Monday, 7 July 2025
NEWS FEED

สิ้น!! 'น้าไก-ไกวัล วัฒนไกร' ตำนานเสียง 'ผู้เฒ่าเต่า-เบจิต้า' ผู้อุทิศทุกลมหายใจให้การพากย์การ์ตูนจนวันสุดท้าย

นับเป็นอีกความสูญเสียของวงการนักพากย์เมืองไทย เมื่อ 'น้าไก' คุณไกวัล วัฒนไกร นักพากย์ผู้ฝากผลงานไว้มากมาย โดยเฉพาะกับการพากย์บทตัวการ์ตูนดังเรื่องต่าง ๆ เช่น ผู้เฒ่าเต่า ในดราก้อนบอล ได้เสียชีวิตลงในวัย 71 ปี โดย คุณนิรันดร์ บุณยรัตพันธุ์ หรือ 'น้าต๋อย เซมเบ้' ได้โพสต์แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก 'น้าต๋อยเซมเบ้ FanPage' ว่า...

เสียดายที่ปาฏิหารย์ไม่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่เรายังต้องพากย์การ์ตูนด้วยกันอีกหลายเรื่องแท้ ๆ แล้วต่อไปใครจะคอยรับมุขผม โงกุนที่ขาดเบจิต้าไปจะเป็นยังไงต่อไป...

น้าต๋อยขออนุญาตไม่พูดถึงอาการป่วยของแกในรายละเอียดนะครับ แต่อยากจะพูดถึงในความรักการ์ตูน และรักงานพากย์ของแกมากกว่า ผมกับน้าไกเราพากย์การ์ตูนด้วยกันมากว่า 40 ปี นับเป็นร้อย ๆ เรื่อง โยนมุขอะไรไปแกรับได้หมด ช่วงพีค ๆ นี่เราพากย์ด้วยกันเกือบทุกวัน แทบไม่มีวันหยุด เอาเป็นว่าเจอแกมากกว่าครอบครัวตัวเองซะด้วยซ้ำ เราจึงเป็นเพื่อนกันทั้งในการ์ตูนและในชีวิตจริง  

หลาย ๆ ท่านอาจจะทราบว่าแกมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังมานานแล้ว แต่แกก็ไม่เคยมีความคิดที่จะวางไมค์ ยังคงอยากอยู่กับการ์ตูนในทุกวัน ยิ่งช่วงหลัง ๆ แกได้มีโอกาสไปออกงานอีเวนท์การ์ตูนต่าง ๆ แกมีความสุขมากนะครับ ดีใจที่ยังมีคนคิดถึงแก ดีใจที่มีคนชื่นชมผลงานของแกมากขนาดนี้ ผมกับน้าไกได้มาเจอกันอีกครั้งในไลฟ์สดเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานมาก เนื้อหาในไลฟ์กลับกลายเป็นว่าเพื่อนเก่าสองคนได้มานั่งรื้อฟื้นความหลังกันซะอย่างนั้น พวกเราสองคนต่างลืมบทที่จะต้องพูดไปเกือบหมด 55 แต่มันก็เป็นอะไรที่มีความสุขมากจริง ๆ ตอนนั้นแกยังบอกเลยว่าอยากจะมาออกงานร่วมกันอีก สนุกดี ไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานแล้ว

น้าไกวัลมักจะพูดอย่างถ่อมตนเสมอว่า แกเป็นแค่นักพากย์การ์ตูนธรรมดาคนนึง ไม่ได้โด่งดังอะไร คงไม่มีใครจำแกได้หรอก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมเชื่อว่าไม่มีใครคิดแบบนั้นนะ แกคือนักพากย์ที่มากไปด้วยความสามารถและเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำเนียงสุพรรณต้นตำหรับของแก มันยากที่จะมีใครเหมือนจริงๆ สำหรับพวกเราแล้วแกถือเป็นสุดยอด ถือเป็นตำนานคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ ถ้านับจริง ๆ แล้วน้าไกแกพากย์การ์ตูนมามากกว่าผมอีกนะครับ ผมยังมีช่วงหยุดบ้าง แต่แกไม่เคยหยุดเลย การพากย์และการ์ตูนเปรียบเสมือนลมหายใจของแกจริง ๆ

รู้จัก 'ณัฐฐิญา ปวงคำ' เจ้าสาวของ 'โอ๊ค' ดีกรีผู้บริหารโรงแรม เอส ซี ปาร์ค

รู้จักเจ้าสาวป้ายแดง ‘โอ๊ค พานทองแท้’ หลังซุ่มวิวาห์เงียบ เป็นถึงผู้บริหารเอสซีพาร์ค

เมื่อวันที่ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เข้าพิธีสมรสกับ น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ผู้บริหารโรงแรมเอส.ซี.พาร์คเมื่อวันที่ (24 พ.ค.) ที่ผ่านมาที่บ้านพักของนายพานทองแท้ ย่านคันนายาว กทม.

สำหรับพิธีสมรสครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมพิธีเป็นการภายในเท่านั้น โดยมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา นายพานทองแท้ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น้องสาว พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีพร้อมทั้งเตรียมงาน

พิธีกร 'ข่าวแหกโค้ง' เมาท์ศัลยกรรม 'เป๊ก ผลิตโชค' พลาด!! ลืมปิดไมค์หลุดโซเชียล เดือดติดเทรนด์ทวิต

แฮชแท็ก #ข่าวแหกโค้ง เดือด จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์เลยทีเดียว หลังจากที่แฟนคลับ ‘เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร’ ที่ได้ติดตามรายการ แคปคลิปรายการที่เป๊ก ให้กำลังใจนักตบสาว ก่อนกล้องตัดเสียงพิธีกรชายพูดว่า ก่อนหน้านี้เขาหล่อกว่านี้นะ ส่วนพิธีกรหญิงก็พูดทำนองว่า “ก็ทำเยอะไปแล้วไง” ซึ่งความโป๊ะคือทั้งสองพิธีกรยังไม่ได้ปิดไมค์ ทำให้ได้ยินกันทั่ว งานนี้ทำเอาเหล่านุชและชาวเน็ตพากันผิดหวังกับคำพูดของพิธีกร โดยมองว่าเป็นการนินทาและบูลลี่ศิลปินกันเอง งานนี้เหล่านุชและชาวเน็ตรวมตัวกันแหกเจ็บทุกดอกเลยทีเดียว อาทิ

“เขาเงียบ ๆ ไป 2 ปี มีบางช่วงที่พูดช้าลง ไม่เข้าโซเชียลพักนึง ขาดความมั่นใจด้วย ตอนนี้เขาเพิ่งกลับมา เพิ่งจะสดใส เขาเพิ่ง100% ถ้าใจดีกับเค้าไม่ได้ ช่วยมีมารยาทกับเค้าด้วยค่ะ หรือถ้ามีมารยาทไม่ได้ ช่วยทำความเข้าใจหน่อยค่ะ ว่าการบูลลี่มันคือสิ่งไม่ดี ทั้งโลกเขารณรงค์อยู่ #ข่าวแหกโค้ง”

“#ข่าวแหกโค้ง #นักข่าวช่อง25 @GMM25Thailand ความเป็นมืออาชีพ & จรรยาบรรณในอาชีพควรมีนะคะ แม้ว่า.. มารยาทในชีวิตจริงอาจจะไม่มีก็ตาม อีกอย่างคำพูดสะท้อนทัศนคติของคุณ คุณไม่อายหรือว่าคนจะมองยังไง.. ลืมไป.. คุณอาจจะไม่อายจริงๆ ก็ได้นะ”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยการเลือกซื้อสินค้าจากการจัดโปรโมชั่นของร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีอาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหาย 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนภัยการเลือกซื้อสินค้าจากการจัดโปรโมชั่นเพื่อรับส่วนลดหรือของแถม จากร้านค้า ผู้ประกอบการ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีอาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหายได้  

ในห้วงที่ผ่านพบว่ามีการหลอกลวงของมิจฉาชีพที่เกี่ยวกับการเสนอขายสินค้าโดยการจัดโปรโมชั่นเพื่อ ลด แลก แจก แถม สินค้าหรือบริการต่างๆ ดังเช่นกรณีร้านบุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดังรายหนึ่งขายคูปองทานอาหารในราคาถูก แล้วต่อมาได้ปิดกิจการ ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลและนำตัวผู้ต้องหายื่นฝากขังต่อศาลอาญาตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว 

และในกรณีล่าสุดที่มีการจำหน่ายคูปองที่พักและบัตรอาหารย่านพัทยาและใกล้เคียง ของบริษัทแห่งหนึ่ง หลังมีการจัดโปรโมชั่นขายคูปองในราคาถูกเพื่อเข้าไปรับการบริการดังกล่าว เช่นราคาที่พัก 999 บาท ซื้อในช่วงโปรโมชั่นเพียง 22 บาท เป็นต้น และเนื่องจากมีราคาถูกจึงมีประชาชนสนใจไปซื้อคูปองจากทางร้านเองหรือจากตัวแทนที่รับคูปองมาจำหน่ายอีกที แต่ต่อมาไม่สามารถเข้าไปพักได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ได้ เนื่องจากทางเจ้าของที่พักได้ปฏิเสธไม่ยินยอมให้เข้าพัก ต่อมาทางบริษัทผู้จำหน่ายคูปองยกเลิกให้บริการจองที่พักด้วยคูปองทั้งหมด สร้างความเสียหายให้กับลูกค้าเป็นจำนวนหลายราย 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตระหนักถึงพิษภัยภัยจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว อันเป็นการสร้างความเสียหายซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนในห้วงการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการและดำเนินการป้องกันปราบปรามตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างจริงจัง 

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พล.ต.อ.สุวัฒน์   แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับและสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ในการป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ พร้อมเร่งทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและตัดโอกาสในการกระทำความผิดอย่างจริงจังต่อเนื่องโดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม 

ซึ่งความคืบหน้าของการดำเนินการดังกล่าวขณะนี้ บก.ปคบ. ได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายเพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานโดยทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วกว่า 23 ปาก สอบปากคำพยานไปแล้ว 7 ปาก(เจ้าของที่พัก ร้านอาหาร และอื่นๆ) ตรวจสอบหลักฐานการเงินของบริษัทผู้ขายคูปองทั้ง 2 บริษัท โดยได้ทำการตรวจสอบพบความเสียหายในเบื้องต้นจากผู้เสียหายที่สอบปากคำ มูลค่าประมาณกว่า 1,200,000 บาท ซึ่งยังมีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาร้องทุกข์เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก และต้องสอบสวนพยานเจ้าของที่พักตามที่ระบุไว้ในคูปองอีกกว่า 20 แห่ง (ในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง) และทำการรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงหากมีการนำไปบิดเบือนหรือผลิตข่าวปลอมที่เกี่ยวกับการจัดโปรโมชั่นสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์  ก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  

'ผบก.ตม.2' จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมรับมือหยุดยาว วอนผู้โดยสารถึงสนามบินล่วงหน้า

(27 มิ.ย.65) พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 เปิดเผย ถึงมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ผู้โดยสารแน่นหนาช่วงหยุดยาว ว่า เบื้องต้นได้สั่งการกำชับมายัง พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.2 และ พ.ต.อ.ชัยพร ออฟูวงศ์ ผู้กำกับการฝ่าย ตม.ขาออก ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ให้เจ้าหน้าที่ ตม.เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ผู้โดยสารหนาแน่นช่วงเดือน ก.ค.นี้  

เนื่องจากเป็นช่วงที่จะมีผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่วันที่ 1-3 ก.ค.รวมถึงช่วงวันหยุดยาว วันที่ 13-17 ก.ค.และวันที่ 28-31 ก.ค.ซึ่งในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้คลี่คลายและมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งรัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการและข้อจำกัดต่างๆ 

เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ใกล้เคียงปกติ รวมถึงได้มีการผ่อนคลายมาตรการและข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ ให้สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้โดยสารที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ขอให้เผื่อเวลาไว้ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง สำหรับการ Check-in กับสายการบิน การตรวจค้นสัมภาระ ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทอท.) 

G7 ทุ่ม 6 แสนล้านฯ ล่อประเทศกำลังพัฒนาเข้าซบ ด้านอเมริกันชน เซ็ง!! สนแต่คนนอก ไม่แคร์คนใน

การประชุมกลุ่ม G7 ในประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ (26 มิถุนายน 2022) ที่ผ่านมา ประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ครั้งที่ 48 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ (26-28 มิถุนายน 2022) ที่เมือง Schloss Elmau แคว้นบาวาเรีย ในเยอรมัน ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, แคนาดา, ญี่ปุ่น และอิตาลี ได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า…

ทางกลุ่ม G7 จะทุ่มเงินให้กับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งคาดว่าเป็นการปล่อยกู้ ไม่ใช่การกุศล แต่เพื่อการลงทุน โดยหวังจะดึงความนิยมให้ประเทศเหล่านั้นหันมาหาซบ G7 และมองข้ามโครงการ Belt and Road หรือ เส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ผ่านโครงการยักษ์อย่าง The Partnership for Global Infrastructure and Investment เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะทุ่มงบประมาณลงในโครงการนี้ถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยการประชุมย่อยในครั้งนี้ น่าสนใจที่ทางฟาก สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำกลุ่ม ประกาศจะทุ่มเงินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี เพื่อการนี้โดยเฉพาะด้วย

ถึงกระนั้น ก็มีคำถามว่า แล้วสหรัฐฯ จะไปหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน ทางด้านทำเนียบขาวจึงได้ตอบว่า “จะเป็นการตั้งเงินงบประมาณจากรัฐบาลกลาง ประกอบกับการขอความร่วมมือจากกองทุนและธนาคารต่างๆ ไปจนถึงความร่วมมือจากภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา”

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้มีโครงการนำร่องที่ให้เงิน 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท) แก่ประเทศแองโกลา โดยเป็นการรวมเงินจากกระทรวงพานิชย์, ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งสหรัฐอเมริกา และกองทุนภาคเอกชนที่เข้าไปลงทุนในแอฟริกา

ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชยกำลังพลกองทัพเรือ   

วันนี้ (27 มิถุนายน 2565)  เวลา 10.00 น. พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ ณ ห้องรับรองกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ รวมถึงผู้บังคับบัญชาของกองเรือยุทธการ ร่วมพิธี 

พันจ่าตรี อนุชิต พรหมดอนกลอย เจ้าหน้าที่ส่งกำลัง หมวดส่งกำลัง แผนกส่งกำลังและซ่อมบำรุง กองสนับสนุน หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ช่วยเหลือแม่และเด็ก ซึ่งประสบอุบัติเหตุขับรถหลุดโค้งจมน้ำ บริเวณบ้านคำแก้ว ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ขณะเดินทางกลับบ้าน เพื่อร่วมงานศพมารดาที่บ้านเกิด ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ปัจจุบันผู้ประสบเหตุมีอาการปลอดภัย

การกระทำของ พันจ่าตรี อนุชิต พรหมดอนกลอย นับได้ว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยงานต้นสังกัดคือ กองเรือยุทธการ และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ รวมถึงกองทัพเรือนับเป็นบุคคลตัวอย่างที่สมควรได้รับการยกย่องชมเชยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้กำลังพลของกองทัพเรือ และครอบครัว ได้ยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไป

'สุชาติ' รมว. แรงงาน สั่งการด่วนให้ประกันสังคม ให้การช่วยเหลือลูกจ้าง เจ็บ ตาย ที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ย่านสำเพ็ง

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างร้าน บ้านเรือนประชาชน ย่านสำเพ็ง ใกล้เคียงท่าน้ำราชวงศ์ ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพฯ ภายหลังเหตุเพลิงไหม้สงบเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมอาสาสมัคร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 9 ราย นั้น ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใย สั่งการด่วนให้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประสบเหตุทันที

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยนางสาวรังสิมา ปรีชาชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและเร่งให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุทันที ในเบื้องต้นพบว่า ในจำนวนผู้ประสบเหตุ 6 ราย มี ลูกจ้าง ผู้ประกันตนเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นลูกจ้างของห้างผ้าใบราชวงศ์ และได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นเจ้าหน้าที่ ของมูลนิธิฮั่วเคี้ยวปอเต็กเซี่ยงตึ๊ง (ปอเต็กตึ๊ง) การประสบอันตรายในครั้งนี้ ลูกจ้างอยู่ระหว่างการทำงาน จะได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมได้เข้าให้การช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ ดังนี้

ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ราย เป็นลูกจ้างห้างผ้าใบราชวงศ์ ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ได้ดำเนินการชี้แจงสิทธิประโยชน์ ให้กับทายาทผู้ประกันตนที่เสียชีวิต ซึ่งได้รับ สิทธิประโยชน์ ดังนี้ 

รายที่ 1 ชื่อ นางสาวจิราพร สุ่มมาตร์ จะได้รับค่าทำศพจากกองทุนเงินทดแทน จำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนการขาดรายได้ 1,260,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 134,653 บาท พร้อมดอกผล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,444,653 บาท 

รายที่ 2 นาย PHEAK DOEUM ลูกจ้างห้างผ้าใบราชวงศ์ ชาวกัมพูชา จะได้รับค่าทำศพจากกองทุนเงินทดแทนจำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนการขาดรายได้ 722,904 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 17,512 บาท พร้อมดอกผลเป็นเงินทั้งสิ้น 790,416 บาท

สำหรับผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิฮั่วเคี้ยวปอเต็กเซี่ยงตึ๊ง (ปอเต็กตึ๊ง) ที่ได้เข้าให้ การช่วยเหลือในเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 6 ราย 

1.นายจิรภัทร จรรยานุภาพ 
2.นายสมใจ อ่อนภิรมย์ 
3.นายพรชัย นามกระโทก 
4.นายศิรสิทธิ์ ศิลารักษ์ เข้ารักษาตัวและออกจากโรงพยาบาลแล้ว 

ส่วนอีก 2 ราย คือ นายศรัณยพงค์ กิตติโชควัฒนา ยังคงพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหัวเฉียว และนาย SOMSAY VOLASANE ซึ่งพักรักษาตัวในห้อง ICU โรงพยาบาลกลาง โดยเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประกันตน พร้อมมอบของเยี่ยมให้กำลังใจ และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ สำนักงานประกันสังคมพร้อมดำเนินการตามนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้การดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง ผู้ประกันตน ให้ได้รับความคุ้มครองพร้อมช่วยเหลือในยามเดือดร้อนทันที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันสังคม และเป็นหลักประกัน ความมั่นคงในการดำรงชีวิตแก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ

‘ดร.สันต์’ แนะ 10 วิธีรอดจาก ‘หม้อแปลงระเบิด’ ชี้ หากเห็นควันไฟให้รีบถอยห่างทันที

ดร.สันต์ แนะ 10 วิธีเอาตัวรอดจากหม้อแปลงระเบิดเวลาที่อาจอยู่หน้าบ้าน ย้ำให้สังเกตสายสื่อสารรุงรัง ใบไม้แห้ง อย่าจอดรถใต้หม้อแปลง เห็นควันไฟให้รีบถอยห่างทันที 

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ย่านสำเพ็ง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทพลาสติก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บนับ 10 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เนื่องจากมีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ช่วงที่พบมีควันไฟขึ้นจากหม้อแปลงจุดเกิดเหตุ

ทางด้าน ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sunt Srianthumrong ระบุวิธีเอาตัวรอดจากหม้อแปลงระเบิดไฟไหม้ ว่า หม้อแปลงระเบิดที่สำเพ็งกฎเหล็ก และ 10 วิธีเอาตัวรอด จากหม้อแปลง ระเบิดเวลาที่อาจอยู่หน้าบ้านคุณ

กฎเหล็ก 3 ข้อที่เกี่ยวกับหม้อแปลง

1. หม้อแปลง ทุกลูกสามารถระเบิดได้ และอาจจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ ต้องคิดเผื่อไว้เลย
2. ก่อนการระเบิด มักจะมีสัญญาณเตือนให้เราเห็นหรือได้ยิน
3. หม้อแปลงส่วนใหญ่มีน้ำมันอยู่ข้างใน สามารถติดไฟได้ หรือดีที่สุดคือติดไฟยาก

ในรูปเหตุการณ์ก่อนระเบิด จากผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายเอาไว้ได้ มีอะไรที่ปกติ และผิดปกติ

สิ่งที่ปกติในรูป พบว่า หม้อแปลงอยู่บนเสา ซึ่งประเทศไทยยังไม่รวยพอที่ จะเดินสายใต้ดินและตั้งหม้อแปลงไว้ใต้ดิน หรือในสถานที่ห่อหุ้มมิดชิดทั้งหมด ถ้าทำแบบนั้น ค่าไฟฟ้าน่าจะแพงขึ้นอีกหน่วยละ 1-2 บาท

สิ่งที่ผิดปกติในรูป

- สายสื่อสารจำนวนมาก รกรุงรังบนเสาใต้หม้อแปลง
- ใบไม้แห้งที่เสาหม้อแปลง
- ร้านค้าที่ตั้งอยู่ใต้หม้อแปลง 2 -3 ร้าน
- อาคารที่ติดหม้อแปลง เป็นหน้าต่างไม้และเปิดหน้าต่างไว้
- ร้านขายของใกล้ ๆ หน้าร้านเป็นของติดไฟได้ทั้งนั้น
- ควันขึ้นที่หม้อแปลงแล้ว แต่คนยังเฉย

'กนก' เปิดคอมเมนต์แฟนคลับ ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ แห่สงสัยเหตุไฟไหม้สำเพ็ง อาจโดนวางยา!

พิธีกรรายการข่าว ‘กนก รัตน์วงศ์สกุล’ เปิดคอมเมนต์ติ่งผู้ว่าฯชัชชาติ อาการหนัก หลังตั้งข้อสงสัยไฟไหม้สำเพ็ง เป็นแผนวางยาผู้ว่าฯ

27 มิ.ย.2565 - นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ช่อง TOPNEWS โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ว่า "หนักล่ะครับ! แฟนคลับ "ชัชชาติ" สงสัยไฟไหม้สำเพ็ง เป็นแผนวางยาผู้ว่าฯ กทม. บางคนย้อนสงสัยไปถึงน้ำท่วมปี 54 รัฐบาลปู! ที่หนักคือ คิดเสียงดังโชว์โซเชียล..."


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top