Wednesday, 4 December 2024
NEWS FEED

'พล.ต.ท.กรไชยฯ' ตรวจการปฏิบัติด้านงานจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน กำชับตำรวจดูแลการจราจรอย่างเต็มกำลัง และขอความร่วมมือผู้ปกครองและนักเรียนไม่จอดแช่ 'จอด ลง ส่ง ไป'

(20 พ.ย.67) เวลา 06.30 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจการปฏิบัติด้านงานจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ชั้นใน ที่บริเวณหน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ถ.สามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยมี พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผบก.จร. และผู้เกี่ยวข้องร่วมตรวจการปฏิบัติ

พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้ตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร ในการอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษา และได้พูดคุยสอบถามปัญหาการจราจร และชี้แจงการปฏิบัติกับครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนของทั้ง 2 โรงเรียนด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า จากการตรวจการปฏิบัติด้านงานจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาในวันนี้ พบว่าภาพรวมเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานศึกษาร่วมดูแลอำนวยความสะดวกการจราจรได้เป็นอย่างดี โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างเต็มกำลัง เพื่อจัดการจราจรให้เด็กนักเรียนทุกคนถึงโรงเรียนด้วยความรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมขอความร่วมมือผู้ปกครองที่ขับรถมาส่งนักเรียนหน้าโรงเรียนทุกแห่ง ขอให้ไม่จอดแช่ โดยขอให้เด็กๆ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงหน้าโรงเรียน และพร้อมลงจากรถทันทีเมื่อผู้ปกครองขับรถมาส่งหน้าโรงเรียน เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด ตามหลักการ 'จอด ลง ส่ง ไป'

จากนั้น พล.ต.ท.กรไชยฯ เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ เพื่อตรวจการปฏิบัติด้านจราจร และตรวจเส้นทางการจราจรตั้งแต่บริเวณหน้าโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง จนถึง ถ.พระรามที่ 1 พบว่าบางเส้นทางมีการจราจรหนาแน่น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอยู่ประจำจุดคอยอำนวยความสะดวกไม่ให้เกิดปัญหารถติดสะสม

ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ มอบนโยบายแก่ครูฝึก ครูประจำหมวดวิชา ให้ปลูกฝังระเบียบวินัย ความรักสถาบัน 

น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ มอบนโยบายในการฝึกแก่ครูฝึก ครูประจำหมวดวิชา ณ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยได้ถ่ายทอดนโยบาย ข้อสั่งการ รวมทั้งข้อห่วงใยของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่มุ่งเน้นการสร้างระเบียบวินัย ความเป็นทหาร , ปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ , ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับทหารเรือ , ปลูกฝังความสามัคคีและความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ , การเป็นแบบอย่างที่ดีของครูฝึก , ฝึกบนพื้นฐานความปรารถนาดีต่อกัน , มีการประเมินผลการฝึกที่เป็นระบบ , ความโปร่งใสเกี่ยวกับการเบิกจ่าย/ตัดเบี้ยเลี้ยง เป็นต้น   

ในการนี้ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ ได้มอบแนวทางการปฏิบัติ ข้อเตือนใจในการปฏิบัติต่อนักเรียนพลทหาร เน้นย้ำให้ครูฝึก ครูหมวดวิชาทุกนายยึดถือนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ภายใต้กรอบของความปลอดภัย เพื่อสร้างนักเรียนพลทหารให้เป็นทหารที่องอาจ สมชายชาติทหาร และเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ

พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ปฐมบทเส้นทางลูกผู้ชาย 2,928 นาย สู่การเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือที่องอาจ

น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ณ สนามฟุตบอล ศฝท.ยศ.ทร. ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดพิธีเปิดการฝึกฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และความภาคภูมิใจ แก่ทหารใหม่ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา ครูฝึก และครูประจำหมวดวิชาเข้าร่วมพิธีฯ ถือเป็นการเข้าสู่การฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ

นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.67  ทหารใหม่ เดินทางเข้ารายงานตัว ณ ศฝท.ฯ บัดนี้ ทหารใหม่ จำนวน 2,928 นาย ได้ผ่านการเตรียมร่างกาย จิตใจ ตลอดจนผ่านการคัดกรองโรคต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีความพร้อมในการปฏิบัติตามตารางการฝึกอบรม 

ทั้งนี้ ผบ.ศฝท.ยศ.ทร. มอบโอวาท ถึงแนวทางในการปฏิบัติความตอนหนึ่งว่า “...ครูฝึกและครูประจำหมวดวิชาให้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ จะต้องคำนึงถึงกฎระเบียบและนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตลอดจนการปกครองอย่างยุติธรรม ให้ความรักความเมตตาเสมือนลูกหลานหรือญาติมิตรของเรา และให้ทหารใหม่ทุกนายอุทิศตน ตั้งใจฝึกหัดศึกษาหาความรู้ ด้วยความอดทนและอย่าได้ท้อถอย สิ่งที่ทุกคนจะได้เรียนรู้จาก ณ สถานแห่งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นทหารผู้ที่มีเกียรติสง่างาม ในเครื่องแบบทหารเรือ แห่งราชนาวีไทยต่อไป...”

‘สนธิ’ ลั่นเดินหน้าฟ้องกราวรูด ‘ช่องวัน’ พร้อมผู้เกี่ยวข้อง แม้ออกแถลงการณ์ขออภัย แต่ช้าไปต่างจาก ‘TOP News’ ที่ทำทันที

(20 พ.ย.67) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ 'คุยทุกเรื่องกับสนธิ' หรือ Sondhitalk กล่าวถึงกรณีสื่อ 2 ช่อง TOP Newsและ ช่องวัน นำเสนอข้อมูลจากนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวพาดพิงทำให้เสียหาย โดยระบุว่า ทางช่อง TOP News ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการออกแถลงการณ์ขออภัยทันที กรณีเสนอข่าวบทสัมภาษณ์ทนายเดชาคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ของพลตรีจําลอง ศรีเมือง อีกด้วย

“ยังเหลืออีกหนึ่งราย คือช่องวัน ไม่ต้องแถลงขอโทษแล้ว เพราะว่าผมรอคุณมานานแล้ว รอไปเจอผมที่ศาลก็แล้วกันคุณส่งคําแถลงมาขอโทษที่ล่าช้าไป ผมไม่รับแล้วตอนนี้ คุณต้องขึ้นศาล และฝากไปบอกผู้บริหารช่องวันด้วยว่า ผมจะฟ้องถึงผู้บริหาร ทั้งคุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ หากยังมีชื่อเป็นผู้บริหารอยู่ก็ต้องโดนด้วย เผลอ ๆ จะรวมไปถึงผู้ถือหุ้นด้วย ใครเป็นผู้ถือหุ้นช่องวันก็ระวังไว้ละกันทั้งหมดทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง”

นายสนธิ ยังย้ำด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เปิดโอกาสให้ขอโทษแล้ว ก็ไม่ยอมขอโทษ ส่วนกับ TOP News นั้นไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เพราะได้แก้ไขปัญหาทันที โดยยื่นความจํานงมาตั้งแต่ต้นว่า จะขอโทษ ซึ่งตนก็ตั้งเงื่อนไขช่องวันแบบเดียวกับ TOP News ซึ่งทาง TOP News ได้ตอบสนองในทันที พร้อมแก้ไขปัญหาแบบง่าย ๆ แต่แสดงออกถึงความจริงใจ ในขณะที่ช่องวัน กลับไม่ยอมตอบสนอง อาจจะถือตนว่าเป็นช่องไฮโซหรืออย่างไร ทั้ง ๆ ที่เพิ่งโดนชาวบ้านด่าทั่วบ้านทั่วเมืองในเรื่องของการทรมานสัตว์ สุดท้ายขอย้ำอีกครั้งว่า เตรียมตัวรับหมายศาลจากตนได้เลย

‘พีระพันธุ์’ เยือน โรงเรียนเลิศคณิตฯ สงขลา ชื่นชมการเรียนการสอน พร้อมปลูกฝังเยาวชนรักชาติ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางเยือนโรงเรียนเลิศคณิตสมาร์ทเซ็นเตอร์ จังหวัดสงขลา ชื่นชมการจัดการเรียนการสอน เด็กเก่ง มีความสามารถ พร้อมปลูกฝังเยาวชนรักชาติ รักแผ่นดิน รักสถาบันพระมหากษัตริย์

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา พบปะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียน โรงเรียนเลิศคณิตสมาร์ทเซ็นเตอร์ อำเภอสงขลา จังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมเยือนการจัดการเรียนการสอน ที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านการศึกษาและปลูกฝังเยาวชนรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ บรรยากาศการต้อนรับเป็นไปด้วยความอบอุ่น จากการต้อนรับด้วยการมอบดอกกุหลาบจากคณะครู และนักเรียน นำโดย นางอุไรวรรณ เอกพันธ์ (ครูแหม่ม)ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเลิศคณิตสมาร์ทเซ็นเตอร์ ก่อนที่จะมีการลงนามสมุดเยี่ยมเยือน และชมการแสดงที่จัดมาสร้างสีสัน รวม 5 ชุดการแสดง ประกอบด้วย การแสดงจากทีมสวนป๋าไลน์แดนซ์ , ทีมไลน์แดนซ์ศูนย์สร้างทางเขารูปช้าง, ทีมสมิหลา สวนป๋าไลน์แดนซ์ และชมรมแฟรน์ติดแดนซ์ ซึ่งแต่ละชุดการแสดงเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์จากคณะครู นักเรียน และผู้ปกครองที่เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงชุดพิเศษ ชื่อ ชุดว่า 'ธงชาติ' นำแสดงโดยครูแหม่ม พร้อมคณะครู ที่ช่วยสร้างความตระหนัก สร้างความฮึกเหิม ให้คนไทยรักชาติ รักแผ่นดินเกิด

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานในการมอบรางวัลแม่ดีเด่นคนดีศรีสงขลา ซึ่งเป็นกิจกรรมสืบเนื่องจากวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 จัดขึ้นที่โรงเรียนเลิศคณิตฯ มีคุณแม่ที่ได้รับรางวัลโล่เกียรติคุณ จำนวน 4 ท่าน ประกอบด้วย คุณแม่จินดาวรรณ สท้านวงศ์ , คุณแม่เดือนเพ็ญ เทพจิตร, คุณแม่สุมล ลิ่มตระกูล และคุณแม่ลักษณา หวัดเพชร จากนั้นได้มีการมอบถ้วยรางวัล ชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันเพชรวันเด็ก 'Top of Lertkanit' เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ได้แก่ ด.ญ.รมิตา วรวิทย์สัตถญาน ก่อนที่จะมีมอบโล่เกียรติคุณ กลุ่มอนุรักษ์วัฒนธรรมสงขลา ที่มาร่วมแสดงต้อนรับในครั้งนี้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้ติดตามครูแหม่มผ่านสื่อโซเชียล และช่องทางต่างๆ มาโดยตลอด รู้สึกประทับใจในความรักชาติ รักแผ่นดิน ของทั้งครูแหม่ม และคณะครู โรงเรียนเลิศคณิตฯ ซึ่งคนที่มีลักษณะแบบนี้ ที่มีการแสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่างตั้งใจแน่วแน่ ทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หาได้ง่ายๆ โดยวันนี้ได้มาเห็นความตั้งใจ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดการเรียนสอน ที่ไม่ได้เน้นแค่วิชาการ ให้เด็กมีความรู้ความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ยังสอนให้เด็กรู้จักรากเหง้าของตัวเอง รู้จักความเป็นชาติ ความเป็นไทย และรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และที่สำคัญทำให้เด็กๆ มีความสุข สนุกกับการเรียนเป็นอย่างมากด้วย

นางอุไรวรรณ เอกพันธ์ (ครูแหม่ม) ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเลิศคณิตสมาร์ทเซ็นเตอร์ กล่าวว่า โรงเรียนเลิศคณิต ได้ทำความดีเกี่ยวกับเรื่องของการรัก และปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งท่านพีระพันธุ์ฯ ได้มองหา เพื่อมาส่งกำลังใจต่อทั้งครูแหม่ม คณะครู และนักเรียน โดยทางโรงเรียนยังมุ่งเน้นที่เรื่องการศึกษา โดยแบ่งออกเป็น 2 Section ประกอบด้วย Section 1.มาแล้วต้องเรียนเก่ง ซึ่งทางโรงเรียนฯ จะมีการเรียนการสอนที่สามารถการันตีจากรางวัลระดับชาติได้ ส่วน Section 2. คือ เรื่องคุณธรรม ความกตัญญูรู้คุณ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยาก โดยต้องปลูกฝังให้เด็กรู้จักการทำดี และกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง แล้วความเก่งจะมาเอง จะเห็นได้จากหลายคนที่มีความรักชาติ แต่ไม่ได้กล้าแสดงออก ฉะนั้นแล้วให้เชื่อว่า การทำความดีนั้นไม่มีสิ่งที่ต้องกังวล และเชื่อได้ว่า เด็กที่มาเรียนจากโรงเรียนเลิศคณิต จะได้สิ่งดีๆ ไปแบบครบครัน ทั้งเก่งและดี มีคุณธรรม

กองทัพเรือ และ Top Radio 93.5 ต้อนรับกลุ่มเด็กพิการซ้ำซ้อน อบอุ่น

(20 พ.ย. 67) ที่บริเวณบ้านรับรองหาดน้ำใส ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันอังคารที่ 19 พ.ย.ศกนี้ พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมคณะประกอบด้วย พล.ร.ท.ธันยกร เสนาลักษณ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทหารเรือ และ พล.ร.ต.อนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ได้ไปร่วมให้การต้อนรับ “กลุ่มเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน” จาก “โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา” รวมทั้งผู้อำนวยการและครูผู้ดูแลเด็ก ๆ จำนวน 91 คน ซึ่งเดินทางมาจากสถานที่ตั้งใน กทม.และมาพำนักที่บ้านรับรองริมหาดน้ำใส ซึ่งอยู่พื้นที่รับผิดชอบของ “หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ” กองเรือยุทธการ หรือ หน่วยซีล หรือมนุษย์กบของราชนาวีไทย (Navy Seal) ระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.67 รวม 3 วัน 2 คืนภายใต้โครงการ “พาน้องตาบอดพิการซ้ำซ้อนเที่ยวทะเล” ประจำปี พ.ศ.2567 ซึ่งเป็นกิจกรรมปันน้ำใจให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคมที่ได้รับการสร้างสรรค์ของคณะผู้จัดรายการวิทยุ TOP RADIO จากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 93.5 ม.ฮ. ได้แก่ ดี.เจ.เทวี แย้มสรวล, ดี.เจ.นฤทธิ์ พันธุเมธา และ ดี.เจ.มธุรส โอสถานนท์ ได้ร่วมกันดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 10 ปีแล้ว

พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีพร้อมกับแสดงความขอบคุณคณะผู้จัดรายการวิทยุฯ ที่เลือกบ้านพักรับรองหาดน้ำใสเป็นแหล่งพำนักเพื่อเรียนรู้และสร้างประสบการณ์แก่เด็ก ๆ ผู้ด้อยโอกาส โดยบรรดาครูได้ปฏิบัติหน้าที่และคลุกคลีอยู่กับเด็กอย่างใกล้ชิด ได้ผ่อนคลายจากภาระหน้าที่ควบคู่ไปพร้อมกัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ทหารเรือ ได้มีส่วนร่วมในการปันน้ำใจให้แก่กลุ่มเด็ก ๆ ผู้พิการซ้ำซ้อนและครูผู้เสียสละในครั้งนี้ด้วย
โดยกองทัพเรือ ได้สำรองห้องพักที่บ้านรับรองหาดน้ำใสไว้ตลอด 3 วัน 2 คืน โดยได้จัดอาหารเย็นไว้ต้อนรับดูแลในวันแรก พร้อมกับจัดวงดนตรีไปขับกล่อมด้วย ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน พล.ร.ท.ธันยกร เสนาลักษณ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้ลงไปร่วมดูแลหนูน้อยที่กำลังสนุกสนานบันเทิงกับการได้สัมผัสบรรยากาศในการเล่นน้ำทะเล ซึ่งนอกจากจะมีบรรดาครูพี่เลี้ยงลงไปดูแลแล้ว ยังได้จัด “มนุษย์กบ” ลงไปประจำในทะเล เพื่อดูแลโดยมิให้คลาดสายตาตลอดเวลา ทั้งนี้ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ประจักษ์อย่างใกล้ชิดในความน่าสงสาร-น่าเห็นใจของบรรดาเด็ก ๆ ผู้พิการซ้ำซ้อน และดีใจมากที่มีส่วนช่วยสร้างความสุขสนุกสนานให้พวกเขาตอนเล่นน้ำทะเลที่หาดน้ำใส แถมยังมีโอกาสได้ร่วมต้อนรับดูแล ถึง 3 วัน 2 คืนอีกด้วย ต้องขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณกลุ่มผู้จัดรายการวิทยุ TOP RADIO และทีมงานที่ร่วมโครงการ ขอเป็นกำลังใจให้เดินหน้าทำโครงการดี ๆ อย่างนี้ต่อไป ซึ่งผมมั่นใจอย่างยิ่งว่ากองทัพเรือพร้อมให้การส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มใจต่อไป อนึ่ง โครงการ “พาน้องตาบอดพิการซ้ำซ้อนเที่ยวทะเล” ได้จัดต่อเนื่องมากว่า 10 ปีแล้ว โดยได้ว่างเว้นไป 2 ปี ที่เกิดการแพร่ระบาดของ “โควิด 19” เท่านั้น ซึ่งก่อนถึงกำหนดจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง คณะผู้จัดรายการวิทยุ TOP RADIO 93.5 ม.ฮ.จะมีการจัดกิจกรรมหาทุนด้วยการจัด Retro Party Charity Concert และเชิญชวนบรรดาผู้ฟังที่เป็นติดตามรายการได้มาร่วมสังสรรค์ สันทนาการและสมทบเงินเป็นกองทุนสนับสนุนโครงการฯ และเป็นที่น่ายินดีว่า บรรดาผู้ฟังได้ร่วมกันตอบรับสนับสนุนด้วยความเต็มใจตลอดมา

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

เชียงใหม่-มณฑลทหารบกที่ 33 เปิดห้องเรียนประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวีรกรรมของบรรพชนไทย

มณฑลทหารบกที่ 33 เปิดห้องเรียนประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวีรกรรมของบรรพชนไทย ให้นักนักศึกษาวิชาทหาร เข้ามาศึกษาเรียนรู้ สร้างอุดมการณ์รักชาติและพระมหากษัตริย์

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.67)  เวลา 14.00 น.พลตรี ธีระ ผดุงสุทร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เป็นประธานเปิดห้องเรียนประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวีรกรรมของบรรพชนไทย บริเวณศูนย์ประสานงานทหารกองหนุนและมวลชน มณฑลทหารบกที่ 33 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 

ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกับสมาคมผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน และสถานศึกษาต่างๆ จัดทำห้องเรียนประวัติศาสตร์ขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย อันมีพระมหากษัตริย์และบรรพชนไทย ก่อร่างสร้างชาตินำพาประเทศให้พ้นภัย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นการเผยแพร่วีรกรรมของผู้เสียสละเลือดเนื้อต่อสู้กับอริราชศัตรู ให้แก่อนุชนรุ่นหลัง อันเป็นปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติและพระมหากษัตริย์ เกิดเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เกิดในผืนแผ่นดินไทย 

ที่ผ่านมาศูนย์การฝึกศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 33 ได้ประกวดการจัดนิทรรศกาลห้องเรียนประวัติศาสตร์ขึ้น ตกแต่งเป็นห้องต่าง ๆ มีสถานศึกษาเข้าร่วม 40 แห่ง พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่สถานศึกษาที่ชนะรางวัล และเปิดห้องเรียนประวัติศาสตร์ไว้ให้นักศึกษาวิชาทหารรุ่นหลังศึกษาต่อไป

ทำดีมากแล้ว เชื่อคนไทยปลื้มให้กำลังใจ หลังชวดมง คว้ารองอันดับ 3 Miss Universe 2024

วันที่ (19 พ.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่น้องโอปอล หรือ น.ส.สุชาตา ช่วงศรี Miss Universe Thailand ได้รับรางวัลรองอันดับ 3 ในการประกวด Miss Universe 2024 ว่า

"ส่วนตัวได้ทราบข่าวแต่ไม่ได้ดูการประกวดในช่วงเวลานั้น เนื่องจากติดประชุมเอเปค แต่ขอชื่นชมว่าน้องโอปอลสวยมาก และอยากให้กำลังใจน้องเสมอ เมื่อเราส่งตัวแทนไทยไปแข่งขัน เราก็มักจะรู้สึกภูมิใจอยู่แล้ว เพราะน้องทำได้ดีมาก และไม่ว่าอย่างไร ก็ถือเป็นตัวแทนของประเทศและเป็นสีสันให้กับคนไทย เชื่อว่าเมื่อคนไทยเห็นก็จะส่งกำลังใจให้น้องอย่างเต็มที่" นายกฯ กล่าว

เปิดเส้นทาง 'เชน ธนา' หลังถูกกล่าวหา 'อมาโด้' ฉ้อโกง

(19 พ.ย.67) 'เชน-ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์' หรือที่รู้จักในชื่อ เชน ธนา อดีตศิลปินบอยแบนด์ยุคมิลเลนเนียมจากวง Nice 2 Meet U ได้ผันตัวจากวงการบันเทิงมาสู่วงการธุรกิจเต็มตัว ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของ แบรนด์อมาโด้ ที่ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมและสกินแคร์ครบวงจร ภายใต้บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดชื่อของเชนถูกโยงเข้าสู่คดีความ เมื่อบริษัท ไทยยินตัน จำกัด ผู้รับผลิตอาหารเสริมได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง โดยอ้างว่า อมาโด้กรุ๊ปไม่ยอมจ่ายค่าสินค้ามูลค่ากว่า 79 ล้านบาท พร้อมระบุว่าสินค้าไม่มีคุณภาพตามที่สั่ง  

ฝ่ายไทยยินตันระบุว่าเคยส่งสินค้าตามสัญญาให้กับอมาโด้กรุ๊ป แต่กลับไม่ได้รับชำระเงิน โดยเชนอ้างว่าสินค้าไม่เป็นไปตามข้อตกลง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมองว่าคดีดังกล่าวเป็นข้อพิพาททางแพ่ง ทำให้ไทยยินตันต้องนำหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลเอง  

เมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้เชนและภรรยามาพบ แต่ทั้งคู่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนถึง 3 ครั้ง โดยอ้างปัญหาสุขภาพและติดธุระสำคัญ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายเรียกครั้งที่สอง นัดในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาซึ่งเชนธนา ได้เข้าให้การกับตำรวจในวันดังกล่าว

เชนเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี ด้วยการเปิดร้านขายสินค้ากิ๊ฟต์ช็อปในสยามสแควร์ ก่อนจะล้มลุกคลุกคลานในธุรกิจอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าที่ประตูน้ำ และการนำเข้าสินค้าออนไลน์  

กระทั่งปี 2557 เขาก่อตั้งบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด  ด้วยทุนจดทะเบียน 43 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสกินแคร์เพื่อสุขภาพและความงาม ผ่านช่องทางออนไลน์  

อมาโด้เคยประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 2564 ด้วยรายได้รวมกว่า 2,426 ล้านบาท แม้ว่าจะขาดทุนในปีนั้น แต่ในปี 2566 บริษัทกลับมามีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท

ชีวิตส่วนตัวของเชน ธนา สมรสกับ เจมส์ กาลย์กัลยา รองอันดับหนึ่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์เมื่อปี 2560 ปัจจุบันมีลูกชายและลูกสาวด้วยกัน 5 คน 

ผลประกอบการของแบรนด์อมาโด้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ อมาโด้ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่มียอดขายสูงสุดกว่า 2,426 ล้านบาท แม้ว่าจะประสบภาวะขาดทุนในปีดังกล่าว รายได้และกำไรสุทธิย้อนหลัง 5 ปี มีรายละเอียดดังนี้:  

- ปี 2562  
- รายได้: 694,132,838 บาท
- กำไรสุทธิ: 41,413,159 บาท  

- ปี 2563  
- รายได้: 2,199,599,901 บาท  
- กำไรสุทธิ: 81,369,124 บาท

- ปี 2564
- รายได้: 2,426,861,701 บาท 
- ขาดทุนสุทธิ: -627,036,969 บาท  

- ปี 2565  
- รายได้: 0 บาท 
- กำไรสุทธิ: 0 บาท  

- ปี 2566  
- รายได้: 1,230,153,981 บาท
- กำไรสุทธิ: 36,919,268 บาท

MASTER ปักธง 'ผู้นำศัลยกรรมความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้' ประกาศร่วมมือ 'Lumeo Health' พาร์ตเนอร์อินโดนีเซีย

บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ หรือ 'MASTER' ปักธงก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศร่วมมือ 'Lumeo Health' พาร์ตเนอร์อินโดนีเซีย ตอกย้ำการขยายตลาดภูมิภาค – เสริมศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย - ขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจต่อเนื่อง เพิ่มการแข่งขันในระดับภูมิภาค ผลักดันอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงาม และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย กล่าวว่า MASTER GROUP มุ่งมั่นที่จะขยายการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในด้านศัลยกรรมความงามและการแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงมีการเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อ และความนิยมในหัตถการความงามในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ความต้องการบริการขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ยังมีการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ เช่น อินโดนีเซีย ลาว และกัมพูชา ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบบริการที่มีคุณภาพระดับสากล โดย MASTER ตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"มองว่าตลาดภูมิภาคมีการเติบโตสูง และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และคนในท้องถิ่นที่หันมาสนใจศัลยกรรมและความงามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศอย่างอินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา และไทย ซึ่งประชากรที่มีกำลังซื้อสูง มีความสนใจการทำศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเราได้เห็นถึงความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าและการเติบโตที่โดดเด่นของกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่าย Influencer และช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ช่วยสร้างความรู้จัก และเพิ่มความไว้วางใจให้กับ MASTER ในฐานะศูนย์กลางศัลยกรรมความงามระดับภูมิภาค โดยเรามุ่งเน้นการนำเทคนิคทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการ และขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระดับภูมิภาค" นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเริ่มเห็น MASTER ก้าวเข้าสู่การเป็น 'Regional  Company' โดยจะมีความร่วมมือกับ MASTER PARTNER ในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของบริษัทไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย MASTER ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือ หรือ MOU กับ Lumeo Health ซึ่งบริษัทจัดตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีสำนักงานในจาการ์ตา ซึ่ง Lumeo Health โดดเด่นในฐานะที่ปรึกษาศัลยกรรมความงามและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่ครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับการเติบโตภายในประเทศของบริษัทฯ ถือว่าแข็งแกร่ง โดย MASTER GROUP มีจุดให้บริการมากกว่า 90 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ในทุกภูมิภาค โดยให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการในทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งด้านศัลยกรรมความงามและการแพทย์เฉพาะทาง ถือเป็นจุดแข็งของเราในการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

Dr. Queencha Chaidy, Chief Executive Officer Lumeo Health กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าการลงนาม MOU ครั้งนี้จะเป็นการผนึกกำลังอีกขั้นของการพัฒนาด้านศัลยกรรมความงาม ให้เติบโตในระดับภูมิภาค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top