Friday, 4 July 2025
NEWS

ไขข้อข้องใจ!! ชนวนเหตุ ​'โละ​' ชื่อพระราชทาน​ 'ราชมงคล' ​​​| MEET THE STATES TIMES EP.21

????ไขข้อข้องใจ!! ชนวนเหตุ ​'โละ​' ชื่อพระราชทาน​ 'ราชมงคล'​​​!!
????ปมใด? ใครคิด? ถอดชื่อนามมงคลที่ได้รับพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีหมายความว่า 'มหาวิทยาลัยอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา'​ ออกไปกันแน่!!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยกTHE STATES TIMES

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผ้าไตร โครงการเทศน์มหาชาติ ให้ผู้ว่าแปดริ้ว ถวายแด่วัดโพนงาม

ในโอกาสที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าไตร โครงการเทศน์มหาชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2564

โดยนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานในพิธีเทศน์มหาชาติ ได้ถวายผ้าไตรพระราชทาน แด่พระปัญญาวิสุทธิโมลี (ธ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนงาม ประธานสงฆ์ในพิธีแสดงพระธรรมเทศนาฯ ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. ณ ศาลาค่ายพุทธบุตร วัดโพนงาม ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายธนกฤต ฉันทะจรัสศิลป์ นาย อำเภอสนามชัยเขต นายไชยสิทธิ์ ไพบูลย์ นางวรรณชุรีย์ เกิดมงคล คณะผู้บริหาร ครู ผู้แทนผู้ปกครอง นักเรียน คณะสมาคมกลุ่มโรงเรียนค่ายพุทธบุตร (จังหวัดฉะเชิงเทรา และชลบุรี) เจ้าภาพก้ณฑ์เทศน์ ข้าราชการ และประชาชน ได้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

นายไชยสิทธิ์ ไพบูลย์ ผู้อำนวยการ คณะผู้บริหาร ครูที่จะเกษียณอายุราชการของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยฉะเชิงเทรา ร่วมกับวัดโพนงาม ได้จัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้คณะผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง นักเรียนและประชาชน ได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนา รักษาประเพณีอันดีงาม การเทศน์มหาชาติเป็นการระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า สามารถนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขช่วยส่งเสริมให้เป็นบุตรที่ดีของพ่อแม่ ผู้ปกครอง เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธศาสนา และเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สืบต่อไป

ทั้งนี้ วัดโพนงาม และคณะผู้จัดโครงการ ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจะได้นำเงินที่ได้จากการทำบุญจากคณะเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ทั้ง 13 กัณฑ์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดี จัดตั้งกองทุนพระอาพาธวัดโพนงาม และสนับสนุนทุนการศึกษาแก่โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ในโอกาสอันควร ต่อไป

พม. เดินหน้าจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ผสานภาคีเครือข่ายเร่งป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

17 กันยายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โดยมี นางจินตนา จันทร์บำรุง 
อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวรายงาน วัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายที่มุ่งเน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วม และบูรณาการกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมการช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น

โดยมีหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงฯ จำนวนทั้งสิ้น 27 หน่วยงาน ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ จำนวน 16 หน่วยงาน และองค์กรพัฒนาเอกชน จำนวน 11 หน่วยงาน


​นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ที่มีสาเหตุปัจจัยจากปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม สาธารณสุข โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นับวันจะทวีความรุนแรงและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบและเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาสังคมอื่น ๆ อีกหลายประการ สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะทางสังคมที่ไม่เท่าเทียมกันหรือมีความไม่เสมอภาคระหว่างเพศ ที่มาจากความคิด ความเชื่อของคนในสังคม ค่านิยม หรือวัฒนธรรมประเพณี ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำทั้งทางร่างกาย และจิตใจ อีกทั้ง ยังส่งผลต่อชุมชน และสังคมโดยรวม

รัฐบาลได้มอบหมายให้ พม. ดำเนินงานเชิงรุกที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ จึงนำมาซึ่งความร่วมมือกันในวันนี้ เพราะ พม.ไม่สามารถขับเคลื่อนงานเพียงหน่วยงานเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน หลายสาขาวิชาชีพ เพื่อดำเนินงานคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงที่มีความซับซ้อน ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


​นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่ออีกว่า การผสานความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชน ทั้ง 27 หน่วยงานในวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง พม. กับ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กรุงเทพมหานคร สำนักงานอัยการสูงสุด ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นส่วนสำคัญในการระดมสรรพกำลังและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ทั้งในเชิงเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ และคุ้มครอง รวมทั้งดำเนินกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองสถานการณ์ และความต้องการของผู้ประสบปัญหาได้มากยิ่งขึ้น

หลวงพ่อสุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็นจัดสร้างเหรียญรุ่นรับเสด็จ 'มนต์พระกาฬ'​ เนื่องในงานหล่อพระประจำองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์

หลวงพ่อสุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมือง จ.มหาสารคาม จัดสร้างเหรียญรุ่นรับเสด็จ “มนต์พระกาฬ” เนื่องในงานหล่อพระประจำองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ที่วัดหัวดอน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ในวันที่ 15 เดือนสิงหาคม 2564

วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ ถวายวัดหัวดอนจัดสร้างองค์พระธาตุ ณ วัดหัวดอน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่กำลังเริ่มก่อสร้าง ทางวัดหัวดอน นำโดย พระอาจารย์แก้ว ฐิตสีโล เจ้าอาวาสวัดหัวดอน ได้ขอความเมตตาจากองค์หลวงพ่อสุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมือง จ.มหาสารคาม จัดสร้างเหรียญ รุ่นรับเสด็จ “มนต์พระกาฬ” เพื่อจะนำปัจจัยในการบูชาวัตถุมงคล มาจัดทำตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ในการนี้จึงขอสร้างเหรียญเนื้อต่างๆ​ ดังนี้...

1.เนื้อทองคำลงยา 9 เหรียญ

2.เนื้อทองคำ สร้าง 19 เหรียญ

3.เนื้อทองคำหลังเรียบ สร้าง 1 เหรียญ

4.เนื้อเงินหน้ากากทองคำ สร้าง 19 เหรียญ

5.เนื้อเงินลงยาสีเขียว สร้าง 29 เหรียญ

6.เนื้อเงินลงยาสีน้ำเงิน สร้าง 29 เหรียญ

7.เนื้อเงินลงยาสีแดง สร้าง 29 เหรียญ

8.เนื้อเงิน สร้าง 83 เหรียญ

9.เนื้อนวะโลหะหน้ากากเงิน สร้าง 600 องค์

10.เนื้อนวะโลหะ สร้าง 400 เหรียญ

11.เนื้ออันปาก้า สร้าง 3,000 เหรียญ

12.เนื้อทองเหลือง สร้าง 10,000 เหรียญ

13.เนื้อทองแดงผิวไฟ สร้าง 20,000 เหรียญ

14.เนื้อสามกษัตริย์ สร้าง 10 เหรียญ

15.เนื้อชนวนหน้ากากทองทิพย์ สร้าง 2,900 เหรียญ รวมจำนวนจัดสร้างทั้งหมด 37,128 เหรียญ

ประชุมส่งท้าย…!!! “ผบ.ทสส.” ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ร่วม ผบ.เหล่าทัพ -ผบ.ตร. ครบ ส่งท้ายผบ.ทร.-ผบ.ทอ. ที่เกษียณ ปช.สรุปผลงาน 1 ปี 4เหล่าทัพ 

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.อ.เฉลิมพลศรีสวัสดิ์  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ  โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม สำหรับการประชุมในวันนี้  เป็นการสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

การประชุมด้านการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญยิ่ง โดยการถวายความปลอดภัยการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติต่างๆการสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ  ซึ่งกองทัพไทยและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนรับผิดชอบรวม 170 โครงการการน้อมนำและส่งเสริมหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและประชาชน อาทิ  งานเกษตรผสมผสานตามแนวทางพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของกองบัญชาการกองทัพไทย โครงการทหารพันธุ์ดี "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย" ของกองทัพบก 

โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ โคกหนอง นา ของกองทัพเรือ สวนการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของกองทัพอากาศ และโครงการตำรวจพันธุ์ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ตลอดจนได้จัดการประกวดผลงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  รวมถึงได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน  อาทิโครงการจิตอาสาพัฒนาโดยการขุดลอกคูคลองเก็บขยะ  และพัฒนาภูมิทัศน์ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ  โครงการจิตอาสาภัยพิบัติซึ่งได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศนอกจากนี้ ยังได้จัดโครงการกองทัพไทยร้อยรวมใจสู้ภัยโควิดบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา  ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณโลหิตสะสมกว่า 48 ล้านมิลลิลิตร

สำหรับการป้องกันประเทศกองทัพไทยได้จัดและวางกำลังป้องกันชายแดน รวมทั้งบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนอย่างประสานสอดคล้องในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ  ทั้งทางบก ทางทะเล  และทางอากาศ มีศูนย์บัญชาการทางทหารทำหน้าที่อำนวยการ ควบคุมและกำกับดูแลโดยมุ่งให้เกิดความสงบสุข  และพัฒนาร่วมกันลดปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดน ทั้งยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน   อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพึ่งพาตนเองในอนาคต

ด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐ  ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนรัฐบาล  ในการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  โดยกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันปฏิบัติงานภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินความมั่นคง มีการดำเนินการที่สำคัญ อาทิ

- การป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดจากภายนอกประเทศ  ด้วยการสนับสนุนการคัดกรองเลือกผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร  ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ  รวมถึงการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฯลฯ

- การป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ  ด้วยการใช้มาตรการป้องกันโรค  ชะลอการเดินทางของประชาชนโดยไม่มีเหตุจำเป็น  งดการประชุมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ฯลฯ

- การสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุข  โดยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด  การสนับสนุนเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนา   การสนับสนุนการตรวจหาเชื้อเชิงรุกฯลฯ

- การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน  ด้วยการจัดตั้งจุดบริการประชาชน แจกจ่ายถุงยังชีพ  สิ่งของอุปโภคบริโภค  การจัดรถครัวสนาม

สรรพสามิต จับของหนีภาษีเพียบ 2 หมื่นคดี ยอดทะลุ 546 ล้าน

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิต พื้นที่ทั่วประเทศพร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และ ความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

สำหรับผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2564 ระหว่างวันที่ 10 – 16 ก.ย. 2564 พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 537 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 10.03 ล้านบาท โดยแยกเป็น สุรา จำนวน 293 คดี ค่าปรับ 2.20 ล้านบาท ยาสูบ จำนวน 148 คดี ค่าปรับ 3.09 ล้านบาท ไพ่ จำนวน 8 คดี ค่าปรับ 0.06 ล้านบาท น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 26 คดี ค่าปรับ 2.83 ล้านบาท น้ำหอม จำนวน 2 คดี ค่าปรับ 0.06 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 45 คดี ค่าปรับ 0.87 ล้านบาท และสินค้าอื่น ๆ จำนวน 15 คดี ค่าปรับ 0.92 ล้านบาท โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 755.990 ลิตร ยาสูบ จำนวน 37,603 ซอง ไพ่ จำนวน 262 สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 80,110.000 ลิตร น้ำหอม จำนวน 42 ขวด รถจักรยานยนต์ จำนวน 47 คัน

ปตท. ผุดนวัตกรรม ช่วยบุคลากรแพทย์ดูแลประชาชน ลุยใช้แบ่งเบาภาระในโรงพยาบาลสนาม End-to-End

“ปตท.” นำความรู้ลุยพัฒนานวัตกรรม ต่อยอดใช้ในโครงการ End-to-End หวังช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ เยียวยาประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 โชว์ศักยภาพผุดชุดตรวจเชื้อไวรัสคุณสมบัติพิเศษ เสื้อกาวน์พลาสติกป้องกันการติดเชื้อ และร่วมบริษัทในเครือสนับสนุนเทคโนโลยีหุ่นยนต์

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่องและรุนแรง กลุ่ม ปตท. จึงนำความรู้ความสามารถมาคิดค้นนวัตกรรม ผลิตอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และนำมาใช้ภายใต้หน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) กลุ่ม ปตท. ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อคัดแยกและเยียวยาประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง

“ถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องร่วมช่วยเพิ่มศักยภาพให้ระบบสาธารณสุข เพื่อให้มีขีดความสามารถในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอและทั่วถึงมากขึ้น กลุ่ม ปตท. จึงได้ใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ในการคิดค้นอุปกรณ์และวัสดุเพื่อช่วยเหลือการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์มาใช้ในโครงการ End-to-End นี้” นายอรรถพล กล่าว

ซึ่งนวัตกรรมสำคัญที่ได้นำมาใช้ในหน่วยคัดกรองดังกล่าว ได้แก่ ชุดตรวจ Abbott’s COVID-19 Antigen Test Device ที่เป็นชุดตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก WHO EUL (Emergency Use List) โดยชุดตรวจนี้เป็นระบบ Close system และ Single Flow ป้องกันการปนเปื้อน หรือการฟุ้งกระจาย และมีสาร inactive ของเชื้อโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถแพร่กระจายได้ สามารถใช้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ และสามารถตรวจหาได้ที่ความเข้มข้นของเชื้อต่ำ ที่ค่า CT (Cycle threshold) เท่ากับ 33

รวมถึงการใช้นวัตกรรมเครื่องต้นแบบบำบัด PM2.5 และเชื้อโรคในอากาศ ที่ทีมวิจัยของ ปตท. โดยฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม สถาบันนวัตกรรม ได้คิดค้นวิจัยและพัฒนาขึ้น โดยเครื่องดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีแบบผสม (Hybrid System) ประกอบด้วย เทคโนโลยีการปล่อยไอออนประจุไฟฟ้า (Ionization) ร่วมกับเทคโนโลยีออกซิเดชันขั้นสูง (AOPs) ที่เกิดขึ้นอยู่ภายในระบบเดียวกัน โดยสามารถบำบัดได้ทั้ง PM2.5 และเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีการติดตั้งและใช้จริงแล้วภายในพื้นที่ดำเนินโครงการ End-to-End และโรงพยาบาลสนามสีแดง

ผู้ป่วยซึมเศร้า สั่งแซลมอนกินมื้อสุดท้ายก่อนลาโลก แต่เปลี่ยนใจ เพราะกำลังใจดี ๆ จากทางร้าน

สาวป่วยโรคซึมเศร้าแชร์ประสบการณ์เตรียมตัวจะจบชีวิตของตัวเองลง ก่อนกดสั่งแซลมอนที่ชอบที่สุดหวังได้กินของชอบเป็นมื้อสุดท้าย แต่กลับได้พบกับเรื่องราวดี ๆ จากทางร้านที่ส่งกำลังใจให้ ตนจึงตัดสินใจจะมีชีวิตอยู่ต่อ

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของตนเองลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ตามล่าหาปลาส้ม (Salmon lovers)” ซึ่งเป็นกลุ่มรีวิวอาหาร โดยเล่าว่า ตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รักษาตัวมาหลายปียังไม่หาย สุดท้ายเตรียมตัวจะจบชีวิตของตัวเองลง และได้บอกลาครอบครัวคนใกล้ชิด ทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนกดสั่งแซลมอนที่ชอบที่สุด หวังได้กินของชอบเป็นมื้อสุดท้าย แต่กลับได้พบกับเรื่องราวดี ๆ จากทางร้าน ทำให้ตนตัดสินใจจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

หนุ่มฝรั่งเศส 'อดอาหารประท้วง' กฎหมายบังคับฉีดวัคซีน อ้าง แค้นเพราะทำคนตกงานมากกว่า 3,000 คน

นายเธียรี่ เปซองท์ นักดับเพลิง และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของโรงพยาบาลปาสเตอร์ในเมืองนีซ ของฝรั่งเศส ประกาศที่จะอดอาหารประท้วงมาตรการของรัฐ ที่กำหนดให้บุคลากรการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 อย่างน้อย 1 เข็มให้ทันภายในวันที่ 15 กันยายน 2021 มิฉะนั้นจะต้องถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าแรง 

และเส้นตายก็ได้ผ่านมาแล้ว แต่ยังพบว่ายังมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานสาธารณสุขมากถึง 3,000 คน ที่ยังไม่เข้ารับวัคซีน จึงทำให้พวกเขาจะต้องพักงานทันที และอาจมีบางคนต้องออกจากงานด้วย

นายเธียรี่ เปซองท์ กล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับมาตรการบังคับฉีดวัคซีนของรัฐบาล ที่เป็นเหตุให้มีคนหลายพันต้องตกงาน โดยไม่ได้รับเงินชดเชย และประชาชนควรได้สิทธิ์ที่จะเลือกฉีดวัคซีนโดยสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ 

แต่เขายืนยันว่า นี่ไม่ใช่การต่อต้านการฉีดวัคซีน แต่แค่ไม่พอใจที่รัฐออกมาตรการบังคับให้ต้องไปฉีดเท่านั้น และเขาจะปักหลักกางเต็นท์ อดอาหารประท้วงที่หน้าโรงพยาบาลปาสเตอร์ ต้นสังกัดของเขาต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่ร่างกายทนไหว และเชื่อว่าการประท้วงของเขาจะช่วยสะท้อนความอึดอัดคับข้องใจของผู้คนที่มีต่อมาตรการของรัฐให้สังคมรับรู้ 

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส ระบุว่ามีบุคลากรการแพทย์อยู่ถึง 2.7 ล้านคนทั่วประเทศ แต่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประมาณ 12% และ ระดับแพทย์อีก 6% ที่ยังไม่มีข้อมูลการฉีดวัคซีน ก่อนที่จะถึงวันกำหนดเส้นตาย และทางกระทรวงได้ส่งเอกสารแจ้งการพักงานออกไปแล้ว 3,000 ฉบับ ซึ่งในจำนวนนั้นหลายคน เลือกที่จะส่งใบลาออกแทนใบลงทะเบียนฉีดวัคซีนตามข้อกำหนดของรัฐ 
.

ผู้ว่าฯ อัศวิน ปัดเปิดกรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยว 15 ต.ค. ลั่น ตนใหญ่สุด ใครตัดสินใจแทนไม่ได้

ผู้ว่าฯ กทม. ปัดตอบ เปิดกรุงเทพฯ 15 ต.ค. นี้ ลั่นไม่เคยพูด ตนใหญ่สุด ใครตัดสินใจแทนไม่ได้ เผยอยากเปิด แต่รอให้คนกรุงเทพปลอดภัย ฉีดวัคซีนเข็ม 2 มากกว่า 70% ก่อน

วันที่ 17 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในระยะที่ 2 ว่า ในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) หรือ “กรุงเทพฯ แซนด์บอกซ์” จะเปิดในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ต่อคำถามที่ว่า การกำหนดเปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 15 ตุลาคม นี้ จะเป็นความเป็นไปได้มากหรือน้อยเพียงใดนั้น ผู้ว่าฯ ระบุว่า ทาง กทม. ไม่เคยพูดว่าจะเปิด เนื่องจากต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ได้มากกว่า 70% ก่อน

นายกฯ ชมความก้าวหน้าสถานีดาวเทียม และศูนย์กลางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอวกาศ GISTDA แนะเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัล นำพาประเทศเดินหน้า พัฒนาสู่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจติดตามความก้าวหน้า สถานีดาวเทียมและศนูย์กลางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอวกาศ สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) โครงการอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (Space Krenovation Park: SKP) ในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (Eastern Economic Corridor of Digital: EECd) เพื่อติดตามการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ประกอบด้วย 1. ความคืบหน้าโครงการ THEOS-2 และการพัฒนาดาวเทียมระดับ Industrial grade โดยวิศวกรไทย ณ ศูนย์ทดสอบประกอบดาวเทียมแห่งชาติ 2. การพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศ (New Space Economy) จากเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit: LEO satellite network) และ 3.การนําเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ไปใช้ประโยชน์ด้านการบริหารจัดการน้ำ  

นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมการดำเนินงานและขอให้พัฒนาต่อไปอย่าหยุดการพัฒนา การใช้เทคโนโลยีมาช่วยประมวลผล ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัล นำพาประเทศเดินหน้าพัฒนาสู่ประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป ทั้งนี้ ต้องร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ แก้ไขปัญหาไปด้วยกัน แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของคนไทยทุกคน ในส่วนของรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

สำหรับโครงการอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (Space Krenovation Park: SKP) เป็นสถานีควบคุมและรับสัญญาณดาวเทียมไทยโชต อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ GISTDA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล หรือ EECd ที่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนประเภทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ภายในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการทางด้านอวกาศ ภาพรวมของโครงการฯ มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดงาน วิจัย และพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ SMEs และระดับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจบนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น โครงการนี้จึงเป็นกลไกที่่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระดับภูมิภาค และเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และระบบนวัตกรรม เพื่อให้รองรับการพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ อันเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีพื้นที่ให้หน่วยงานภาคเอกชนเข้าทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ พร้อมกับให้บริการอันเป็นการสนับสนุนการวิจัยให้เกิดผลเชิงพาณิชย์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

‘สเปซเอ็กซ์’ ทะยานสู่อวกาศสำเร็จ ส่งเที่ยวบินพลเรือนชุดแรกโคจรรอบโลก

ไมอามี (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - จรวดฟอลคอน 9 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันพุ่งทะยานสู่อวกาศจากรัฐฟลอริดาในสหรัฐฯ เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น มีผู้โดยสารเป็นมหาเศรษฐีบริษัทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-คอมเมิร์ซ และเพื่อนร่วมเดินทางอีก 3 ราย ที่เขาเลือกไว้ในเที่ยวบินท่องวงโคจรโลกครั้งแรกที่มีผู้โดยสารเป็นพลเรือนทั้งหมด

นักบินอวกาศพลเรือน 4 คนที่ร่วมเดินทางในเที่ยวบินท่องอวกาศดังกล่าว ได้แก่ จาเร็ด ไอแซกแมน ชาวอเมริกันผู้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทชิฟต์โฟร์เพย์เมนต์ อิงค์ (Shift 4 Payments Inc) วัย 38 ปี, เซียน พร็อกเตอร์ วัย 51 ปี, เฮย์ลีย์ อาร์เซนอกซ์วัย 29 ปี และคริส เซมโบรสกี วัย 42 ปี โดยเที่ยวบินนี้ได้ออกเดินทางในช่วงเช้ามืดวันพุธตามเวลาท้องถิ่น จากศูนย์อวกาศจอห์น เอฟ เคนเนดี ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ที่แหลมคานาเวอรัลในรัฐฟลอริดา ขณะที่การถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ของสเปซเอ็กซ์ เผยให้เห็นภาพไอแซกแมนและเพื่อนร่วมเดินทางนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ในห้องที่มีระบบปรับความกดดันอากาศของแคปซูลครูว์ดรากอน สีขาว โดยที่พวกเขาสวมชุดและหมวกนักบินอวกาศสีขาวกับดำ

ไอแซกแมนได้อ่านแถลงการณ์ท่ามกลางเสียงเชียร์ในศูนย์ควบคุมภารกิจของสเปซเอ็กซ์ ในขณะที่ยานอวกาศไต่ระดับขึ้นสูงเกือบ 200 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมทำให้การเดินทางสู่อวกาศอยู่ใกล้แค่เอื้อมและเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นและยังไม่ได้สำรวจ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่เคยมาและมีอีกหลายคนที่จะตามมาในเร็ว ๆ นี้

“บิ๊กตู่” เยือนชลบุรี อิทธิพล หอบ ส.ส.ต้อนรับ “สุชาติ” ไม่ห่างกาย “อ้อน” ร่วมมือเดินหน้าผลิกโฉมประเทศไทย

ที่สนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางไปยังจุดจอด ฮ. ท่าเรือแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีเพื่อตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ Factory Sandbox จังหวัดชลบุรี ณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

จากนั้น เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางถึงบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นาย อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทั้งผู้บริหารบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด ให้การต้อนรับนอกจากนี้ ยังมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง  ทั้ง นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี นายสะถิระ เผือกประพันธ์ุ ส.ส.ชลบุรี ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา และพ.ต.อ.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี  มาต้อนรับด้วย โดยทันทีที่พล.อ.ประยุทธ์มาถึงได้พูดคุยทักทายและถ่ายภาพร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำความเข้าใจร่วมกันคือการเดินหน้า ในการประกอบการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือและได้มอบแนวนโยบายพร้อมแนวทางไปแล้ว ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันผลิกโฉมประเทศไทย ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นด้วย ซึ่งได้มีโอกาสโทรศัพท์พูดคุยกันแล้ว ซึ่งยินดีที่จะร่วมมือกับประเทศไทยต่อไปในวิธีการต่างๆ วันนี้ตน ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่เราเป็นมิตรกันมาอย่างยาวนาน ถือว่าเราเป็นมหามิตรซึ่งทุกคนทราบความหมายดีอยู่แล้ว วันนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ได้มาพบกับข้าราชการ ผู้ประกอบการและนักธุรกิจ รวมทั้ง ส.ส.ผู้แทนประชาชน ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์พบกันได้ทั้งหมด

“ วันนี้ต้องขอขอบคุณรอยยิ้มจากทุกๆคน โดยเฉพาะบรรดาลูกจ้าง พนักงาน ซึ่งแสดงว่าเจ้านายดูแลดีถึงสามารถยิ้มได้กันทั้งหมด ถือเป็นตัวอย่างที่ทำให้สถานประกอบการอื่นๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่น ขณะที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ก็ได้ถ่ายรูปโรงงานทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเดือนหน้าทราบว่าจะมีโรงงานใหญ่ๆ เกิดขึ้นอีก ก็ขอให้ขยายกิจการออกไปพร้อมดูแลประชาชนคนไทยด้วย เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน ต้องช่วยเหลือกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยเหลือกันยาวนานมาหลาย 10 ปี รัหว่างญี่ปุ่น-ไทย เรามีความสัมพันธ์กันตั้งแต่สมัยศรีอยุธยา มีหมู่บ้านญี่ปุ่นเป็นหลักฐาน วันนี้ยินดีที่ได้มาพบกันซึ่งทุกคนต้องรวมพลังกันทั้งหมด จับมือกันให้มันเดินหน้าไปพร้อมๆกัน ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ….. รัฐบาลพร้อมที่จะแก้ไขให้มากที่สุด เราต้องช่วยกันพริกโฉมประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโครงการ FactorySandbox โดยนายกรัฐมนตรี​ ได้พูดคุย​กับพนักงาน​ โดยระบุว่าขอทุกคนระวังโรค​ ร่างกายสำคัญที่สุด​ ต้องดูแลตัวเอง​ ออกกำลังกาย​ ไม่ไปในที่มีความเสี่ยง​ มีอันตราย​ ซึ่งการป้องกันดีกว่ารักษา​ ตนไม่อยากให้ใครต้องเข้าโรงพยาบาล​ ให้สอนลูกให้ออกกำลังกาย​ โหนต้นไม้​ ตัวจะได้ยาวๆ​ แข็งแรง

นายกรัฐมนตรี​ ยังได้มีการเดินทักทายพนักงาน พร้อมได้สอบถามว่าอยู่จังหวัดไหน​ ซึ่งนายกรัฐมนตรี​ บอกว่า​ ตัวเองเกิดที่โคราช​ และมารับราชการที่กรุงเทพ​ฯ​ จากนั้น​ ได้ถ่ายรูปร่วมกับพนักงานที่มาต้อนรับ
อย่างเป็นกันเอง

เกษตรฯ กระจายพันธุ์ฟ้าทะลายโจร 1 ล้านต้นลงพื้นที่ ส.ป.ก.

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ส.ป.ก. ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และกรมพัฒนาที่ดิน จัดหาและกระจายพันธุ์ ฟ้าทะลายโจรให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อสร้างการพึ่งตนเองในระดับครัวเรือนและชุมชน และสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นรายได้เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม โดยดำเนินโครงการขับเคลื่อนสมุนไพรฟ้าทะลายโจรต้านภัยโควิด-19 ในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนกล้าพันธุ์ องค์ความรู้ในการปลูก และใช้ประโยชน์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทั้งจังหวัด 72 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1 ล้านต้น แก่เกษตรกร จำนวน 1 หมื่นราย 

อิตาลี บังคับ 'แรงงาน' โชว์บัตรฉีดวัคซีนโควิด หากฝ่าฝืน ต้องถูกปรับ - พักงาน แถมไม่ได้ค่าจ้าง

รัฐบาลอิตาลีเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.ย.) เห็นชอบมาตรการต้านโควิด-19 บางอย่างที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บังคับแรงงานทุกคนต้องแสดงข้อพิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้ว มีผลตรวจเป็นลบหรือเพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อมาไม่นาน หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเงิน

รัฐบาลอิตาลีเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.ย.) เห็นชอบมาตรการต้านโควิด-19 บางอย่างที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บังคับแรงงานทุกคนต้องแสดงข้อพิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้ว มีผลตรวจเป็นลบหรือเพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อมาไม่นาน หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเงินและพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก

กฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ตุลาคม ในความพยายามล่าสุดของรัฐบาลผสมที่นำโดยนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ ในการโน้มน้าวประชาชนเข้าฉีดวัคซีนและควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หนักหน่วงที่สุดชาติหนึ่งของโลก

แรงงานรายใดที่ไม่แสดงบัตรรับรองสุขภาพจะถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก รัฐมนตรีหลายคนเปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าว หลังรัฐบาลเห็นชอบมาตรการดังกล่าว

นอกจากนี้แล้วประชาชนที่เพิกเฉยและไปทำงานโดยไม่ใส่ใจต่อคำสั่ง จะถูกปรับเงินราว ๆ 600 ถึง 1,500 ยูโร (ราว 23,000 บาท ถึง 58,000 บาท) ส่วนนายจ้างจะถูกปรับเงิน 400-1,000 ยูโร (ราว 15,000 บาท ถึง 38,000 บาท)

"ไม่เคยมีมาก่อนในยุโรป เราวางตัวเองในแถวหน้าของนานาชาติ" เรนาโต บรูเนตตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริหารรัฐกิจกล่าว พร้อมระบุรัฐบาลคาดหมายว่าจะคำสั่งนี้จะช่วยยกระดับการเข้าฉีดวัคซีนอย่างมหาศาล และก็น่าจะบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ ก่อนที่คำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ในอีก 1 เดือนข้างหน้า

ในขณะที่ประเทศในสหภาพยุโรปบางแห่ง บังคับเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขฉีดวัคซีน แต่ยังไม่มีชาติไหนที่บังคับใช้มาตรการที่เรียกว่า "กรีนพาส" กับแรงงานทุกคน นั่นทำให้อิตาลีจึงกลายเป็นเคสทดลองของทวีปไปโดยปริยาย

เบื้องต้นบัตรผ่านสุขภาพนี้มีเป้าหมายเพื่อผ่อนปรนด้านการเดินทางทั่วยุโรป แต่อิตาลีเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่เปลี่ยนแปลงแนวทางบังคับใช้ โดยกำหนดให้ต้องแสดงกรีนพาสครอบคลุมถึงบุคคลที่ต้องการเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ออกกำลังกาย และร้านอาหารในร่ม

มีการประท้วงประปรายทั่วประเทศในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อต้านความพยายามกดดันให้ฉีดวัคซีน แต่บรรดาพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดเช่นเดียวกับสหพันธ์นายจ้างหลัก ๆ ต่างสนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยหวังว่ามันจะช่วยป้องกันไม่ให้ต้องล็อกดาวน์อีกครั้ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top