Wednesday, 22 March 2023
เลียบการเมือง

จับตา!! ความร้อนแรง ‘พรรคเพื่อไทย’ ใต้จังหวะระเบิดสังหาร ‘เศรษฐา’ เริ่มก่อตัว

จากผล นิด้าโพล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มี.ค.2566 ถ้าพูดจาภาษานักเลงม้า ก็ต้องบอกว่า พรรคเพื่อไทยเข้าป้ายทั้งวินทั้งเพลส...

‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯที่ 38.20% ส.ส.เขต มาอันดับ1 ที่ 49.75 ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็มาอันดับ1 ที่ 49.85%

ทิ้งห่างอันดับ 2 (พิธา -ก้าวไกล) และอันดับ 3 (บิ๊กตู่ - รวมไทยสร้างชาติ) มากกว่าเท่าตัว…

โอ้!มายก๊อด...!! โพลออกมาแบบนี้ ดีไม่ดี ผอ.นิด้าโพล ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ อาจจะถูกนินทาว่ามีนอกมีในกันกับใครในเพื่อไทยหรือเปล่า?

แต่เท่าที่อยู่ในวงการสื่อมานานพอประมาณ...เชื่อว่าคนอย่าง ดร.สุวิชา ไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน..!!

อย่างไรซะ ทั้งหลายทั้งปวงก็อย่าเพิ่งไปปักใจกับโพลทั้งหมด....อันว่าม้าแข่งนั้นวิ่งกันประมาณ1,200 เมตร  บางตัว ตอนออกตัวนำมาครึ่งค่อนข้างทาง แต่สุดท้ายก็แผ่วเอาดื้อๆ โดนเพื่อนแซงกลายเป็นม้าตีนต้น...ศึกเลือกตั้งก็เช่นเดียวกันยุบสภา แล้วต้องสัประยุทธ์กันอีกเกือบ 2 เดือน จึงจะหย่อนบัตร

แต่ก็นั่นแหละยังไงๆ ไม่ต้อง นิด้าโพล หรอก..เลือกตั้งหนนี้ ม้าที่ชื่อ เพื่อไทย ก็เข้าทั้งวินทั้งเพลส เป็นแชมป์เลือกตั้งวันยังค่ำ...แบบไม่มีใครมาเบียดได้…

แล้วก็ต้องยอมรับว่าการไปบุกแนวรบด้านตะวันออกชลบุรีและระยอง เมื่อวันที่ 18 -19 มี.ค.ทำให้กองเชียร์และนักรบฮึกเหิมขึ้นมาก…

ทว่า น่าเสียดายที่ ‘แม่ทัพ’ อย่าง ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร  ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯหมายเลข 1 ท้องแก่ อีก3วันก็ครบ8เดือนแล้ว คงเดินทางหาเสียงไม่สะดวก จะใช้โทรศัพท์-วิดีโอคอลล์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ล้ำยุคแค่ไหนก็ไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่ามาเจอตัวเป็นๆ...

ครั้นจะพึ่งพาแคนดิเดตนายกฯ หมายเลข 2 อย่าง เศรษฐา ทวีสิน  ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้ว4-5 เวทีปราศรัย แม้กรรมการจะยกธงให้ ‘ผ่าน’ ก็จริง แต่มีการกระซิบกันหนาหูว่า อีกไม่นานนับจากนี้ข้อมูลประเภทระเบิดสังหารเศรษฐา จะทะลักไหลออกมา จนอาจทำให้คนสูง192ซม.ทรุดฮวบ…

...เรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับผู้หญิง...เงื่อนปมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์…ฯลฯ

ว่ากันว่าที่ จตุพร พรหมพันธุ์ แพลมๆ เรื่อง ‘ขงเบ้ง’ หรือ เสี่ยเบ้ง นั้นเป็นแค่น้ำจิ้ม…     

เข้าทางปืน ‘พลังประชารัฐ-ก้าวไกล’ ‘ปชป.-รสทช.’ ร่อแร่ ‘ภท.’ สายไหมไม่รอด

ปฏิกิริยาต่อประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ออกมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 บางพรรคร้องเฮ บางพรรคร้องโฮ…

เฉพาะสนาม กทม. ที่มีประชากร 5,394,910 คน เฉลี่ยราษฎรต่อ ส.ส.1 คนเท่ากับ 163,482.212 นั้น...กกต. เคาะแบบที่1 ออกมาใช้ ‘อรรถวิชช์  สุวรรณภักดี’ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ไปยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศแบ่งเขตดังกล่าวทันที…

เหตุผลหลักของอรรถวิชช์ คือ ผิดหลักเกณฑ์ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตา 27(1) ที่ระบุหลักเกณฑ์ให้ ‘รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง’ หรือต้องมีอำเภอ (เขต) หลัก แต่ปรากฏว่าจาก 33 เขตเลือกตั้งเป็นการรวมตำบล (แขวง) โดยไม่มีเขตหลักถึง 13 เขตเลือกตั้ง...

ไม่เพียงแค่พรรคชาติพัฒนากล้า...แม้แต่พรรคเพื่อไทย โดยสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. และ ดร.อิ่ม ธีรรัตน์ สำเร็จวณิชย์ โฆษกพรรคก็ออกมาแถลงในแนวเดียวกัน...แต่ราย ดร.อิ่ม เธอคิดฟุ้งไปหน่อยว่าอาจเป็นแผนทำให้การเลือกตั้งโมฆะ…

บ่อปลานี้ ตกไม่ง่าย!! จับตา 'สุราษฎร์ฯ-นครศรีฯ-สงขลา' ชี้ชะตา 'บิ๊กตู่-จุรินทร์-เฉลิมชัย'

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เลือกตั้ง 2566 นี้ หากได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม (52) ที่นั่ง...จะเกิดเหตุอย่างน้อยสองอย่าง

อย่างแรก 'เฉลิมชัย ศรีอ่อน' เลขาธิการพรรคจะวางมือทางการเมืองตามประกาศ...

อย่างที่สอง 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' ก็น่าจะอำลาเก้าอี้หัวหน้าพรรคแบบ บัญญัติ บรรทัดฐาน เมื่อปี 2548 และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี2562

และสำหรับ 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากเลือกตั้งหนนี้ได้ ส.ส.ไม่ผ่าน 50 ที่นั่ง โอกาสที่จะวืดเก้าอี้นายกฯ รอบสาม ก็มีสูง...อย่ามองข้ามความปลอดภัย

ประชาธิปัตย์ และ พรรคพล.อ.ประยุทธ์ (รวมไทยสร้างชาติ) จะฝ่าเส้นตายเอาเสียงมาจากไหนที่เป็นกอบเป็นกำที่สุด...

คำตอบคือ บ่อปลาภาคใต้ 60 ที่นั่ง (ไม่ใช่ปลาในบ่อเพื่อน) อยู่ที่ว่าใครจะมีฝีมือตกได้มากกว่ากัน   

เลือกตั้ง 2562 ภาคใต้มี 50 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์หล่นวูบจาก 50 ที่นั่งเมื่อปี 2554 เหลือ 22 ที่นั่ง ส่วนพรรคพลังประชารัฐโหนกระแสลุงตู่เข้าสภา 13 คน...เฉพาะนครศรีธรรมราชกับสงขลาก็กวาดมาได้ 7 ที่นั่ง (3+4)   รอบนี้ลุงสวมเสื้อรวมไทยสร้างชาติ...กระแสยังแรง

สำหรับภาคใต้...ข่าวกึ่งปิดกึ่งเปิดประชาธิปัตย์ตั้งเป้า   35-40 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติตั้งเป้า 25-30...นี่ยังไม่นับรวมตัวแบ่งอย่างภูมิใจไทย, ประชาชาติ...ซึ่งสองพรรคนี้มีอยู่ในมือแน่ๆ 10 ที่นั่ง!!

มีความเป็นไปได้ที่ ประชาธิปัตย์ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ไม่พรรคใดพรรคหนึ่งต้องพลาดเป้าอย่างแรง หรือพลาดทั้งคู่คือหล่นลงมาสูสีกันที่ 20 กว่าที่นั่ง

กรณีประชาธิปัตย์ถ้าภาคใต้ได้ไม่ถึง 25 ที่นั่ง โอกาสที่ยอดรวมทั้งประเทศจะไปถึง 52 ที่นั่งบอกได้คำเดียวว่ายากมากถึงยากที่สุด

กรณีพรรคลุงตู่ก็คล้ายๆ กัน หากตกปลาบ่อภาคใต้ได้ไม่ถึง 20 คน โอกาสที่จะไต่เพดานไปเป็นพรรค 60-70 คนตามที่แอบฝันกันไว้ ก็ยากยิ่ง...การที่จะไปกดดันหรือต่อรองให้ 'อนุทิน' เล่นบท 'หนู ช่วยราชสีห์' ก็ยากขึ้น...!!

ดังนั้น จากนี้ไปอย่าได้กระพริบตาสมรภูมิภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดใหญ่ชี้เป็นชี้ตาย เพราะมีเก้าอี้ ส.ส.รวมถึง 26 ที่นั่ง ได้แก่...

สุราษฎร์ธานี 7 คน, นครศรีฯ 10 คน และ สงขลา  9 คน...

ใครกวาดเก้าอี้ 3 จังหวัดนี้ได้เกิน ถึง 20 ที่นั่ง...ก็โล่งโปร่ง
 

‘งดออกเสียง’ ไพ่ตายของ 250 ส.ว. สยบ ‘อุ๊งอิ๊ง’ จัดตั้ง รบ. ภายใต้ 310 ส.ส.

เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.66) พรรคเพื่อไทยประสานเสียงกันหนักแน่นในที่ประชุมใหญ่สมัยสามัญของพรรคว่าจะก้าวข้ามจำนวน ส.ส. 250 ที่นั่ง หรือแลนด์สไลด์ได้อย่างแน่นอน…โดยตั้งเป้าหมายปักหมุดไว้ที่ 310 เสียง

วันนี้จะพามาย้อนดูอดีตกันสักนิดว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยในอดีต (พรรคสารตั้งต้น) เคยได้คะแนนเสียงจัดตั้งรัฐบาลกันเท่าไหร่

เริ่มจากเลือกตั้งปี 2548 พรรคไทยรักไทย...สารตั้งต้นพรรคเพื่อไทยเคยกวาดมาแล้ว 377 เสียง (เขต 310 บัญชีรายชื่อ 67) ภายใต้กติกาการเลือกตั้งบัตรสองใบเหมือนปีนี้ (2566) แม้บริบทการเมืองพ.ศ.นี้ยากที่จะไปถึงหมุดหมาย 310 เสียงได้ แต่ก็ลองจินตนาการดูว่าถ้าเป็นไปได้จริงจะเกิดอะไรขึ้น…

ฟันธงแบบไม่ต้องนั่งเทียนได้เลยว่า หากได้มา 310 เสียง (พรรคเดียว) จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว บรรดา ส.ว. ที่ยังมีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจำนวนไม่น้อยที่ยอมรับโดยส่วนลึกว่าต้องเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทย…

แต่คำถามมีอยู่ว่าแล้ว 250 ส.ว. จะพร้อมใจโหวตให้ แพทองธาร ชินวัตร หรือเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีโดยดุษฎีอย่างนั้นหรือ

คำตอบคือไม่น่าใช่...

หากดูจากการข่าว...มีโอกาสสูงยิ่งที่ ส.ว.จะงัดมาตรการ ‘งดออกเสียง’ ไม่ค้านแต่ไม่โหวตสนับสนุน…


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top