Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

“จปร.”ปรับภูมิทัศน์ “ถนนจงรักภักดี” ระยะทาง 7 กม. ให้ปชช. 2 ฝั่งถนน เฝ้ารับขบวนเสด็จ “กรมสมเด็จพระเทพฯ”  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (รร.จปร.) ได้จัดทำโครงการ “ถนนจงรักภักดี”ขึ้นในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ระยะทาง 7 กิโลเมตร ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์แห่งที่ 2 ทางเข้าจากถนนสายกรุงเทพฯ-นครนายก ไปจนถึงประตู รร.จปร. เพื่อปรับภูมิทัศน์สองข้างทางให้สะอาดเรียบร้อย ปลอดภัย สวยงาม รับเสด็จฯ  พล.อ.หญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินฯ มายัง รร.จปร.

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติฯ ที่ทรงเสียสละพระวรกายพระราชทานการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ให้กับนักเรียนนายร้อย จปร. ตลอดระยะเวลา 41 ปีของการทำหน้าที่ “ทูลกระหม่อมอาจารย์”  โดยห้วงเวลาดังกล่าวทรงพระราชดำเนินมาสอนที่ รร.จปร. อ.เขาชะโงก จ.นครนายก  35 ปี  ปรากฎว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี
 
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 1 ปีในช่วงสถานการณ์โควิด19  กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระราชทานการสอนผ่านทางออนไลน์ และเมื่อมีหมายกำหนดเสด็จพระราชดำเนินมาทำกิจกรรมที่ รร.จปร. ทางโรงเรียนฯ ก็ได้นำ“รถพุ่มพวง”ที่ออกจำหน่ายผักปลอดสารพิษจากโครงการ “ทหารพันธ์ดี” ออกไปกระจายเสียงประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนที่อยู่ในชุมชม ริมสองข้างทางถนนรับทราบหมายกำหนดการฯ ดังกล่าวล่วงหน้า 1 วัน เพื่อช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่หน้าบ้านของตนเอง และ สามารถมารอรับเสด็จฯ สองข้างทางในบริเวณใกล้จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ อารักขาเส้นทางเสด็จฯได้   จากเดิมที่ชาวบ้านไม่กล้าที่จะออกมา เพราะเจ้าหน้าที่มีการปิดการจราจร และเข้าใจว่าไม่อนุญาตให้ประชาชนออกมา 

“บุกจับกลางกรุงฯ" หนุ่มขายนกคุ้มครองออนไลน์ ช่วยเหลือลูกนกอีก 16 ตัว รับสารภาพรับซื้อจากชาวบ้าน นำมาโพสต์ขายในกลุ่มลับ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบโดยเฉพาะ”

พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส.สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส.พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส.พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส.พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ชูกรณ์ , พ.ต.ต.ดนัย ดีดวงพันธ์ สว.กก.1 บก.ปทส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าจับกุมนายฉัตรเฉลิม กลิ่นเมย อายุ 34 ปี ในความผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า  ข้อหา “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไวในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และค้าสัตว์ป่าคุ้มครองฯ พร้อของกลาง ลูกนกกระรางหัวขวาน  9 ตัว ลูกนกแสก  2 ตัว ลูกนกเค้าจุด 4 ตัว และเหยี่ยวขาว  1 ตัว ได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านวงศ์สว่าง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำเสนอขายนกกระรางหัวขวาน, นกเค้าจุด ผ่านทางออนไลน์ จึงเข้าตรวจสอบและติดต่อขอซื้อ โดยนัดรับสินค้าที่กันที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ต้องหานำกล่องพัสดุมาส่งให้  3 กล่อง ภายในบรรจุเหยี่ยวขาว 1 ตัว , ลูกนกกะรางหัวขวาน  5 ตัว และ ลูกนกแสกอีก 2 ตัว จึงแสดงตัวเพื่อจับกุม

'กองทัพเรือ'  จัดกำลังพลและอากาศยาน ขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหล ในพื้นที่จ.ระยอง

พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ท่อน้ำมันของบริษัท SPRC รั่วไหลอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งกองทัพเรือได้จัดกำลังพลและ ยุทโธปกรณ์เข้าดำเนินการ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมถึงจัด อากาศยาน ขึ้นลาดตระเวนและโปรยสารเคมี

โดยในวันนี้ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นบินสำรวจโดยรอบบริเวณจุดพบคราบน้ำมัน ที่เรือของกรมทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่ง และบริษัท SPRC ได้ทำการกางบูมล้อมสกัดกั้นไว้ ระยะห่างจากชายฝั่งหาดแม่รำพึงประมาณ 4 กิโลเมตร โดยเมื่อเวลา 08.00 น. เรือสำรวจจากกรมเจ้าท่า ได้ตรวจพบคราบน้ำมัน บริเวณปากแม่น้ำระยอง ลักษณะคราบน้ำมันเป็นแผ่นฟิมล์บางกลุ่มเล็กๆ ขนาดประมาณ 1×1 เมตร จำนวน 3 กลุ่ม และบริเวณปลายแหลมรุ่งเรือง ตรวจพบกลุ่มเล็กๆ เจ้าหน้าที่ทำการใช้ Absorf Boom ซับคราบดังกล่าว และในเวลา 11.00 น. ตรวจพบคราบน้ำมันบริเวณ Break Water ปากน้ำระยองอีกครั้ง มีขนาด ×2 เมตร เรือกรมเจ้าท่าดำเนินการสลายคราบน้ำมันเป็นที่เรียบร้อย 

เวลา 11.30 น. ทหารเรือ โดย หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ประจำอยู่ในพื้นที่ ได้เข้าทำการตรวจสอบบริเวณโขดหิน ลานหินขาว หลังจากที่มีสื่อบางสำนักได้นำเสนอข่าวว่า มีการพบคราบน้ำมันในบริเวณดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบไม่พบคราบน้ำมันตามที่มีการนำเสนอข่าว

“กอ.รมน.” ตรวจสอบอาคารพาณิชย์ ย่านหนองแขม ไม่พบการใช้ตราสัญลักษณ์กอ.รมน. ระบุ หากมีการแอบอ้างต้องถูกดำเนินคดีตามกม.

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เปิดเผยถึงมีการนำเสนอข่าวว่ามีผู้พบเห็นป้ายบริเวณรั้วและภายในอาคารพาณิชย์มีที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่เขตหนองแขม กทม. ซึ่งเมื่อมองเข้าไปที่บริเวณรั้วและภายในอาคารจะปรากฏเห็นป้ายมีข้อความและตราสัญลักษณ์ของ กอ.รมน. ปรากฎอยู่  จึงสงสัยว่าที่อาคารดังกล่าวเป็นอาคารสถานที่ทำงานของหน่วยงาน กอ.รมน. หรือไม่ 

จากกรณีดังกล่าว พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบว่าอาคารดังกล่าวไม่ใช่สถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานในสังกัด กอ.รมน. แต่อย่างใด จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานกับเจ้าของอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ให้รีบดำเนินการนำป้ายที่มีตราสัญลักษณ์และข้อความ กอ.รมน. ออก เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าสถานที่ดังกล่าวนั้นเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานในสังกัด กอ.รมน.

 ทั้งนี้อยู่ในระหว่างสอบสวนรวบรวมข้อมูล ซึ่งการขึ้นป้ายและข้อความในลักษณะดังกล่าวนั้นอาจเข้าข่ายได้ว่าเป็นการแอบอ้างเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดในทางที่มิชอบ โดยเฉพาะตราเครื่องหมายสัญลักษณ์ กอ.รมน. เป็นเครื่องหมาย หรือตราของทางราชการ ซึ่งการนำไปใช้จะต้องเป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมายมิฉะนั้นจะถือเป็นความผิดได้

"กองทัพเรือ" สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมันทะเลระยองอีกครั้ง

พล.ร.ท..ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ท่อน้ำมันของบริษัท SPRC รั่วไหลอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา  กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยจัด เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ขึ้นบินนำสารเคมี DASIC international SLICKGONE ไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และได้จัดกำลังพลจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) จำนวนผลัดละ 40 นาย เข้าประจำพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง จ.ระยอง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากเกิดกรณีคราบน้ำมันที่รั่วไหลมาถึงบริเวณชายหาดอีกครั้ง โดยจะทำการสำรวจบริเวณชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง และเก็บขยะร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัท SPRC ซึ่งกำลังพลกองทัพเรือ ได้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนปฏิบัติการอีกครั้งตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

รัสเซีย-เบลารุส ซ้อมรบกระสุนจริง เร้าพลเมืองสหรัฐฯ ออกจากยูเครนด่วน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) เร่งเร้าพลเมืองอเมริกาให้เดินทางออกจากยูเครนในทันที ในขณะที่การซ้อมรบกระสุนจริงของรัสเซียและการระดมกำลังทหารตามแนวชายแดน โหมกระพือความกังวลว่ามอสโกจะยกพลรุกรานยูเครน

ความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับมอสโกพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น ด้วยสหรัฐฯ ประมาณการว่า มีทหารรัสเซียราว 130,000 นาย ระดมกำลังกันอยู่ตามแนวชายแดนติดกับยูเครน

"พลเมืองอเมริกันควรเดินทางออกมาเดี๋ยวนี้เลย" ไบเดนกล่าวในการสัมภาษณ์ที่บันทึกเทปไว้ล่วงหน้ากับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ "เรากำลังรับมือกับหนึ่งในกองทัพใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นสถานการณ์ที่ต่างออกไปอย่างมากและสิ่งต่างๆ อาจเข้าสู่ความบ้าคลั่งอย่างรวดเร็ว"

ไบเดน เน้นย้ำว่า ไม่มีกรณีแวดล้อมใดที่เขาจะส่งทหารเข้าไปยังยูเครน แม้กระทั่งในภารกิจช่วยหลือพลเมืองอเมริกันในกรณีที่รัสเซียเปิดฉากรุกราน "มันจะเป็นสงครามโลก เมื่ออเมริกาและรัสเซียเริ่มยิงเข้าใส่กัน เราจะอยู่ในโลกที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง" เขากล่าว

คำพูดของไบเดนถูกเผยแพร่ออกมาหลายชั่วโมง หลังจากรัสเซียเคลื่อนรถถังข้ามชายแดนเข้าสู่เบลารุส เพื่อซ้อมรบกระสุนจริง ที่เรียกเสียงเตือนจากนาโต้ และกระตุ้นให้ตะวันตกต้องเร่งมือในความพยายามหลีกเลี่ยงเกิดสงครามในทวีปยุโรป

นาโต้ระบุว่า ความเคลื่อนไหวประจำการขีปนาวุธ ยานเกราะหนัก และกองทหารติดปืนกลของรัสเซีย ตอกย้ำถึง "ช่วงเวลาอันตราย" สำหรับทวีปยุโรป ราว 3 ทศวรรษหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

พวกผู้นำตะวันตกพยายามติดต่อไปมากับมอสโก ในความพยายามรักษาช่องทางการสื่อสารระหว่างสองฝ่ายเอาไว้ เปิดโอกาสให้รัสเซียระบายความคับข้องใจเกี่ยวกับการแผนขยายอิทธิพลของนาโต้เข้าสู่ยุโรปตะวันตกและบรรดาประเทศอดีตสหภาพโซเวียต

อย่างไรก็ตาม พวกเขาพยามหาทางแสดงออกถึงความแน่วแน่ในการเผชิญกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าท่าทีของรัสเซียที่ซ้ำเติมสถานการณ์ความตึงเครียดที่หนักหน่วงอยู่ก่อนแล้ว "รัสเซียไม่ควรประเมินเราต่ำเกินไป ทั้งในแง่ความเป็นหนึ่งเดียวกันและความมุ่งมั่นของเราในฐานะพันธมิตรอียูและในฐานะพันธมิตรนาโต้" โอลาฟ์ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีระบุ

เพนตากอนเผยในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ว่า ในความพยายามลดโอกาสของการคำนวณพลาดระหว่างการซ้อมรบของรัสเซียกับเบลารุส บรรดาผู้บัญชาการด้านกลาโหมของสหรัฐฯ และเบลารุสได้พูดคุยทางโทรศัพท์กัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนัก

รัสเซียยังได้ส่งเรือรบ 6 ลำ ล่องผ่านช่องแคบบอสพอรัส สำหรับซ้อมรบทางนาวีในทะเลดำ และทะเลอาซอฟที่อยู่ติดกัน

'ศรีสุวรรณ' จี้ ผู้ว่าฯ อยุธยา ปลดนายกอบต.บ้านซุ้ง หลังปปช. ชี้มูลความผิดฐานทุจริตนานแล้ว

'ศรีสุวรรณ' ทวงถามผู้ว่าฯ อยุธยาทำไมไม่ปลดนายก อบต.บ้านซุ้ง ทั้งๆ ป.ป.ช. ชี้มูลผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่มานานแล้ว เตือนหากประวิงเวลาอีกต้องร้อง รมว.มหาดไทย เพื่อสอบเอาผิดผู้ว่าฯต่อไป

11 ก.พ. 65 - นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อทวงถามการใช้อำนาจสั่งให้นายก อบต.บ้านซุ้ง อ.นครพลวง พ้นจากหน้าที่ หลังจากที่ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่มานานแล้ว แต่จังหวัดกลับประวิงเวลาอย่างมีพิรุธ กลายเป็นที่ครหาของประชาชนนั้น

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน ต.บ้านซุ้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ว่านายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านซุ้ง ได้กระทำการทุจริตเงินโครงการคนดีศรีบ้านซุ้งต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด 2556 เป็นเหตุให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำการไต่สวนและสอบสวน และได้ทำการชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ พร้อมได้สรุปสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง นายอำเภอนครหลวง และหรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

ระยอง - ผวจ.ระยอง เผยคราบน้ำมันจ่อประชิดฝั่งห่าง 5 กม. ยัน!เสียใจหลังน้ำมันรั่วรอบ 2 พร้อมตำหนิบริษัทต้นตอ ขาดความระมัดระวัง!! กรมเจ้าท่าแจ้งความดำเนินคดี 4 ข้อหา

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้เดินทางมาตรวจและติดตาม การรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีคราบน้ำมันดิบรั่วไหล บ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จก. หรือ SPRC ที่หมู่บ้านสบาย สบาย รีสอร์ท หาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้เปิดเผยถึง กรณีเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล รอบที่ 2 จำนวน 5,000 ลิตร ซึ่งเป็นจุดเดิมที่มีการรั่วไหลเมื่อครั้งที่แล้วว่า จุดที่พบคราบน้ำมันรั่วไหลอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กม. ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจ ซึ่งทุกฝ่ายก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกันไป ทั้งนี้ บริษัท น่าจะทำได้ดีกว่านี้ น่าจะมีความระมัดระวังในการวางแผนเข้าดำเนินการตรวจสอบให้รอบคอบ ซึ่งการขอโทษไม่ได้ช่วยอะไร คิดว่าประชาชนคงรับไม่ได้ เบื้องต้นได้ตำหนิทาง บริษัทฯ ไปแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีแน่นอน โดยเฉพาะความรู้สึกของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนการปลดธงแดง และการลงเล่นน้ำทะเล ต้องขอประเมินสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเลอีกรอบ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง ในฐานะผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ไม้ฟ้า ปักเขตานัง ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด ดำเนินคดี 4 ข้อหา โดยแบ่งออกเป็น 4 ฐานความผิด คือ

1.ฐานความผิดตามมาตรา 119 ทวิแห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 กรณีก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นคดีที่ต่างกรรมต่างวาระ กับการกระทำผิด ซึ่งได้ร้องทุกข์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565

โซเชียลวิจารณ์เมนูฮิต ‘หมึกช็อต’ นักวิจัยเตือน เสี่ยงเจอพยาธิตัวกลม

โซเชียลวิจารณ์เมนูฮิต ‘หมึกช็อต’ รสชาติอร่อย แต่อาจเป็นการทรมานสัตว์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนเสี่ยงพยาธิตัวกลม ปวดท้องภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังกิน

โซเชียลวิจารณ์เมนู ‘หมึกช็อต’ นำหมึกเป็นๆ ไปจุ่มน้ำจิ้มซีฟูี๊ดในแก้วช็อต หรือแก้วเล็กๆ แต่บางร้านปรับใช้เป็นแก้วขนาดใหญ่ หลังจากจุ่มไปหมึกจะดูดน้ำจิ้มเข้าไป จากนั้นก็หยิบหมึกมากิน หลายคนที่ได้ลองบอกว่า รสชาติดี เนื้อหมึกมีรสหวานเข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่อีกด้านก็มองว่า น่าสงสาร เพราะการกินแบบนี้เป็นการทรมานสัตว์

ลูกค้าที่เข้ามากินเมนูหมึกช็อต บอกว่า รสชาติอร่อย มึกสด หวานดี แต่น่าจะลองกินเพียงครั้งเดียว เพราะสงสาร

ขณะที่เจ้าของร้าน บอกว่า ปกติที่ร้านขายซาซิมิ เพิ่งนำเมนูหมึกช็อตมาขายในช่วงที่มีกระแสเกิดขึ้น เพื่อเป็นตัวเลือกของลูกค้า และลูกค้าอยากกินเมนูดังกล่าวที่ร้าน

‘จีน-รัสเซีย’ พันธมิตรสุดแข็ง ที่พร้อมแกว่งทุกเมื่อ หากความเสี่ยง กระทบผลประโยชน์ของประเทศ

ภายใต้สถานการณ์วิกฤติของรัสเซีย จากประเด็นยูเครนในช่วงที่ผ่านมา น่าจะทำให้รัสเซียเริ่มเหลียวมองหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อพึ่งพิง ซึ่งก็คงใช่ใครอื่นนอกจากจีน 

ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะไม่ว่ารัสเซียจะเจอปัญหาการเมืองกับชาติพันธมิตรในยุโรปหนักแค่ไหน หรือแม้จะเจอเหตุการณ์ประท้วงเพื่อล้มรัฐบาลคาซักสถานที่รัสเซียหนุนหลังอยู่เมื่อตอนต้นปี รวมถึงวิกฤติการลุกคืบของพันธมิตร NATO ในยูเครน ทางการจีนก็มักออกมาประกาศจุดยืนสนับสนุนฝ่ายรัสเซียอย่างแข็งขันเสมอมา

แถมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นก็ยิ่งถูกตอกย้ำขึ้นไปอีก ภายหลังการพบกันอีกครั้งระหว่าง ‘สี จิ้นผิง’ และ ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ในช่วงพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง ที่ทางรัฐบาลรัสเซียออกมารายงานว่า เป็นการพบกันที่อบอุ่น และมีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านพลังงาน ซึ่ง Rosneft บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียตกลงที่จะจัดโควตาส่งน้ำมันให้จีนเพิ่มอีกในอีก 10 ปีข้างหน้าด้วย

นอกจากนี้ ปูติน ยังได้กล่าวอีกว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซีย และจีนจะช่วยให้ทั้ง 2 ชาติมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง และสามารถต่อสู้ รับมือกับความเสี่ยง และท้าทายจากชาติอื่นๆ พร้อมย้ำอีกว่า...

“มิตรภาพระหว่างจีน และ รัสเซีย ไม่มีข้อจำกัด”

อย่างไรก็ตามกรณีข้อพิพาทล่าสุดระหว่าง ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ที่มีชาติพันธมิตรเข้ามาขู่ฟ่อๆ จะล่อรัสเซียหากแหยมยูเครนนั้น ดูจะทำให้รัสเซียต้องคิดหนักกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตามหลังมากกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เหตุเพราะสหรัฐอเมริกาขู่งัดมาตรการคว่ำบาตรขั้นสูงสุด หากรัสเซียยกทัพบุกดินแดนยูเครนจริง ขณะที่สหภาพยุโรปก็พร้อมที่จะบอยคอตรัสเซียหนักยิ่งกว่าตอนผนวกดินแดนไครเมียในปี 2014 

ประเด็น คือ หากสถานการณ์ลุกลามไปสุดถึงขั้นนั้นจริงๆ จีนจะกระโดดลงมาร่วมเรียงเคียงไหล่กับรัสเซียหรือไม่?

นักวิเคราะห์หลายคนต่างวิเคราะห์ถึงท่าทีของจีนไว้อย่างน่าสนใจว่า แม้จีนจะแสดงออกชัดเจนถึงการสนับสนุนรัสเซียในด้านเสถียรภาพและความมั่นคงทางภูมิศาสตร์การเมืองในภูมิภาค รวมถึงการพึ่งพาด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน แต่หากมองในมุมด้านผลประโยชน์ทางการค้าที่เป็นจุดแข็งสำคัญของจีน เชื่อว่าจีนอาจยังไม่พร้อมที่จะยอมเสี่ยงถึงขนาดนั้นเพื่อรัสเซีย

ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาในแง่การตลาด จีนถือเป็นตลาดส่งออกเบอร์ 1 ของรัสเซียเลยทีเดียว คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 16% ของยอดรวมตลาดต่างประเทศของรัสเซีย แต่ในทางกลับกัน ตลาดรัสเซียกลับมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกให้กับจีนเพียง 2% เท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดของจีนในสหรัฐอเมริกา และ สหภาพยุโรป

อเล็กซ์ คาพริ นักวิจัยของสถาบัน Hinrich Foundation กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งควรที่จะระมัดระวังอย่างยิ่งในการแสดงจุดยืนเรื่องข้อพิพาทระหว่าง NATO และ รัสเซีย แม้จะเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ และพลังงานร่วมกันมานาน แต่ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากชาติมหาอำนาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผลประโยชน์ด้านการค้าของจีนอย่างแน่นอน

อีกทั้งคำขู่ของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ออกโรงเตือนรัฐบาลปักกิ่งว่า หากจีนคิดแทรกแซงเรื่องการบุกยูเครนของรัสเซียจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในปัญหาความมั่นคง และสะเทือนถึงเศรษฐกิจในระดับโลก ซึ่งจีนเองก็จะเจ็บหนักด้วย

แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่จีนต้องคิดให้หนัก เพราะตอนนี้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจในประเทศของจีนเองก็ยังไม่ค่อยสู้ดี จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และ Covid-19 ที่ดึงให้เศรษฐกิจโดยรวมของจีนที่คาดว่าน่าจะเติบโต กลับชะลอตัวเหลือเพียง 4.8% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่ได้ 8% ในปี 2020 

ขณะเดียวกัน ในเมื่อเศรษฐกิจรัสเซียต้องพึ่งจีน มากกว่าที่จีนจะพึ่งรัสเซียนั้น การที่พี่สีกระโดดลงมาล่มหัวจมท้ายกับปูติน เพื่อมาแบกรับความเสี่ยงในการถูกคว่ำบาตรขั้นสุดจากสหรัฐอเมริกา และยุโรป จึงเป็นเรื่องลำบากใจของรัฐบาลปักกิ่งไม่น้อย ที่จะต้องยอมแลกผลประโยชน์ทางการค้า เพื่อรักษาพันธมิตรกับรัสเซีย เพราะเท่าที่ผ่านมา นอกจากข้อตกลงร่วมกันทางเศรษฐกิจ จีนก็แทบจะไม่เข้าไปวุ่นวายกับข้อพิพาทเรื่องดินแดนของรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามในจอร์เจียตอนปี 2008 รวมถึงการผนวกดินแดนไครเมียในปี 2014 สักเท่าไร

เห็นภาพแบบนี้แล้ว ก็เลยอดคิดไม่ได้ว่า ปูติน จะยังมั่นใจกับคำกล่าวสุดมั่นที่ว่า “มิตรภาพระหว่างรัสเซีย-จีน ไม่มีข้อจำกัด” ได้อยู่หรือไม่ เพราะนาทีนี้ไม่สามารถเดาใจ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เลยจริงๆ ว่าจะยังพร้อมคิดเช่นเดียวกันแค่ไหน...


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: CNN / New Yorker / BBC


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top