Wednesday, 4 December 2024
NEWS FEED

ข้อถกเถียงเรื่องภาษีบุหรี่ไฟฟ้า – คุ้มค่ากับสุขภาพของคนไทยหรือไม่?

การอนุญาตและการเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยกลายเป็นประเด็นร้อนที่ยังถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดย 'ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ' ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ตั้งคำถามว่า การเก็บภาษีนี้จะช่วยรัฐให้มีรายได้เพิ่มขึ้นคุ้มค่ากับปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหากเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกทดแทนได้ชี้ให้เห็นถึงข้อดีด้านสุขภาพเมื่อเปรียบเทียบกับบุหรี่มวนแบบดั้งเดิม การใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยลดความเสี่ยงจากสารพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดและมะเร็ง หากบุหรี่ไฟฟ้าถูกควบคุมให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ภาครัฐจะสามารถดูแลให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยมากขึ้น และป้องกันการเข้ามาของสินค้าปลอมและสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพในตลาด ซึ่งมักมีส่วนประกอบที่เสี่ยงสูงกว่าและไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน

ประเด็นที่สำคัญคือ การให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าให้ปลอดภัย เพื่อสร้างความเข้าใจถึงข้อแตกต่างระหว่างบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวน รวมถึงการใช้ที่เหมาะสมและวิธีป้องกันการเสพติด บุหรี่ไฟฟ้าอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่มวนได้ โดยเฉพาะหากมีการให้ความรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ควรเน้นย้ำถึงความเสี่ยงของการเสพติดสารนิโคตินที่ยังคงมีอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหากใช้อย่างไม่ถูกวิธีหรือใช้ในกลุ่มที่ไม่ควรใช้อย่างเยาวชน อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว

หากรัฐบาลออกมาตรการควบคุมให้ชัดเจน เช่น การจำกัดบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีกลิ่นหอมหวานหรือรสชาติเย้ายวนสำหรับเยาวชน และกำหนดมาตรฐานการผลิตและนำเข้าที่เข้มงวด การควบคุมนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าในตลาดมีคุณภาพและปลอดภัยมากขึ้น และลดโอกาสการเข้าถึงของสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพหรือสินค้าปลอมในตลาด ซึ่งไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพ แต่ยังเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสุขภาพของคนในประเทศ

ในท้ายที่สุด การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยควรคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความปลอดภัยและการลดความเสี่ยงของประชาชน การยอมรับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างมีมาตรฐานและการจัดเก็บภาษีอย่างเหมาะสมอาจช่วยลดอันตรายจากการเผาไหม้ของบุหรี่มวน และอาจเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับรัฐในระยะยาวหากสามารถควบคุมและป้องกันการเข้าถึงในกลุ่มที่ไม่เหมาะสม เช่น เยาวชนได้  
การศึกษาจากนโยบายต่างประเทศแสดงให้เห็นว่า หากประเทศไทยเลือกแนวทางการควบคุมที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัย บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นเครื่องมือในการช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่มวนแบบดั้งเดิมที่เสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งปอดและโรคหัวใจ ในขณะที่เปิดทางให้มีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างเคร่งครัด และป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างสินค้าปลอมเข้าสู่ตลาด นี่จะเป็นก้าวสำคัญสู่การลดผลกระทบทางสุขภาพของผู้สูบและเสริมสร้างสุขภาพของประชาชนในระยะยาว

สตูล ทัพเรือภาคที่ 3 โดยหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 กองทัพเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันกองทัพเรือประจำปี 2567

พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มอบหมายให้ นาวาโท ธนภูมิ ประทีป ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 จัดกิจกรรมเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ในพื้นที่จังหวัดสตูล ซึ่งในปีนี้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ได้จัดกิจกรรมฟังสารจากพลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันกองทัพเรือ กิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาล สตูลจังหวัดสตูล กิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดจำนวน 20,000 ตัว ณ อ่างเก็บน้ำภายในหน่วย ปฏิบัติการต่อสู้ อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 และกิจกรรม บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เก็บขยะ ณ ชายหาดแหลมสน บ้าน บุโบย หมู่ที่ 3 ตำบลแหลมสน อำเภอละงูจังหวัดสตูล ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ นี้ได้มีหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมกิจกรรมเช่น หน่วยงานทหารเรือในพื้นที่อำเภอละงู หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมสนและเทศบาลตำบลกำแพง รวมถึงบุคลากรของสถานศึกษาและนักเรียนลูกเสือเนตรนารี จากโรงเรียนบ้านบุโบย โรงเรียนบ้านบ้านกาแบง โรงเรียนบ้านสวนกลาง และโรงเรียนบ้านบ่อเจ็ดลูกอำเภอละงู จังหวัดสตูล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน มื้อพิเศษแก่กำลังพลของหน่วย ผลการจัดกิจกรรมต่างๆเป็นไปด้วยความเรียบร้อยบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

วันกองทัพเรือได้กำหนดขึ้นตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปีเนื่องด้วยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนนายเรือเมื่อ 20 พฤศจิกายนพุทธศักราช 2449 ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี กองทัพ เรือจึงถือเอาวันมหามงคลนี้เป็น 'วันกองทัพเรือ'

‘ชัช เตาปูน’ เตรียมแจกข้าวสาร 23 พ.ย.นี้ สืบทอดธรรมเนียมปฏิบัติที่แจกมาตั้งแต่ปี 2522

เมื่อวันที่ (21 พ.ย. 67) นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ  ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอเชิญพี่น้องทุกท่านมารับข้าวสารจาก "ชัช เตาปูน"  ในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ณ ตลาดคงอุดม ตั้งแต่เวลา 13.00 น. - 15.00 น.  แล้วพบกันครับ

สำหรับธรรมเนียมการแจกข้าวของ นายชัชวาลล์  เริ่มมาตั้งแต่ปี 2522 จนถึงปี 2566 รวม 44 ครั้ง ในปีนี้จะเป็นครั้งที่ 45 และเคยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการแจกข้าวสารว่า ตนตั้งใจถ้ามีเงินว่าจะแจกข้าวสารในวันเกิด พอดีในงานวันเกิดปี 2522 แขกที่มาในงานขอให้ร้องเพลงให้ฟัง 1 เพลงเขาจะบริจาค 50 กระสอบ ซึ่งก็ตรงกับที่เราอยากจะทำ ก็เลยร้องเพลงเขาก็บริจาคมาอีก 50 กระสอบ ส่วนโต๊ะข้าง ๆ ให้มาอีก 150 กระสอบ จึงแข่งกันแจก ในปีนั้นซื้อข้าว 1,700,000 บาท ได้มาจำนวน 40,000 ถุง จึงจัดเป็นประเพณีแจก 40,000 ถุงมาตลอด แต่ในปี 2566 ที่ผ่านมาเหลือเพียง 20,000 ถุง นั่นเพราะตั้งแต่ปี 2550 ราคาข้าวเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จาก 50  เป็น 80 บาท จาก 70 เป็น 130 บาทต่อถุงละ 5 กิโลกรัม จึงใช้เงินซื้อไป 4.3 ล้านบาท ตั้งแต่วันนั้นจึงคิดทำนาเองดีกว่า

"จึงทำนามาตั้งแต่ปี 51 และทำต่อเนื่องมา แจกข้าวมารวมครั้งนี้ 44 ปีตั้งแต่ปี 2522 ซึ่งเป็นความตั้งใจของผมตั้งแต่แรกจึงไม่ติดค้าง ต้องทำทุกปี พอไม่ทำก็ไม่สบายใจ ในช่วงโควิดก็เอาไปแจกเยอะ ใครเดือดร้อนก็นำไปแจก อย่างน้อยมีข้าวกินก็ยังดี และผมก็ทำต่อไปเรื่อย ๆ" นายชัชวาลล์ กล่าว

'ป่อเต็กตึ๊ง' เป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาส่งมอบไออุ่นจัดงบฯ 2 ล้านกว่าบาท แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ 'ชาวเชียงราย' ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ ห่วงใยผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดาร มอบหมายให้ นายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย,แผนกบรรเทาสาธารณภัย,แผนกอาสาสมัคร,แผนกสื่อสารองค์กรไทย ลงพื้นที่แจกจ่ายผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคอาทิ ผ้าห่มกันหนาวข้าวสาร,บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป,ปลากระป๋อง,ขนม,น้ำปลา,น้ำตาล,น้ำมันพืช และถุงผ้าบรรจุสิ่งของให้แก่ผู้ประสบ 'ภัยหนาว' ในจังหวัดเชียงราย 

ประกอบด้วย อ.เมือง,อ.แม่สาย, อ.แม่จัน,อ.แม่สรวย, อ.พาน รวม 3,300 ชุด คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,145,000 บาท (สองล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยมีประธานฯและคณะกรรมการมูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงรายมูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์แม่จัน มูลนิธิเมืองพานสงเคราะห์ มูลนิธิกวงเม้งแม่สาย พร้อมหน่วยงานภาครัฐและผู้นำท้องถิ่นร่วมในพิธีแจกจ่าย ในระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/atpohtecktung

โครงการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยหนาว เป็นโครงการที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งดำเนินการต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 60 ปี โดยตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สละแรงกาย แรงใจ สมทบทุน ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป

รัฐมนตรีอิ่ม มอบแนวทางการขับเคลื่อนและพัฒนากองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพิ่มศักยภาพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้สมาชิกกองทุนฯ ใช้เทคโนโลยีแฟลตฟอร์มดิจิทัล สนับสนุนให้สมาชิกกองทุนฯ

(21 พ.ย. 67) “นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (คกส.) ครั้งที่ 11/2567 และคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร  (อกส.กทม.) มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยินดีทีมีส่วนร่วมสานต่อนโยบายพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสตรี โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมในการประกอบอาชีพของสตรีให้เกิดขึ้น รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกสตรีที่ตั้งใจพัฒนาสินค้า บริการ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดกิจการของกลุ่ม พร้อมๆ กับการเสริมสร้างวินัยทางการเงินของกลุ่มสมาชิกกองทุน จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกรมการพัฒนาชุมชน ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งปัญหาด้านโครงสร้างบุคลากร ปัญหาการไม่ได้รับสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เนื่องจากในช่วงพิจารณางบประมาณปี 2568 ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก่อนมาสู่รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีความตั้งใจสนับสนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นกองทุนที่ดีกว่าเดิม มุ่งหวังที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับลูกหนี้ชั้นดี เพิ่มโอกาสให้กลุ่มสมาชิกสตรีรายใหม่ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น สะดวกขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลสมาชิก/การยื่นความประสงค์กู้ยืมเงินกองทุนกับแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เป็นต้น

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลและรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ

(20 พ.ย. 67) กองเรือยุทธการ จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันกองทัพเรือ โดยมี พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้นำกำลังพลจากหน่วยในสังกัดร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร ณ กองบัญชาการกองเรือยุทธการ เวลา 07.00 น. และร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ณ พุทธสถานกองเรือยุทธการ เวลา 10.00 น. โดยในเวลา 08.30 น. กำลังพลจากหน่วยงานในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ได้แก่ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1, เรือในกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1, ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง ได้ตั้งแถวรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียง ณ ที่ตั้งหน่วย นอกจาก กิจกรรมทางศาสนาและการรับฟังสารแล้ว ทัพเรือภาคที่ 1 ยังจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทำความสะอาดบริเวณอุโบสถวัดทรงเมตตา เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสร้างความสามัคคีในหมู่กำลังพล อีกด้วย ความสำคัญของวันกองทัพเรือ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่ระลึกถึงการก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2449 โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาสำหรับทหารเรือ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปกป้องประเทศ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาทหารเรือยังประเทศอังกฤษ และกลับมาก่อตั้งโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ตั้งแต่นั้นมา กองทัพเรือได้ยึดถือวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันกองทัพเรือ” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทยที่ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือ ให้มั่นคงจนถึงปัจจุบัน

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง นำกำลังพลแถวฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567

(20 พ.ย.67) พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมผู้บังคับบัญชาหน่วย นำกำลังพลแถวฟังสารจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ทางวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ ณ กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกาธน พุทธศักราช 2458 พระบาทสมเด็จพระจุสจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี กองทัพเรือ จึงได้ถือเอาวันมหามงคลนี้เป็น 'วันกองทัพเรือ' ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญในการปกป้องอธิปไตยของชาติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ การสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน 

ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนากองทัพเรือ ให้เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการตามวิสัยทัศน์ที่กองทัพเรือตั้งไว้

(อำนาจเจริญ) กกล.สุรนารี บูรณาการ 'จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง ชายแดน จังหวัดอำนาจเจริญ’

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.67) เวลา 17.50 น. กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี โดย พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้จัดกำลังพลจาก กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน ที่ 23 ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง

โดยผิดกฎหมาย บริเวณริมแม่น้ำโขง อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ พบบุคคลต้องสงสัยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จึงทำการเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นราษฎรชาวลาว 29 คน (ชาย 3 คน หญิง 26 คน) และผู้นำพาชาวไทย 1 คน (ชาย) 

จากการสอบถามทราบว่าเป็นการลักลอบเข้ามาเพื่อรับจ้างเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร(เกี่ยวข้าว) จึงได้ควบคุมและส่งมอบผู้กระทำความผิดให้กับ สถานีตำรวจภูธรชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

(อุบลราชธานี) กกล.สุรนารี บูรณาการ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 118,000 เม็ด พร้อมรถกระบะ 1 คัน ที่ชายแดนเขมราฐ 

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.67) เวลา 19.00 น. กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี โดย พลตรี สมภพ  ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้จัดกำลังพลจาก กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 227 ร่วมกับ ตำรวจภูธรเขมราฐ และ ฝ่ายปกครอง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ทำการซุ่มสกัดจับเป้าหมายยาเสพติด ตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บธ 5707 จังหวัดนครพนม วิ่งมาในพื้นที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น รถกระบะคันดังกล่าว ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้  จึงเข้าตรวจสอบ สามารถตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) จำนวน 59 มัด ประมาณ 118,000 เม็ด พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บธ 5707 จังหวัดนครพนม จำนวน 1 คัน จึงได้ส่งมอบของกลางให้กับ สถานีตำรวจภูธรเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ชลบุรี...กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมกับ ซียูอีแอล จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล 'UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง' มอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี ดร.อรรถสิทธิ์ กอชัยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Engineering & Fabrication กลุ่มบริษัทยูนิไทย และ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด พร้อมด้วย กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา พญ.กรวิกา จิระตุลธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา นายยุทธนา สร้อยเสนา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ และ น.ส. นริศรา ทิพยางกูร ปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา ร่วมแถลงข่าว จัดงานวิ่งการกุศล 'UNITHAI - CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง' มอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ในวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ดร.อรรถสิทธิ์ กอชัยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Engineering & Fabrication กลุ่มบริษัทยูนิไทย และ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทยูนิไทย ดำเนินธุรกิจด้านอู่ซ่อมเรือชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งานวิศวกรรมโครงสร้างบนบกและนอกชายฝั่ง พลังงานหมุนเวียน รวมทั้งบริษัทในเครือต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านซัพพลายเชนโซลูชั่นแบบครบวงจร ท่าเรือเอกชน คลังสินค้า บริการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย  

สำหรับการจัดกิจกรรมงานวิ่งการกุศลในครั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ และส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ป่วยมะเร็ง อีกทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กร รวมถึงประชาชนทั่วไป หันมาใส่ใจการออกกำลังกายเพื่อสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี ห่างไกลโรคมะเร็ง ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะสมทบทุนในการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยมะเร็ง โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกให้ดียิ่งขึ้น ตามพันธกิจขององค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาความเจริญด้านชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม”

ดร.อรรถสิทธิ์ กล่าวเสริมว่า นักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันจะได้สัมผัสกับเส้นทางวิ่งในสวนสวย ผ่านจุดไฮไลท์ที่สำคัญต่าง ๆ ของสวนนงนุช หนึ่งในสิบสวนที่สวยที่สุดในโลกสำหรับประเภทการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะวิ่ง 4 กิโลเมตร ค่าสมัคร 588 บาท (ไม่มีการแข่งขัน)  2. ระยะวิ่ง 8 กิโลเมตร ค่าสมัคร 788 บาท  และ3. ระยะวิ่ง 12 กิโลเมตร ค่าสมัคร 888 ทั้งนี้ผู้ที่ได้อันดับ 1-3 ของทุกรุ่นอายุรับเงินรางวัลและรางวัล Overall ชาย-หญิง ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.runlah.com/events/ucrc2025 หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 089-962-6229 และ 089-939-9128

ปล่อยซาว์ดสัมภาษณ์ ดร.อรรถสิทธิ์ กอชัยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Engineering & Fabrication กลุ่มบริษัทยูนิไทย และ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top