Thursday, 25 April 2024
ECONBIZ NEWS

BOI โชว์ยอดการลงทุน 9 เดือนพุ่ง 4 แสนล้านบาท พร้อมปลดล็อก 7 เงื่อนไข ดันไทยฮับลงทุนแห่งอาเซียน

บีโอไอโชว์คำขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือน ในปี 65 พุ่งแตะ 4 แสนล้านบาท พร้อมกางแผนลุย 7 หมุดหมาย 5 ปี หวังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไทย

(18 ต.ค. 65) นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่าสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.2565) มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,247 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8% มูลค่ารวม 439,090 ล้านบาท ลดลง 14% เนื่องจากปีที่ผ่านมามีโครงการขนาดใหญ่ในกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้ายื่นขอรับการส่งเสริมหลายโครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท

“หากพิจารณาจากสถิติการออกบัตรส่งเสริม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงกับการลงทุนจริงมากที่สุด จะพบว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการออกบัตรส่งเสริม 1,101 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17% มูลค่ารวม 357,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% เป็นสัญญาณว่าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จะมีการลงทุนเกิดขึ้นจริงมากขึ้น ซึ่งปีนี้ทั้งปีบีโอไอตั้งเป้าหมายคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 6 แสนล้านบาท”นายนฤตม์ กล่าว

'ศิริกัญญา' ยกเคส 'ฟิลิปปินส์-เม็กซิโก' ควบรวมมือถือเหลือ 2 ไม่มีการแข่งขัน-ค่าบริการสูง-ขาดแคลนเทคโนโลยีใหม่

'ศิริกัญญา-ก้าวไกล' เรียกร้อง กสทช. หยุดฟ้องปิดปากภาคประชาชน ขอเรียกร้องให้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาต่างประเทศ 10 ล้าน และรายงานการศึกษาอื่นกรณีการควบรวมทรู-ดีแทคต่อสาธารณะ

จากกรณีที่มีทนายความภาคประชาชนขู่ฟ้อง นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์ผู้บริโภค ที่ได้เผยแพร่รายงานผลการศึกษาเรื่องการควบรวมทรู-ดีแทค ของบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศ อ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ 

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นว่า นี่นับว่าเป็นการใช้กฎหมายเพื่อฟ้องเพื่อปิดปากภาคประชาชน เพราะข้อมูลที่เผยแพร่ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นข้อมูลที่กสทช.ต้องเผยแพร่ตามกฎหมายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นทนายความภาคประชาชนก็ไม่ควรฟ้องปิดปากภาคประชาชนด้วยกันเอง 

"ตามพรบ.กสทช. มาตรา 59 ได้กำหนดให้ กสทช.ต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ต่อสาธารณะ ซึ่งรวมถึงผลการศึกษา และวิจัย และผลงานอื่น ๆ ที่ว่าจ้างให้หน่วยงานภายนอกดำเนินการ (วงเล็บ 5)" ศิริกัญญา กล่าว

รายงานฉบับนี้ นับเป็นข้อมูลที่สำคัญที่ทำให้บอร์ด กสทช. ต้องเลื่อนการพิจารณาลงมติการควบรวมทรู-ดีแทคอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้ประชาชนเกิดความสนใจว่าเนื้อหาที่แท้จริงเป็นอย่างไร การที่มีผู้นำมาเผยแพร่จึงเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน และไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด กสทช. จึงไม่เป็นผู้เผยแพร่เอง 

ส่วนหนึ่งจากรายงานฉบับนี้ที่มาการเผยแพร่โดยสำนักข่าวอิศรา ระบุว่า "ผลจากสภาพตลาดที่ไม่แข่งขันภายหลังการรวมธุรกิจนั้น การทำให้สภาพตลาดกลับคืนมาด้วยวิธีการเพิ่มการแข่งขันผ่านมาตรการต่างๆ ทำได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม MNO (ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีโครงข่ายของตัวเอง) รายใหม่, การเพิ่มผู้เล่น MVNO (ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มีโครงข่ายของตัวเอง) รวมถึงการใช้มาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางแข่งขันหรือทางราคา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจไทยในภาพรวมได้ผลกระทบรุนแรงได้ ซึ่งจะมีการศึกษาในรายงานงวดต่อไป

"ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย หากไม่มีการแข่งขันที่ดึงดูดการลงทุนจากทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งช่วยผลักดันอุตสาหกรรมในด้านอื่น ๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบในภาพกว้างได้ เช่น การลดลงของเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment-FDI)

"ในทางตรงข้าม ตลาดในประเทศไทยอาจจะเป็นเหมือนเหตุการณ์ในประเทศฟิลิปปินส์เมื่อหลายปีก่อนที่มีจำนวนผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหลักเหลือเพียง 2 ราย หรือในประเทศเม็กซิโกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้รับผลกระทบจากการไม่มีการแข่งขัน ทำให้อัตราค่าบริการอยู่ในราคาที่สูง และการใช้งานอยู่ในระดับต่ำ และขาดแคลนเทคโนโลยีใหม่"

EA เปิดตัว EV Mini Truck MT30 รถกระบะไฟฟ้า 100% รุ่นแรกฝีมือไทย

คนไทยทำได้ EA เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า 100% EV Mini Truck MT30 พร้อมจดทะเบียนเป็นรถกระบะไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของไทย ภายใต้นวัตกรรมไทย ยกระดับการขนส่งเชิงพาณิชย์ ต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแบบ New S-Curve ตามยุทธศาสตร์ของประเทศ

(18 ต.ค. 65) นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมประวัติศาสตร์ด้านการคมนาคม ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศให้เข้าสู่สังคมปลอดคาร์บอนได้เร็วยิ่งขึ้น บริษัทได้ออกแบบและพัฒนา ‘EV Mini Truck MT30’ รถกระบะไฟฟ้าฝีมือคนไทย 100% สำหรับใช้งานในเชิงพาณิชย์ ที่จะช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษในภาคขนส่ง 

ทั้งนี้ EV Mini Truck MT30 หวังเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างผู้ประกอบการที่สนใจการใช้งานรถไฟฟ้า ที่คำนึงถึงการลดต้นทุนค่าขนส่งและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวรถจะมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด (Li-Ion Battery) 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ผลิตโดย อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ขับเคลื่อนได้ไกลกว่า 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที (30-80%) ด้วยเทคโนโลยี DC Fast Charge จาก EA Anywhere ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่กลุ่ม EA ได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ให้การใช้งานยานยนต์เชิงพาณิชย์มีประสิทธิภาพสูงสุด

'เพื่อไทย' กังวล!! หวั่นเงินทุนสำรองไทยลดฮวบ แนะ 'ธปท.' จับตา หลังสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (18 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่มีกระจายคลิปของโน้ส อุดม แต้พานิช ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานที่ล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ จนเป็นกระแสฮือฮาทั่วโซเซียล และเป็นแนวทางเดียวกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้วิพากษ์วิจารณ์ และเคยแถลงความล้มเหลว 10 ข้อไว้แล้ว ทั้งการเป็นรัฐบาลที่พึ่งไม่ได้ การกู้หนี้จากหลายชาติ ชาตินี้ใช้หนี้ไม่หมด แกล้งโกรธเพื่อกลบปัญหา โปร่งใสแต่ห้ามตรวจสอบ โดยเฉพาะเรื่องสร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ ทั้งเรื่องเงินเฟ้อของไทยที่ยังสูงอยู่ที่ 6.41 % ในเดือนก.ย. การขาดดุลการค้าและขาดดุลบัญชีเดินสะพัด การขาดดุลการคลังจำนวนมากที่จะมีแผนกู้ใหม่ถึง 1.05 ล้านล้านบาทในปี 2566 ปัญหาดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นปัญหาใหม่ที่พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่รู้เลยว่าจะรับมืออย่างไร หรือพึ่งไม่ได้จริงตามที่โน้สบอก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนก.ย. อยู่ที่ 8.2% ซึ่งยังสูงมาก ทั้งที่ธนาคารกลางสหรัฐได้ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว 3 ครั้ง แต่เงินเฟ้อของสหรัฐก็ยังไม่ลดลง จึงเป็นไปได้สูงที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในครั้งหน้า น่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และอาจจะขึ้นถึง 2 ครั้งก่อนสิ้นปี และอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีหน้า ซึ่งจะกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อให้มากขึ้น อีกทั้งป้องกันไม่ให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศไหลออก โดยในเดือนก.ย. ลดลงถึง 14,017 ล้านเหรียญ ทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศไทยลดลงมาเหลือ 199,444 ล้านเหรียญ หลุดจาก 2 แสนล้านเหรียญแล้ว ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและธปท. ระมัดระวัง เพราะอาจจะเป็นปัญหาหนักได้ในอนาคต

“ผู้นำที่ดีต้องเปิดใจรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกด้าน เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานของตนเอง แม้กระทั่งเสียงจากคุณโน้ส ที่นำเรื่องจริงมาทำเป็นเรื่องตลก สะท้อนผู้นำที่ในต่างประเทศก็ทำกันเสมอ เพราะนั่นเป็นการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของคนส่วนใหญ่ ถ้ายังปิดหูปิดตาส่งลิ่วล้อมาโต้แบบมั่ว ๆ ก็ควรจะต้องดีดตัวออกจากเครื่องบิน ที่บรรทุกคนไทยทั้งประเทศกันได้แล้ว มิเช่นนั้นก็คงไม่พ้นที่จะสร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ให้คนไทยลำบากกันต่อไป” นายพิชัย กล่าว

เชียงใหม่-มันนี่เอ็กซ์โป เชียงใหม่ 2022 ทุ่มโปรโมชั่นกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ

วารสารการเงินธนาคาร ผู้จัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo ประกาศจัดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 17 Money Expo Chiangmai 2022 ยกทัพบริการทางการเงินการลงทุนครบวงจร จัดเต็มแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี สู่ประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีชาวเชียงใหม่และชาวภาคเหนือ พร้อมฟังสัมมนาฟรี! จากกูรูหุ้นและการลงทุน วันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 ณ เชียงใหม่ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคาร จะจัดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 17 Money Expo Chiangmai 2022 ในวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 ณ เชียงใหม่ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “Wealth to Wellness” ความสมดุลแห่งชีวิต” ครอบคลุมทุกมิติของชีวิตตั้งแต่ สุขภาพกายดี  สุขภาพจิตดี สุขภาพอารมณ์ดี สุขภาพสังคมดี สุขภาพการศึกษาดี สุขภาพการงานดี สุขภาพสิ่งแวดล้อมดี และสุขภาพการเงินดี ซึ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นคั่งอย่างสมดุล

งานมหกรรมการเงิน Money Expo ถือเป็น “มหกรรมการเงินการลงทุนครบวงจร” ที่เชื่อมระหว่าง ธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต ประกันภัย บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน มานำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนกับประชาชน ธุรกิจ ผู้ลงทุน ให้ได้เข้าถึงแหล่งเงิน และแหล่งทุน ได้อย่างเท่าเทียมกัน

ธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานได้นำบริการทางการเงินและการลงทุนมานำเสนอให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงให้สามารถเลือกใช้บริการอย่างครบวงจร ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME สินเชื่อบัตรเครดิต บัตรเงินสด เงินฝาก Digital Banking Online Banking สลากออมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันภัย พร้อมแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษในรอบปี เพื่อช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนือ และฟื้นฟูการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่จากมาตรการที่ผ่อนคลายของโควิด-19 รวมถึงธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานยังได้เตรียมแพ็กเกจพิเศษส่งท้ายปี สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการที่ต้องการหาสภาพคล่องทางการเงินเพื่อฟื้นฟูกิจการมาให้บริการในงาน ส่วนเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ ก็มีแคมเปญสินเชื่อเริ่มต้นธุรกิจอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ที่ต้องการหาเงินทุนก้อนแรกเริ่มต้นสร้างธุรกิจของตัวเองอีกด้วย

สุริยะ สั่ง กรมโรงงานฯ เข้มระบายน้ำทิ้งจากรง. หวั่นเกิดผลกระทบซ้ำเติมประชาชนช่วงน้ำท่วม

สุริยะ สั่งการกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เฝ้าระวังการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานที่ติดตั้งเครื่องตรวจวัดค่าบีโอดี ค่าซีโอดี ออนไลน์ หวั่นซ้ำเติมพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากอุทกภัย 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมมีความห่วงใยโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ดูแลการระบายน้ำจากโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการลักลอบระบายน้ำโดยไม่บำบัด พร้อมสั่งกำชับโรงงานให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และข้อกฎหมายที่กำหนด เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อน

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กำชับให้ กรอ. กำกับดูแลโรงงานที่ติดตั้งเครื่องตรวจวัดค่าบีโอดี ค่าซีโอดี ออนไลน์ ซึ่งระบายน้ำทิ้งตั้งแต่ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และข้อกฎหมายที่กำหนด ปัจจุบันมีกว่า 300 โรงงาน ในพื้นที่ 40 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้อาจจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่รวม 20 จังหวัด 150 โรงงาน จึงต้องตรวจสอบการระบายน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและชุมชน

8 บิ๊กคอมพานีปักหมุดไทยฐานผลิตรถ EV หอบทุนแสนล้าน ดันไทยฮับ EV อาเซียน

(17 ต.ค. 65) จากเพจเฟซบุ๊ก Vaccine ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของไทยที่กำลังจะกลายเป็น EV Hub ของโลก หลัง 8 บริษัทใหญ่ทั่วโลกร่วมลงทุนด้วยเงินกว่าแสนล้านบาท ไว้อย่างน่าสนใจว่า…

ประเทศไทยเนื้อหอม ยุครปภ.
8 บริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนโรงงานผลิตรถ EV

ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็น EV Hub ของโลก...ในยุครปภ.
ด้วยเงินลงทุนกว่าแสนล้านจากบ.ยานยนต์ทั่วโลก
เพราะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะเลิกจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2035 และสหประชาชาติก็เสนอร่างเลิกขายรถเครื่องยนต์สันดาปในปี 2040
ส่งผลให้รถ EV กลายเป็นหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นความต้องการของโลก

ด้วยความทันเกมส์ของรัฐบาลไทย ก็ประกาศเป้าหมาย ปี 2573 ไทยจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะทั้งสิ้น 725,000 คัน ประเภทรถจักรยานยนต์จะมีการผลิตทั้งสิ้น 675,000 คัน หรือมีสัดส่วน 30% ของการผลิตทั้งหมด 

และคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2573 เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) พร้อมผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub)

วันนี้ 8 บริษัทยักษ์ใหญ่เลือกลงทุนในไทยเป็นฐานการผลิตรถ EV ลงทุนแล้ว 5 บริษัท คือ

1. Foxconn + Horizon plus 🇹🇼🇹🇭 
มูลค่าการลงทุน 1.04 billion USD ที่จ.ชลบุรี

2. Ford 🇺🇲
มูลค่าการลงทุน 1.02 billion USD ที่จ.ระยอง

3. BYD 🇨🇳
มูลค่าการลงทุน 522 million USD ที่จ.ระยอง

‘กอบศักดิ์’ ชี้ ผลพวงปลด รมว.คลัง อังกฤษ สะท้อนนโยบายผิดทิศที่ขาดการกลั่นกรอง

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า..บทเรียนราคาแพงของอังกฤษ !!!

หลายคนอยากรู้ว่า เมื่ออังกฤษยอมเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีคลัง ประเภทปลดกลางอากาศ เพื่อสังเวยแนวนโยบาย ที่ตลาดนักเศรษฐศาสตร์ และแม้กระทั่ง IMF มองว่า เป็นนโยบายที่ "ผิดทิศผิดทาง" และเป็น Big Policy Mistakes แล้วเรื่องจะจบหรือไม่

ในประเด็นนี้ หลังจากท่านรัฐมนตรีคลังคนใหม่ ประกาศนโยบายที่เรียกว่า เกือบจะเป็น Complete U-Turn หันหลังกลับจากรัฐมนตรีคลังคนก่อนหน้า 

ยอมหั่นการลดภาระภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากเดิมที่ตั้งใจไว้ประมาณ 4.5 หมื่นล้านปอนด์ ให้เหลือเพียง 1.3 หมื่นล้านปอนด์

ลดการช่วยเหลือภาระของประชาชนเรื่องพลังงาน ในช่วงปีหน้า

พร้อมเตือนว่า ในช่วงปลายเดือนตุลาคม อังกฤษอาจจะมีนโยบายรัดเข็มขัดการใช้จ่ายบางส่วนประกาศออกมาเพิ่มเติม เพื่อเอา "การคลัง" ให้เข้าที่ และสร้างความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล

แม้ว่ารัฐบาลอังกฤษจะยอมซะขนาดนี้ บาดแผลและความเสียหาย จากการประกาศนโยบายที่ผิดพลาด ก็ยังปรากฏให้เราเห็น

ที่พอจะปรับตัวดีขึ้นบ้าง คงเป็นค่าเงินอังกฤษ ซึ่งกลับไประดับใกล้ ๆ ก่อนที่จะมีมาตรการ 1.13-1.14 ดอลลาร์/ปอนด์

อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 30 ปี ซึ่งเคยขึ้นไปถึง 5% แม้จะลงมาบ้างที่ 4.4% แต่ก็ยังสูงกว่าก่อนที่จะออกมาตรการพลาดมา 1% !!!

ดัชนีตลาดหุ้นของอังกฤษ FTSE100 ยังติดลบอยู่ -4.4%

สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในฝีมือของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา

สะท้อนความเสียหายในเชิง Policy Credibility ที่หมดไป 

และสะท้อนความเสี่ยงของการที่ท่านนายกจะมีนโยบาย "แปลก ๆ" ออกมาอีกที่ตลาด Price-in เผื่อเอาไว้

'อลงกรณ์' คิกออฟ 'เพชรบุรีโมเดล' ตัวอย่างนำร่องทั่วประเทศ ขับเคลื่อนคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล

'อลงกรณ์' เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เร่งขับเคลื่อนคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล ลุยหนัก 2 วัน 19 ตำบล หวังใช้ 'เพชรบุรีโมเดล' เป็นตัวอย่างนำร่องทั่วประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับประเทศ พร้อมด้วยนายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร และ ดร.เรืองแสง ห้าสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเพชรบุรีโมเดล ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี 11 ตำบลเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างการรับรู้แนวทางการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบลในจังหวัดเพชรบุรีและนโยบายโครงการสำคัญ ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ได้มีหัวหน้าส่วนราชการของกระทรวงเกษตรในส่วนภูมิภาค สำนักงานพาณิชย์จังหวัด อบต. กำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครเกษตร เกษตรกรรุ่นใหม่ เกษตรแปลงใหญ่ ศพก.วิสาหกิจชุมชน ผู้แทน AIC และทีมอาสาสมัครเพชรบุรีโมเดล ฯลฯ เข้าร่วมประชุมในพื้นที่ 11 ตำบลได้แก่ ดอนยาง, หนองขนาน, หาดเจ้าสำราญ ประชุมที่วัดถิ่นปุรา ตำบลนาพันสาม และหนองพลับ ประชุมที่วัดนาพรม ตำบลช่องสะแก, บางจาน, นาวุ้ง, โพไร่หวาน ประชุมที่อบต.ช่องสะแก และ ตำบลโพพระ, สำมะโรง ประชุมที่วัดลาดโพธิ์

นอกจากนี้นายอลงกรณ์และคณะยังมีกำหนดการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องในวันนี้ (18 ต.ค.) ที่ตำบล บ้านแหลม, บางครก, ท่าแร้ง, ท่าแร้งออก, บางแก้ว, ปากทะเล, บางขุนไทร และแหลมผักเบี้ย ซึ่งจะมีการประชุมครบทั้ง 8 อำเภอของเพชรบุรีภายในเดือนนี้และเดือนหน้าต่อไป

‘สุริยะ’ สั่งอุ้มโรงงานรับผลกระทบวิกฤตน้ำท่วม งัดมาตรการ ‘ป้องกัน-เยียวยา-ฟื้นฟู’ เร่งด่วน

‘สุริยะ’ สั่งการกระทรวงอุตสาหกรรมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินสำหรับเฝ้าระวังสถานการณ์ ย้ำให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมมาตรการป้องกัน เยียวยา และฟื้นฟู ช่วยเหลือโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต พร้อมจัดม้าเร็วในการติดตาม ประสานงานสถานการณ์ในพื้นที่แบบทันที

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง เบื้องต้นได้รับรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤต กระทรวงอุตสาหกรรม ว่าขณะนี้มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, เพชรบูรณ์, ชัยภูมิ, สิงห์บุรี, ปราจีนบุรี, หนองบัวลำภู, มหาสารคาม, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยมีผู้ได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 59 ราย แบ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรม 55 ราย เหมืองแร่ 1 ราย และวิสาหกิจชุมชน 3 ราย ซึ่งได้ สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือโรงงานอุตสาหกรรมและประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเร่งด่วนสำหรับประเมินสถานการณ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และให้ความช่วยเหลือได้ในทันที

พร้อมสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในด้านต่าง ๆ เช่น มาตรการด้านสินเชื่อ การจัดทีมงานทำความสะอาดและซ่อมแซมเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม การจัดตั้งคลินิกให้คำปรึกษาแนะนำทางธุรกิจ และการจัดเตรียมถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้มาตรการ 3 ระยะ ‘ป้องกัน เยียวยา ฟื้นฟู’ 

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมแผนการรับมือไว้แล้วตามนโยบายของรัฐมนตรีฯ สุริยะ ตามมาตรการ 3 ระยะ ได้แก่... 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top