Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

'บุญเกื้อ' ทีมโฆษกพรรคไทยภักดี เสียชีวิตแล้ว!! ลูกชายแจ้งข่าวจากไปอย่างสงบ

จากเพจเฟซบุ๊ก 'บุญเกื้อ ปุสสเทโว' ได้มีการลงข้อความ ระบุว่า... 

แจ้งข่าว (คุณพ่อ) บุญเกื้อ ปุสสเทโว เสียชีวิตแล้วด้วยอาการอันสงบ ที่บ้านพัก เลขที่ 99 ม.9 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

กำหนดการตั้งศพไว้ที่วัดหนองลานราษฎร์บำรุง เป็นเวลา 7 วัน

นายบดีศร ปุสสเทโว บุตรชาย/แจ้งข่าว

ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 นายบุญเกื้อ เผยว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งในช่องท้อง มีขนาดโตขึ้น การรักษาด้วยวิธีคีโมไม่ได้ผล (ดื้อยา) แพทย์จุฬาฯ ต้องเปลี่ยนวิธีรักษามาเป็นการฉายรังสี (แสง) เมื่อฉายแสงครบ 10 ครั้งแล้วแพทย์ จะรอดูอาการอีก 3 เดือนว่าดีขึ้นหรือไม่

กรมอุทยานฯ เอาจริง!! ติดป้ายเตือนขับรถชนช้างป่าสลักพระ โทษ คุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน หลังเกิดเหตุบ่อย

กรมอุทยานฯ เอาจริง ติดป้ายเตือนขับรถชนช้างป่าสลักพระ เจอคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน หลังพบช้างป่าถูกรถชน 2 ครั้ง ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการติดป้ายเตือน “ระวังช้างป่าข้ามถนน ขับรถชนช้างป่ามีโทษจำคุกและปรับ” “โปรดระวังช้างป่า ห้ามขับรถเร็วเกิน 60 กม./ ชม.” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ บริเวณถนน 1399 ตำบลวังด้ง จนถึงตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยมี นายไพฑูรย์ อินทบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เป็นผู้นำตรวจ โดย นายไพฑูรย์ แจ้งว่าได้ทำการติดป้ายเตือนระวังช้างป่า โดยได้ติดป้ายเตือนระวังช้างป่าทั้ง 2 ข้างถนนบริเวณดังกล่าว ตลอดสายระยะทาง 15 กม. ทั้งขาไปและขากลับ เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ระยะไกล รวมทั้งหมด 35 ป้าย

นายนิพนธ์  กล่าวว่า ตามข้อสั่งการของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการยกระดับแก้ไขปัญหาช้างป่า ในกรณีช้างป่าถูกรถยนต์ชน ทำให้เกิดการบาดเจ็บทั้งคน และช้างป่า ในบริเวณเส้นทางถนนหมายเลข 1399 ต.ด้งวัง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จึงได้ดำเนินการติดป้ายเตือนระวังช้างป่าดังกล่าว

ทั้งนี้ขอกล่าวเตือนว่า การที่ผู้ขับขี่รถยนต์คันใด ขับรถมาด้วยความเร็วเข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ถนนสาย 3199 ระหว่าง ต.วังด้ง ถึง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี แล้วเห็นป้ายเตือน “ระวังช้างป่า ห้ามขับความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.” ป้ายเตือน “ระวังช้างป่าข้ามถนน ชนช้างป่าโทษจำคุกและปรับ” ติดอยู่ตลอดสองข้างทางถนน ที่มองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล จำนวน 35 ป้าย ย่อมรู้ หรือคาดหมายได้แล้วว่า บริเวณถนน 3199 ต.วังด้ง ถึง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี ระยะประมาณ 15 กม. ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อาจจะมีช้างป่าออกมาข้ามถนนในบริเวณดังกล่าว หากยังฝ่าฝืนยังขับรถยนต์ด้วยความเร็วอีก แล้วไปชนช้างป่า ที่ข้ามถนนมาบาดเจ็บ หรือตาย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ต่อไปนี้ทาง นายไพฑูรย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าสลักพระ จะดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถยนต์ชนช้างป่า โดยทันที ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานกระทำอันตรายด้วยประการใดๆ โดยการขับขี่รถชนช้างป่าได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำและปรับ แล้วต้องชดใช้ค่าเสียหายมูลค่าของช้างป่าที่บาดเจ็บหรือตาย เชือกละหลายแสนบาท ตามมาตรา 87และ 88 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ไม่ว่าผู้ขับขี่รถยนต์ชนช้างป่าจงใจชนช้างป่าหรือประมาทเล่นเลอในการชนช้างป่าก็ตาม อีกด้วย

ทั้งนี้ หากชนช้างป่าแล้วหนี ก็จะมีโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 78 ผู้ใดขับรถในทางซึ่งก่อ ให้เกิดความเสียหาย แก่บุคคล หรือทรัพย์สิน จะต้องหยุดรถ ให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งแสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ใกล้เคียงทันที ไม่ว่าจะเป็นความผิด ของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่ดำเนินการระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2 พันบาท ถึง 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกกระทงหนึ่งด้วย

ครอบครัวหมอกระต่าย ยื่นฟ้องศาลปค. เรียกค่าเสียหาย 72 ล. เหตุละเลยทางม้าลาย

ครอบครัวหมอกระต่าย ฟ้องศาลปกครองเรียกค่าเสียหาย กทม. 72 ล้านบาท กรณีละเลยต่อหน้าที่ไม่ดูแลทางม้าลายให้ปลอดภัย จนเป็นเหตุหมอกระต่ายถูกรถชนเสียชีวิต

17 ก.พ. 65 นพ.อนิรุทธ์ และนางรัชนี สุภวัตรจริยากุล บิดาและมารดา ของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย พร้อมด้วยนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ และกลุ่มนิสิตนักศึกษา ชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และม.รามคำแหง เข้ายื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 3 ราย ต่อศาลปกครองกลาง กรณีร่วมกันละเลยไม่จัดทำไฟสัญญาณจราจรให้รถหยุดเพื่อรอให้คนข้าม ป้ายหรือเครื่องหมายชะลอความเร็วในบริเวณทางม้าลายที่เกิดเหตุอย่างเพียงพอ เหมาะสม และปลอดภัยกับผู้เดินข้ามทางม้าลาย รวมทั้งไม่บังคับใช้กฎหมายและกวดขันวินัยจราจรในบริเวณที่เกิดเหตุอย่างเพียงพอ จนเป็นเหตุให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขับขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต ขณะข้ามทางม้าลาย เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา

เกาหลีใต้เกินต้าน ยอดติด Covid พุ่งทะลุ 90,000 รายต่อวัน หวั่น!! ตัวเลขพุ่งสูงได้ถึง 360,000 รายภายในเดือนมีนาคม

รายงานสถานการณ์ Covid-19 รายวันจากเกาหลีใต้ พบผู้ป่วยล่าสุดทุบสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 93,135 ราย เกือบทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ และคาดว่าอีกไม่นานจะแตะหลักแสนราย

ยอดการติดเชื้อพุ่งอย่างก้าวกระโดด จากเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเกิน 50,000 ราย ซึ่งนับว่าสูงแล้ว แต่มาวันนี้ (17 ก.พ. 65) ตัวเลขพุ่งทะยานเกือบทะลุแสน และนับเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายวันเกินหลัก 9 หมื่นคนติดต่อกันเป็นวันที่สอง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็น 36 รายในวันนี้

คิม โบ-กยึม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศว่า การระบาดระลอกใหม่ครั้งนี้ยังไม่ถึงจุดพีก โดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขคาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอาจพุ่งสูงได้ถึง 170,000 รายต่อวัน ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และอาจทำสถิติต่อถึง 360,000 รายต่อวันในเดือนมีนาคมได้

ดังนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้จำเป็นจะต้องนำระเบียบมาตรการป้องกันโรคกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ที่อาจส่งผลกระทบกับธุรกิจ SME ในประเทศ โดยทางการเกาหลีใต้จะประกาศรายละเอียดภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

เห็นแล้วเสียวแทน!! สถานีชาร์จ EV กลายเป็นที่ทอดกุยช่าย คนขายของมักง่าย ระเบิดเมื่อไรเละแน่

เพจดังเผยภาพสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โรงพยาบาลศิครินทร์ จ.สมุทรปราการ กลายเป็นที่ทอดกุยช่าย พ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงบนทางเท้า สุดเสี่ยงอันตรายหากระเบิดเมื่อไรเละแน่

เพจเฟซบุ๊ก ขาเกือบพลิก ได้มีการเผยภาพสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณใกล้กับโรงพยาบาลศิครินทร์ จ.สมุทรปราการ ถูกเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายของบนทางเท้าวางกระทะทอดกุยช่ายติดกับจุดชาร์จ เสี่ยงเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก

สมุทรปราการ - สมโภชน์ 200 ปี วัดดังบางพลี!! เจ้าอาวาสจัดพิธีบวงสรวงทวยเทพเทวดา เททองหล่อพระพุทธเมตตาองค์ใหญ่ กว่า 9 เมตร

ที่บริเวณลานหน้าพระมหาเจดีย์พิศาลวุฒิกิจมงคลมหาชนบูชิต วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะพระภิกษุสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง และไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมในพิธีบวงสรวงเททองหล่อพระพุทธเมตตาองค์ใหญ่ ขนาดความสูง 9 เมตร 90 เซนติเมตร

โดยทางวัดบางพลีใหญ่กลาง โดยท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ถือฤกษ์มงคล ตรงกับวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 จัดพิธีเททองหล่อพระพุทธเมตตาองค์ใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี วัดบางพลีใหญ่กลาง โดยพระพุทธเมตตาองค์นี้มีขนาดความสูงอยู่ที่ 9 เมตร 90 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 8 ซอก 9 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 10 ตัน หลังจากดำเนินการหล่อเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จะนำไปประดิษฐานไว้ภายในพระมหาเจดีย์ของวัดบางพลีใหญ่กลาง เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวพุทธได้เข้ามากราบไหว้สักการบูชา

โดยในการเททองหล่อพระพุทธเมตตาองค์นี้ ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะแบ่งวันทำพิธีเททองหล่อพระพุทธเมตตา ณ บริเวณด้านหน้าพระมหาเจดีย์เป็นส่วน ๆ ดังนี้

ครั้งที่ 1. วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 (วันมาฆบูชา) เททองหล่อเศียรพระพุทธเมตตา

ครั้งที่ 2. วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 (วันวิสาขบูชา) เททองหล่อหน้าอกพระ

ครั้งที่ 3. วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565 (วันอาสาฬหบูชา) เททองหล่อหน้าตักพระ 2 ส่วน และ

ครั้งที่ 4. วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 (วันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว) เททองหล่อฐานพระพุทธเมตตา 4 ส่วน

โดยพิธีเททองหล่อพระพุทธเมตตาในวันนี้ ได้รับความเมตตาจากท่าน พระครูธีระธรรมมานันท์ เจ้าคณะแขวงบางแวก เจ้าอาวาสวัดบางแวก พร้อมด้วย นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ นายภูมินันท์ ขวัญเมือง นายโสภณ มหาบุญ ไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง นายสกล สุขพรหม ผอ.รพ.บางพลี นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู อีกทั้ง มีข้าราชการระดับสูงเดินทางมาร่วมในพิธีและร่วมทำบุญเททองหล่อพระพุทธเมตตาองค์ใหญ่ 

สื่อดังเผย 'ผู้หญิง' คนแรกของโลก! รักษาหายขาดจากโรค HIV

17 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าว BBC ได้รายงานข่าวน่าสนใจว่า มีการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี (HIV) ได้สำเร็จ

รายงานดังกล่าวระบุถึงการเชื่อกันว่าผู้ป่วยในสหรัฐฯ เป็นบุคคลรายที่ 3 และเป็นผู้หญิงคนแรกที่หายจากการเชื้อเอชไอวี

สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าว เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อเธอได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้ที่มีภูมิต้านทานตามธรรมชาติต่อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ จากนั้นหญิงรายนี้ปลอดจากไวรัสมา 14 เดือนแล้ว

แต่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า วิธีการปลูกถ่ายที่ใช้ซึ่งเกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือนั้นมีความเสี่ยงเกินกว่าจะเหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั่วโลกราว 37 ล้านคน

กรณีของผู้ป่วยรายดังกล่าว ถูกนำเสนอในการประชุมทางการแพทย์ในเดนเวอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ทราบว่า วิธีนี้ใช้เป็นยารักษาเอชไอวี โดยผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายเลือดจากสายสะดือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษามะเร็งของเธอ และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาเอชไอวี อีกต่อไป

'ก.แรงงาน' ผนึกกำลัง 'ซีพีเอฟ' ลงนามความร่วมมือยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยในสถานประกอบการ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง “การยกระดับมาตรฐานแรงงานไทย เพื่อก้าวไปอย่างยั่งยืน” ระหว่างกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดยมี นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมด้วย ณ ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานตามหลักสากล ซึ่งปัจจุบันเป็นยุคของการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน และมีการนำมาตรฐานแรงงานมาเชื่อมโยงกับการค้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการคุ้มครองสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในการทำงานให้ดีขึ้นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถ ในการแข่งขันที่สูงขึ้น รองรับการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างทั้งสองหน่วยงานโดยเฉพาะเครือเจริญโภคภัณฑ์ฯ ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจกุ้งแบบครบวงจรในประเทศไทย เป็นการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาสถานประกอบกิจการ และห่วงโซ่อุปทานตลอดสายการผลิต เพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความรับผิดชอบทางสังคมด้านแรงงาน โดยปฏิบัติสอดคล้องกับข้อกำหนดมาตรฐานแรงงานไทย ส่งผลให้มีกลุ่มธุรกิจเข้าสู่ระบบมาตรฐานแรงงานไทยเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน สินค้าบริการได้รับการยอมรับจากลูกค้าว่าผลิตสินค้าได้อย่างมีจริยธรรมและปราศจากการค้ามนุษย์ 

ทั้งนี้ สาระสำคัญของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ก็เพื่อที่จะให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจกุ้งครบวงจร เขตประเทศไทย และสถานประกอบกิจการในห่วงโซ่อุปทาน ได้ประสานความร่วมมือรณรงค์ส่งเสริม ตระหนักและเห็นความสำคัญของความรับผิดชอบต่อสังคมด้านแรงงาน และนำมาตรฐานแรงงานไทยมาปฏิบัติ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ตลอดจนความร่วมมือในการพัฒนาระบบมาตรฐานแรงงานไทยและนำมาใช้บริหารจัดการแรงงานในสถานประกอบกิจการอย่างมีความรับผิดชอบทางสังคม และส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ เข้าสู่ระบบมาตรฐานแรงงานไทย

ดราม่า ‘สตาร์บัคส์จีน’ ไล่ตำรวจกินข้าวหน้าร้าน เจอกระแสต่อต้านลามทั่วประเทศ

เพจ ลุยจีน โพสต์ข้อความปมดราม่าพนักงานสตาร์บัคส์ สาขาหนึ่งในนครฉงชิ่ง ประเทศจีน ไล่ตำรวจไม่ให้กินข้าวหน้าร้าน จนบานปลายนำไปสู่กระแสต่อต้านทั่วประเทศ โดยระบุว่า...

กลายเป็นมหกรรมทัวร์ลง Starbucks China ที่เบรกไม่อยู่แล้วววว ปีนี้เป็นปีแห่งวิบากกรรมของสตาร์บัคส์ในจีนแน่ครับ ลองอ่านและวิเคราะห์กันดู ส่วนตัวคิดว่ารอบนี้ แบรนด์อเมริกาในจีนอาจเจอหนักกว่าทุกๆ แบรนด์เพราะไปแตะ “ตำรวจจีน” ที่คนจีนเค้าจะเรียกว่า “ตำรวจของประชาชน” 民警

สรุปไทม์ไลน์เรื่องราวดังนี้

1.) วันที่ 13 ก.พ. 2022 ช่วงเย็นๆ ที่เมืองฉงชิ่ง ย่านท่องเที่ยวฉือชี่โข่ว Ciqikou 磁器口 ตำรวจ 4 นายที่ลาดตระเวนพื้นที่ไปขอใช้พื้นที่หน้าร้านสตาร์บัคส์สาขาหนึ่งตั้งโต๊ะกินข้าวกล่องมื้อเย็น สักพักพนักงานในร้านออกมาแจ้งว่าขอให้ย้ายไปกินที่อื่นโดยให้เหตุผลว่ากระทบภาพลักษณ์ของแบรนด์ 影响品牌形象 แล้วยังมีการถ่ายรูปตำรวจที่กินข้าวอยู่ (ภาพปกคอนเทนต์นี้) พร้อมแจ้งเรื่องไปยัง สน.ในพื้นที่ร้องเรียนพฤติกรรมดังกล่าว

2.) ช่วงคืนวันนั้น หนึ่งในตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์โพสต์ข้อความลงเวยป๋อตัวเองเล่าเหตุการณ์ในข้อ 1 พร้อมเขียนตัดพ้อว่า “ก็ไม่รู้ว่าต้องคนระดับไหนเหรอครับถึงจะคู่ควรกับแบรนด์สตาร์บัคส์ที่แสน High ของคุณ?” 不知道什么水平的公安能配得上这高大上的星巴克。ซึ่งข้อความโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจและแชร์ต่อในเวยป๋อจากชาวเน็ตทั่วจีน เกิดเป็นกระแสดราม่าเรียกร้องให้สตาร์บัคส์ออกมาชี้แจงและขอโทษในเหตุการณ์ดังกล่าวในชั่วข้ามคืน 

3.) กระแสเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ในเช้าวันถัดมา 14 ก.พ. มีการรุมประณามสตาร์บัคส์ออกสื่อทั้งจากสำนักข่าวใหญ่ๆ ของจีน, แอ็กเคานต์หน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะ สนง.ตำรวจท้องที่ต่างๆ, Influencer จีนแทบทุกแพลตฟอร์มก็กระโดดเข้ามาเล่นเรื่องนี้กันอย่างครึกโครม เกิดแคมเปญ “ประเทศจีนไม่มีสตาร์บัคส์ได้ แต่จะไม่มีตำรวจไม่ได้” 中国可以没有星巴克,但不能没有民警 

4.) รวมถึงแอ็กเคานต์ใหญ่ๆ มีการโพสต์ให้กำลังใจเหล่าตำรวจทั่วจีนที่ต้องลาดตระเวนพื้นที่ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอุ่นใจ และประณามสตาร์บัคส์ว่า “ใจดำ”, “หลงตัวเอง” วางตัว High เหมือนเป็นแบรนด์หรูแต่จริงๆ แค่ร้านกาแฟธรรมดาๆ จากอเมริกา ลามไปถึงการเหยียดลูกค้าที่ไปใช้บริการสตาร์บัคส์ว่า ลูกค้าที่คู่ควรกับแบรนด์แบบนี้คือต้องถือ iPad, นั่งเคาะ McBook ในร้านเท่านั้นใช่มั้ย? ซึ่งจากประเด็นที่ร้านไม่ยอมเสียสละพื้นที่กินข้าวให้ตำรวจ...ก็มีแคมเปญโพสต์ภาพ “ตำรวจเองก็ลำบาก” ของตำรวจท้องที่ต่างๆ ที่ต้องกินข้าวกล่องข้างถนน, ตามที่จอดรถ หรือแม้แต่กินกลางแดด แสดงให้เห็นถึงความเสียสละความสุขส่วนตัวของ “ตำรวจของประชาชน” 民警 เพื่อประโยชน์สุขและความปลอดภัยในชีวิตประชาชนชาวจีน

5.) ตกบ่ายสตาร์บัคส์ประเทศจีนได้โพสต์แถลงผ่าน Weibo Official – Starbuck China 星巴克中国 ชี้แจงและขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็เป็นเหมือนหนังอีกม้วนหนึ่ง คือในแถลงแจ้งว่าจากการสอบสวนพนักงานร้านสาขาดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด คือขณะนั้นมีลูกค้าที่เข้ามาในร้านอยากได้โต๊ะข้างนอกที่ตำรวจ 4 นายกำลังทานข้าวอยู่ พนักงานร้านเลยไปบอกตำรวจให้ขอเปลี่ยนที่ แต่ตำรวจเข้าใจผิดเองว่าโดนไล่ และไม่มีการโทรไปร้องเรียนยัง สน. พื้นที่ตามที่เป็นกระแสใหญ่โตแต่อย่างใด สตาร์บัคส์ประเทศจีนเคารพตำรวจและสนับสนุนการทำงานของตำรวจเสมอมาเช่นเดียวกับที่เคารพลูกค้าทุกท่าน 

โต้งานวิจัย! “บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยเลิกบุหรี่” มั่วนิ่ม!! ยกตัวอย่างอังกฤษและผู้ใช้ตัวจริงในไทย หยุดสูบบุหรี่ได้จริง เพราะบุหรี่ไฟฟ้า!!

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ECST โต้ผลการศึกษาจากการสังเกตการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร บีเอ็มเจ มีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด ทำให้ข้อสรุปไม่ถูกต้อง ชี้อังกฤษยังยืนยันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยเลิกบุหรี่ไฟฟ้า แนะการให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่างานวิจัยชิ้นเดียว

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนกลุ่มลาขาดควันยาสูบ หรือ ECST (Ends Cigarette Smoke Thailand) และแอดมินเพจ บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไรที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เผยว่า “ผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งอังกฤษออกมาชี้แจงว่างานวิจัยสถาบันมะเร็งมอเรส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้น้อยกว่าการใช้นิโคตินทดแทนมีวิธีทำการวิจัยที่ยังไม่ถูกต้อง ทำให้ได้ข้อสรุปขัดแย้งกับการศึกษาในผู้ใช้จริง (การศึกษาทางคลินิก) ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยสำหรับผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ เอฟเฟกต์ทีฟ ควิทติ้ง เอด (effective quitting aids) และทางหน่วยงานสุขภาพระดับชาติของอังกฤษก็รับรองผลและชี้แนะว่าควรนำไปใช้ด้วย”

คำชี้แจงดังกล่าวของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ จอห์น บริตตัน จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ Science Medical Centre โดยระบุว่า “ผลการศึกษาจากการสังเกตการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกามีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด เพราะเป็นการพิจารณาตัวแปรที่สุดโต่ง คือในผู้สูบบุหรี่ที่เสพติดขั้นรุนแรง และผู้สูบบุหรี่ที่ขาดแรงจูงใจในการพยายามเลิกหรือลดการเสพติดบุหรี่มวน หรือผู้ที่เคยล้มเหลวจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนเพื่อเลิกบุหรี่มาก่อนแล้ว จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลวิจัยไม่เห็นความสำเร็จในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ ซึ่งแตกต่างจากงานวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (clinical trials) ที่มีการออกแบบการทดลองอย่างรอบคอบ ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบคำถามว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้เสพติดบุหรี่ที่มีสารอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าได้จริงหรือไม่

นอกจากนี้ ศ.กิตติคุณ บริตตัน ยังระบุว่าข้อสรุปจากการวิจัยทางคลินิกที่แสดงผลชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่วยบำบัดผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพนำไปสู่การปรับนโยบายสาธารณสุขของทางฝั่งอังกฤษ ที่ได้รับรองการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และมีคำแนะนำการใช้ที่เหมาะสมไว้ใน คู่มือการเลิกบุหรี่ หรือไกด์ไลน์ฉบับล่าสุดปี 2021 ของสถาบันสุขภาพและการดูแลสุขภาพแห่งชาติ ของสหราชอาณาจักร หรือ NICE  (UK National Institute for Health and Care Excellence)

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top