ประชุมส่งท้าย…!!! “ผบ.ทสส.” ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ร่วม ผบ.เหล่าทัพ -ผบ.ตร. ครบ ส่งท้ายผบ.ทร.-ผบ.ทอ. ที่เกษียณ ปช.สรุปผลงาน 1 ปี 4เหล่าทัพ
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.อ.เฉลิมพลศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม สำหรับการประชุมในวันนี้ เป็นการสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การประชุมด้านการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญยิ่ง โดยการถวายความปลอดภัยการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติต่างๆการสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ ซึ่งกองทัพไทยและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนรับผิดชอบรวม 170 โครงการการน้อมนำและส่งเสริมหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและประชาชน อาทิ งานเกษตรผสมผสานตามแนวทางพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของกองบัญชาการกองทัพไทย โครงการทหารพันธุ์ดี "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย" ของกองทัพบก
โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ โคกหนอง นา ของกองทัพเรือ สวนการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของกองทัพอากาศ และโครงการตำรวจพันธุ์ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนได้จัดการประกวดผลงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน อาทิโครงการจิตอาสาพัฒนาโดยการขุดลอกคูคลองเก็บขยะ และพัฒนาภูมิทัศน์ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โครงการจิตอาสาภัยพิบัติซึ่งได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศนอกจากนี้ ยังได้จัดโครงการกองทัพไทยร้อยรวมใจสู้ภัยโควิดบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณโลหิตสะสมกว่า 48 ล้านมิลลิลิตร
สำหรับการป้องกันประเทศกองทัพไทยได้จัดและวางกำลังป้องกันชายแดน รวมทั้งบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนอย่างประสานสอดคล้องในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ มีศูนย์บัญชาการทางทหารทำหน้าที่อำนวยการ ควบคุมและกำกับดูแลโดยมุ่งให้เกิดความสงบสุข และพัฒนาร่วมกันลดปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดน ทั้งยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพึ่งพาตนเองในอนาคต
ด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันปฏิบัติงานภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินความมั่นคง มีการดำเนินการที่สำคัญ อาทิ
- การป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดจากภายนอกประเทศ ด้วยการสนับสนุนการคัดกรองเลือกผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฯลฯ
- การป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ ด้วยการใช้มาตรการป้องกันโรค ชะลอการเดินทางของประชาชนโดยไม่มีเหตุจำเป็น งดการประชุมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ฯลฯ
- การสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด การสนับสนุนเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนา การสนับสนุนการตรวจหาเชื้อเชิงรุกฯลฯ
- การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการจัดตั้งจุดบริการประชาชน แจกจ่ายถุงยังชีพ สิ่งของอุปโภคบริโภค การจัดรถครัวสนาม
ส่วนการส่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาความร่วมมือทางทหารโดยมีกิจกรรมที่สำคัญอาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือน การแลกเปลี่ยนด้านการฝึกศึกษาการประชุมนในกรอบความร่วมมือต่างๆ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมทั้งการฝึกผสมในด้านการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน กองทัพไทยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจในท้องถิ่นทุรกันดาร ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยได้สนับสนุนการก่อสร้างเส้นทางคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรและขนสินค้าแก่ประชาชน การพัฒนาแหล่งน้ำและสนับสนุนรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้ให้ความสำคัญกับการป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ โดยจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ
กองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ รวมทั้งสนองตอบนโยบายของรัฐบาลโดยใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มีอยู่ ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติและประชาชนสืบไป