เรือมนุษย์" เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมงซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย

8.กรณีเรือประมง 5 ลำ ที่สงขลาและ SEABOOK ปลอม ในพื้นที่ชลบุรี

9.การผลักดันและสนับสนุนการทำปะการังเทียม

10.ขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาค่า MSY ชุดใหม่

11.ขอให้เร่งรัดการออกใบอนุญาตทำการประมงนอกน่านน้ำที่ต้องใช้เวลานานกว่า 2 เดือนซึ่งความล่าช้าจากหน่วยงานอื่น (ไม่ใช่กรมประมง) ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากความล่าช้า

12.สนับสนุนร่างพรบ.สภาการประมงแห่งประเทศไทยและร่างพรบ.กองทุนพัฒนาการประมงโดยจะร่วมผลักดันกับกระทรวงเกษตรฯ.และพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้จัดทำร่างกฤหมายดังกล่าวร่วมกับร่างกฎหมายของสมาคมฯ

ทางด้าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ยืนยันว่าจะติดตามดูแลทุกประเด็นข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงทุกกลุ่ม ส่วนเรื่องกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายพรก.ประมงอยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติแต่ตนก็ยินดีช่วยประสานในกรณีเกิดปัญหา

นอกจากนี้รัฐมนตรีเกษตรฯ ได้มอบหมายกรมประมงเร่งรัดดำเนินการในประเด็นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสั่งการให้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาประเด็นการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายกฎระเบียบต่างๆให้เป็นธรรมเหมาะสมต่อไปโดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนกรณีปัญหาแรงงานตามมาตรา83 จะประสานกับรัฐมนตรีแรงงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมทำงานแบบมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับชาวประมงทุกกลุ่มทั้งประมงนอกน่านน้ำ ประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้านและประมงเพาะเลี้ยงรวมทั้งอุตสาหกรรมประมงทั้งระบบภายใต้คณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยและกรมประมง ทั้งนี้ยังได้จัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นกว่า 2,600 องค์กรใน50จังหวัดพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาอาชีพและศักยภาพองค์กรละ 1 แสนบาทปีละ200องค์กรในการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างศักยภาพของประมงพื้นบ้านและท้องถิ่นโดยล่าสุดรัฐมนตรีเกษตรได้ประชุมและกำหนดเป้าหมายการฟื้นฟูการเพาะเลี้ยงกุ้งปีละ 4 แสนตันกับร่วมกับเครือข่ายสมาคมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและสมาคมอุตสาหกรรมอาหารทะเลตลอดห่วงโซ่การผลิต สำหรับในส่วนประมงพาณิชย์และประมงนอกน่านน้ำถือว่าเป็นฐานเศรษฐกิจการประมงที่สำคัญและได้รับผลกระทบจากมาตรการ IUU วิกฤติโควิด19และสงครามรัสเซีย-ยูเครนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะเพิ่มความร่วมมือกันฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆไปด้วยกันตามนโยบายของรัฐมนตรีเกษตร

กระทรวงเกษตรฯ จับมือสภาอุตสาหกรรมฯ.ชุดใหม่ลุย14โครงการยกระดับภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง

'เกรียงไกร”' มั่นใจไฮไลท์โครงการอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ (SAI) เสร็จทันโชว์ศักยภาพไทยในการประชุมเอเปค (APEC) พฤศจิกายนนี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กรกอ.)นำคณะกรรมการและผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ.ร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ชุดใหม่โดยมีสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมและสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตรร่วมประชุมด้วยที่สำนักงานใหญ่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในวันนี้โดยนายอลงกรณ์และคณะได้แสดงความยินดีกับนายเกรียงไกร เธียรนุกูลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและคณะผู้บริหารชุดใหม่ 

จากนั้นได้ประชุมหารือถึงการพัฒนาความร่วมมือภายใต้ คณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เกี่ยวกับโครงการความร่วมมือที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ 3 โครงการได้แก่
1.โครงการเกษตรแม่นยำ 2 ล้านไร่โดยจะขยายเป้าหมายโครงการจาก 2 ล้านไร่เป็น 5 ล้านไร่
2.โครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร ครอบคลุม 18 กลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ
3.โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry)

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการหารือและเห็นพ้องต้องกันในโครงการริเริ่มใหม่ที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไปได้แก่

1.โครงการพัฒนาแบรนด์สินค้าเกษตร( The Brand Project )สู่เกษตรมูลค่าสูง”เป็นแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์(Creative Economy)
2.โครงการอาหารแห่งอนาคต(Future Food)สำหรับอาหารคนและอาหารสัตว์ เช่น ถั่วเขียว เห็น สาหร่าย ผำและแมลง 
3.โครงการส่งเสริมการลงทุนเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมMade In Thailand 
4.โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตรและเอสเอ็มอี.เกษตร
5.โครงการความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรระหว่าง สวก. ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC)และสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตรของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 
6.โครงการมหานครผลไม้และการพัฒนาอุตสาหกรรมผลไม้ และ โครงการ Eastern Thailand Food Valley
7.โครงการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาล
8.โครงการSmart Agriculture Industry(SAI in the City)โดยร่วมมือระหว่าง ส.อ.ท. กระทรวงเกษตรฯ และมหาวิทยาลัเกษตรศาสตร์(บางเขน)เพื่อพัฒนาเป็นโมเดลการพัฒนาระดับพื้นที่ (Area based development) ภายใต้ BCG model ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้และจะเป็นไฮไลท์ของการประชุมเอเปค(APEC)ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมเกษตรของไทย จากนั้นจะขยายโครงการไปทุกจังหวัด
9.โครงการสนับสนุนการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ในฤดูกาลผลิตผลไม้ปี 2565 โดยส.อ.ท.ให้การสนับสนุนในเบื้องต้นเป็นทุเรียน2,000ตันและมัวคุด500ตัน
10.การฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้ง สินค้าประมงและปศุสัตว์ รวมทั้งระบบความเย็น(Cold Chain system)
11.ความร่วมมือเพื่อสร้างโอกาสร่วมกันในวาระการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของคณะผู้แทนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2565โดยเน้นประเด็นการร่วมลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรและการขยายการส่งออก

ลูกเจ้าของสวนดีกรี ‘ดาวโรงเรียน’ แต่งชุดไทย ช่วยแม่ขายทุเรียน

สุดฮือฮา!!สาวสวยดีกรีดาวโรงเรียน แต่งชุดไทยช่วยแม่ขายทุเรียนและผลผลิตจากสวนตัวเอง ลูกค้าแห่อุดหนุน เผย ภูมิใจที่ได้อนุรักษ์ความเป็นไทย และช่วยให้ขายดิบขายดี

สาวสวยแต่งชุดไทย แต่ละวันไม่เคยซ้ำ ยืนขายทุเรียนอยู่ที่แผงของ ผช. มานพ ห่างภัย ในตลาดผลไม้ตะพง อำเภอเมืองระยอง ซี่งได้รับความสนใจจากประชาชน นักท่องเที่ยว ที่พบเห็นต่างพากัน โพสต์ภาพ ความสวยงาม ความคล่องแคล่วในการขายและปลอกทุเรียนด้วยความชำนาญอย่างไม่ห่วงสวย ลงในสื่อโซเชียล มีผู้ชื่นชมเป็นจำนวนมาก

เมื่อไปถึงที่ร้าน ซึ่งตั้งเป็นแผงอยู่ในสนามฟุตบอล ด้านหลังตลาดผลไม้ตะพง มีร้านขายผลไม้ตั้งเรียงรายอยู่หลายร้าน โดยร้านของ ผช. มานพ ตั้งอยู่แผงที่ 4 เมื่อเดินเข้าไปภายในร้าน พบกับนางชนาภา ห่างภัย อายุ 54 ปี และนางสาว ชลดา ห่างภัย อายุ 33ปี สองแม่ลูก กำลังช่วยกันห่มสไบ เพื่อแต่งเป็นชุดไทยให้กับนางสาวชลดา โดยมีลูกจ้างอีกคนคอยช่วย ท่ามกลางเหล่าลูกค้าที่พากันมาอุดหนุนผลไม้ซึ่งมีทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด กระท้อน สละ วางจนเต็มร้าน เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว วันนี้นางสาว ชลดา เลือกแต่งกายในชุดโจงกะเบน และห่มสไบ จากนั้นก็ยืนขายทุเรียนให้กับลูกค้าอย่างคล่องแคล่ว และปอกทุเรียนใส่กล่องได้อย่างชำนาญ

นางสาวชลดา ห่างภัย บอกว่า ตนเองเป็นลูกสาวชาวสวน เกิดมาก็พบว่า พ่อกับแม่ทำสวนเลี้ยงดูตนจนเติบโต ก็ช่วยเหลือพ่อกับแม่มาโดยตลอด วันหนึ่งได้ไปเห็นภาพตอนใส่ชุดไทยสมัยเรียนหนังสือ จึงคิดอยากนำชุดไทยที่เคยใส่มาสวมใส่ตอนขายของเพื่อให้ลูกค้าและนักทอ่งเที่ยวที่เดินทางมาจากที่ต่างๆ ได้เห็น น่าจะช่วยให้เกิดความน่าสนใจ และยังช่วยให้ชุดไทยกลับมาได้รับความนิยม

ลูกศิษย์ ‘หลวงตาพระมหาบัว’ มอบทองคำแบงก์ชาติ สมทบเข้าคลังหลวงอีก 33 กิโลกรัม

มูลนิธิหลวงตาพระมหาบัว มอบทองคำให้แบงก์ชาติ ล่าสุด 33 กิโลกรัม รวมตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง จนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 13,070.866 กิโลกรัม

ช่วงที่ประเทศไทยเผชิญกับ วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เกิดหนี้สินจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เงินทุนสำรองเงินตราอยู่ในจุดวิกฤต โครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หรือที่เรียกทั่วไปว่า โครงการผ้าป่าช่วยชาติ ถือกำเนิดขึ้น โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนมีดำริที่จะช่วยชาติโดยน้อมนำให้ชาวไทยทั่วประเทศร่วมกันบริจาคทองคำ เงินดอลลาร์ เงินสกุลต่างประเทศ และเงินบาท เพื่อช่วยชาติบ้านเมืองที่กำลังประสบสภาวะเศรษฐกิจและสังคมตกต่ำให้ฟื้นฟูและผ่านพ้นไปด้วยดี

ด้วยการบริจาคให้กับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเข้าบัญชีฝ่ายออกบัตร (คลังหลวง) เสมอมา โดยโครงการช่วยชาติได้รับเงินบริจาคเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2541 เป็นเงิน 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ และเริ่มดำเนินโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2541 และดำเนินการเรื่อยมา

‘โฆษกสถานทูตจีน’ ลั่น โฆษณาลาซาด้า มีเนื้อหาที่ยอมรับไม่ได้

13 พ.ค. 65 - เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความระบุว่า โฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทยตอบคำถามเกี่ยวกับคลิปโฆษณาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบางแห่ง

Q: เมื่อเร็ว ๆ นี้ คลิปโฆษณาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศไทย สถานทูตจีนมีความรู้สึกอย่างไร

A: สถานทูตจีนประจำประเทศไทยรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว คิดเหมือนกันว่าคลิปโฆษณาที่เกี่ยวข้องมีเนื้อหาที่ยอมรับไม่ได้

'นักเศรษฐศาสตร์' เตือนสติคนรุ่นใหม่เล่น 'คริปโต' ไม่ต่างจาก 'ชาวป่าบุชแมน' ที่คลั่งขวดน้ำอัดลม

'ดร.สุวินัย' เตือนสติคนรุ่นใหม่เล่นมือถือเทรด 'คริปโต' ไม่ต่างจาก 'ชาวป่าบุชแมน' ที่คลั่งขวดน้ำอัดลมเปล่าคิดว่าเป็น 'ของวิเศษ-ของขวัญจากฟ้า' คนที่มีปัญญามองเห็นเป็น 'วัตถุชั่วร้าย' ชี้อัลกอริทึมนี้สามารถดักราคาได้แบบกินรวบ

13 พ.ค. 65 - ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความ เรื่อง 'The Gods Must Be Crazy in 2022 : ตลกร้ายภาคเหรียญคริปโต' มีเนื้อหาดังนี้

ในหนังตลกเรื่อง "The Gods Must Be Crazy" (1980) เป็นหนังล้อเลียนชาวป่าบุชแมน ที่อยู่ดีๆ ก็มีขวดน้ำอัดลมเปล่าใบหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า

ตอนแรกชาวป่าบุชแมนเชื่อว่าวัตถุประหลาดชิ้นนี้มันเป็น "ของวิเศษ" ที่พระเจ้าประทานมาให้พวกเขา

หลังจากนั้นไม่นานวัตถุประหลาดชิ้นนี้ได้กลายเป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกชาวป่าบุชแมนไปโดยไม่รู้ตัว จนทำให้แผ่นดินของชาวป่าบุชแมนไม่มีความสงบสุขเหมือนเช่นเดิมอีกต่อไป

คนที่มีปัญญาที่สุดในหมู่ชาวป่าบุชแมนเริ่มมองเห็น "ของวิเศษ" ชิ้นนี้ เป็น "วัตถุชั่วร้าย" และเอามันไปฝังดิน

แต่สุดท้ายก็มี "เด็กรุ่นใหม่" ไปพบมันเข้า และนำวัตถุประหลาดนี้กลับหมู่บ้านชาวป่าบุชแมนอีกครั้ง และทำให้แผ่นดินของชาวป่าบุชแมนวุ่นวายอีกครั้ง

ที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ทั่วโลกที่เปิดรับเหรียญคริปโตเข้ามาในชีวิต ล้วนมีความเชื่อร่วมกันว่า เหรียญคริปโต คือ "ของขวัญจากฟ้า" ที่สามารถพลิกชีวิตตัวเองให้กลายเป็นคนรวยในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ โดยแค่ "แห่เข้าไป" ซื้อเหรียญคริปโต...จากนั้นแค่รอให้มันราคาพุ่งขึ้นอย่างกับติดจรวด แล้วค่อยเทขายทำกำไรจำนวนมหาศาล

ตำนานความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ของเหรียญคริปโต เป็น "เรื่องเล่า" (story) ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างแนบเนียน โดยเขียนบทให้สอดคล้องกับบริบทของยุคสมัยด้วยการใช้ชุดศัพท์ภาษาที่แปลกหูสำหรับคนทั่วไป เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ผู้คนทั่วโลกจะได้หลงเชื่อและแห่เข้าไปเล่น "เกมการเงินแห่งเหรียญคริปโต" นี้

ถ้าใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ฟองสบู่ จะทราบเป็นอย่างดีว่า Story แบบนี้มันเคยเกิดกับดอกทิวลิปที่เรียกว่า "เหตุการณ์คลั่งทิวลิป" (Tulip mania) มาก่อนเมื่อปี ค.ศ. 1634 ก่อนที่จะล่มสลายในปี ค.ศ. 1637
ในช่วงนั้นชาวดัตช์ที่คลั่งทิวลิป ย่อมไม่ต่างอะไรกับชาวป่าบุชแมนที่คลั่งขวดน้ำอัดลมเปล่า เพราะคิดว่าเป็น "ของขวัญจากฟ้า"...แต่นี่คือเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงๆ มิใช่หนังตลกปี 1980 ที่สร้างขึ้นเพื่อล้อเลียนชาวป่าบุชแมน

ผ่านไปเกือบสี่ร้อยปี เหตุการณ์ "คลั่งคริปโต" ที่เหมือนรีเมค "เหตุการณ์คลั่งทิวลิป" ก็เกิดขึ้นมาอีกราวกับเป็นเรื่องตลกร้ายที่ "พระเจ้า" กำลังหยอกเย้าพวกมนุษย์ยุคนี้ ที่ยังคงโง่เขลาและไร้สติอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

‘รูเบิลรัสเซีย’ แข็งค่าสุดในรอบ 5 ปี แถมเป็นสกุลเงินผลงานดีสุดในปีนี้

สกุลเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นอีกในตลาดหลักทรัพย์มอสโกเมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ค. 65) ข้ามผ่านระดับ 67 รูเบิลต่อยูโรเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี และมุ่งหน้าสู่ระดับ 64 รูเบิลต่อดอลลาร์ แม้ธนาคารต่างๆ จะเสนอซื้อรูเบิลในราคาที่อ่อนกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ รูเบิล กลายเป็นสกุลเงินที่มีผลงานดีที่สุดของโลกในปีนี้ ด้วยแรงหนุนเทียมจากมาตรการควบคุมเงินทุนที่รัสเซียกำหนดออกมาเพื่อปกป้องภาคการเงินของพวกเขาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากถูกตะวันตกคว่ำบาตร ตอบโต้กรณีที่มอสโกส่งทหารหลายแสนนายรุกรานยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค. 65) อ้างการแข็งค่าของรูเบิล ว่าเป็นตัวอย่างของผลงานที่พอใช้ของรัสเซียภายใต้มาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของตะวันตก

ช่วงหนึ่งของการซื้อขาย รูเบิลแข็งค่าขึ้น 4% เป็น 64.34 รูเบิลต่อดอลลาร์ เป็นระดับที่พบเห็นครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 ในขณะที่เมื่อเทียบกับยูโร มีอยู่ช่วงหนึ่งรูเบิลแข็งค่าขึ้นมากกว่า 5% อยู่ที่ระดับ 66.68 รูเบิลต่อยูโร

รูเบิลได้แรงหนุนจากการที่บรรดาบริษัทต่างๆ ที่มุ่งเน้นการส่งออก จำเป็นต้องขายรายได้เงินตราต่างประเทศและเข้าซื้อรูเบิล ขณะเดียวกันอุุปสงค์สำหรับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็ลดน้อยลง เนื่องจากยอดการนำเข้าที่ลดลงของรัสเซีย ท่ามกลางปัญหาความวุ่นวายทางโลจิสติกส์และมาตรการคว่ำบาตรอย่างกว้างขวางของตะวันตก

อย่างไรก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ธนาคารต่างๆ ของรัสเซียนั้นต่างออกไป โดย สเบอร์แบงก์ ขายดอลลาร์และยูโรที่ราคา 71.24 และ 73.89 รูเบิลตามลำดับ ส่วนธนาคาร VTB ขายดอลลาร์ที่ 82.15 รูเบิลและขายยูโรที่ 85.15 รูเบิล

รูเบิลที่แข็งค่าอาจช่วยสยบภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็เสี่ยงส่งผลกระทบต่อรายได้ของเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการส่งออก ซึ่งขายสินค้าโภคภัณฑ์ของพวกเขาไปยังต่างแดนเป็นสกุลเงินต่างประเทศ

🔎 เงื่อนไขและวิธีการซื้อ 'สลากดิจิทัล' 80 บาท

(13 พ.ค. 65) หลังจากสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีการประกาศ เรื่อง วิธีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากดิจิทัล (Digital Lottery) ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางการจำหน่ายสำหรับตัวแทนจำหน่ายและการซื้อสลากของผู้ซื้อสลากดิจิทัลให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ

โดยในประกาศฉบับดังกล่าว ได้ระบุถึงรายละเอียดการเปิดให้ซื้อขายสลากดิจิทัลบนแพลตฟอร์มในแต่ละงวด ทุกวัน จะเปิดตั้งแต่ เวลา 06.00 - 23.00 น. และในวันออกรางวัลจะเปิดให้ซื้อขายตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น. โดยตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลต้องเป็นผู้ลงทะเบียนแอปพลิเคชันถุงเงินและแอปพลิเคชันเป๋าตัง รวมถึงชำระค่าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จัดพิมพ์โดยสำนักงานฯ และสำนักงานส่งมอบสลากดังกล่าวให้สำนักงาน เพื่อสแกนเป็นรูปภาพสลากและข้อมูลสลาก ก่อนนำเข้าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในแพลตฟอร์ม

📌 เงื่อนไขการซื้อ
1.) ผู้ซื้อต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
2.) ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และพิสูจน์ตัวตน

📌 วิธีการซื้อ
1.) การค้นหาด้วยตัวเลขที่ต้องการ
2.) การค้นหาจากร้านค้าที่จำหน่าย
3.) เมื่อเลือกสลากที่ต้องการซื้อเรียบร้อยแล้วจะต้องชำระเงินค่าสลากที่เลือกภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อชำระค่าสลากเรียบร้อยแล้ว กรรมสิทธิ์ในสลากจะตกเป็นของผู้ซื้อทันที จะไม่สามารถนำไปซื้อขายได้อีก รวมทั้งจะปรากฏภาพสลากดิจิทัลในเมนู “สลากฯ ของฉัน”

'ฟินแลนด์' เฉย!! ข่าวลือสะพัด ถูกหมีตัดแก๊ส หลังประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมนาโต้

Iltalehti หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวนักการเมืองคนสำคัญของฟินแลนด์ได้ออกโรงเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ว่า รัสเซียอาจระงับจ่ายแก๊สที่ป้อนแก่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟินแลนด์ในวันศุกร์ (13 พ.ค.) หลังจากบรรดาผู้นำเฮลซิงกิประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรนาโต้

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่เจาะจงว่าคำเตือนนั้นมาจากนักการเมืองรายใด ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ก็ไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ หลังจาก ประธานาธิบดีเซาลี นีนิสโต และนายกรัฐมนตรี ซันนา มาริน ของฟินแลนด์ ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งซึ่งออกเผยแพร่ในกรุงเฮลซิงกิ ว่าฟินแลนด์ จะเข้าร่วมพันธมิตรนาโต้ "โดยไม่มีการลังเล" ก็ดูจะกระตุ้นให้ทางรัสเซียออกมาประกาศว่าจะตอบโต้อย่างทันควัน

โดยโฆษกเครมลิน ดมิตริ เปสคอฟ เตือนว่า รัสเซียจะมองการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ของฟินแลนด์ว่าเป็นภัยคุกคาม “อย่างแน่นอน”

คำทำนายปีนี้ดี!! พระโคเสี่ยงทาย ‘กินถั่ว น้ำ หญ้า เหล้า’ ทายว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์ เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2565 พระยาแรกนาเสี่ยงทายได้ผ้านุ่ง 4 คืบ ส่วน ผลการเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง พระโค "กินถั่ว น้ำ หญ้า เหล้า" น้ำท่าจะบริบูรณ์ เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 65 เวลา 08.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จฯ ไปเป็นองค์ประธานในงานพระราชพิธีพืชมงคล จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2565 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

โดยผู้ทำหน้าที่เป็นพระยาแรกนาปี 2565 คือ นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนเทพีคู่หาบทอง ได้แก่ นางสาวณัฐชยา ศรีสุขสวัสดิ์ นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชำนาญการพิเศษ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และนางสาวอาทิตยา ทองแกมแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ นางสาวกันยารัตน์ เศวตนันทิกุล นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางสาวชลธิชา ทองอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กรมปศุสัตว์ ส่วนพระโคแรกนา ได้แก่ พระโคพอ และพระโคเพียง พระโคสำรอง ได้แก่ พระโคเพิ่ม และพระโคพูล

“พม.” ร่วม “สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิต” จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 19

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ประชุมเชิงปฏิบัติการ ส่งเสริมศักยภาพองค์กรเครือข่ายการเชื่อมโยงการทำงานช่วงสถานการณ์ การเกิดโรคระบาด และประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2564 พร้อมมอบโล่รางวัลเพื่อแสดงว่า บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นรายการสื่อดีเด่นที่ช่วยเหลือสังคมในภาวะยากลำบาก

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ที่ห้องประชุมชลพฤษ์ รีสอร์ท ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้รับเกียรติจาก ท่านณฐอร อินทร์ดีศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิด ประชุมเชิงปฏิบัติการ การส่งเสริมศักยภาพองค์กรเครือข่ายและการเชื่อมโยงการทำงานช่วงสถานการณ์การเกิดโรคระบาด และการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2564  

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สร้างการรับรู้ ยับยั้งและรู้เท่าทันข่าวปลอม (Stop Fake,Spread Facts)

(12 พ.ค.65) สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดกิจกรรมเชิงวิชาการประชุม ระดมความคิดเห็น  ร่วมกับผู้แทนภาคสื่อมวลชน และผู้แทนภาคประชาชน ทุกเจนเนอเรชั่น ณ โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน จังหวัดชลบุรี

นับเป็นกิจกรรมแรก ในการสร้างเครือข่ายและร่วมกันหาแนวทาง การรณรงค์ต้านข่าวปลอม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย ด้วยทีมนักวิชาการ นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรัญญ์ทิตา ชนะชัยภูวพัฒน์ หัวหน้าโครงการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ศักดิ์ ทิศาภาคย์ และอาจารย์สุดถนอม รอดสว่าง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้แทนทุกภาคส่วนใน จังหวัดชลบุรี เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ได้รับทุนสนับสนุนจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นให้สังคมได้ตระหนักรู้ในปัญหาข่าวปลอม ที่เป็น Soft Crisis ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบความคิด (Mindset) และพฤติกรรมการแสดงออกเชิงลบและที่สำคัญ เพื่อสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม ในการรณรงค์กับภาคสื่อมวลชนและภาคประชาชน ทั่วประเทศ โดยใช้กลยุทธ์ ประสานความร่วมมือ (Collaborative Strategy) กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมสื่อสารและแพร่กระจายข่าวสาร ข้อเท็จจริงเชิงสร้างสรรค์ ลดข่าวปลอมและข้อมูลเท็จ โดยเริ่มจากการวิจัยวิเคราะห์สภาพปัญหาทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการจัดประชุมระดมความคิดเห็นศึกษาแนวทาง ในการกำกับดูแลกลไก การขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม

จากนั้น ได้นำผลการศึกษามาสังเคราะห์เป็นคู่มือ สำหรับภาคสื่อมวลชนและภาคประชาชน ด้วยการนำแนวคิดที่ได้มาสร้างสรรค์เป็นภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารควบคู่กับกิจกรรมการรณรงค์ ที่ใช้ชื่องานว่า “Fact-Story Festival” ที่จะจัดให้กับสื่อมวลชนและประชาชน ผู้รับข่าวสารในจังหวัด ที่เป็นตัวแทนของทุกภูมิภาค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top