รัสเซียทำเงินไปกว่า 93,000 ล้านยูโร (ราว 3.4 ล้านล้านบาท) ในช่วง 100 วันของการทำสงครามรุกรานยูเครน ผ่านการขายเชื้อเพลิงฟอสซิล แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตามรายงานของสกายนิวส์ สื่อมวลชนของอังกฤษในวันจันทร์ (13 มิ.ย.) อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันวิจัยทางพลังงานแห่งหนึ่ง
รายได้รวมอันมหาศาลนี้มีขึ้นแม้ว่าปริมาณการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียลดลงอย่างมากในเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของประชาคมนานาชาติที่พยายามลดพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของมอสโก
รายงานของศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (CREA) พบว่า อียูรับอุปทานเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 61% จากปริมาณการส่งออกทั้งหมดของรัสเซีย
ทั้งนี้ แม้ว่าน้ำมันรัสเซียถูกขายในราคาที่ลดกระหน่ำ สืบเนื่องจากแหล่งที่มาของมัน แต่ด้วยอุปสงค์เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกและราคาพลังงานที่พุ่งสูง มันจึงยังคงก่อรายได้งดงามแก่รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และเป็นการช่วยมอบแหล่งเงินทุนสนับสนุนปฏิบัติการรุกรานยูเครนของผู้นำรายนี้
ลอริ มีลลีเวอร์ตา นักวิเคราะห์ชั้นนำของ CREA พูดถึงมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่กำหนดเล่นงานรัสเซียในปัจจุบันว่า "กระบวนการต่างๆ สำหรับมอบแรงสนับสนุนที่จำเป็นเร่งด่วนแก่ยูเครน จนถึงตอนนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า จำเป็นต้องมีความเคลื่อนไหวที่แข็งขันกว่านี้ในการตัดกระแสเงินสดที่ป้อนแก่รัสเซีย"